The Strongest Hokage – ตอนที่ 375

 

ไนโตะ ไม่ได้รอให้ ฮาคุ เดินตามมา เขาเดินออกจากเมืองโดยไม่หันกลับมามอง แต่ทุกอย่างก็อยู่ภายใต้สัมผัสพิเศษของเขา

 

ที่นอกเมือง

 

ไนโตะ เดินเล่นอยู่ท่ามกลางหิมะ

 

ในชีวิตก่อนหน้าของ ไนโตะ ตอนที่เขาดูการ์ตูน เขารู้สึกเสียใจกับชะตากรรมของ ฮาคุ แต่อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

 

แต่ถ้าเขาอยากจะเปลี่ยนชีวิตของ ฮาคุ ในตอนนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องง่าย แต่เขาจำเป็นต้องพิจารณาก่อนว่า ฮาคุ เหมาะสมที่จะเป็นคนธรรมดาหรือเป็นนินจา

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บุคลิกของ ฮาคุ ไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตในฐานะนินจา แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็มีความสามารถในด้านคาถานินจาเป็นอย่างมาก และเมื่อจำเป็น เขาก็เต็มใจที่จะสละชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น และนั่นคือสิ่งที่หาได้ยากมาก

 

ไนโตะ เดินด้วยความเร็วคงที่ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุด ฮาคุ ก็วิ่งตามเขามาจากทางด้านหลังด้วยเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ

 

ไม่ว่าเขาจะล้มลงไปกี่ครั้ง เขาก็ลุกขึ้นยืนทุกครั้งและวิ่งไล่ตาม ไนโตะ จนเจอ

 

เมื่อเขาจับเสื้อ ไนโตะ ได้ในที่สุด ไนโตะ ก็หยุดเดินและหันมามองพร้อมกับยิ้มให้เขา

 

แน่นอนว่านั่นทำให้เขาเหมาะที่จะเป็นนินจามากกว่า

 

ฮาคุ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ มันเป็นเวลานานไม่รู้กี่ปีแล้วที่มีคนยิ้มให้เขา! เขาจำไม่ได้แต่เขาก็แน่ใจว่ามันเป็นเวลานานมากแล้วและเมื่อ ไนโตะ ยิ้มให้เขา มันก็ทำให้เขาก็รู้สึกราวกับว่าความมืดในโลกทั้งใบหายไปทันที

 

“ไปกันเถอะ”

 

ฮาคุ ไม่รู้ว่า ไนโตะ ต้องการเขาไปเพื่ออะไร แต่ตราบใดที่ ไนโตะ ต้องการเขาแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

…..

 

ครึ่งเดือนผ่านไป

 

ไนโตะ พา ฮาคุ เดินทางไปกับเขาด้วย หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินพ้นจากทุ่งหิมะและค่อย ๆ เข้าสู่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ที่แผ่กว้างไปจนสุดขอบฟ้า

 

ใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของ ฮาคุ ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง

 

ตลอดการเดินทางเมื่อ ฮาคุ ได้กินอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นและผิวพรรณของเขาก็สดใสขึ้น

 

เสื้อผ้าของเขาถูกเปลี่ยนเป็นชุดใหม่

 

อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขามากนัก เพราะเขาไม่รู้สึกหนาวอยู่แล้วเพราะขีดจำกัดสายเลือดของเขา

 

ขีดจำกัดสายเลือด แต่ละอย่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และการเดินทางไปกับ ไนโตะ ช่วยให้ ฮาคุ ได้เรียนรู้พลังของเขามากขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!

 

แม้ว่า ฮาคุ จะไม่เก่งเท่า คาคาชิ ผู้ซึ่งเป็นอัจฉริยะ แต่ ฮาคุ ก็เก่งกว่านักเรียนทั่วไปใน โรงเรียนนินจาแห่งโคโนฮะ

 

หลังจากที่ ฮาคุ เข้าใจความแข็งแกร่งของ คาถาน้ำแข็ง นินจาระดับ เกะนิน ก็อยู่ไม่ไกลจากเขาอีกต่อไป

 

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะคำสอนของ ไนโตะ ที่เหนือกว่าครูธรรมาดาทั่วไป ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ทำให้เขาสามารถวิเคราะห์ทุกอย่างได้เพียงเห็นแค่แวบเดียวซึ่งทำให้เขาชี้ข้อบกพร่องของ ฮาคุ ได้อย่างง่ายดาย

 

ในตอนแรก ฮาคุ กลัวที่จะใช้พลังของเขา แต่เมื่อ ไนโตะ บอกเขาว่า แม้ว่ามันจะเป็นพลังที่ถูกสาปแต่หากเขาใช้มันอย่างถูกต้องมันก็จะเบ่งบานและช่วยเขาปกป้องผู้คนรอบตัวเขาได้

 

ด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้ ฮาคุ กำจัดความกลัวทั้งหมดของเขาได้และในที่สุดเขาก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจ นั่นก็คือเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะได้รับการยอมรับจาก ไนโตะ

 

แน่นอนว่าความคิดของ ฮาคุ คือการใช้พลังของเขาเพื่อปกป้อง ไนโตะ เพราะตอนนี้เขามีเพียง ไนโตะ คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ข้างเขา

 

เมื่อรู้แบบนั้น ไนโตะ ก็ทำได้เพียงยิ้มโดยไม่พูดอะไรอีก

 

…….

 

ทุ่งหญ้าค่อย ๆ หนาแน่นขึ้น พุ่มไม้และป่าปรากฏขึ้นและพืชต่าง ๆ ก็เริ่มปรากฏขึ้นบนทางด้านหน้า

 

ขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ฮาคุ ก็เริ่มฝึกฝนการควบคุมการ คาถาน้ำแข็ง ของเขา

 

ตลอดการเดินทางทั้งคู่แทบจะไม่ได้คุยกับเลย ไนโตะ แค่เดินชื่นชมทิวทัศน์และให้คำแนะนำแก่ ฮาคุ บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น

 

ด้วยการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของ ไนโตะ ได้ส่งผลกระทบต่อ ฮาคุ โดยไม่ได้ตั้งใจ ตั้งใจ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการพัฒนาของ ฮาคุ และทำให้การควบคุมของเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากเดินข้ามทุ่งหญ้าไม่นานพวกเขาก็มาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง

 

ไนโตะ พา ฮาคุ เข้าไปในเมืองเพื่อพักผ่อนช่วงคราว

 

ถ้า ไนโตะ เดินทางมาคนเดียว เขาจะไม่หยุดหรือแม้แต่จะกินหรือดื่มเลย แต่เขาจำเป็นต้องหาอาหารแห้งและเครื่องดื่มเพื่อเอาไว้ให้ ฮาคุ กินระหว่างเดินทาง

 

ท้ายที่สุดแล้ว ฮาคุ ก็ยังเป็นเด็กและชอบกินของหวาน

 

ในร้านอาหารข้างถนน ฮาคุ นั่งกินข้าวเงียบ ๆ อยู่สักพัก จนในที่สุดเขาก็ทำลายความเงียบโดยการถาม ไนโตะ ว่าทำไมเขาถึงไม่กินอะไรเลย

 

“คุณไนโตะ ไม่กินอะไรเหรอครับ?”

 

“ถ้าอิ่มแล้วเราก็ไปกันต่อดีกว่า”

 

ไนโตะ พยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอดเพราะร่างกายของเขาได้พลังงานจากพลังงานธรรมชาติอยู่แล้ว เขาจะกินอาหารก็ต่อเมื่อเขาต้องการอยากรู้รสชาติของอาหารเท่านั้น

 

ฮาคุ สงสัยเรื่องนี้แต่นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นนินจาเพราะแม้แต่นินจาก็ต้องกิน

 

แต่เขาก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวโดยการค้นหาคำตอบในเรื่องนี้ ในความคิดของเขา ไนโตะ คือที่สุด เขาจะไม่แปลกใจถ้า ไนโตะ คิดทำอะไร

 

เมื่อกินอาหารเสร็จเขาก็ถือกระเป๋าเดินตาม ไนโตะ ออกไปจากร้านอาหารไป

 

ทั้ง 2 ออกจากเมืองและเดินทางต่อไป

 

เมื่อทั้ง 2 คนออกจากเมืองมาก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามพวกเขามาทางด้านหลังอย่างเงียบ ๆ พวกเขาคือ นินจาคิริ

 

“2 คนนี้แต่งตัวแปลก ๆ น่าจะไม่ใช่คนของแคว้นเรา แล้วอีกอย่าง พวกเขาเหมือนจะเป็นนินจา”

 

“พวกเขาไม่ได้สวมผ้าคาดหน้าผาก พวกเขาคงจะพยายามซ่อนตัวตนเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง”

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้ามาขวางทั้งคู่อย่างรวดเร็วทำให้ ไนโตะ และ ฮาคุ ต้องหยุด

 

พวกเขามองสำรวจไปที่ ไนโตะ แต่พวกเขาก็จำ ไนโตะ ไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในโลกนินจาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี และตอนนี้ชื่อของ เทพเจ้าแห่งนินจา ก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว

 

ฟึ๊บ!!

 

นินจาทั้ง 4 คนไม่ถามหรือพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เพราะแผนของพวกเขาคือโจมตีก่อนแล้วค่อยถามที่หลัง

 

นินจาคิริ ส่วนใหญ่เป็นคนเลือดเย็น ประวัติศาสตร์ของพวกเขาโชคไปด้วยเลือดและความโหดร้าย และส่วนใหญ่พวกเขาฆ่าเพื่อความสนุก

 

นี่คือ หมู่บ้านคิริ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาใช้สอนนินจาของพวกเขา

 

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset