Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา – ตอนที่ 198 ระดับสอง

เมื่อประตูห้องปฏิบัติการเปิดออก แสงไฟสีเหลืองที่ดูอบอุ่นก็ค่อยๆ สว่างขึ้น ความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและอุปกรณ์จำนวนมากทำให้ลูเซียนประทับใจ ถึงแม้ว่าห้องทดลงจะไม่ได้ดูลึกลับและใหญ่โตเหมือนของ ‘ศาสดาพยากรณ์’ มาสเกลีน ที่ลูเซียนเคยใช้มิติเวทมนตร์ไว้ แต่ลูเซียนก็ประทับใจในความสะอาด ความเป็นระเบียบ และอุปกรณ์ทดลองมากมายก่ายกอง

เคชี้ไปที่หนึ่งในจุดทดลอง “เจ้าสามารถใช้ได้นะ ข้าก็จะใช้ด้วยเช่นกัน”

“ขอบคุณท่านเค” ลูเซียนไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการทดลองของเค เนื่องจากการทดลองของใครบางคนเป็นความลับอยู่เสมอ และก็เป็นการป้องกันการการขโมยผลงานอีกด้วย

เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์เกี่ยวกับการลอกเลียนแบบผลการวิจัยของผู้อื่นเว้นแต่ว่าจะใช้เวทมนตร์ตรวจสอบความคิดคนๆ นั้น

สำหรับนักเวทที่กล้าขโมยความคิดและลอกเลียนแบบผลงานนั้น พวกเขามักจะมีกลุ่มที่มีอำนาจสนับสนุนพวกเขาอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นเมื่อไม่มีหลักฐานเพียงพอพวกเขาจึงสามารถหลบเลี่ยงการถูกสอบสวน และหาข้อแก้ตัวได้อย่างง่ายดาย

สิ่งที่แย่กว่านั้นคือนักเวทบางคนอาจฆ่าคนที่ขโมยผลงานโดยใช้วิธีการที่แตกต่างกัน

ทั้งหมดนี้ถูกแนะนำโดยลาซาร์ และเมื่อลูเซียนได้ยินครั้งแรกเขาก็ตกใจมาก

‘น้ำยาหิน’ ไม่ใช้ยาที่ปรุงยากและลูเซียนก็ทำได้ค่อนข้างดี หลังจากลองทำมาสามครั้งก็ปรากฏของเหลวสีน้ำตาลขุ่นออกมา

ยังมีเวลาอีกสักครู่หนึ่ง ลูเซียนหยิบวัสดุบริสุทธิ์ออกมาหนึ่งหลอดและกำลังจะทดสอบตามเอกสารที่เขาอ่าน ในเวลานี้เองเคที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็พูดกับลูเซียนว่า “เจ้าจะทดลองอย่างอื่นอีกหรือ”

“ใช่? ทำไมหรือ” ลูเซียนถาม

“ข้าไม่ได้อยากจะขโมยผลงานของเจ้าหรือกนะ” น้ำเสียงทุ่มต่ำของเคนั้นฟังดูน่าเชื่อถือมาก “แต่ข้าจะบอกรหัสผ่านของห้องให้เจ้า ถ้าหากเจ้าต้องการจะทำการทดลองแบบเร่งด่วน เจ้าก็สามารถมาใช้ห้องได้แม้ว่าข้าจะไม่อยู่”

“มันเยี่ยมมากจริงๆ ท่านใจดีมากเลย ข้ายังเป็นมือใหม่สำหรับวงการธาตุ และข้าต้องการที่จะทำการทดลองด้วยตัวเองเพื่อให้เข้าใจธรรมชาติขององค์ประกอบต่างๆ ท่านรู้ไหมว่าในฐานะนักเวทระดับหนึ่งข้าใช้เวทมนตร์ในการหาคุณสมบัติของธาตุได้ ดังนั้นการทดลองจึงเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับข้า” ลูเซียนหันกลับมาพูดกับเคอย่างจริงใจ

แต่เมื่อเห็นเคยังทำการทดลองของเขาอยู่ ลูเซียนก็หันหลังให้เขาเพื่อที่จะไม่มองสิ่งที่เขาทำ

“ข้าเข้าใจ ข้าจะบอกวิธีเข้าห้องนี้ในภายหลัง” เคกล่าวทั้งที่ยังหันหลังให้ลูเซียน “อย่างไรเสียเจ้าก็ใช้ห้องนี้ได้อีกไม่นานเพราะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าข้าจะออกจากสำนักนี้”

“ท่านจะออกทำไม?” ลูเซียนถามด้วยความสับสนในขณะที่กำลังถามลูเซียนก็เปิดวงจรเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อเปลี่ยนองค์ประกอบที่บริสุทธิ์ให้กลายเป็นไอเพื่อทดสอบความหนาแน่นของก๊าซ

“แลร์รี่จากกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุชอบบทความก่อนหน้านี้ของข้า เขาต้องการให้ข้าช่วยเขาศึกษาบางอย่างเมื่อข้ากลายเป็นนักเวทระดับกลางเมื่อเร็วๆ นี้ ข้ารู้สึกว่าข้ากำลังเข้าใกล้ระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นข้าจึงอยากได้ไอเท็มเวทมนตร์ที่มาจากภารกิจของสภาเพื่อมาช่วยให้ข้าเลื่อนระดับ” เคไม่ได้ต้องการแสดงท่าทีโอ้อวด อีกทั้งเขายังพยายามแสดงความถ่อมตัวออกมาด้วย

ในบรรดาคนรุ่นใหม่ของกลุ่มเจตจำนงแห่งธาตุ แลร์รี่ลูกศิษย์ของแกสตันเป็นคนที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะพัฒนาไปเป็นนักเวทระดับสูง ตอนนี้แลร์รี่เป็นจอมเวทระดับห้าและนักเวทระดับห้า ซึ่งมีพลังมากกว่าทิโมธีหรือยูลิสิส มีเพียงแค่นักเวทระดับหกหรือเจ็ดจากกลุ่มและองค์กรอื่นๆ เท่านั้นที่สามารถเป็นคู่แข่งกับเขาได้รวมถึงเฟลิเปที่แม้จะอายุน้อยกว่าเขา แต่ก็มีระดับอาร์คานาใกล้ระดับห้าแล้ว

ลูเซียนพยักหน้าเล็กน้อย “ขอแสดงความยินดีด้วย ข้าขอดูบทความของท่านได้ไหม”

“มันยังไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เลย มันจะถูกตีพิมพ์ในวารสารเวทธาตุในสัปดาห์หน้า แต่อาจารย์จะสามารถอ่านได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” เคค่อนข้างเขินอาย เขาไม่ได้บอกชื่อบทความตรงๆ กับลูเซียน แต่เปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “หวังว่าเจ้าจะทำการทดลองให้เสร็จในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นเมื่อข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ เจ้าก็ต้องไปหาที่อื่น”

ลูเซียนหัวเราะเบาๆ “ไม่มีใครพูดถึงเลยว่าอาจารย์จากสำนักของเราจะได้ตีพิมพ์บทความกับวารสารเวทธาตุ ท่านเก็บความลับเก่งมากเลยนะ ข้าจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ท่านเคท่านเป็นคนดีจริงๆ นะ”

“ไม่มีปัญหา เราควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” เคตอบด้วยรอยยิ้ม

หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทดลองของตัวเอง

ลูเซียนกลับไปที่ที่พักในตอนเช้าและร็อคก็ยังคงหลับอยู่

ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ ความเงียบสงบในตอนเช้าช่วยบรรเทาจิตใจของลูเซียน และเขาก็เตรียมตัวเปิดหลอดแก้วและดื่มยาสีน้ำตาลขุ่นที่ชื่อว่า ‘หิน’

รสเปรี้ยวจัดและขมปร่าของยาไหลจากปากของลูเซียนลงไปแผดเผาคอและหลอดอาหารทำให้ลูเซียนถึงกับต้องโยนหลอดแก้วทิ้งไป แต่ภายในร่างกายและวิญญาณของเขากลับรู้สึกสงบและมีพลัง

เมื่อรสชาติจางลงลูเซียนก็หลับตาลง และเข้าสู่โลกแห่งการทำฌานสมาธิในไม่ช้า จิตสำนึกของเขากลับไปสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งโชคชะตาของเขาที่กำลังส่องแสงและเปล่งพลังไฟ ลมและน้ำ ซึ่งเป็นพลังพื้นฐานที่ต่างก็มีส่วนในการดำรงอยู่ของโลกแห่งการทำฌานสมาธิ

สติของลูเซียนแยกออกจากวิญญาณของเขาและเริ่มชักนำวิญญาณ เส้นสายส่องแสงยื่นออกมาจากพลังแห่งจิตวิญญาณของลูเซียนนั้นเริ่มสร้างแบบจำลองเชิงพื้นที่ที่ค่อนข้างซับซ้อน

เนื่องจากแบบจำลองไม่ได้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน เช่น เส้นโค้ง ลูเซียนจึงจัดกระบวนการทั้งหมดได้ดีด้วยความรู้พื้นฐานใหม่ๆ ของอาร์คานา

เมื่อแบบจำลองดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ มันจึงเปล่งแสงแพรวพราวและลากสติของลูเซียนกลับคืนสู่จิตวิญญาณของเขาและครอบคลุมมันทั้งหมด

แล้วลูเซียนก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขาในโลกของการทำฌานสมาธิ

จุดที่มีสีสันปรากฏขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตามลำดับที่ซับซ้อนและลึกลับ และแต่ละจุดนั้นจะแสดงแบบจำลองที่ซับซ้อนออกมา ดูเหมือนว่าแบบจำลองเหล่านี้จะเป็นเวทมนตร์ใหม่ที่ลูเซียนไม่เคยเห็นมาก่อน! แต่อย่างไรก็ตามโครงสร้างของแบบจำลองยังอยู่ในความสับสน และเมื่อลูเซียนกำลังจะมองเข้าไปใกล้ๆ จิตสำนึกของเขาก็ถูกครอบงำด้วยพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของเขาเองด้วยเวทมนตร์ระดับสองของเขา ‘เวทกระจก’

เหมือนเรือลำเล็กที่พยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอดจากคลื่นอันรุนแรง เหมือนนักรบที่ต่อสู้เพื่อความหวังของเขา ลูเซียนพยายามดิ้นรนเพื่อควบคุมให้ตัวเองมีสติอยู่เสมอ

โชคดีที่พลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ของเขาทำให้เขาผ่านมาได้ในตอนท้าย คริสตัลส่องประกายปรากฏขึ้นในวิญญาณของเขาและระดับพลังวิญญาณของเขาก็ถูกบันทึกใหม่

“ในที่สุด… ฉันก็เป็นนักเวทระดับสอง” ลูเซียนกล่าวกับตัวเอง ในขณะที่เขาพูดลูเซียนก็ใช้งานเวทกระจกและร่างจำแลงก็ถูกสร้างขึ้นข้างๆ เขา

เวทกระจกเป็นเวทระดับสองของสำนักภาพมายา ก่อนที่เวทจะถูกทำลายจากการอาคมตรวจสอบอะไรก็ตาม เช่น เวทมนตร์ของสำนักโหราศาสตร์ เวทกระจกจะปกป้องผู้ร่ายอาคม จนกว่าร่างจำแลงจะถูกทำลาย

หลังจากทดสอบเรียบร้อยแล้ว ลูเซียนก็ถอนเวทมนตร์และมองกลับไปที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว อนุภาคที่มีสีสันเหล่านั้นหายไปหมดแล้วราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาของลูเซียน

อย่างไรก็ตามลูเซียนมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาของเขาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเดาได้ว่า

โลกฌานสมาธิถูกสร้างขึ้นและได้รับผลกระทบจากความรู้ของเขาเอง เมื่อเขาได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความจริงของโลกมากขึ้นมันก็จะปรากฏในโลกการทำฌานสมาธินี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

ลูเซียนเพิ่งได้เรียนรู้วิธีจัดเรียงธาตุเมื่อเร็วๆ นี้ และแม้ว่าธาตุบางอย่างของที่นี่จะแตกต่างจากโลกดั้งเดิมของเขา แต่เขายังคงสังเกตเห็นคำสั่งบางอย่างที่เป็นไปได้ ลูเซียนสงสัยว่านี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกฌานสมาธิเปลี่ยนไปเมื่อเขายกระดับหรือไม่ บางทีเมื่อลูเซียนทำตารางธาตุในโลกนี้สำเร็จ อนุภาคที่มีสีสันเหล่านี้น่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หรือจะพูดอีกอย่างว่าเวทมนตร์ใหม่ก็ได้ แต่ลูเซียนก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเวทอะไรเช่นกัน

ณ เมืองไฮด์เลอร์ หอคอยเวทมนตร์หลักของ ‘กลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา’ ภายในห้องมืดๆ

“ท่านโรเจริโอ สวัสดีขอรับ” เฟลิเปเอามือของเขาออกจากเสื้อนอกและแตะมือขวาที่หน้าผาก “วันนี้ข้าจะทำอะไรให้ท่านได้บ้าง”

ที่เฟลิเปทำเช่นนี้เพราะเขาเคารพโรเจริโอที่ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา แต่ยังเป็นถึงสมาชิกของคณะกรรมการกิจการที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสภาสูงสุด

โรเจริโอสวมชุดสีดำและขาว กับเสื้อเชิ้ตแขนหลวมๆ ที่ดูคล้ายกับเมื่อตอนที่เขาอยู่ในนครอัลโต้ แต่ตอนนี้มีเหรียญตราสามเหรียญอยู่ที่หน้าอก เหรียญตราอาร์คานาระดับเจ็ด เหรียญตรานักเวทระดับแปด และเหรียญตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการกิจการ

โรเจริโอดูเข้าถึงง่ายกว่านักเวทศาสตร์มืดคนอื่นๆ “เฟลิเป การทดลองของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่เลวเลย เพียงแค่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง” เฟลิเปนั่งลงตรงหน้าโรเจริโอ

โรเจริโอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ข้าได้ข่าว… เกี่ยวกับศาสตราจารย์”

………………………………………….

Throne of Magical Arcana

Throne of Magical Arcana

ซย่าเฟิง นักศึกษาปีสุดท้ายผู้อ่อนต่อโลก ตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของลูเซียน อีวานส์ เด็กหนุ่มกำพร้าชนชั้นกรรมาชีพที่เฉลียวฉลาด บนโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ แม่มด ลัทธินอกรีต อัศวิน ปีศาจ และศรัทธาในพระเจ้า ลูเซียนประยุกต์ใช้ความรู้จากโลกเก่าพร้อมกับพลังวิเศษ ‘ห้องสมุดในห้วงสมอง’ ศึกษาเปรียบเทียบวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์ เพราะ ‘ความรู้คืออำนาจ’ ที่จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายในการยกระดับชีวิต!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset