แม้ว่าพลังนั้นจะหล่อเลี้ยงร่างกายของ ไนโตะ อยู่ทุกขณะ แต่อย่างไรก็ตามอัตราการดูดซับก็ช้ามาก แต่ก็สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของพลังวิญญาณ
ไนโตะ ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิดเต็มไปด้วยดวงดาว และในที่สุดเขาก็คำนวณว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 ปีจนกว่าเขาจะดูดซับได้จนหมด
ไนโตะ ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องรอ แต่เขากลับยิ้มอย่างมีความสุขเพราะเขาได้พบกับคำตอบที่เขาตามหาแล้ว
เดิมที่ ไนโตะ ค่อนข้างกังวลเล็กน้อย เขาจะพัฒนาขึ้นอีกได้อย่างไร? เขารู้แค่ว่า เนตรสังสาระ และ เนตรจุติ นั้นมีความเกี่ยวข้องกับ ฮาโกโรโมะ และ ฮามูระ
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่า เนตรทั้ง 2 จะถูกปลุกขึ้นมาเมื่อใด
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไนโตะ จึงกังวลว่าเขาคงจะต้องรอผู้สืบสายเลือดของ อินดรา และ อาชูร่า อย่าง นารูโตะ และ ซาสึเกะ ว่าพวกเขาจะสามารถปลุก เนตรสังสาระ หรือเนตรอื่น ๆ ได้หรือไม่
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่จำเป็นต้องรออีกต่อไปแล้ว
ตั้งแต่ที่เขามายังโลกนี้จนถึงทุกวันนี้ การเดินทางนั้นยาวนานมาก อย่างไรก็ตามเส้นทางที่เหลืออยู่นั้นก็สั้นมาก ไนโตะ ต้องการขั้นตอนสุดท้ายในการเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจา
“สิ่งที่เหลือก็แค่รอ”
ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มองไปยังดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุดอันไกลโพ้น ไนโตะ เอื้อมมือออกไปช้า ๆ ไปยังโลกนินจาที่อยู่ด้านล่างราวกับว่ามันอยู่ในกำมือของเขา ในขณะที่พูดแบบนั้นออกมา
……..
ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและเต็มไปด้วยเมฆสีขาว
ดวงจันทร์ได้หายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางวันบางคนก็ยังไม่สังเกตเห็น
ในบ้านไม้
ฮินาตะ อายุ 5 ขวบยื่นอยู่บนพื้นไม้ด้วยเท้าเปล่า ขณะที่เธอกำลังตั้งท่ามวยอ่อนและฝึกฝนอย่างหนัก
ในตอนนี้ ไนโตะ นั่งอยู่ด้านข้างอย่างสบาย ๆ โดยมีเสื้อคลุมสีขาวพาดอยู่บนพื้น ขณะที่เขาถือถ้วยชาไว้ในมือและเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของ ฮินาตะ
แม้ว่า ไนโตะ จะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมวยอ่อน แต่เขาก็อยู่ในระดับของ เซียน 6 วิถีและเขาก็สามารถเรียนรู้ วิชาคาถานินจา หรือ วิชากระบวนท่าน ธรรมดาได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ววิชาที่เหมาะกับ เนตรสีขาว มากที่สุดก็คือวิชากระบวนท่ามวยอ่อน
หลังจากที่เขาดูรูปแบบของมวยอ่อนแล้ว ไนโตะ ก็เข้าใจพื้นฐานและจุดสำคัญของการฝึกได้อย่างรวดเร็วและคิดวิธีฝึกขึ้นมาได้ 2 – 3 วิธี
กระบวนท่ามวยอ่อนได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลาหลายพันปีและอาจพูดได้ว่าพวกเขาปรับปรุงมันให้เหมาะกับการฝึกมากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว
แต่ความสมบูรณ์แบบนี้ในมุมมองของ ไนโตะ ผู้ที่ยืนอยู่ในระดับ เซียน 6 วิถี มันยังสามารถปรับปรุงต่อไปได้อีก ท้ายที่สุดแล้ว เซียน 6 วิถี ก็เป็นต้นกำเนิดวิชานินจาทั้งหมด
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กระบวนท่ามายอ่อน นั้นแข็งแกร่งมาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็อ่อนแออย่างน่าประหลาดใจ
มวยอ่อน 8 ทิศ กับ เคลื่อนสวรรค์ ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ถ้าต่อสู่กับ โจนิน หรือ จูนิน กระบวนท่านี้จะมีพลังอย่างมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนินจาระดับ คาเงะ มันแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำไม สมาชิกตระกูลฮิวงะ ถึงไม่มีใครที่มีพลังระดับ คาเงะ เลย
แต่ ไนโตะ รู้ดีว่ามวยอ่อนนั้นไม่มีขีดจำกัด ถ้าจะมีขีดจำกัด ขีดจำกัดของมันก็คงจะเป็น หมัดสุญญากาศอดิเทพ
ฝ่ามือว่าง 8 ทิศ ของ ฮิวงะ ถือได้ว่าเป็นรูปแบบดั้งเดิมของ หมัดสุญญากาศอดิเทพ อย่างไรก็ตามพลังทำลายของทั้ง 2 วิชานี้ก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนเถอะ”
ไนโตะ จิบชาสงบสติอารมณ์และมองไปที่ ฮินาตะ ที่เต็มไปด้วยเหงื่อทั้งตัว แล้วยิ้มให้เธอก่อนที่จะพูดออกไป
ย้อนกลับไปในช่วงที่ ไนโตะ ฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก เขามักจะผลักดันร่างกายของเขาให้ถึงขีดสุด แต่เมื่อเขาสอนคนอื่น ๆ เขาไม่เคยสอนให้ใช้วิธีเดียวกับเขาเลย ไม่ว่าจะเป็น ฮาคุ หรือ คิมิมาโร่ ไม่ต้องพูดถึง ฮินาตะ เขาไม่สอนเธอแบบนั้นแน่นอน
“หนู…หนูยังไหวค่ะ…”
ฮินาตะ ชะงักเมื่อเธอได้ยินคำพูดของ ไนโตะ จากนั้นเธอก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วและจริงจัง
เมื่อมองไปที่การแสดงออกของเธอ ไนโตะ ก็แสดงสีหน้าหมดหนทางและพูดว่า “การฝึก มวยอ่อน ไม่ใช่แค่การฝึกให้หนักเท่านั้น ถ้าเธอยังฝึกต่อไป การเคลื่อนไหวของเธอก็จะดูสับสนและควบคุมไม้ได้มากขึ้น”
“ค่ะ หนูขอโทษค่ะ ครูไนโตะ…”
ฮินาตะ หยุดแล้วยืนอยู่ตรงหน้า ไนโตะ อย่างเงียบขรึม
เมื่อเห็นว่า ฮินาตะ ยืนนิ่งแบบนั้น ไนโตะ ก็พูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้เรียกเธอมาดุสะหน่อย ไปนั่งพักกินน้ำก่อนไป”
“ค่ะ”
ฮินาตะ พยักหน้าให้กับ ไนโตะ จากนั้นก็เดินไปด้านข้างและนั่งลง
เมื่อมองไปที่ ฮินาตะ ที่กำลังเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่น ไนโตะ ก็แสดงสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า “ฮินาตะ ปู่ของเธอบอกมาใช่รึเปล่า ว่าเธอต้องฝึกให้หนักและอย่าทำให้ฉันผิดหวัง?”
“ฮ๊ะ?”
ฮินาตะ รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็ดูอ่อนแออีกครั้งทันทีและพูดว่า “ใช่ค่ะ หนูขอโทษค่ะ…”
“…”
ฮินาตะ แทบจะขอโทษตลอดเวลาซึ่งทำให้ ไนโตะ พูดไม่ออก ทันใดนั้นเขาก็จำสิ่งที่ ได เคยสอนเขาในอดีตได้
อย่าขอโทษสำหรับความพยายามของคุณ แค่ฝึกให้หนักขึ้น…เพราะนี่คือพลังวัยรุ่น!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ไนโตะ ก็ส่ายหัวทันทีและได้แต่หวังว่าเขาจะลบความทรงจำนี้ออกไปจากจิตใจได้
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่อ่อนแอของ ฮินาตะ ไนโตะ ก็ลูบหัวเธอและยิ้ม “ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันไม่ได้จะว่าเธอ จริง ๆ แล้วฉันหมายถึง….อืม…อย่าไปสนคำพูดของปู่ของเธอเลย”
“อา…”
เมื่อ ฮินาตะ ได้ยินแบบนั้น เธอก็อึ้งไปชั่วขณะเมื่อเธอมองไปที่การแสดงออกที่สงบและใจดีของ ไนโตะ เธอก็ลืมมันไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
“ดีมาก อย่างนั้นแหละ” ไนโตะ มองไปที่ ฮินาตะ อย่างจริงจังแล้วพูดว่า “อย่าผืนตัวเองมากไป การควบคุมจักระไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้”
ในความเป็นจริง คำพูดของ ไนโตะ นั้นถูกต้องแล้ว มวยอ่อนไม่ใช่วิชากระบวนท่าธรรมดาและมันก็ไม่ได้ต้องการความแข็งแกร่งทางร่างกายมากนัก มันขึ้นอยู่กับการควบคุมจักระมากกว่า
แค่คำว่า มวยอ่อน ก็น่าจะอธิบายได้แล้ว่ามันไม่ต้องใช้พลังกายมากนัก
ทุกอย่างเกี่ยวกับสภาพจิตใจ การควบคุมจักระของคุณ และจุดที่คุณควรโจมตี…ฯลฯ
ยิ่งมีความคิดที่ผ่อนคลายและสงบ ก็จะยิ่งมีโอกาสน้อยที่ผู้ใช้จะทำผิดพลาด ดังนั้นหากคุณฝึกฝนอย่างหนักบางครั้งมันก็จะถูกต่อต้าน
ฮินาตะ ไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่เพียงแค่คิดว่า ไนโตะ กำลังเป็นห่วงเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับแก้มที่ชมพูขึ้นอย่างน่ารัก
“ค่ะ ครูไนโตะ”
ตอนที่ ฮินาตะ มาฝึกภายใต้การควบคุมของ ไนโตะ ครั้งแรก เธอก็รู้สึกกังวลว่าเธอจะทำได้ไม่ได้
แต่เธอไม่คิดเลยว่า ไนโตะ จะปฏิบัติต่อเธออย่างอ่อนโยนกว่าพ่อของเธอเองเสียอีก ไม่เพียงแค่นั้น เขาไม่เคยดุเธอเลยและยังดูแลเธอเป็นอย่างดีในทุก ๆ ด้าน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นสีหน้าของ ไนตะ ที่จริงจังขนาดนี้