The Strongest Hokage – ตอนที่ 269

……..

ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆมืดพร้อมกับมีในตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ในโรงน้ำชา ไนโตะ ถือถ้วยน้ำชาอยู่ใกล้ริมฝีปากเตรียมที่จะจิบมัน แต่จู่ ๆ เขาก็หยุดเคลื่อนไหว

หลังจากนั้นเขาก็วางถ้วยชาลงบนโต๊ะ

คุชินะ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยความประหลาดใจ และเธอก็กำลังจะถาม ไนโตะ ว่าเขาเป็นอะไร แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ยืนขึ้น

“เธอออกไปรอฉันข้างนอกก่อน”

สีหน้าของ ไนโตะ ดูสงบ แต่น้ำเสียงที่เขาพูดนั้นดูเหมือนเขาไม่ค่อยสบายใจ

“เกิดอะไรขึ้น?”

คุชินะ รู้สึกประหลาดใจ เธอรู้จัก ไนโตะ เป็นอย่างดี และเขาก็จะไม่ทำตัวสงบแบบนี้หากไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

ฟึ๊บ!!

ไม่มีคำอธิบายใด ๆ จาก ไนโตะ เขาเคลื่อนที่ชั่วพริบตาและหายไป

นอกจาก คุชินะ แล้ว ก็ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นความเร็วของ ไนโตะ ได้ เพราะคนในโรงน้ำชานี้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา แม้ว่าจะมี โจนิน อยู่บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วแบบนี้ได้!

คุชินะ ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปที่ประตูโรงน้ำชา เพื่อมองไปยังทิศทางที่ ไนโตะ หายไปด้วยท่าทางที่สับสน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงระเบิดก็ดังกึกก้องขึ้นมาในเมืองที่อยู่ห่างออกไป

ตู้ม!!

บ้านหลังหนึ่งพักลงอย่างกระทันหัน ทำให้เกิดความวุ่นวายในเมืองในขณะที่ผู้คนนับไม่ถ้วนมามุงดูสิ่งที่เกิดขึ้น

ในขณะเดียวกันนั้น ไนโตะ ก็ปรากฏตัวมาอยู่ต่อหน้า คุชินะ อีกครั้ง

“มีเรื่องเร่งด่วนเกิดขึ้น”

ไนโตะ เดินตรงมาหาเธอแล้วพูดว่า “ฉันจะเล่าให้ฟังตอนที่เราเดินทาง”

……..

แคว้นแห่งฝน

ในพื้นที่ที่เป็นเนินเขาขนาดใหญ่ ฝนยังคงตกมาชะล้างคราบเลือดอยู่ตลอดเวลา

โคนัน และ ยาฮิโกะ กำลังวิ่งอยู่ภายใต้สายฝน ในขณะที่เลือดเลอะไปทั่วทั้งร่างกายและอับอายทั่วใบหน้าของพวกเขา

ที่ด้านหลังของพวกเขา ทีมนินจาอาเมะ กำลังไล่ตามทั้งคู่ด้วยจิตสังหารที่จัดเจนและจ้องมองทั้งคู่ด้วยดวงตาที่เย็นชา

โคนัน และ ยาฮิโกะ ไม่มีเวลาได้หยุดพัก

หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน ทั้งคู่ก็เหนื่อยและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป

สมาชิกองค์กรแสงอุษา คนอื่น ๆ ที่ติดตาม ยาฮิโกะ ไม่ตายก็หนีไป พวกเขารู้ว่า ฮันโซ มุ่งเป้าไปที่ ยาฮิโกะ และคนเดียวที่ยังตาม ยาฮิโกะ อยู่ก็คือ โคนัน

หัวหน้าทีมที่ไล่ล่าทั้งคู่อยู่ก็คือ ฮันโซ นั่นเอง

ที่ด้านหลัง ฮันโซ มีนินจาที่เก่งกาจจำนวนมากตามมาเพื่อฆ่า ยาฮิโกะ และ โคนัน แม้ว่าพวกเขาจะมีคนมากกว่า แต่ ฮันโซ ก็ยังคงระมัดระวังเป็นอย่างมาก เขาเป็นหัวหน้าที่รอบคอบ แม้ว่าเขาจะไล่ล่าทั้งคู่ได้ทันด้วยความเร็วของเขา แต่เขาก็จะไม่ออกห่างจากทีมของเขาและเข้าจู่โจมด้วยตัวคนเดียว

เมื่อหันหลังกลับไปมอง นินจาอาเมะ ที่กำลังตามทั้งคู่อยู่ ใบหน้าของ ยาฮิโกะ ก็เต็มไปด้วยความขมขื่น เขาหายใจหอบอย่างหนัก และดูเหมือนว่าเขากำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว

โคนัน ที่วิ่งอยู่ข้าง ๆ เขาได้มาถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว เรี่ยวแรงและจักระของเธอเกือบจะหมดแล้ว

ในที่สุด ทั้งคู่ก็ถูกตามทัน และ นินจาอาเมะ ก็เข้ามาล้อมทั้งคู่ไว้ทันที

ทั้งคู่ไม่มีทางหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน

ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และบรรยากาศก็น่าหดหู่มาก

โคนัน ไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป เธอหมดแรงและคุกเข่าลงกับพื้น

ยาฮิโกะ กัดริมฝีปากไว้แน่น ขณะที่เขามองไปที่ ฮันโซ ด้วยความน่ารังเกียจ

“ทำไมพวกแกถึงต้องทำลายพวกเราด้วย?!”

ฮันโซ ได้ตัดสินใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะต้องกำจัด องค์กรแสงอุษา ออกไปจาก แคว้นแห่งฝน

องค์กรนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาหลายเดือนแล้วและพวกเขาก็ไม่เคยเจอปัญหาใด ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮันโซ ก็เริ่มทำการโจมตีพวกเขาซึ่งจบลงด้วยการตายของสมาชิกองค์กรหลายคน จากนั้นเขาก็ตามล่าหา ยาฮิโกะ และคนที่เหลือมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว

เมื่อยืนเผชิญหน้ากัน แต่ ฮันโซ ก็ไม่ได้พุ่งเข้ามา ยาฮิโกะ ในทันที เขายืนฟังสิ่งที่ ยาฮิโกะ พูดด้วยใบหน้าที่เย้ยหยันและเย็นชาเป็นอย่างมาก

ยาฮิโกะ ก่อตั้ง องค์กรแสงอุษา ขึ้นมา เพื่อจุดประสงค์ให้เกิดสันติภาพ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาสามารถรวบรวมสมาชิกได้เป็นจำนวนมาก ฮันโซ ก็เริ่มรู้สึกว่านั่นคือภัยคุกคาม

หลังจากจบ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ฮันโซ ก็ยังคงซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งนั่นทำให้ ยาฮิโกะ ทำตามสิ่งที่เขาต้องการได้ทุกอย่างในหมู่บ้าน

แล้วถ้า แสงอุษา เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ แล้ว ยาฮิโกะ จะไม่กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของ แคว้นแห่งฝน เหรอ?  แล้ว ฮันโซ จะเป็นผู้นำที่แท้จริงของแคว้นและหมู่บ้านได้ยังไง?!

ในที่สุดมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่คุกคาม ฮันโซ อย่างแท้จริง ดังนั้น ก่อนที่มันจะเป็นอย่างนั้น ฮันโซ จึงต้องทำลาย แสงอุษา เพื่อไม่ให้สิ่งที่เขากลัวเกิดขึ้น

แต่แค่ความพ่ายแพ้ของ แสงอุษา นั้นยังไม่เพียงพอ แสงอุษา คือ ยาฮิโกะ และถ้าเขายังไม่ตาย ฮันโซ ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ดังนั้น ฮันโซ จึงไม่สามารถปล่อยเขาไปได้!

“ฆ่าพวกมัน”

ฮันโซ จ้องไปที่ ยาฮิโกะ แต่เขาไม่ได้ตอบคำถามของ ยาฮิโกะ แต่เขาออกคำสั่งทีมของเขา

ด้วยจิตสังหารที่เต็มเปี่ยม นินจาอาเมะ ทั้งหมดก็หยิบอาวุธออกมา

ฟิ้ว!!

ดาวกระจาย , คุไน และคาถานินจา จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงเข้าหา ยาฮิโกะ และ โคนัน จากทุกทิศทาง

ยาฮิโกะ มองไปที่ภาพนี้อย่างหมดหนทาง เขาต้องการใช้คาถานินจาเพื่อซื้อเวลาให้พวกเขาหนีไป แต่จักระของเขาก็เกือบจะหมดแล้ว และร่างกายของเขาก็อ่อนล้าเกินไป

แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะเอาชนะนินจาเหล่านี้ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะคนอย่าง ฮันโซ ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้!

ฮันโซ นั้นแข็งแกร่งมากและแข็งแกร่งจนทำให้ ยาฮิโกะ สิ้นหวัง

ถึงแม้ว่าพวกของ ยาฮิโกะ จะมีจำนวนมากกว่า แต่เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้อยู่ดี

ชายคนเดียวที่ ยาฮิโกะ รู้ว่าสามารถเอาชนะ ฮันโซ ได้ก็คือ ไนโตะ และ ยาฮิโกะ ก็รู้ดีว่า ฮันโซ จะไม่มีวันเอาชนะอาจารย์ของเขาได้ หรือแม้แต่จะต่อสู้ได้อย่างสูสีก็ไม่มีทาง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจารย์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากจนสามารถฆ่า คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 และ ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 ได้

ในความคิดของ ยาฮิโกะ แล้ว แม้ว่า ไนโตะ จะต้องต่อสู้กับ ฮันโซ และทีมของ ฮันโซ ด้วยตัวคนเดียว พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไร ไนโตะ ได้ แม้แต่รอยขีดข่วน

ยาฮิโกะ จ้องมองไปที่ ดาวกระจาย , คุไน และคาถานินจา ที่กำลังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความขมขื่นและสิ้นหวัง

“แน่นอน อาจารย์พูดถูกต้อง ฉันยังไร้เดียงสาเกินไป มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราตั้งใจทำ…”

แม้ว่า ฮันโซ จะไม่ได้ตอบคำถามของ ยาฮิโกะ แต่ ยาฮิโกะ ก็ไม่ใช่คนโง่ เพราะเขารู้คำตอบอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่ ฮันโซ จะเริ่มทำการโจมตี เขารู้ถึงเหตุผลและความตั้งใจของการกระทำของ ฮันโซ อย่างชัดเจน

มันเป็นเพราะอำนาจ

ยาฮิโกะ ยินดีที่จะตายไปพร้อมกับเจตจำนงของเขา แต่ที่เขาถาม ฮันโซ ก็เพื่อความแน่ใจ

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset