“ดูเหมือนว่าสงครามกำลังจะยุติลงแล้วสินะ”
เมื่อมองไปเห็นภาพที่ฝ่ามือขนาดใหญ่ของ ไนโตะ อยู่บนพื้นดินโดยที่มี พลังสถิตร่าง ของ 2 หาง อยู่ตรงกลาง นารา ชิคาคุ ก็แสดงออกอย่าง เคารพ
ในบรรดาสนามรบที่ ไนโตะ ได้พิชิตไม่ว่าจะเป็นสนามรบระหว่าง โคโนฮะ กับ หมู่บ้านอิวะ , หมู่บ้านซึนะ , หมู่บ้านคิริ ทั้ง 3 สนามรบนี้ หมู่บ้านคิริ ได้รับความเสียหายมากที่สุด พวกเขาไม่เพียงแค่เสีย สัตว์หาง ไปแค่เท่านั้น แต่พวกเขายังสูญเสียเหล่า กลุ่ม 7 ดาบนินจาแห่งคิริ ไปอีกด้วย
แม้ว่าดาบในตำนานทั้ง 7 เล่ม ยังคงเป็นของพวกเขาและพวกเขาก็สามารถตั้ง กลุ่ม 7 ดาบนินจา ขึ้นมาใหม่ได้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาต้องการ ถึงอย่างไรกลุ่มใหม่ก็จะไม่ดีเท่ากับกลุ่มดั้งเดิม อย่างน้อยก็ในตอนเริ่มแรก
นอกจาก หมู่บ้านคิริ แล้ว แม้ว่า หมู่บ้านอิวะ จะทำตัวเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แต่พวกเขาก็เสีย สัตว์หาง ไปถึง 2 ตัวในคราวเดียวกัน และ ซึจิคาเงะ รุ่น 3 ก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้
สำหรับ หมู่บ้านซึนะ คาเสะคาเงะ รุ่น 4 ได้ลงสู่สนามรบด้วยตัวเองและถูก ซาคุโมะ สกัดกั้นอยู่หลายครั้ง จากนั้น ไนโตะ ก็มาถึงและเอาชนะ สัตว์หาง ของพวกเขาได้
หมู่บ้านเดียวที่เหลืออยู่ก็คือ หมู่บ้านคุโมะ
แต่ไม่อีกต่อไปแล้ว
อาจกล่าวได้ว่า ไนโตะ คือผู้ชนะใน มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3!
เหตุการณ์แบบนี้ พลังแบบนี้ ชิคาคุ นึกถึงคนคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ได้เมื่อนานมาแล้ว คนเหล็กแห่งยุคสงครามก่อนการก่อตั้ง , ผู้สร้างระบบหมู่บ้านแห่งแคว้นและผู้ก่อตั้ง หมู่บ้านโคโนฮะ , โฮคาเงะ รุ่นแรก , เทพเจ้าแห่งนินจา , เซนจู ฮาชิรามะ!
ชิคาคุ อดไม่ได้ที่จะมอง ไนโตะ ที่อยู่บนท้องฟ้าด้วยความเคารพ
“หลังจากสงครามครั้งนี้ เขาจะไม่ใช่นินจาอีกต่อไป แต่เขาจะอยู่ในระดับเดียวกับ โฮคาเงะ รุ่นแรก”
ไนโตะ ยังคงยืนอยูบนท้องฟ้า หลังจากที่เขาเอาชนะ 2 หางได้ เขาก็เหลือบมองอย่างเยือกเย็นไปที่สนามรบด้านล่าง ในเวลานี้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยืนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ทับที่
อย่างไรก็ตามจิตใจของฝ่าย คุโมะ ก็แทบจะสลายหลังจากที่พวกเขาดู 2 หาง พ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
หน้าผากของ ผู้บัญชาการกองทัพคุโมะ กำลังชุ่มเหงื่อขณะมองไปที่ท้องฟ้า หัวใจของเขาท่วมท้นไปด้วยความกลัวอย่างไม่รู้จบและเขาก็แทบหยุดนิ่งและได้แต่ภาวนาให้ ไรคาเงะ รุ่น 4 มาถึงที่นี่ให้เร็วที่สุ
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมา นินจาคนหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาข้าง ๆ เขาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือกและพูดคำ 2 – 3 คำด้วยน้ำเสียงสั่น
อะไรนะ?!
คำพูดเหล่านี้ที่เขาได้ยินทำให้ดาบในมือของเขาตกลงบนพื้น
ใบหน้าของเขาซีดไปชั่วครู่หนึ่งและเขาก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไรคาเงะ รุ่น 4 กับ คิลเลอร์ บี…เข้าใจแล้ว…”
เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งด้วยความกลัวและมองไปที่ ไนโตะ ที่อยู่บนท้องฟ้า
ทันใดนั้นเขาก็หันไปออกคำสั่งบางอย่างกับกองทัพและเขาก็หายไป หลังจากนั้นไม่นานในที่สุด กองทัพคุโมะ ก็ล่าถอย
จากนั้น กองทัพโคโนฮะ ก็เริ่มไล่ตามพวกเขา
เป็นเวลานานที่ โคโนฮะ หวังว่า มินาโตะ จะมาถึงในเวลาที่เหมาะสมและจัดการกับ 2 หาง แต่แม้ว่า โคโนฮะ จะมีกุนซือที่ฉลาดอย่าง นารา ชิคาคุ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะจัดการกับ 2 หางได้
ชิคาคุ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในขณะที่ไล่ตาม กองทัพคุโมะ ที่พ่ายแพ้ นินจาโคโนฮะ รู้สึกขอบคุณ ไนโตะ เป็นอย่างมาก
ไนโตะ มองดู กองทัพคุโมะ ที่กำลังหนีตาย ขณะที่ กองทัพโคโนฮะ กำลังไล่ตามพวกเขา เขาส่ายหัวเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พร้อมที่จะออกจากสถานที่
อย่างไรก็ตามเมื่อเขากำลังจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็กระพริบตาจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วอย่างรุนแรง
ไนโตะ สามารถเห็นทุกมุมในสนามรบได้จากจุดที่เขาอยู่ได้อย่างชัดเจน เมื่อเขากำลังจะจากไปทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีบางคนหายไป!
ถ้าเป็นคนอื่นหรือ นินจาโคโนฮะ บางคนจากหลายพันคนที่หายไป เขาก็จะไม่สนใจ แต่คนที่หายไปคือ…อุจิฮะ โอบิโตะ!
ตั้งแต่ต้น ไนโตะ ให้ความสนใจกับ โอบิโตะ มากเป็นอย่างมากเพราะเขาเป็นตัวละครที่สำคัญมาก ไนโตะ ให้ความสนใจกับเขามากกว่า คาคาชิ เสียอีก
คาคาชิ กลับมาถึงสนามรบและไล่ล่าศัตรูไปพร้อมกับ กองทัพโคโนฮะ ริน ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน แต่ โอบิโตะ หายไป!
“ดูเหมือนว่าบางอย่างที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น”
ไนโตะ ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนที่ชั่วพริบตาจากท้องฟ้าและลงมาที่พื้น
ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงสนามรบทั้งหมด ทุกมุมชัดเจนอยู่ในหัวของเขา เขาสามารถรับรู้ได้แม้แต่การเคลื่อนไหวของมดทุกตัวในระยะ 10 ไมล์
หลังจากค้นหาอย่างรวดเร็ว ไนโตะ ก็พบร่องรอยแปลก ๆ บางอย่าง
ร่องรอยของ คาถาดิน ที่ไม่เหมือนใครซึ่งสามารถเจาะทะลุพื้นดินได้ ไนโตะ คุ้นเคยกับร่องรอยเหล่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลย…มันคือ เซ็ตสึ!
ดูเหมือนว่าเมื่อ ไนโตะ จัดการกับ 2 หาง เซ็ตสึ ก็ปรากฏตัวขึ้นและลับพาตัว โอบิโตะ ไป!
ไนโตะ สับสนกับเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดนี้
ทำไม มาดาระ ถึงต้องเอาตัว โอบิโตะ ไป?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องราวถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้ยังไม่ชัดเจนว่า มาดาระ กำลังวางแผนอะไรอยู่ในความมืดกันแน่
ทันทีที่เขานึกถึง มาดาระ ดวงตาของ ไนโตะ ก็เปล่งประกายแวววาวเล็กน้อย
เลือดสูบฉีดเข้าสมองของเขาอย่างต่อเนื่องขณะที่ความคิดพุ่งเข้ามาในความคิดของเขา
จากที่ที่เขายืนอยู่ เขาปล่อย คลื่นสั่นสะเทือน ลงไปใต้เท้าของเขา และโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไร พื้นดินใต้เท้าเขาก็ทรุดตัวลงไปเป็นหลุมลึก
ทันใดนั้นเขาก็ตกลงไปในหลุมที่เขาสร้างขึ้นทันที
หวือ!!!
ใต้ดินไม่สามารถหยุด ไนโตะ จากการติดตามร่องรอยที่ เซ็ตสึ เหลือไว้ได้
แม้ว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ใต้ดินของ ไนโตะ จะช้ากว่าบนพื้นมาก แต่สำหรับนินจาคนอื่น ๆ มันก็ยังเร็วอย่างน่าเหลือเชื่ออยู่ดี
ไนโตะ ไม่รู้ว่าเขาขุดดินไปได้ไกลแค่ไหน แต่ในที่สุดเมื่อร่องรอยหายไป เขาก็รู้สึกถึงถ้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป!
ทันทีที่เขารับรู้ได้ว่ามีถ้ำ ไนโตะ ก็พุ่งออกไปจากหลุมที่เขาสร้างทันที
ตอนนี้เขาดูเหมือนกับลำแสงที่ส่องผ่านพื้นดินลงไปยังแกนโลกและวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดไปยังถ้ำใต้ดินนั้น!