ทันทีที่ข่าวมาถึง ซารุโทบิ ทั้งหมู่บ้านก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก แม้ว่ามันจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เขาก็ออกคำสั่งให้นินจาจำนวนมากตามหา คุชินะ
…
กลางป่า
ร่าง 2 ร่างกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง
“หยุดก่อน!”
อุซึมากิ เมอิ หยุดวิ่ง จากนั้นเธอก็ประสานอินและหลับตา
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เธอก็ลืมตาขึ้นและแสดงความดีใจออกมา
“ฉันรู้สึกถึงจักระของเธอแล้ว เราอยู่ใกล้เธอมากแล้ว”
คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือ มินาโตะ ตาของเขาเปล่งประกายจากนั้นเขาก็พูดว่า “งั้นเรารีบไปกันเถอะ”
“ไม่ ฉันจะตามเธอไปเอง ส่วนนายต้องกลับไปแจ้งให้ทุกคนรู้”
“แต่…มันจะดีกว่าน่ะถ้าให้ฉันไปด้วย ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ทำอะไรเกะกะเธอหรอกน่า”
มินาโตะ ยิ้มให้ เมอิ ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นเธอก็พยักหน้าให้เขาเบา ๆ
ดังนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็พุ่งตรงไปยังทิศทางที่ เมอิ สัมผัสจักระของ คุชินะ ได้
ความสัมพันธ์ระหว่าง คุชินะ และ เมอิ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้อง จริง ๆ แล้วมันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะพวกเธอทั้ง 2 คนเหมือนกันมาก
เหมือนกันมากจนบางครั้งแม้แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถบอกความแตกต่างได้
อย่างไรก็ตาม คุชินะ ก็ยังคงเป็น พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง และความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เรื่องนี้ทำให้เรื่องราวสับสนขึ้นเรื่อย ๆ
ไนโตะ รู้รู้สึกเสมอว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไป การปรากฏตัวขึ้นมาของ อุซึมาดิ เมอิ เป็นเรื่องน่าสงสัย แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่เคยพบคำตอบ ดังนั้นเขาจึงปล่อยมันไป
เพราะยังไงส่ะ มาดาระ ก็จะไม่สามารถดึง 9 หางออกมาได้อยู่ดี
…
“เธอใช้เส้นผมเป็นเบาะแส…เหมือนในการ์ตูนเลยสิน่ะ”
ไนโตะ หยุดอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งและหยิบเส้นหนึ่งขึ้นมา
แม้ว่าเส้นผมของ คุชินะ จะเป็นสีแดงดง แต่ในป่าที่มืดขนาดนี้ มันก็ไม่สามารถหาเจอได้ง่ายๆ!
อย่างไรก็ตาม ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถรับรู้สีได้ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงมัน
เมื่อใช้สิ่งนี้ ไนโตะ จะสามารถติดตาม คุชินะ ได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าความเร็วของ หน่วยพิเศษคุโมะ จะเร็วมากจนทำให้การตามรอบนั้นยากขึ้น แต่ตอนนี้ ไนโตะ เข้าใกล้พวกเขามากแล้ว!
นี่แสดงให้เห็นว่า ไนโตะ รวดเร็วแค่ไหน!
…….
ในป่า
นินจาคุโมะ มากกว่า 1 โหล กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงผ่านป่า และร่างของพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยออร่าสีฟ้า
หนึ่งในนั้นกำลังหิ้วเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกมัดด้วยเชือกด้วยมือของเขา
มือของ คุชินะ ถูกผูกไว้ที่หลังของเธอ และเธอก็แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้ เธอพยายามหาโอกาสทิ้งเส้นผมของเธอไว้ตามทางเมื่อพวกเขาไม่ได้สังเกต
อย่างไรก็ตาม เธอก็คิดว่าคงจะไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นร่องรอยที่เธอทิ้งไว้
เพราะมันยากมาก ที่จะเห็นเส้นผมของเธอในป่าที่มืดมิดแบบนี้
“เราออกมาห่างจาก โคโนฮะ มากแล้ว…แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็คงจะไม่สามารถสัมผัสจักระของเธอได้…”
ในขณะที่ นินจาคุโมะ วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ในป่า คุชินะ รู้สึกกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะไม่มีใครมาช่วยเธอ
แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงทิ้งเส้นผมไว้เป็นร่องรอยโดยหวังว่าจะมีใครสังเกตเห็น
“ด้วยความเร็วแบบนี้ ถึงแม้ว่าบางคนจะพบร่องรอย แต่พวกเขาก็คงจะตามมาช่วยเราไม่ทันแน่นอน…”
คูชินะ ไม่สามารถพูดได้ ปากของเธอถูกผนึกและเธอก็ถูกขโมยจักระไปหมด
แน่นอนว่า ถ้าเธอสามารถขยับมือได้ เธอก็สามารถคลายผนึกได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามทำให้ผนึกอ่อนลงเรื่อย ๆ ทีละน้อย ๆ
แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผนึก เพราะเธอสามารถคลายผนึกและหนีไปจากนินจาเหล่านี้ได้อย่างดาย แต่ปัญหาอยู่ที่พวกเขาเร็วกว่าเธอมาก
ความเร็วเป็นความพิเศษของพวกเขา
หัวหน้าของพวกเขาคือ โจนิน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
“ตอนนี้ ไนโตะ ก็คงจะกลับบ้านแล้ว เขาต้องสงสัยแน่ว่าเราหายไป…แต่ถึงเขาจะสังเกตเห็นร่องรอย มันก็คงจะสายเกินไปแล้วที่จะตามมาช่วยเราได้ทัน”
คุชินะ คิดอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามที่จะทำให้ผนึกอ่อนลงและและทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง
ในที่สุด เธอก็สามารถคลายผนึกทั้งหมดออกได้ ทันใดนั้นเชือกก็คลายออก จากนั้นเธอก็หนีไป
ฟึ๊บ!!
อย่างไรก็ตาม ในไม่กี่วินาทีต่อมา นินจาคุโมะ ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและล้อมเธอไว้อีกครั้ง
นินจาคุโมะ เร็วกว่าเธอ
“เธอผลายผนึกได้”
“ตระกูลอุซึมากิ เก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ผนึกเธอกลับไปแล้วรีบพาเธอกลับหมู่บ้าน ไม่สำคัญว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ตราบใดที่เราได้ 9 หางมาเป็นของเราเท่านั้นก็พอ”
ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปและเย็นชามาก
คุชินะ ยืนอยู่ตรงกลาง เธอพยายามที่จะปกป้องตัวเอง ในขณะที่เธอสับสนเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่า นินจาคุโมะ รู้ตัวตนของเธอได้อย่างไร
พวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับ 9 หาง ได้อย่างไร แม้แต่คนส่วนใหญ่ใน โคโนฮะ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
มันไม่น่าเป็นไปได้
“รีบจับเธอเร็วเข้า เราต้องไม่เสี่ยงให้พวก โคโนฮะ ตามเราได้ทัน”
หัวหน้าทีมมองนินจาคนอื่นและออกคำสั่ง
นินจาคนอื่นพยักหน้าและพวกเขาก็พร้อมที่จะโจมตี
คุชินะ ตั้งท่าเตรียมป้องกันการโจมตีของพวกเขา
ฟึ๊บ!!
คุชินะ ไม่ได้ใช้พลังของ 9 หาง แต่เธอก็เป็น จูนิน เธอจึงสามารถหลบการโจมตีของพวกเขาได้
แต่การแสดงออกของ นินจาคุโมะ นั้นสงบมาก พวกเขาไม่กังวลเลย
ด้วยความเร็วของพวกเขา แค่พวกเขาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว!
ขณะที่ คุชินะ กระโดดขึ้นไปบนอากาศและพยายามที่จะไปถึงยอดไม้เพื่อหนีพวกเขา นินจาคุโมะ คนหนึ่งก็พุ่งเข้าหาเธอในขณะที่ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยออร่าสีฟ้า
คุชินะ ยังอยู่กลางอากาศและเธอก็ไม่มีโอกาสที่จะหลบการโจมตีได้ และความเร็วของผู้ชายนั้นเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับเธอ
เธอไม่สามารถโต้ตอบได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ คุชินะ รู้สึกสิ้นหวังและ ในที่สุด เธอก็ยอมแพ้
หากพวกเขาจับเธอได้อีกครั้ง พวกเขาจะผนึกเธอแน่นหน้าขึ้นและเธอจะไม่มีโอกาสทิ้งร่องรอยอีกต่อไป และจะไม่มีใครสามารถหาเธอเจออีก
เมื่อเธอคิดว่านี้คือจุดจบของเธอ ทันใดนั้น บางอย่างก็พุ่งเข้ามาหาเธอ!
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild