“แต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน และแต่ละคนก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง”
“อย่างนั้นเหรอค่ะ?” โคนัน ถามกลับด้วยด้วยสีหน้าเรียบง่าย
“แน่นอน” ไนโตะ ตบไหล่ โคนัน และยิ้มให้เธอ
เมื่อเทียบกับ โคนัน แล้ว คุชินะ ไม่เหมาะกับหน้าที่ผู้ชวยเท่ากับเธอ
เพราะ โคนัน คุ้นเคยกับ หมู่บ้านอาเมะ มากกว่า คุชินะ
โคนัน มีนิสัยที่สุขุมและสง่างาม เธอสามารถจัดการกับเรื่องเล็กน้อยในหมู่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากที่ ไนโตะ เข้าดูแล หมู่บ้านอาเมะ เขาก็กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านอย่างไม่ต้องสงสัย เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนใหม่ของ หมู่บ้านอาเมะ โดยมี คุชินะ , ยาฮิโกะ และ โคนัน เป็นที่ปรึกษาเหมือนกับผู้อาวุโสของหมู่บ้าน
แน่นอนว่าในทั้ง 3 คนนี้ คุชินะ คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุด เพราะเธอมีความแข็งแกร่งพอ ๆ กับ ไนโตะ ดังนั้นทั้ง ยาฮิโกะ และ โคนัน จึงเรียก คุชินะ ว่าครูเช่นกัน
ในสายตาของคนในหมู่บ้าน ไม่มีใครจะเทียบกับ ไนโตะ ได้ เขาเป็นผู้นำสูงสุดของพวกเขา และพวกเขาก็ไม่กังขาในพลังของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
คุชินะ ไม่มีหน้าที่ในการจัดการกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหมู่บ้าน เพราะคนที่จัดการเรื่องเหล่านั้นก็คือ ยาฮิโกะ และ โคนัน โดยที่ ยาฮิโกะ จะเป็นคนจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ในขณะที่ โคนัน จะคอยรับคำสั่งจาก ไนโตะ
เมื่อพูดถึง คุชินะ คนในหมู่บ้านก็ให้ความเคารพเธอในฐานะผู้นำเช่นกัน และแม้แต่ ยาฮิโกะ และ โคนัน ก็เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอกว่า ไนโตะ และ คุชินะ เป็นอย่างมาก แต่พวกเขาทั้ง 2 ก็เป็นศิษย์ของ ไนโตะ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าดูหมิ่นพวกเขา
นอกจากพวกเขาทั้ง 4 แล้ว ก็ยังมี ผู้บัญชาการหน่วยลับ , ผู้บัญชาการหน่วยป้องกัน และคนอื่น ๆ อีกที่เป็นนินจาระดับสูงของหมู่บ้าน
ผู้บัญชาการหน่วยป้องกัน เป็นนินจาระดับ คาเงะ และแข็งแกร่งรองจาก ฮันโซ เขาน่าจะแข็งแกร่งกว่า คุชินะ ในร่างปกติ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเข้าสู่ โหมด 9 หาง เขาก็ไม่สามารถเทียบกับเธอได้อีกต่อไป
…
โคนัน ยืนอยู่เฉย ๆ ข้าง ๆ ไนโตะ และรอคำสั่งจากเขา
จากนั้น ไนโตะ ก็เดินไปที่หน้าต่างและมองไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีแสงบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาบนท้องฟ้าและมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วสินะ”
ขณะที่ ไนโตะ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า คุชินะ ได้สร้างม่านพลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมันก็ทำงานได้อย่างเต็มที่
โคนัน ก็เดินไปที่หน้าต่างและมองไปด้านนอกเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นาน ไนโตะ ก็หันไปหา โคนัน และพูดกับเธอว่า “ม่านพลังของเราเสร็จสมบูรณ์แล้ว คงจะไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงอีก ถ้าอย่างนั้น ฉันจะหายไปสักพัก คงจะไม่กี่เดือน…”
“ครูไนโตะ จะออกไปจากหมู่บ้านเหรอ?”
โคนัน ถามด้วยความสับสน
ในตอนนี้ พลังงานธรรมชาติได้ผสานเข้ากับร่างของ ไนโตะ เรียบร้อยแล้ว และเขาก็ต้องการดูดซับมันให้มากขึ้น เพื่อทำให้เขาสามารถบรรลุขั้นตอนที่ 2 ของโหมดเซียนได้
ไนโตะ นิ่งเงียบอยู่ครู้หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันไปมอง โคนัน อีกครั้งแล้วพูดว่า “หลังจากที่ฉันออกไปแล้ว เธอจะต้องควบคุมหน่วยข่าวกรองให้ดี ฉันอยากให้เธอมุ่งเป้าไปที่การเคลื่อนไหวของ นางาโตะ และในขณะเดียวกัน ฉันก็อยากให้เธอรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ สัตว์หาง ด้วย”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
โคนัน โค้งคำนับให้กับ ไนโตะ จากนั้นเธอก็หันหลังและเดินออกจากสำนักงานไป
ไม่นานหลังจากที่ โคนัน ออกไป ประตูก็ถูกเปิดอีกครั้งและ ผู้บัญชาการหน่วยผนึก ก็เดินเข้ามาและแจ้ง ไนโตะ เกี่ยวกับความสำเร็จของการสร้างม่านพลัง
“ง่ายชะมัด”
หลังจากที่ คุชินะ เข้ามา เธอก็ยิ้มแล้วรีบเดินเข้าไปหา ไนโตะ ก่อนที่จะกอดเขาแล้วพูดว่า “หมู่บ้านนี้เล็กกว่า โคโนฮะ มาก การสร้างม่านพลังเลยทำได้ง่ายมาก”
“งั้นเหรอ?”
ไนโตะ ยิ้มแล้วบีบแก้มเธอ ก่อนจะพูดว่า “แล้วถ้าเธอไม่มีจักระของ คุรามะ ล่ะ เธอจะทำมันได้สำเร็จง่าย ๆ แบบนี้ไหม?”
คุชินะ รู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อเธอได้ยิน ไนโตะ พูดกับเธอแบบนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินพลังของเธอต่ำเกินไป
“พลังของ คุรามะ ก็คือพลังของฉัน เขาคือส่วนหนึ่งของฉัน!”
“แน่นอน ฉันก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่สักหน่อย”
ไนโตะ มองไปที่เธอแล้วเขาก็สังเหตุเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเธอ เขารู้ในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ทันใดนั้นเธอก็อ้าปากและพุ่งเข้ามาเพื่อจะกัดเขา แต่ ไนโตะ ก็เอื้อมมือไปคว้าแอปเปิลที่อยู่บนโต๊ะแล้วยัดใส่ปากเธอ
คุชินะ กัดแอปเปิลอย่างแรง จากนั้นรอยยิ้มพอใจในตัวเองก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ
ทันใดนั้น ไนโตะ ก็แสดงความโล่งอกออกมา หลังจากที่เขานึกขึ้นมาว่าถ้าแอปเปิลลูนั้นเป็นเนื้อของเขามันจะเป็นยังไง?!
“เอาเถอะ ว่าแต่ ฉันรู้สึกว่านายจะสนิทสนมกับลูกศิษย์คนนั้นเกินไปแล้วมั้ง” คุชินะ พิงที่ไหล่ของ ไนโตะ ในขณะที่เธอกินแอปเปิลหมด
ไนโตะ แตะแก้มเล็ก ๆ ของเธอและยิ้มแล้วพูดว่า “เธออิจฉาเหรอ?”
“นี่! ถ้ามีผู้หญิงคนอื่นชอบนาย ฉันก็ต้องหึงเป็นธรรมดา แล้วถ้านายมีใจละก็ โลกทั้งโลกก็ไม่สามารถหยุดฉันได้!” คุชินะ พูดออกมาก่อนที่เธอจะกอด ไนโตะ ไว้แน่น
ตอนนี้ ไนโตะ โตขึ้น และด้วยผมสีเงินของเขาและใบหน้าที่คมเข้มของเขา ทำให้เขาดูหล่อเหล่าขึ้นมาก
ความแข็งแกร่งของเขาทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก และสาว ๆ ที่ได้ยินเรื่องราวของเขา พวกเธอก็ต่างพากันตกหลุมรักเขา
“เอาล่ะ ๆ อย่าคิดมาเรื่องนี้เลย พรุ่งนี้ฉันจะไปแล้ว คงจะแค่ 2 เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้นฉันจะทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้เธอ”
ไนโตะ จูบแก้มเธอเบา ๆ จากนั้นเขาก็ถอดแหวนทองของเขาแล้วยื้นให้เธอ
คุชินะ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะแหวนที่ทำให้เธอแปลกใจ เธอรู้ดีว่าแหวนวงนี้คือ อาวุธคุซานางิ และเมื่อเธอเค้นจักระของเธอเข้าไป เธอก็จะสามารถแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อใช้มันพร้อมกับ โหมด 9 หาง
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ ก็คือ ไนโตะ คิดจะไปที่อื่นโดยที่ไม่พาเธอไปด้วย
“นายจะไปไหน?”
“ภูเขาเมียวโบคุ…ใช่แล้ว เหมือนฉันจะลืมเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังสินะ”
ไนโตะ เหมือนจะจำได้ว่าเขาไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเรื่อง ภูเขาเมียวโบคุ ดังนั้นเขาจึงอธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ โหมดเซียน และ ภูเขาเมียวโบคุ ให้เธอฟัง
เมื่อเขาอธิบายให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดและเหตุผลที่เขาต้องออกไปอีกครั้ง เธอก็พยักหน้าเล็กน้อย
คุชินะ หยิบ แหวนคุซานางิ มา แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องมอบให้เธอ เพราะเพียงแค่เธอใช้โหมด 9 หาง เธอก็แข็งแกร่งพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องมอบให้เธอ เพราะมันจะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น และแม้ว่าระหว่างที่เขาไม่อยู่จะมีใครเข้ามาโจมตีหมู่บ้าน เธอก็จะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน
แบบนั้นแล้ว เขาก็จะสามารถไปที่ ภูเขาเมียวโบคุ และมุ่งเน้นไปที่การฝึกได้โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ