เซียน 6 วิถี ได้เห็นช่วงเวลาและวิธีการที่ คางูยะ ครองโลกและผลลัพธ์ของมัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยให้มันเป็นไปและไม่เข้าไปยุ่งกับพัฒนาการของมัน และแม้แต่ตัวเขาเองก็จะปฏิบัติตามหลักการเกิดแก่เจ็บตายเช่นกัน
แน่นอนว่าความตายเป็นของเขาเป็นเพียงแค่การที่วิญญาณออกจากร่างเท่านั้น
หลังจากแก่ตัวลงและตายไป ฮาโกโรโมะ ก็อยู่ในร่างวิญญาณ คอยสังเกตโลกและความเป็นไปของมัน และแม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของ เซ็ตสึดำ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่ง
แม้ว่าเขาจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เซ็ตสึดำ พยายามทำให้ คางูยะ ฟื้นคืนชีพกลับมา แต่เขาก็ไม่เข้าไปยุ่ง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่เข้าไปยุ่งกับการกระทำของ ไนโตะ
สำหรับเขา โลกคือสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ตัวบุคคล
แต่การที่ได้เห็น ไนโตะ เดินเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาตกใจอะไร แม้ว่าเขาจะไม่ได้พึ่งพาจักระของ อินดรา กับ อาชูร่า และไม่ได้อาศัยพลังแห่งเซียน 6 วิถี หรือจักระของ 10 หาง แต่เขาก็มาถึงที่นี่ได้ด้วยเส้นทางของเขาเอง
“สันติสุขของโลก…”
ไนโตะ พึมพำเบา ๆ คุณอาจพูดได้ว่าเขาไม่เคยคิดหรือใส่ใจกับปัญหานี้เลย
เพราะ ไนโตะ รู้ว่าพายุกำลังจะมา ไม่ว่าจะเป็น มาดาระ หรือ คางูยะ เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดเล่มคมกริบจ่ออยู่ที่คอของเขาอยู่ตลอดเวลาและใครจะไปรู้ว่าเมื่อไรมีดเล่มนั้นจะเชือดขอของเขา
ด้วยเหตุนี้ ไนโตะ จึงพยายามฝึกฝนอย่างหนักตลอดเวลาจนกว่าเวลานั้นจะมาถึงโดยที่ไม่คิดเรื่องอื่น
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า คางุยะ แข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็รู้ว่า เซียน 6 วิถี ไม่สามารถเทียบกับเธอได้
บางทีเขาอาจจะด้อยกว่า เซียน 6 วิถี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ ฮาโกโรโมะ จะเอาชนะเขาได้ ในดินแดนนี้ ทั้ง 2 เกือบจะเท่าเทียมกัน
“ไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือสันติภาพ โลกก็จะก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่ต้องการหยุดสงครามหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นสงคราม พวกเขาก็ล้วนทำมันเพื่อเป้าหมายส่วนตัวไม่ใช่หรือ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของ ไนโตะ ฮาโกโรโมะ ก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดว่า “นี่คือสิ่งที่นายมองเห็นโลกใบนี้งั้นเหรอ?”
“ใช่”
ไนโตะ พยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า “ทุกคนมีเป้าหมายของตัวเอง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อมัน นี่คือสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้ล้มเหลว”
คำพูดของ ไนโตะ ทำให้ เซียน 6 วิถี ตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานาน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจแล้วพูดช้า ๆ
“ทุกคนมีคำตอบเป็นของตัวเอง ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด มันก็มีวิธีการของมันเสมอ…พูดถึงเรื่องนี้ ลูกหลานของ ฮามูระ ก็มีปัญหาและสงคราม ดูเหมือนว่าพวกเขาก็กำลังหลงทางเหมือนกัน”
เมื่อ ฮาโกโรโมะ พูดถึงลูกหลานของ ฮามูระ และดวงจันทร์ ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็เข้าใจเรื่องนี้ทันที
เมื่อเขากำลังจะได้ฟังสิ่งที่ ฮาโกโรโมะ กำลังจะพูดเกี่ยวกับลูกหลานของ ฮามูระ ทันใดนั้น ไนโตะ ก็รู้สึกได้ถึงแรงดันจักระที่แข็งแกร่งและดึงจิตวิญญาณของเขาออกไปจากดินแดนแห่งนี้
เขาไม่สามารถต้านทานพลังนั้นได้เพราะเขารู้สึกถึงพลังนั้นได้จากร่างกายของเขา
นี่เป็นดินแดนระหว่างชีวิตและความตาย มีเพียงวิญญาณเท่านั้นที่สามารถดำรงอยู่ได้ที่นี่ ถ้า ไนโตะ ยังไม่ตาย เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้นานนัก
ร่างวิญญาณของ ไนโตะ ค่อย ๆ จางหายไปจนหมด เหลือเพียงแค่ เซียน 6 วิถี ในโลกสีขาวที่นั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ
หลังจากผ่านไปไม่รู้นานเท่าไร ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาต่อหน้า ฮาโกโรโมะ ร่างนั้นดูคล้ายกับเขาเล็กน้อย แต่เขาไม่มี เนตรสังสาระ
“กลับมาแล้วเหรอ”
เซียน 6 วิถี มองไปที่ร่างนั้นและพยักหน้าให้เบา ๆ
ร่างนั้นก็คือน้องชายของ เซียน 6 วิถี , ฮามูระ นั้นเอง และเขาก็คือบรรพบุรุษของ ตระกูลฮิวงะ
ด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของ ฮามูระ เขาพูดว่า “ผมไม่คิดเลยว่าลูกหลานของผมจะมีความขัดแย้งกันมากขนาดนี้ ผมพยายามนำทางพวกเขาจากเงามืด แต่มันกลับแย่ลงไปอีก”
“พวกเขาพยายามใช้ขีดจำกัดสายเลือดของผมและดึงพลังทั้งหมดของผมออกไป สิ่งนี้ทำให้โลกนินจาเกิดความโกลาหลอีกครั้ง”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ฮาโกโรโมะ ก็ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “อย่างยุ่งกับพวกเขาอีกต่อไปเลย ปล่อยให้มันเป็นตามโชคชะตาเถอะ อิดรา ที่กลับชาติมาเกิดเป็น อุจิฮะ มาดาระ ก็เคยใช้พลังของฉัน แต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไร”
เนื่องจากเขาได้ตัดสินใจที่จะไม่แทรกแซงโลกอีกต่อไป เขาจึงปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เขารู้ว่า มาดาระ ปลุก เนตรสังสาระ ขึ้นมาได้แต่เขาก็เลือกที่จะไม่หยุดเขา
ท้ายที่สุดแล้ว เขาพยายามแทรกแซงเรื่องราวมามากมายก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง ลัทธินินจา หรือการแยกสัตว์หางออกเป็น 9 ตัว ทุกสิ่งที่เขาทำมันนำความทุกข์ยากมาสู่โลกมากขึ้น แม้ว่าเขาคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีแล้วก็ตาม
“หวังว่าอย่างนั้นครับ”
ฮามูระ หัวเราะอย่างขมขื่น แม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่าพี่ชายของเขา แต่เขาก็ยังมีพลังมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขากลัวว่า ไนโตะ จะไม่สามารถจัดการกับมันได้
ฮามูระ ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ จากนั้นก็นั่งข้าง ๆ ฮาโกโรโมะ หลังจากเงียบไปนานเขาก็หลับตาลง
……..
สติของ ไนโตะ กลับคืนสู่โลกนินจาอีกครั้งและกลับเข้าร่าง
ไนโตะ ลืมตาขึ้น จากนั้นก็ยืนแล้วมองไปที่ท้องฟ้าเบื้อบน ในขณะนั้นดูเหมือนว่าเขาจะสามารถมองเห็นดวงตาของ เซียน 6 วิถี ที่เฝ้าดูโลกอยู่ได้
ในความเป็นจริงทั้ง 2 มีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้ง 2 เคยจ้องมองโลกโดยไม่ยุ่งเกี่ยว
ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขา ไนโตะ ก็ขี้เกียจเกินไปที่จะเข้าไปยุ่งแม้ว่าจะเป็น มหาสงครามโลกนินจาก็ตาม
ไนโตะ ทำให้หัวใจของเขาสงบลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดการที่เขาได้พบกับ เซียน 6 วิถี ก็เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้อยู่แล้ว ส่วนมุมมองของสันติภาพ ไนโตะ ทันทีที่ ไนโตะ หลับมาโลกแห่งความเป็นจริง เขาก็ไม่มีเวลาจะคิดถึงมันเพราะการเปลี่ยนแปลงในหมู่บ้านก็ให้เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ
หลังจากรับรู้สถานการณ์ในหมู่บ้านอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไนโตะ ก็สับสนเล็กน้อย
“เหมือนผ่านไปแค่แปบเดียว แต่จริง ๆ แล้วมันผ่านไปเกือบ 2 ปีแล้วเหรอ?”
ไนโตะ รู้สึกตกใจอย่างมาก แม้ว่าเขาจะทราบว่ากระบวนการนี้อาจใช้เวลานาน แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะใช้เวลาถึง 2 ปี
ดูเหมือนว่าดินแดนที่ เซียน 6 วิถีอยู่กับโลกนินจา การไหลของเวลาจะไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก ระยะเวลา 2 ปีมันไม่มีอะไรเลยและมันก็ไม่สำคัญกับ ไนโตะ
สิ่งที่สำคัญกว่า…คือการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 7!
ทันใดนั้น ด้วยความคิดนี้ ประตูด่านพลังบานที่ 7 ของ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังแบบย้อนกลับ ก็เปิดออก!
ไนโตะ รับรู้ทุกอย่างในร่างกายของเขาได้อย่างถี่ถ้วน ดูเหมือนว่าภายใต้การป้องกันของจิตวิญญาณแห่งเซียน ทำให้การเปิดประตูด่านพลังบานที่ 7 ไม่ส่งผล กระทบใด ๆ ต่อร่างกายของเขาและเขาก็ไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับพลังของมันด้วยซ้ำ พอเปิดแล้วมันก็สมบูรณ์แบบทันที!
ฟึ๊ม!!
ด้วยการเปิดประตูด่านพลังบานที่ 7 จักระของ ไนโตะ ก็เพิ่มสูงขึ้นถึงจุดสูงสุดและในที่สุดเขาก็มาถึงระดับที่สูงขึ้น!
และทันทีที่ถึงระดับนั้น โหมดเซียนขั้นสมบูรณ์ ของ ไนโตะ ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติและในเวลาเดียวกันพลังธรรมชาติทั้งหมดระหว่างท้องฟ้าและโลกก็เริ่มพุ่งเข้าสู่ร่างกายของ ไนโตะ
เป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดาที่จะรู้สึกได้ถึงการไหลเวียนของพลังธรรมชาติ แต่ใครก็ตามที่เคยฝึกฝนโหมดเซียนหรือเคยผ่านการเปลี่ยนแปลงของโหมดเซียนก็จะรู้สึกได้ถึงพลังธรรมชาติที่มหาศาลที่กำลังไหลเวียนอยู่!
ในขณะนั้น บางคนที่สามารถรู้สึกได้อย่างเช่น คิมิมาโร่ , ฮาคุ และ คุชินะ…ทุกคนหันหน้าไปมองยังทิศทางที่เกิดการไหลของพลังธรรมชาติ
“นั่นมัน…”
“นั่นมันตรงที่ ท่านไนโตะ อยู่หรือเปล่า?”
เมื่อรับรู้ถึงพลังธรรมชาติที่บ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็น โคนัน , ซึนาเดะ หรือ คุชินะ เกือบทุกคนก็ตกใจเป็นอย่างมาก
การไหลเวียนเป็นไปอย่างบ้าคลั่ง มันใหญ่มากจนถึงจุดที่คนธรรมดาบางคนรู้สึกได้ว่าอากาศเหมือนกำลังจะถูกดูดอยู่!