ด้วยการรที่ติดต่อกับหลี่หานแบบส่วนตัวไม่ได้ ทั้งสองนักร้อง เฉินยู่รุ่ยและเซี่ยฮุย ในฐานะนักร้องของ “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” นั้นพูดไว้ได้ดีมาก
หลังจากที่เนื้อหาของการสัมภาษณ์ของพวกเขาแพร่กระจายออกไป ในที่สุดสิ่งหนึ่งก็ออกมาชัดเจน
นั่นคือ ไม่ว่าจะเป็นสื่อบันเทิงหรือตัวบุคคล คำตอบที่ได้ก็เหมือนกัน
“จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต ” เป็นผลงานของหลี่หานเพียงคนเดียว
นอกจากนี้ สมมติฐานที่ว่าเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นโดยทีมงานและบุคคลอื่น
สื่อบันเทิงต่าง ๆ พยายามค้นหาทีมงานที่เหลือหรือ “บุคคลอื่น” นั้น
แต่ก็ไม่พบเบาะแส
สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าสมมติฐานนั้นไม่เป็นจริง
มิฉะนั้น ด้วยเครือข่ายข้อมูลในปัจจุบัน คงจะสามารถหาเบาะแสนั้นเจอแล้ว
ไม่มีเบาะแสอะไรเลยเพราะมันไม่มีอยู่จริง
สิ่งนี้สามารถแสดงให้เห็นได้ว่า “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” เป็นผลงานของหลี่หานเพียงคนเดียวจริงๆ
ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
ในที่สุดพวกเขาก็ค่อยๆเลือกที่จะเชื่อ
แน่นอนว่ายังมีคนที่ยังไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีความสงสัยในใจอีกสองสามอย่างที่ไม่สามารถไข้อข้องใจได้
ประการแรก: เนื่องจากหลี่หานสามารถแต่ง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ขึ้นมาได้ นั่นหมายความว่าความสามารถทางดนตรีของเขาจะต้องสูงมากสิ?
เหตุใดเขาจึงซ่อนความสามาราถมาตลอดสี่ปีและไม่เคยแสดงความสามารถของเขาเลย?
ประการที่สอง: ทำไมเขาถึงแต่งเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” เมื่อเขาเรียนจบล่ะ?
เป็นการสร้างความสนใจครั้งใหญ่เหรอ?
เนื่องจากเป็นภาพยนตร์เรื่องดัง ทำไมเขาถึงยังไม่ออกมาพูดจนถึงตอนนี้ล่
นี่เป็นคำถามที่สามเช่นกัน ทำไมหลี่หานถึงปฏิเสธที่จะพูดถึงอยู่เสมอ?
หรืออจเป็นจริงอย่างที่เฉินยู่รุ่ยกล่าวไว้ ว่าหลี่หานไม่อยากมีชื่อเสียง?
ชายหนุ่มอายุ 21 ปีที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาลัยการารดนไม่อยากจะมีชื่อเสียงและความั่งคั่ง เป็นไปไดเหรอ?
หรือหลี่หานรู้ดีว่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้อกมาพูดอะไร แต่ท้ายที่สุด ทุกคนก็จะเชื่อว่าเขาเป็นผู้แต่ง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” จริงๆ
เขาจงใจแสร้งทำเป็นไม่แยแสต่อชื่อเสียงและความมั่งคั่ง’งั้นเหรอ?
คำถามที่สี่ หลี่หานกลับบ้านเกิดจริงๆหรือ? เขากลับไปทำอะไรที่บ้านเกิด?
มีคนพูดถึงเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ตมากมาย
บางคนกล่าวว่าหลี่หานอาจจะไม่อยากมีชื่อเสียงจริงๆ อัจฉริยะมักจะแตกต่างจากคนทั่วไปนัก
ยังคงมีผู้คนที่คาดเดาและถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย
ทำไมหลี่หานถึงซ่อนความสามารรถถึงสี่ปี?
เหตุใดจึงแต่ง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ในตอนที่จบมหาลัย?
กลับบ้านเกิดไปทำอไร?
คำถามพวกนี้ค่อยๆเป็นประเด็นมากขึ้น
ผลสุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนและยังคงมีข้อสงสัยอยู่มากมาย
แต่หลี่หานตอนนี้ก็มีชื่อเสียงมากทีเดียว
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีชื่อเสียงมากมาย
มีชื่อเสียงด้านดี แต่ก็มีชื่อเสียงด้านไม่ดีด้วย
ชื่อเสียงนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน? ไม่มีใครรู้คำตอบนี้
……
หมู่บ้านหยวนซี
การรบกวนจากโลกภายนอกไม่มีผลต่อหลี่หาน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลี่หานไม่รู้ว่ามีสื่อหรือบุคคลจำนวนเท่าใดที่พยายามจะติดต่อหาเขา
เขาไล่ปฏิเสธไปทีละคน
ตอนนี้เขาแค่อยากมีความสุขกับการขายผักในทุกๆวัน
เงิน 600,000 ของลิขสิทธิ์ออนไลน์ที่ซื้อโดยแพลตฟอร์มเพลงเฉียนคุนได้ถูกโอนไปยังบัญชีซึ่งช่วยให้หลี่หานเพลิดเพลินกับบรรยากาศนี้ไปได้มากขึ้น
นอกจากนี้เมื่อเขาแสดงจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีใหพ่อแม่ดู
พ่อกับแม่ก็ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานอีกต่อไป
ให้หลี่หานออกไปหางานทำ?
งานประเภทใดที่สามารถสร้างรายได้ 700,000 หยวนในช่วงเวลาสั้นๆได้ ?
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลี่หานยังบอกกับพ่อแม่ของตนว่าเขาวางแผนที่จะปลูกผักและผลไม้ไว้ที่บ้าน จากนั้นค่อยขายพวกมัน
และกล่าวว่าเขากำลังศึกษาวิธีการปลูกทางวิทยาศาสตร์ วิธีการจัดการและวิธีการเพาะปลูกและการเปลี่ยนแปลงสภาพดินหลายอย่าง
ที่สามารถทำให้ผักและผลไม้ที่ปลูกมีรสชาติดีขึ้น
และที่สำคัญที่สุด หลี่หานก็บอกว่าขณะปลูกผัก เขาก็จะไม่หยุดเขียนเพลง
ในขั้นตอนการปลูกและการวิจัยนั้นทำให้เขาได้รับแรงบันดาลใจการแต่งเพลงใหม่ๆมากขึ้น
700,000 อยู่ต่อหน้าพ่อแม่แล้ว จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่คัดค้านอะไร หลี่หานอยากทำอะไรก็ทำไปเลย
พ่อกับแม่ยังได้กล่าวอีกว่า หากหลี่หานต้องการทำการวิจัยและการรทดลองใด ๆ พวกเขาจะเตรียมการให้เอง
สำหรับสิ่งที่หลี่หานกล่าวว่ามีวิธีการปลูกผักและผลไม้ที่ทำให้รสชาติองมันดีขึ้น พ่อกับแม่ไม่ค่อยเชื่อมากนัก
หลี่หานก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
แต่จัดสรรปลูกผักต่างๆเช่นแตงกวา มะเขือเทศ มะระ ถั่วพุ่ม ฯลฯ
จากนั้นก็นำแก่นแท้พืชผลออกมาหยดหนึ่งแล้วหยดลงในถังน้ำขนาดใหญ่เพื่อรดน้ำผักที่ปลูก
หลังจากที่แก่นแท้พืชผลถูกเจือจางด้วยถังน้ำขนาดใหญ่ ผลลัพย์ที่ออกก็จะไม่สะดุดตาเกินไป และสิ่งที่หลี่หานต้องการก็คือผลที่เจือจางน้อยกว่านี้
สองสามวันต่อมา หลี่หานหยิบแตงกวาสองลูกออกมาและให้พ่อแม่ของเขาชิม
บอกกับพ่อแม่ตนว่านี่คือแตงกวาที่เขาปลูกในดินใหม่โดยใช้วิธีการจัดการที่เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ดินใหม่นี้ยังได้รับการปรับแต่งบางอย่าง
หลี่หานถามพ่อกับแม่ว่ารสชาติองมันดีกว่าเดิมหรือไม่?
หลังจากพ่อแม่ของหลี่หานได้ชิมแล้ว พวกเขาก็พบว่า … รสชาติของมันดูเหมือนจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้น พวกเขาก็เชื่อว่าหลี่หานอาจมีวิธีปลูกผักและผลไม้ที่ทำให้รสชาติของมันดีขึ้นจริงๆ
เมื่อพ่อแม่ของหลี่หานมีความคิดเช่นนี้ หากพวกเขาพบว่าผักและผลไม้ที่หลี่หานปลูกไว้ดูเหมือนรสชาติจะดีขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาก็จะไม่ต้องแปลกใจกับมันมากนัก
จากนั้น หลี่หานยังคงรดน้ำผักด้วยแก่นพืชผลที่เจือจางต่อไป
หลี่หานกล่าวกับพ่อแม่ว่าเขาจะรื้อผักที่หน้าบ้าน
พ่อกับแม่ก็ปล่อยให้เขารื้อ
ส่งผลให้ผักทั้งหมดมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะรับประทานดิบหรือหลังทอดก็เหมือนกัน
ไม่เพียง แต่รสชาติจะดีขึ้นเท่านั้น แต่ผักยังเติบโตได้ดีกว่าเมื่อก่อนและพวกเขาก็ดูจะพึงพอใจกับมันพอสมควร
แม่และพ่อถอนหายใจด้วยความรู้สึก
เด็กคนนี้เกิดมาเพื่อเป็นคนปลูกผักรึเปล่านะ?