TTW:บทที่ 278 ค้นหา
“อา…บางทีมันอาจจะใช้ได้ก็ได้ ถ้าเราพบวงแหวนตะกั่วขนาดเหมาะสมกับข้อมือของฉัน มันคงเพียงพอที่จะหยุดการส่งสัญญาณ” ยินฮี ตอบ จางเฉียงหลี่
“ รอให้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ออกไปก่อนเราจะกลับไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อหามันหรือวัสดุอื่นที่คล้ายคลึงกันพอที่จะขัดขวางการส่งข้อมูลได้” หลิวกำ สั่ง
“แม้ว่าจะเป็นเวลา 5 ชั่วโมงก่อนที่สัญญาณจะส่งออกไป แต่ร่างกายนี้ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการคงอยู่ และตอนนี้ฉันมีโฟตอน ขนาดใหญ่อยู่ภายในร่างกาย แต่พลังงานนี้จะถูกใช้เรื่อยๆและต้องเติมในภายหลัง ฉันไม่สามารถเปิดชุดเกราะด้านนอกของนักรบทั้งสองคนที่สลบอยู่ได้เพื่อที่จะเอาโฟตอนออกมา วันนี้ฉันมีเพียงสำรอง 2 ขวดเท่านั้น ถ้าฉันไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 2 เดือน แต่ถ้าฉันใช้เลเซอร์มันจะบั่นทอนพลังงานของฉัน ดังนั้นถ้าฉันไม่พบวิธีที่จะเติมพลังงานสำรองของฉันได้พวกเราจะต้องเจอวิกฤติเรื่องพลังงานอีกครั้ง” ยินฮี กล่าวต่อ
เมื่อใดก็ตามที่นักรบพวกนี้ออกปฏิบัติการในภารกิจพวกเขาจะมีกำหนดในการกลับไปยังยานแม่เพื่อที่จะรับโฟตอนเพิ่มเพื่อเติมพลังงาน แน่นอนว่า ยินฮี ไม่สามารถกลับไปที่ยานแม่เพื่อเติมพลังงานได้ดังนั้นพลังงานของเธอที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ
แม้ว่าในห้องทดลองลับจะมีพลาสมาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อเติมเป็นทาสนาโนบอท แต่มันก็เป็นอาหารให้กับเธอเพียงแค่เรียกน้ำย่อยได้เท่านั้น อัตราพลังงานที่ร่างกายของเธอ ต้องใช้สูงกวาดการเติมเต็ม พลาสม่า ไฟฟ้าเสียอีก ดังนั้นแม้จะมีพลาสมาไฟฟ้ามากแค่ไหนก็มีประโยชน์น้อยมากสำหรับร่างกายของเธอในตอนนี้
“แล้วอัตราในการใช้พลังงานแบบสู้ตัวต่อตัวล่ะ?” หลิวกำ ถาม
ยินฮี คำนวณและตอบว่า “ การต่อสู้แบบตัวต่อตัวจะสิ้นเปลืองพลังงานเท่ากับการดำรงชีวิตอยู่ปกติ”
“ดี ดังนั้นอย่าใช้เลเซอร์ในการสู้รบ สำหรับศัตรูที่เราเจอเพียงแค่เผชิญหน้าแบบตัวต่อตัวก็มากพอแล้ว” หลิวกำ สั่ง ยินฮี
“มีอีกอย่างหนึ่งคือ ด้วยการกำหนดค่าเกราะป้องกันของฉัน ถ้าฉันอยู่ใต้กองไฟฉันจะสามารถอยู่ได้เป็นเวลา 3 ถึง 4 วันเท่านั้น” ยินฮี ยังคงพูดต่อ
“อ่า…. คงไม่ถึงขนาดนั้น” หลิวกำ ส่ายหัว ดูเหมือนว่าเขาต้องรีบแก้ปัญหาเรื่องพลังงานให้กับยินฮีให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นเธอจะถูกจำกัดในการต่อสู้และอาจเกิดความกังวลต่อเนื่องจากการใช้พลังงานมากเกินไป
******
“พี่ใหญ่หลิวผมสามารถหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จากพวกก่อนหน้านี้ บางทีมันอาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ” จางเฉียงหลี่ ตะโกนมาจากด้านหลัง หลังจากที่ หลิวกำ พูดเสร็จ
“คืออะไร?”ความอยากรู้อยากเห็นของ หลิวกำ ลุกขึ้นอีกครั้ง
“ผมถามพวกเขาว่าพวกเขาเอาอาวุธมาจากไหน ภายใต้ความกลัวตายของพวกเขาได้บอกความลับออกมา อาวุธพวกนี้ปล้นมาจากเรือเหาะที่อ่าวกรีนเปา…ชื่อของเรือเหาะนันคือ เซเรนิตี้ ที่นั่นคือฐานทัพปัจจุบันของพวกเขาและมีพวกอีกประมาณ 30 คนอยู่ที่นั่นพร้อมกับกระสุนปืนและอาหารเหลือเฟือ” จางเฉียงหลี่ อธิบายต่อ หลิวกำ
“สันติสุข (เซเรนิตี้)?” หลิวกำ ส่ายศีรษะอย่างไม่เชื่อ เขามุ่งหน้าจากเมืองนินจิงมาทางทิศใต้ก็เพื่อเครื่องบินดังกล่าว เนื่องจากอุปสรรคเกี่ยวกับปูยักษ์ทำให้เขาไม่สามารถไปอ่าวกรีนเปาในขณะนั้นได้
ดูเหมือนว่า เซเรนิตี้ จะเทียบเรือที่อ่าวกรีนเปา นานกว่าที่กำหนด ผู้เล่นบริเวณใกล้เคียงจึงสามารถยึดเครื่องบินนั้นได้และกลายเป็นฐานทัพของพวกเขา
“พี่ใหญ่หลิว เราควรที่จะลอง….” จางเฉียงหลี่ ถามถึงขั้นตอนถัดไปของ หลิวกำ
“ คุณได้รับข้อมูลอะไรบ้าง?แล้ว เซเรนิตี้จอดอยู่ที่ไหน?มันยังสามารถบินได้อยู่ไหม?พวกเขาพูดถึงวิธีที่พวกเขายึดเครื่องบินหรือเปล่า?” หลิวกำ ถาม จางเฉียงหลี่
“ตามที่ผมได้สอบถามพวกเขา ผมไม่ได้สอบถามรายละเอียดมากนัก หากผมรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญมากผมคงควรจะถามมากกว่านี้” จางเฉียงหลี่ กล่าวด้วยความอับอาย
“โอ้..ไม่เป็นอะไร..ผมเพียงแค่ถามเฉยๆ หลังจากคืนนี้ดูเหมือนว่าผมคงต้องมุ่งหน้าไปอ่าวกรีนเปาโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่น อาหารและกระสุนปืนทั้งหมด ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการที่ผมต้องการคือเรือเหาะ”หลิวกำ ตอบ
ระหว่างสองกองกำลังที่เป็นศัตรูกันมันก็เหมือนกับโลกของสุนัขที่กัดกินกันไปมา ไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ แม้ว่าคนที่อยู่บนเรือเหาะ เซเรนิตี้จะไม่ได้ซุ่มโจมตี หลิวกำ เขา ก็ไม่สนใจ เนื่องจาก หลิวกำ จำเป็นต้องใช้เรือเหาะเพื่อออกจากเกาะนี้ ดังนั้นเรื่องนี้สมควรถึงเวลาที่สมาชิกค่ายของเขาจะเริ่มการต่อสู้
หลังจากการได้ยึดครองเรือเหาะ เซเรนิตี้แล้วไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือชาวเมืองที่มีชีวิตอยู่หรือตายก็เป็นเรื่องของพวกเขา
“พี่ใหญ่หลิวเมื่อเรามุ่งหน้าไปอ่าวกรีนเปา คุณต้องพาผมไปด้วย…” จางเฉียงหลี่ แนะนำทันที
“ชู่..”ในขณะนั้นเอง ยินฮี ก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและบอกให้ จางเฉียงหลี่ เงียบ
เสียงเครื่องยนต์ของเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นขณะที่ หลิวกำ พยายามหยุดคุยกันและซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ แสงจากเครื่องบินส่องผ่านพื้นที่ในเวลากลางคืน เนื่องจากป่าเต็มไปด้วยสีเขียวชอุ่มของป่าไม้และสถานที่ที่ หลิวกำ ซ่อนอยู่นั้นเป็นถ้ำจึงถูกมองข้ามไป จากนั้นหลายนาทีเครื่องบินก็เคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆเพื่อออกค้นหา การหายไปของเครื่องบินทำให้ ยินฮี รู้สึกตื่นเต้น
“ พวกเขากำลังจากไป มันไกลจากสถานที่ของเรา” ยินฮีบอก หลิวกำ
“กลุ่มนักรบพวกนั้นเขาต้องการทำอะไร คุณรู้หรือเปล่า?” หลิวกำ ถาม ยินฮี
“ ฉันสามารถรับข้อมูลได้บางอย่าง มันถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ พวกเขามาจากขอบเขตของจักรวาล พวกเขามาจากยานแม่ เหล่านักรบสวมเกราะถูกส่งมาพร้อมกับเครื่องบินเพื่อปฏิบัติภารกิจต่างๆเช่นการจับตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการทดลอง” ยินฮี อธิบายให้ หลิวกำ ฟัง
“คุณพูดถึงยานแม่…หรือมันคือยานอวกาศ?ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีของพวกเขาจะก้าวหน้ามาก แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่พบพวกเราที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่?” หลิวกำ สอบถามอย่างฉับพลัน
“นักรบพวกนี้มีพฤติกรรมผิดปกติมาก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีของพวกเขาจะสูงแต่สำหรับในการค้นหาพื้นที่ต่างๆพวกเขายังคงล้าหลัง” ยินฮี บอก
“ขณะที่พวกเขากำลังค้นหาพวกเขาจะพึ่งพาเพียงสายตากับเสียงเท่านั้น เช่นเดียวกับในอาคารวิจัยก่อนหน้านี้ที่คุณและ จางเฉียงหลี่ ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงก็สามารถหลบหนีจากการตรวจจับได้ คุณสามารถจะหลบหนีได้อย่างง่ายดายเพราะความสามารถทางประสาทสัมผัสของพวกเขามีอย่างจำกัด”
———————————————-