เมื่อเดินเข้าใกล้หมู่บ้านขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด ฮาคุ ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเกิดสงครามขึ้นภายในหมู่บ้าน จากนั้นเขาก็แสดงสีหน้าที่จริงจังออกมา
อย่างไรก็ตามเพราะอายุและรูปร่างของเขา แม้ว่าการแสดงออกที่จริงจังของเขาก็ยังดูน่ารักอยู่ดี
โอโรจิมารุ ยืนอยู่บนที่สูงอย่างสงบนิ่งขณะมองดูสงครามในหมู่บ้านดวงตาที่ดูเฉียบคม
ขณะที่ ไนโตะ และ ฮาคุ เข้าใกล้หมู่บ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น โอโรจิมารุ ก็ดูตกใจและหันมาทาง ไนโตะ อย่างรวดเร็ว
“น่าสนใจจริง ๆ แต่ทำไมเขาถึงมาที่นี่…”
รอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ โอโรจิมารุ จากนั้นเขาก็หันมาและเดินไปหา ไนโตะ
เขาไม่ได้พยายามที่จะซ่อนตัวจาก ไนโตะ เพราะถ้าเขารู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวของ ไนโตะ ไนโตะ ก็ต้องเจอตัวเขามานานแล้ว
ไม่นาน โอโรจิมารุ ก็มาถึง ไนโตะ
ทันทีที่ ฮาคุ เห็น โอโรจิมารุ เขาก็ดูประหลาดใจ จากนั้นเขาก็จ้องมอง โอโรจิมารุ ด้วยความระแวดระวังและเตรียมพร้อมที่จะปกป้อง ไนโตะ จาก โอโรจิมารุ ทุกเมื่อ
เขาสามารถสัมผัสได้โดยสัญชาตญาณว่า โอโรจิมารุ อันตรายแค่ไหน
เมื่อเทียบกับ ไนโตะ ที่สามารถควบคุมออร่าของเขาต่อหน้าคนอื่นได้ดังนั้นคนอื่นจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวเมื่ออยู่ใกล้เขา
แต่ โอโรจิมารุ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขามีออร่าปีศาจอยู่รอบตัวเขาทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเมื่ออยู่ใกล้เขา
“โอโรจิมารุ คุณกำลังทำให้เด็กกลัว”
ไนโตะ ก้าวไปข้างหน้า ฮาคุ ที่อยู่ในท่าเตรียมป้องกันและแสดงสีหน้าทำอะไรไม่ถูก เมื่อ ไนโตะ เห็นแบบนั้นเขาจึงลูบหัว ฮาคุ เบา ๆ
โอโรจิมารุ ยักไหล่แล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจสะหน่อย ว่าแต่เด็กคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้รอดชีวิตจาก ตระกูลยูกิ สินะ?”
“ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่จริง ๆ สินะ!”
โอโรจิมารุ จ้องไปที่ ฮาคุ และมองอย่างละเอียด จากนั้นสายตาที่แสดงถึงความสนใจอย่างชัดเจนก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ซึ่งทำให้ ฮาคุ รู้สึกขนลุกและแทบจะไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้พุ่งเข้าไปโจมตีเขาได้
แม้ว่า ไนโตะ จะรู้จัก โอโรจิมารุ แต่ ฮาคุ ก็อดไม่ได้ที่จะเตือน ไนโตะ
“ท่านไนโตะ ระวังตัวด้วยนะครับ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก”
“…”
เมื่อ โอโรจิมารุ ได้ยินคำพูดเหล่านี้เขาก็อดอึ้งไม่ได้
อันตรายงั้นเหรอ?!!
ช่างเป็นเรื่องตลกที่ ฮาคุ บอกว่า โอโรจิมารุ อันตรายทั้ง ๆ เขายืนอยู่ข้าง ๆ ชายที่อันตรายที่สุดในโลก!
ดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้จะยังไม่รู้ว่าคนมากมายถูกฆ่าด้วยมือของ ไนโตะ!
ไนโตะ ยิ้มจากนั้นเขาก็ดึง ฮาคุ จากด้านหน้าไปด้านข้างและพูดว่า “โอเค ฟังฉันนะ ฉันไม่อยากให้นายมาทำท่าปกป้องฉันอีก และผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้น่ากลัว เขาจะไม่ทำอะไรนายต่อให้นายจะโจมตีเขาก็ตาม”
“แต่ผม…”
ฮาคุ มองไปที่ โอโรจิมารุ และพูดอย่างอ่อนแรง
โอโรจิมารุ รู้สึกพูดไม่ออก
“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าท่านจะรู้เรื่อง ตระกูลคางูยะ มากพอสมควรเลยสินะ”
โอโรจิมารุ พยักหน้าและพูดว่า “ฉันได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ขีดจำกัดสายเลือด ทุกประเภท ตั้งแต่ฉันถูก โฮคาเงะ รุ่น 3 ขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ฉันก็มาที่ แคว้นแห่งน้ำ เพื่อทำการวิจัยต่อไป”
“เหอเหอเหอ…คุณหมายถึงตั้งแต่ถูกเตะออกมาสินะ”
สีหน้าเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ไนโตะ ขณะที่เขาหัวเราะเยาะ โอโรจิมารุ
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ชัดเจนว่าพลังที่แท้จริงของ โอโรจิมารุ นั้นอยู่ที่ระดับไหน แต่ด้วย เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ที่ทรงพลังเช่นนี้และด้วยเซลล์ของ ฮาชิรามะ ที่ปลูกในร่างกายของเขา สิ่งเหล่านี้ต้องทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าในการ์ตูนมากอย่างแน่นอน
ซารุโทบิ ที่ไม่ได้อยู่ในวัยที่แข็งแกร่งที่สุดจะไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของ โอโรจิมารุ ได้เลย
โอโรจิมารุ ก็หัวเราะเยาะเช่นกันแล้วพูดว่า “แหม ฉันก็หวังว่าผู้ชายที่เขาเลือกให้เป็นผู้สืบทอดจะมีความสามารถอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ก็แล้วกัน…น่าเสียดายที่เขาคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการอีกแล้ว”
โอโรจิมารุ ส่ายหัวแล้วพูดต่อ “สถานการณ์ใน หมู่บ้านคิริ เลวร้ายยิ่งกว่า โคโนฮะ เสียอีก ทุกคนหลงไหลในอำนาจ”
“แม้ว่า อาจารย์ซารุโทบิ จะทำผลงานได้ไม่ดีในบางแง่มุม แต่อย่างน้อยใน โคโนฮะ ก็ไม่มีตระกูลไหนที่กล้าจะแย่งชิงอำนาจของเขาไป แต่สถานการณ์ที่นี่แตกต่างออกไป สงครามได้เกิดขึ้นในหมู่บ้านระหว่างกลุ่มใหญ่ที่ต้องการควบคุมหมู่บ้าน แม้แต่ มิซึคาเงะ ก็ยังทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์นี้”
“ในการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งนี้ เป้าหมายของเขาไม่มีอะไรนอกจากกำจัดอันตรายและกำจัดตระกูลที่มี ขีดจำกัดสายเลือด และ ตระกูลยูกิ เป็นตระกูลแรกที่โดนกำจัด”
โอโรจิมารุ หันไปมอง หมู่บ้านคิริ ที่อยู่ด้านหลังแล้วพูดต่อ “ตระกูลที่เริ่มการก่อกบฏในครั้งนี้คือ ตระกูลคางุยะ”
คำพูดของ โอโรจิมารุ ทำให้ ฮาคุ เศร้าเล็กน้อย สาเหตุของความทุกข์ทรมานนั้นเริ่มต้นจากที่นี่
อย่างไรก็ตามความรู้สึกนั้นของเขาก็หายไปในพริบตา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีต ไม่ว่าเขาจะมีครอบครัวแบบไหน แต่ตอนนี้ ฮาคุ ก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะเรื่องที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คืออาจารย์ของเขา , ไนโตะ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ซึ่งเขาเต็มใจที่จะปกป้อง ไนโตะ ด้วยชีวิต
“ว่าแล้ว”
ไนโตะ พยักหน้า ข้อมูลของ โอโรจิมารุ ไม่ได้เกินความคาดหมายของเขา เขาเดาทั้งหมดเอาไว้แล้ว
เมื่อมองไปที่ท่าทางของ ไนโตะ โอโรจิมารุ ก็เหลือบมองไปที่ ฮารุ อย่างประหลาดจากนั้นก็พูดว่า “เอาล่ะ ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้…ไนโตะ เหตุผลที่เธอมาถึงที่นี่ก็เพราะเรื่อง…แสงอุษา สินะ”
คำพูดของ โอโรจิมารุ ทำให้บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไปทันที
ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ อย่างสงบแล้วพูดว่า “ใช่ นี่คือเหตุผล ดูเหมือนว่าคุณจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขาใช่ไหม?”
ไม่มีสมาชิกของแสงอุษาอยู่ในหมู่บ้านและ ไนโตะ ก็ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดของ หมู่บ้านคิริ แล้วแต่เขาก็พบว่าฐานของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่
“ใช่”
โอโรจิมารุ พยักหน้าจากนั้นก็พูดว่า “ฉันเองก็มาที่ แคว้นแห่งน้ำ เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของพวกเขาเหมือนกัน เพื่อรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับ เนตรสังสาระ มันเป็นเนตรที่มีวิชาลวงตาที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาวิชาเนตรทั้ง 3 และเธอก็น่าจะรู้นิว่า วิชาลวงตา คือสิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุด”
“คุณต้องการอะไร”
ไนโตะ มองไปที่ โอโรจิมารุ และพูดเบา ๆ
โอโรจิมมารุ หันกลับมามองแล้วยิ้ม “ไนโตะ ถ้าเธออยู่ที่นี่พวกเขาก็คงจะซ้อนตัวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอจะพบพวกเขาในไม่ช้าก็เร็ว”
โอโรจิมารุ เป็นคนฉลาด เขารู้ดีว่าข้อมูลแค่เล็กน้อยเกี่ยวกับฐานของแสงอุษาไม่เพียงพอให้เขาแลกเปลี่ยนอะไรกับ ไนโตะ ได้ เขาจึงยอมให้ข้อมูลนี้ไปโดยไม่มีไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
อาจดูเหมือนว่าไม่มีประโยชน์ แต่อันที่จริงการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ ไนโตะ นั้นเป็นประโยชน์ที่สำคัญที่สุดอยู่แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างเขา 2 คนไม่เคยเป็นมิตรกัน อย่างมากก็เหมือนกับการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งแค่นี้ก็ดีพอแล้วสำหรับ โอโรจิมารุ เพราะคนส่วนมากบนโลกก็ยังไม่มีความสัมพันธ์แบบนี้กับ ไนโตะ
ชายผู้ที่สามารถยุติสงครามโลกได้ด้วยพละกำลังของเขาเอง , ไนโตะ ผู้ซึ่งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนินจา แม้ว่าคุณจะเป็นมิตรกับเขา แต่คุณก็ไม่มีค่าพอ!
คำพูดของชายคนนั้นทรงพลังยิ่งกว่าอาวุธใด ๆ!
เหมือนกับตอนที่เขาเคยพูดกับ นินจาซึนะ ที่ เมืองโรรัน ว่า เขาไม่อยากเห็น นินจาซึนะ คนไหนที่เมืองนี้อีก และจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มี นินจาซึนะ คนไหนเหยียบเข้ามาใน เมืองโรรัน อีกเลย!