This Star is a bit Salty – ตอนที่ 21

หมู่บ้านหยวนซี

หลังจากการสนทนากับเหอฉานจบ เด็กตัวโตคนหนึ่งก็กล่าวกับหลู่หานว่า “พี่หาน มาจับปูด้วยกันไหม? ”

 

จับปู?

 

หลี่หานชํานาญการจับปูตั้งแต่เล็กในลําธารนี้ ไม่ด้อยไปกว่าเด็กหมีเหล่านี้เลย

 

“ได้สิ เดี๋ยวฉันจะจับตัวใหญ่ที่สุดให้ดู”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปยังคูน้ํา

 

เมื่อเห็นหลี่หานเข้าร่วม เด็กๆก็โห่ร้องด้วยความยินดี 

 

หลี่หานเต็มไปด้วยความมั่นใจพลางรําลึกถึงความสุขตอ นเด็ก

 

น่าเสียดายที่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้จับตัวที่ใหญ่ที่สุดได้

 

แต่การเก็บเกี่ยวก็ไม่น้อยเลย มีปูตัวใหญ่สิบกว่าตัว เมื่อรวมกับปูที่เหล่าเด็กๆ จับได้มาก็รวมเป็น 50-60 ตัวแล้ว

“ไปกันเถอะ ไปที่บ้านฉัน ฉันจะทําให้พวกนายกิน” หลี่หานเชิญเด็กๆ

 

เหล่าเด็กๆต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ พวกเขาจับปูและตามหลี่หานกลับบ้าน

 

พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน หลี่หานจึงพาเด็กๆเข้าไปเก็บปู

 

จากนั้นใส่ลงในหม้อและปิดฝา

 

ปูเหล่านี้สดใหม่ ถือว่าเป็นวัตถุดิบที่ดี

 

ฝีมือการทําอาหารของหลี่หานนั้นธรรมดามาก แต่ด้วยวัตถุดิบที่ดี ทําให้รสชาติออกมาดีกว่ามาตรฐาน

 

เหล่าเด็กๆต่างน้ําลายไหลออกมา

 

หลังจากเหลือไว้ให้พ่อกับแม่คนละสองสามตัวแล้วที่เหลือก็ถูกหลี่หานกับเหล่าเด็กๆกินไปหมด

 

เหล่าเด็กๆรู้สึกว่ายังกินไม่พอท่องนักดังนั้นจึงตกลงว่าพรุ่งนี้จะไปจับมาอีก

หลี่หานตอบตกลง

 

เด็กหมีโห่ร้องและจากไป

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

หลี่หานนําตะกร้าผักสองใบใหญ่ไปที่ตลาดในเมืองอีกครั้ง 4

ยังคงเป็นตําแหน่งเก่าของเมื่อวานนี้

 

วันนี้น่าจะมีลูกค้าประจํามาซื้ออยู่ไม่น้อยใช่ไหม?

 

หลี่หานคิดอย่างนั้น

 

ตามที่คาดไว้ หลี่หานเพิ่งจอดรถมอเตอร์ไซค์และยังไม่ได้ถอดตะกร้าผักออกจากมอเตอร์ไซค์ เขาก็ได้ยินคนพูดว่า “ไอ้หนุ่มในที่สุดนายก็มา ฉันกังวลว่านายจะไม่มาวันนี้แล้วซะอีก ”

 

หลี่หานหันกลับไป เป็นลูกค้าที่มาซื้อเมื่อวานนี้ที่ซื้อมะเขือเทศสองลูกและแตงกวาอีกหลายลูกไป

 

“คุณป้า วันนี้จะซื้อเพิ่มไหมครับ?” หลี่หานกล่าว

 

“ใช่สิ” คุณป้าพูด ” หนุ่มน้อย วันนี้ฉันมาซื้อผักของนายโดยเฉพาะเลย ฉันรอมาสักพักแล้ว รสชาติของผักนายดีมากหลังจากนําไปทําอาหารแล้วรู้สึกทําให้อาการอร่อยมากขึ้นหลานชายวัยห้าขวบของฉันไม่ค่อยกินผัก แต่แตงกวาที่ฉันซื้อจากนายเมื่อวานนี้น่ะเขากินหมดเลย วันนี้ฉันจะซื้อเพิ่มอีกเล็กน้อยและซื้อผักอย่างอื่นด้วย”

 

“ได้ครับ! คุณป้า รอสักครู่

 

ทันทีที่เขามาถึงก็มีลูกค้าประจําตั้งใจมารอเขานี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างแน่นอน

 

คุณป้าเลือกผักทุกชนิดอย่างคล่องแคล่ว

 

ตอนจากไป เธอยังถามหลี่หานว่าต่อไปจะมาทุกวันหรือเปล่า?

 

หลี่หานกล่าวว่าไม่แน่ใจนักแต่ช่วงนี้อาจจะมาทุกวัน

 

หลังจากคุณป้าจากไป ไม่นานลูกค้าคนที่สองก็มาถึงยังคงเป็นลูกค้าประจําที่มาซื้อของเมื่อวาน

 

” หนุ่มน้อย ฉันจะซื้อผักของนาย”

“ได้สิ!”

 

หลังจากลูกค้าคนที่สองจากไป ลูกค้าคนที่สามและลูกค้าคนที่สี่ก็ตามมา

 

ไม่นาน ลูกค้าทุกคนจําเป็นต้องต่อแถวรอซื้อผัก

 

มีกลุ่มคนจํานวนมากล้อมรอบแผงขายผักของหลี่หาน

 

มีลูกค้าประจําเมื่อวานนี้และลูกค้าใหม่

 

” แผงผักนี่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ทําไมพวกคุณถึงอยากต่อแถวเพื่อซื้อผักที่นี่กัน? “มีผู้เดินผ่านไปมาถามด้วยความสงสัย

 

“คุณไม่รู้หรอกว่าผักของไอ้หนุ่มคนนี้สดและอร่อยมากฉันซื้อมันเมื่อวานนี้ยังไม่มีใครเลย แต่วันนี้มีคนมาซื้อเยอะมาก”

 

“มันอร่อยจริงๆเหรอ? เมื่อวานฉันก็ดูผักของชายคนนี้เหมีอนกัน แต่ยังไม่แน่ใจนัก ”

 

“แน่นอนมันอร่อยจริงๆ ดูสิ วันนี้ฉันซื้อเยอะมาก ”

 

“งั้นฉันจะซื้อกลับไปชิมเหมือนกัน”

 

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผักในตะกร้าไม้ไผ่สองใบก็ขายหมดแล้ว

มีลูกค้าจํานวนมากที่ซื้อไม่ทัน

 

ถ้าซื้อไม่ทัน ก็ทําอะไรไม่ได้ ได้แต่ไปซื้อที่อื่น

 

” หนุ่มน้อย พรุ่งนี้นายต้องหามาขายเพิ่มอีกหน่อยสิ!” ลูกค้าทุกคนที่ไม่ได้ซื้อกล่าว

 

เหล่าลูกค้าถามว่าหลี่หานอยู่ที่ไหน? พวกเขาจะไปซื้อที่บ้านของหลี่หานโดยตรง

 

เมื่อรู้ว่าหลี่หานเป็นคนของหมู่บ้านหยวนซี ห่างจากที่นี่ยี่สิบกว่ากิโลเมตรจึงจําต้องยอมแพ้

 

ภายในครึ่งชั่วโมงก็ขายหมด หลี่หานรู้สึกดีใจมาก

 

ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้อยู่ตลอด กิจการของเขาจะรุ่งเรืองมากขึ้น

 

หลังจากทําความสะอาดและพร้อมที่จะกลับบ้านแล้วนั้น 

 

” หลี่หาน นาย… ขายหมดแล้วเหรอ? “เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมา เป็นเสียงของเติ้งชุย

 

หลี่หานเงยหน้าขึ้นยิ้มและพูดว่า “ใช่ครับ ครูเติ้ง วันนี้ขายหมดเร็วมาก ครูเติ้งต้องการซื้อเหมือนกันเหรอ? ”

 

เติ้งชุยกล่าว “น่าเสียดายที่นายขายหมดแล้วฉันมาช้าไป”

 

หลี่หานกล่าวว่า “คราวหน้าครูเติ้งสามารถโทรหาฉันได้ฉันจะเก็บมันไว้ให้คุณ” ”

 

เติ้งชุยกล่าวว่า “เยี่ยม ครั้งต่อไปที่นายจะมาขายก็บอกฉันด้วย”

 

หลี่หานตอบตกลง

 

เติ้งชุยกล่าวต่อ “นายส่งต้นฉบับไปให้นิตยสารรึยัง?” ” 

 

หลี่หานกล่าว “ส่งไปแล้ว และทางนั้นก็ได้ส่งค่าต้นฉบับมาให้ฉันแล้ว”

 

เติ้งซุยกล่าวว่า “เร็วจัง? นายได้เท่าไหร่เหรอ? ”

 

หลี่หานกล่าว “แปดร้อยหยวนต่อหนึ่งพันคํา”

 

เติ้งชุยพยักหน้าและกล่าวว่า “เท่าที่ฉันรู้ ราคานี้เกือบจะสูงที่สุดและมอบให้กับนักเขียนที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ความสนุกของเด็กถือว่าจริงใจมากทีเดียว หลี่หาน ผลงานของนายมีรายได้มากกว่า 2,000 หยวน นายมีความสามารถเช่นนี้ดูเหมือนว่าไม่จําเป็นต้องขายผักแล้วล่ะสิ”

 

หลี่หานยิ้มและกล่าวว่า “ฉันชอบชีวิตแบบตอนนี้มากปลูกผักตามสั่งแล้วเอามาขายแบบนี้ก็ทพให้ฉันพอใจแล้ว ”

 

เติ้งชุยไม่เข้าใจมากนัก แต่คิดว่าทุกคนมีวิถีชี วิตที่ทุกคนชอบเธอโล่งใจและกล่าวว่า “แล้วนายจะเขียนผลงานใหม่ในอนาคตหรือเปล่า?”

 

หลี่หานกล่าว “น่าจะ ฉันชอบเด็กมาก ฉันต้องการใช้ผลงานที่ฉันเขียนเพื่อทําให้เด็กๆรู้สึกสนุกและได้ความรู้จากมัน ”

 

เติ้งชุยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินเรื่องนี้ ตอนนี้ผลงานที่ดีนั้นหาอ่านได้ยาก ถ้าหลี่หานสามารถเขียนผลงานเพิ่มเติมได้จะเป็นสิ่งที่ดีมาก

 

ดังนั้นสําหรับพ่อแม่เด็กและครู นี่เป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน

จากนั้นเธอก็ยิ้มและกล่าวว่า “ผู้ปกครองและครูของเราขอบคุณนายมาก ฉันคิดว่าเร็ว ๆ นี้เธอเจะกลายเป็นนักเขียนเทพนิยายและนักเขียนวรรณกรรมเด็กที่ยอดเยี่ยม ” 

 

หลี่หานยิ้มและกล่าวว่า “บางที่อะนะ แต่นั่นไม่สําคัญ

 

ถ้าเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้ เติ้งชุยจะต้องรู้สึกว่าคนๆนั้นเสแสร้งอย่างแน่นอน

 

แต่เมื่อหลี่หานเป็นพูด เติ้งชุยกลับรู้สึกว่าหลี่หานคิดแบบนั้นจริงๆ นักเขียนเทพนิยายก็ดี นักเขียน วรรณกรรมเด็กก็ดีเขาไม่สนใจ

 

ชายหนุ่มที่อายุยังน้อยและหล่อเหลา….

 

เติ้งชุยไม่เข้าใจหลี่หานจริงๆ

 

เธอส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “ฉันรอคอยผลงานใหม่ของนายนะหลี่หาน ”

 

“ขอบคุณครับ! ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset