“เธอเป็น อุซิมากิ เธอคงจะเคยเจอกับการล่มสลายของตระกูลของเธอ ดังนั้นเธอก็น่าจะเข้าใจความเจ็บปวด”
นางาโตะ พูดอย่างใจเย็น “คนที่เข้าใจความเจ็บปวดก็ควรโหยหาสันติสุข แต่เธอทำให้ฉันรู้ว่าเธอยังไม่เข้าใจความเจ็บปวดที่แท้จริง”
ทันใดนั้นลูกบอลสีดำขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของ นางาโตะ จากนั้นมันก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ!”
ตู้ม!!
แรงปะทุที่น่ากลัวแผ่กระจายไปทุกทิศทุกทางและทำให้เกิดเมฆสีดำหนาบนท้องฟ้า แม้แต่เม็ดฝนที่กำลังตกลงสู่พื้นก็หยุดชะงักในอากาศ และทันใดนั้นเส้นทางของพวกมันก็เบี่ยงเบนไปสู่จุดศูนย์กลางของลูกบอลสีดำนั้น
แม้แต่แสงของดวงอาทิตย์ก็ไม่สามารถส่งลงมาบนพื้นโลกได้อีกต่อไป หลังจากที่มันถูกลูกบอลบดบังโดยสิ้นเชิง
พื้นดินเริ่มร้าวและหินจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อพวกมันถูกบอลสีดำดึงดูดอย่างต่อเนื่อง แรงโน้มถ่วงที่น่ากลัวนี้ส่งผลกระทบต่อร่างกายของ คุชินะ มันดึงเธอเข้าไปหามันด้วยเช่นกัน
“แย่แล้ว!”
ในฐานะที่เป็น อุซึมากิ ดังนั้น คุชินะ จึงมีความเชี่ยวชาญในผนึกทุกชนิด ทันทีที่เธอเห็นมันเธอก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็น วิชาสะกด ชนิดหนึ่ง เมื่อคุณถูกดูดเข้าไปมันจะห่อหุ้มคุณไว้ภายในและมันเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเป็นอิสระได้
โดยไม่ลังเล คุชินะ ก็เปลี่ยนเป็นร่าง คุรามะ ทันที จากนั้นเธอก็รวบรวมและบีบอัดจักระจำนวนมหาศาลและเปลี่ยนเป็น กระสุนสัตว์หาง
กระสุนสัตว์หาง พุ่งตรงไปยังท้องฟ้าและและทันใดนั้นมันก็ชนเข้ากับลูกบอลสีดำที่ตอนนี้ใหญ่ขึ้นเพราะทุกอย่างลอยเข้าไปรวมที่มัน
ตู้ม!!
ในขณะนี้ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์กำลังจะระเบิด โลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว ซึ่งทำให้ นินจาอาเมะ ที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นทนไม่ได้จนต้องหลับตา
เมื่อทุกอย่างหยุดลงซากปรักหักพังของทุกอย่างก็ตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนเม็ดฝน เห็นได้ชัดว่าลูกบอลสีดำโดย กระสุนสัตว์หาง ทำลายไปแล้ว
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนที่อยู่แถวนั้นนอกจาก คุชินะ และ นางาโตะ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกไร้พลัง ช่องว่างระหว่างพวกเขามากเกินไป เห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 คนมีอำนาจในการล้างหมู่บ้านทั้งหมดไปพร้อมกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อ โคนัน เห็นว่า คุชินะ หยุดการโจมตีของ นางาโตะ เอาไว้ได้ เธอก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย จากนั้นเมื่อเธอมองไปที่ นางาโตะ และเมื่อเธอเห็นแววตาที่เขามองเธอกลับมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัด
“นางาโตะ…ทำไมต้องทำแบบนี้”
การระเบิดของลูกบอลสีดำทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ในใจกลางของก้อนเมฆเหมือน นางาโตะ และ คุชินะ แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาที่ทั้งคู่ราวกับว่าพวกเขาเป็นจุดศูนย์กลางของโลกทั้งใบ
อย่างไรก็ตาม เมฆสีดำที่อยู่ห่างออกไปก็ค่อย ๆ ลอยเข้ามาเติมเต็มและรูขนาดใหญ่บนท้องฟ้าก็ค่อย ๆ หายไปและบรรยากาศที่หดหู่ก็กลับมาอีกครั้ง
“นี่คือพลังของ 9 หางเหรอ?”
นางาโตะ ไม่ได้มองขึ้นไปบนฟ้า เขามองแต่ คุชินะ อย่างใจเย็น
“ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีอำนาจที่จะทำลายมันได้ ถ้าอย่างนั้น ฉันจะใช้อันที่ใหญ่กว่าเดิม”
ในเวลาต่อมา นางาโตะ ก็ประสานอินขึ้นมาและเตรียมที่จะปล่อย ดาราสวรรค์ระเบิดพิภพ ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
แต่ในขณะนั้นการแสดงออกของเขานิ่งไป และทันใดนั้นเขาเปลี่ยนลำดับอิน
“คาถาอันเชิญ! เทวรูปมารนอกรีต!”
ฟึ้ม!
ทันใดนั้นควันสีขาวก็ปะทุออกมาและสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ตัวใหญ่กว่า 9 หางมาก มันคือ เทวรูปมารนอกรีต มันคือร่างต้นของ 10 หาง!
เมื่อรูปปั้นปีศาจปรากฏตัวออกมา การแสดงออกของ 9 หาง ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและตะโกนออกมาทันที
“เทวรูปมารนอกรีต! เรามีปัญหาใหญ่แล้วล่ะ!”
“ไม่ ปัญหาที่แท้จริงคือผู้ชายคนนั้น…”
คุชินะ ส่ายหัว จากนั้นเธอก็มองไปที่ร่างที่อยู่เหนือหัวของ เทวรูปมารนอกรีต
คนคนนั้นไม่ใช่ นางาโตะ เขาดูเหมือนชายแก่
ท่อสีดำที่ด้านหลังของเขากำลังเชื่อมต่อเขากับรูปปั้นปีศาจ
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาก็ดูลึกและลึกลับ ทำให้เขาดูมีออร่าสีเข้มอันชั่วร้ายที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์ที่น่ากลัวทั้งหมดในโลกใบนี้
กร๊อบ! แกร๊บ!
แม้ว่าเขาจะดูแก่และอ่อนแอ แต่เขาก็สามารถยืนอยู่ได้อย่างน่าประทับใจ
“นายยังไม่ได้จับ 9 หาง ใช้ไหม?”
มาดาระ ที่ยืนอยู่บนรูปปั้นปีศาจลืมตาขึ้นช้า ๆ
นางาโตะ ดูสับสน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่า มาดาระ จะปรากฏตัวออมาเช่นนี้ “พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง คนนี้แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”
“ช้าเกินไป ฉันจะจัดการเอง นายไปได้แล้ว ขืนชักช้า ชายคนนั้นจะปรากฏตัวและนายยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับเขา” มาดาระ พูด
แม้ว่า มาดาระ ไม่ได้พูดถึงชื่อของคนที่เขาหมายถึง แต่ นางาโตะ ก็รู้ว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้ความริษยาปรากฏในสายตาของ มาดาระ ได้
“แต่ร่างของท่าน…”
“ไม่เป็นไร ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ตอนนี้ฉันต้องทำสิ่งสุดท้ายก่อนตาย” มาดาระ กล่าวอย่างใจเย็น
นางาโตะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก็พยักหน้า จากนั้นเขาก็ก้มหน้าและหายตัวไป
มีเพียง มาดาระ และ คุชินะ เท่านั้นที่ยังอยู่ในสนามรบ ทันทีที่เขามองเธอดวงตาของ มาดาระ ก็เปล่งประกายระยิบระยับ
ไม่น่าแปลกใจที่ นางาโตะ ไม่สามารถทำสิ่งที่ถูกมอบหมายให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถควบคุมจักระของ 9 หาง ได้อย่างสมบูรณ์แบบแบบนี้
“สมแล้วที่เธอมีสายเลือดเดียวกับ มิโตะ เธอสามารถควบคุมจักระของ 9 หาง ได้”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ ในที่สุด คุชินะ ก็ยืนยันตัวตนของเขาได้
อุซึมากิ มิโตะ เป็นภรรยาของ โฮคาเงะ รุ่นแรก และเป็น พลังสถิตร่าง คนแรกของ 9 หาง
ชายคนนี้พูดถึงเธอราวกับว่าเขารู้จักเธอเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือใคร
เขาคือ อุจิฮะ มาดาระ!
ไนโตะ เคยบอก คุชินะ ทุกอย่างเกี่ยวกับ มาดาระ และวิธีที่เขาทำให้ตัวเองยังไม่ตาย
“ถึงอย่างนั้น 9 หาง ก็ไม่ใช่ของเล่นที่เธอจะเก็บเอาไว้กับตัว ดังนั้น…มอบมันให้ฉันส่ะ”
มาดาระ จ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่ง เขามั่นใจว่าแม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับ พลังสถิตร่าง ที่สามารถควบคุมจักระของ 9 หาง ได้อย่างสมบูรณ์ และแม้ว่าสภาพปัจจุบันของเขาจะดูแย่จนเขาต้องพึ่งพารูปปั้นปีศาจ มีชีวิตก็เหมือนไม่มี เขาก็ยังคงสามารถเอาชนะ พลังสถิตร่าง ได้อยู่ดี
การแสดงออกของเขาเย่อหยิ่งอยู่เสมอ ราวกับว่าทุกสิ่งในโลกอยู่ในกำมือของเขา