TTW:บทที่ 246 หิน
“หมอหวง คุณลองดูอีกครั้ง” หลิวกำ บอกกับหวงเหว่ยเถา
“ตกลง”หวงเหว่ยเถา เดินแทรกเข้ามาและลองอีกครั้ง หลังจากลองอีกครั้งเขาพบว่าร่างกายของเธอสามารถรับพลังการรักษาอย่างช้าๆ เธอสามารถดูดซับการรักษาเข้าไปได้ หวงเหว่ยเถา ยังคงส่งพลังการรักษาไปที่ร่างกายของเด็กสาวคนนั้น หลังจากนั้น ชางฮัว ใช้มือกดหน้าอกและผายปอด หลังจากนั้น 2 นาทีเธอก็เริ่มไอออกมาและหัวใจของเธอก็กลับมาเต้นอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงไอพวกเขาต่างปรบมือ อาจเป็นเพราะเธอมีใจสู้ที่จะมีชีวิตอยู่อาจเป็นเพราะความพยายามของ ชางฮัว ที่ทำให้เธอฟื้นคืนจากความตาย ชางฮัว ดีใจมากถึงแม้ว่าตอนนี้เขาเป็นชายวัย 30 ปีแต่เขาเริ่มร้องไห้ราวกับเด็ก มันเป็นฉากที่เด่นชัดในความมืด
ถึงแม้เด็กสาวจะสามารถหายใจได้อีกครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ชางฮัว วางเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง เขาพยายามใช้ความอบอุ่นของตัวเองเพื่อทำให้ร่างกายของเธออุ่นขึ้น
“ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันอยู่ในเกมหากมันเป็นชีวิตจริงเธอคงตายไปแล้ว” หวงเหว่ยเถา อายที่จะพูดกับ ชางฮัว ในโลกแห่งความเป็นจริง หวงเหว่ยเถา นั้นจบการศึกษาในโรงเรียนแพทย์และกำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน แม้ว่าเขาจะจบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์ เขาก็เห็นคนตายมาเยอะ
“ขอบคุณครับคุณหมอ ถ้าไม่ใช่คุณ เธออาจจะไม่ฟื้นอีกครั้ง” ชางฮัว กล่าว ชางฮัว ไม่ได้ตำหนิ หวงเหว่ยเถา แต่เขากลับรู้สึกขอบคุณในความช่วยเหลือของ หวงเหว่ยเถา
หวงเหว่ยเถา ที่สามารถช่วยเหลือเด็กสาวคนนี้ได้ทำให้ ชางฮัว รู้สึกว่า หวงเหว่ยเถา ดันคล้ายกับได้ช่วยชีวิตขอชางฮัว เอาไว้
***
มันเป็นคืนที่ยาวนาน ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถในการรักษาของ หวงเหว่ยเถา สมาชิกในทีมทั้งหมดคงไม่สามารถที่จะมีชีวิตรอดได้ในคืนนี้
ในตอนเช้าพายุฝนฟ้าคะนองก็หยุดลงและน้ำทะเลก็ค่อยลดลงเรื่อย เหล่าสมาชิกลุกจากประภาคารและลงมาสู่พื้นดิน พวกเขามองไปรอบๆแล้วสูดหายใจราวกับว่าพวกเขาได้เกิดใหม่อีกครั้ง
เนื่องจากความมุ่งมั่นของ ชางฮัว ทำให้ หวงเหว่ยเถา ให้ความสำคัญกับเด็กสาวในระดับหนึ่ง ในตอนเช้าเด็กสาวก็ตื่นขึ้นแต่ร่างกายของเธอยังคงอ่อนแอ ชางฮัว ได้ปกป้องเธอทั้งคืนโดยใช้ความอบอุ่นจากร่างกายของเขา
ชายวัยกลางคนมีความยืดหยุ่นมากเขาสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือที่น้อยที่สุดจาก หวงเหว่ยเถา บางทีมันอาจเป็นเพราะความรู้สึกที่เขาต้องการหาลูกสาวของเขาหรืออาจเป็นไปได้ว่าเพราะเขาเคยอยู่กองกำลังพิเศษมาก่อนในตอนที่เขายังอายุน้อยกว่านี้ แม้ว่าชายวัยกลางคนจะเกษียณอายุจากกองกำลังพิเศษมาแล้วเขาก็ไม่ได้หยุดฝึกร่างกายของเขา
รถATVของ หลิวกำ หายไปมันอาจลอยไปกับคลื่น นอกจากนี้ยานพาหนะอีก 2 คันของเขายังถูกย้ายจากจุดเดิมออกไปอีก 1 กิโลเมตร รูปร่างของรถ บิดเบี้ยวและยางพังทั้งหมด ทุกอย่างภายในรถเช่นอาหารและเชื้อเพลิงไม่เหลือหรอ
อย่างไรก็ตามตอนนี้มีข่าวดี…
เส้นทางเดิมที่ถูกปิดกั้นด้วยหินขนาดใหญ่ ตอนนี้ถูกผลักออกไปโดยคลื่นเมื่อคืน แม้ว่าจะสามารถเดินระหว่างก้อนหินได้โดยการปีน มันก็ยังคงเป็นอันตรายมากเพราะมันลื่น
สมาชิกในทีมเริ่มรวบรวมปูและหอยเม่นทะเลอยู่บนพื้นชายหาดมาเพื่อแบ่งปันกันกินในตอนเช้า มันแทบไม่เพียงพอที่จะทดแทนพลังงานที่สูญเสียไป
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน หลิวกำ ไม่ต้องการที่จะค้นหาปูยักษ์อีกต่อไป เขาเพียงแค่ต้องการออกจากที่นี่ การปีนหินใหญ่นี้คือทางออกเดียวที่มีอยู่
จนถึงเที่ยงวันทุกคนก็เริ่มหมดแรง พวกเขาพึ่งผ่านจุดที่ปิดกั้นจากก้อนหินได้ประมาณ 8 เมตรเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถหาเส้นทางอื่นนอกจากปีนขึ้นไป
อาหารเช้าที่น้อยนิดทำให้พวกเขาเหนื่อยและหิวโหย แม้ว่า หลิวกำ จะปีนขึ้นไปบนก้อนหินและโยนเชือกลงมาพวกเขาก็ยังไม่ค่อยมีแรงพอที่จะปีนขึ้นไป
ขณะที่พวกเขาก็นั่งอยู่ด้านล่างของโขดหินและมองขึ้นไปอย่างไร้ความหวัง เสียงกึกก้องมาจากระยะไกลนั่นเป็นเพราะ จางเฉียงหลี่ ได้นำสมาชิกกว่า 1 โหลจากเรือนจำมาปรากฏตัวอยู่บนก้อนหินด้านบนและมองลงมายังกลุ่มของ หลิวกำ จางเฉียงหลี่ ส่งบันไดเชือกลงมาและเขาได้ส่งอาหารให้กับสมาชิกทีมที่กำลังหิวโหอยู่ในขณะนี้
“พี่ใหญ่หลิวเป็นเพราะเมื่อคืนที่ผ่านมามีพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง เมื่อคืนผมคิดว่าคุณอาจอยู่ที่ไหนสักแห่ง เราไม่สามารถมาที่นี่ได้และรอจนกว่าน้ำลด” จางเฉียงหลี่ อธิบายต่อ หลิวกำ
“คุณมาได้ถูกเวลามาก หากคุณมาเร็วกว่านี้น้ำคงยังไม่ลดลง ถ้าคุณไม่มาเราคงต้องอดตายกันอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน?โกดังสินค้า ในเรือนจำถูกน้ำท่วมหรือเปล่า?” หลิวกำ ถาม จางเฉียงหลี่
“มันไม่น่าจะเป็นอะไร น้ำขึ้นสูงเพียงเข่า คลังสินค้าในเรือนจำมีทางเข้าที่สูง นอกจากนี้เรายังใช้ถุงทรายในการกั้นทางน้ำ คงไม่มีปัญหาใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้ามีน้ำรั่วเราจะย้ายพวกมันขึ้นมาด้านบน” จางเฉียงหลี่ อธิบายแผนการของเขา
“แล้วโกดังสินค้าลับที่อยู่ใต้ดินล่ะเป็นอย่างไร?” หลิวกำ ยัง คงถาม จางเฉียงหลี่
“ เราได้สื่อสารกับทีมที่ดูแลอยู่ที่นั่น พวกเขาบอกว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่นั้นอยู่สูงและมันสามารถป้องกันน้ำรั่วซึมเข้าไปยังโกดังสินค้าใต้ดินได้ อุปกรณ์ทั้งหมดยังคงปลอดภัยและแห้งสนิท อย่ากังวลไปเลยพี่ใหญ่หลิว” จางเฉียงหลี่ กล่าว
“ พี่ใหญ่หลิวคุณได้พบสัตว์ประหลาดระดับสูงไหม?” จางเฉียงหลี่ ถาม
“ ลืมมันไปซะเถอะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความโชคร้าย” หลิวกำ ส่ายหัว
เมื่อ จางเฉียงหลี่ ได้ยินคำพูดของ หลิวกำ แล้วเขาจึงไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก เขาจึงกลับไปถาม ชางฮัว เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแทน
ชางฮัว กอดบางอย่างในอ้อมอกของเขาราวกับทรัพย์สินมีค่า เมื่อเห็นในอ้อมกอดของเขาเป็นสาวน้อยโลลิ จางเฉียงหลี่ รู้สึกตะลึง คงมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น เขาคงต้องขอรายละเอียดเรื่องนี้ในภายหลัง
***
ทุกคนมีความสุขในการกินและพักผ่อนครึ่งชั่วโมง หลังจากความอดทนและความแข็งแกร่งของสมาชิกในทีมฟื้นคืนกลับมา พวกเขาก็สามารถปีนข้ามก้อนหินยักษ์ไปได้
ประมาณบ่าย 2 – 3 ทุกคนก็สามารถกลับไปที่รถที่จอดอยู่ฝั่งหนึ่ง โดย จางเฉียงหลี่ ให้สมาชิก 2-3 คนเฝ้ายานพาหนะเอาไว้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพวกเขาก็พากันขึ้นรถและตรงไปที่เรือนจำ
กลุ่มของ หลิวกำ เมื่อขึ้นรถแล้วพวกเขาต่างหมดแรง บางคนนั่งลงและหลักในทันที พวกเขาต่างเข้าใจว่าทุกคนต่างหมดแรง กับสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญเมื่อคืน พวกเขาต่างนอนหลับตลอดทางจนถึงเรือนจำ