ไนโตะ ไม่ได้รอให้ ฮาคุ เดินตามมา เขาเดินออกจากเมืองโดยไม่หันกลับมามอง แต่ทุกอย่างก็อยู่ภายใต้สัมผัสพิเศษของเขา
ที่นอกเมือง
ไนโตะ เดินเล่นอยู่ท่ามกลางหิมะ
ในชีวิตก่อนหน้าของ ไนโตะ ตอนที่เขาดูการ์ตูน เขารู้สึกเสียใจกับชะตากรรมของ ฮาคุ แต่อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่ถ้าเขาอยากจะเปลี่ยนชีวิตของ ฮาคุ ในตอนนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องง่าย แต่เขาจำเป็นต้องพิจารณาก่อนว่า ฮาคุ เหมาะสมที่จะเป็นคนธรรมดาหรือเป็นนินจา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บุคลิกของ ฮาคุ ไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตในฐานะนินจา แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็มีความสามารถในด้านคาถานินจาเป็นอย่างมาก และเมื่อจำเป็น เขาก็เต็มใจที่จะสละชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น และนั่นคือสิ่งที่หาได้ยากมาก
ไนโตะ เดินด้วยความเร็วคงที่ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุด ฮาคุ ก็วิ่งตามเขามาจากทางด้านหลังด้วยเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ
ไม่ว่าเขาจะล้มลงไปกี่ครั้ง เขาก็ลุกขึ้นยืนทุกครั้งและวิ่งไล่ตาม ไนโตะ จนเจอ
เมื่อเขาจับเสื้อ ไนโตะ ได้ในที่สุด ไนโตะ ก็หยุดเดินและหันมามองพร้อมกับยิ้มให้เขา
แน่นอนว่านั่นทำให้เขาเหมาะที่จะเป็นนินจามากกว่า
ฮาคุ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ มันเป็นเวลานานไม่รู้กี่ปีแล้วที่มีคนยิ้มให้เขา! เขาจำไม่ได้แต่เขาก็แน่ใจว่ามันเป็นเวลานานมากแล้วและเมื่อ ไนโตะ ยิ้มให้เขา มันก็ทำให้เขาก็รู้สึกราวกับว่าความมืดในโลกทั้งใบหายไปทันที
“ไปกันเถอะ”
ฮาคุ ไม่รู้ว่า ไนโตะ ต้องการเขาไปเพื่ออะไร แต่ตราบใดที่ ไนโตะ ต้องการเขาแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
…..
ครึ่งเดือนผ่านไป
ไนโตะ พา ฮาคุ เดินทางไปกับเขาด้วย หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินพ้นจากทุ่งหิมะและค่อย ๆ เข้าสู่ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ที่แผ่กว้างไปจนสุดขอบฟ้า
ใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของ ฮาคุ ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง
ตลอดการเดินทางเมื่อ ฮาคุ ได้กินอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นและผิวพรรณของเขาก็สดใสขึ้น
เสื้อผ้าของเขาถูกเปลี่ยนเป็นชุดใหม่
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเขามากนัก เพราะเขาไม่รู้สึกหนาวอยู่แล้วเพราะขีดจำกัดสายเลือดของเขา
ขีดจำกัดสายเลือด แต่ละอย่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และการเดินทางไปกับ ไนโตะ ช่วยให้ ฮาคุ ได้เรียนรู้พลังของเขามากขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
แม้ว่า ฮาคุ จะไม่เก่งเท่า คาคาชิ ผู้ซึ่งเป็นอัจฉริยะ แต่ ฮาคุ ก็เก่งกว่านักเรียนทั่วไปใน โรงเรียนนินจาแห่งโคโนฮะ
หลังจากที่ ฮาคุ เข้าใจความแข็งแกร่งของ คาถาน้ำแข็ง นินจาระดับ เกะนิน ก็อยู่ไม่ไกลจากเขาอีกต่อไป
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะคำสอนของ ไนโตะ ที่เหนือกว่าครูธรรมาดาทั่วไป ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ทำให้เขาสามารถวิเคราะห์ทุกอย่างได้เพียงเห็นแค่แวบเดียวซึ่งทำให้เขาชี้ข้อบกพร่องของ ฮาคุ ได้อย่างง่ายดาย
ในตอนแรก ฮาคุ กลัวที่จะใช้พลังของเขา แต่เมื่อ ไนโตะ บอกเขาว่า แม้ว่ามันจะเป็นพลังที่ถูกสาปแต่หากเขาใช้มันอย่างถูกต้องมันก็จะเบ่งบานและช่วยเขาปกป้องผู้คนรอบตัวเขาได้
ด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้ ฮาคุ กำจัดความกลัวทั้งหมดของเขาได้และในที่สุดเขาก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจ นั่นก็คือเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะได้รับการยอมรับจาก ไนโตะ
แน่นอนว่าความคิดของ ฮาคุ คือการใช้พลังของเขาเพื่อปกป้อง ไนโตะ เพราะตอนนี้เขามีเพียง ไนโตะ คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ข้างเขา
เมื่อรู้แบบนั้น ไนโตะ ก็ทำได้เพียงยิ้มโดยไม่พูดอะไรอีก
…….
ทุ่งหญ้าค่อย ๆ หนาแน่นขึ้น พุ่มไม้และป่าปรากฏขึ้นและพืชต่าง ๆ ก็เริ่มปรากฏขึ้นบนทางด้านหน้า
ขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ฮาคุ ก็เริ่มฝึกฝนการควบคุมการ คาถาน้ำแข็ง ของเขา
ตลอดการเดินทางทั้งคู่แทบจะไม่ได้คุยกับเลย ไนโตะ แค่เดินชื่นชมทิวทัศน์และให้คำแนะนำแก่ ฮาคุ บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของ ไนโตะ ได้ส่งผลกระทบต่อ ฮาคุ โดยไม่ได้ตั้งใจ ตั้งใจ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการพัฒนาของ ฮาคุ และทำให้การควบคุมของเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดินข้ามทุ่งหญ้าไม่นานพวกเขาก็มาถึงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง
ไนโตะ พา ฮาคุ เข้าไปในเมืองเพื่อพักผ่อนช่วงคราว
ถ้า ไนโตะ เดินทางมาคนเดียว เขาจะไม่หยุดหรือแม้แต่จะกินหรือดื่มเลย แต่เขาจำเป็นต้องหาอาหารแห้งและเครื่องดื่มเพื่อเอาไว้ให้ ฮาคุ กินระหว่างเดินทาง
ท้ายที่สุดแล้ว ฮาคุ ก็ยังเป็นเด็กและชอบกินของหวาน
ในร้านอาหารข้างถนน ฮาคุ นั่งกินข้าวเงียบ ๆ อยู่สักพัก จนในที่สุดเขาก็ทำลายความเงียบโดยการถาม ไนโตะ ว่าทำไมเขาถึงไม่กินอะไรเลย
“คุณไนโตะ ไม่กินอะไรเหรอครับ?”
“ถ้าอิ่มแล้วเราก็ไปกันต่อดีกว่า”
ไนโตะ พยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอดเพราะร่างกายของเขาได้พลังงานจากพลังงานธรรมชาติอยู่แล้ว เขาจะกินอาหารก็ต่อเมื่อเขาต้องการอยากรู้รสชาติของอาหารเท่านั้น
ฮาคุ สงสัยเรื่องนี้แต่นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นนินจาเพราะแม้แต่นินจาก็ต้องกิน
แต่เขาก็ไม่หาเรื่องใส่ตัวโดยการค้นหาคำตอบในเรื่องนี้ ในความคิดของเขา ไนโตะ คือที่สุด เขาจะไม่แปลกใจถ้า ไนโตะ คิดทำอะไร
เมื่อกินอาหารเสร็จเขาก็ถือกระเป๋าเดินตาม ไนโตะ ออกไปจากร้านอาหารไป
ทั้ง 2 ออกจากเมืองและเดินทางต่อไป
เมื่อทั้ง 2 คนออกจากเมืองมาก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามพวกเขามาทางด้านหลังอย่างเงียบ ๆ พวกเขาคือ นินจาคิริ
“2 คนนี้แต่งตัวแปลก ๆ น่าจะไม่ใช่คนของแคว้นเรา แล้วอีกอย่าง พวกเขาเหมือนจะเป็นนินจา”
“พวกเขาไม่ได้สวมผ้าคาดหน้าผาก พวกเขาคงจะพยายามซ่อนตัวตนเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง”
ทันใดนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้ามาขวางทั้งคู่อย่างรวดเร็วทำให้ ไนโตะ และ ฮาคุ ต้องหยุด
พวกเขามองสำรวจไปที่ ไนโตะ แต่พวกเขาก็จำ ไนโตะ ไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ไนโตะ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาในโลกนินจาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี และตอนนี้ชื่อของ เทพเจ้าแห่งนินจา ก็กลายเป็นตำนานไปแล้ว
ฟึ๊บ!!
นินจาทั้ง 4 คนไม่ถามหรือพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เพราะแผนของพวกเขาคือโจมตีก่อนแล้วค่อยถามที่หลัง
นินจาคิริ ส่วนใหญ่เป็นคนเลือดเย็น ประวัติศาสตร์ของพวกเขาโชคไปด้วยเลือดและความโหดร้าย และส่วนใหญ่พวกเขาฆ่าเพื่อความสนุก
นี่คือ หมู่บ้านคิริ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาใช้สอนนินจาของพวกเขา