เมอร์คิวรีหยิบกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งออกมา ข้างในบรรจุเห็ดซากศพสามชิ้น มีอยู่หนึ่งชิ้นที่สีเข้มกว่าสองชิ้นที่เหลือ นางบอกอย่างสุภาพว่า “ท่านเอาไปได้หมดเลย ถ้าท่านยินดีตอบคำถามข้า”
เห็ดซากศพเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างน้ำยาเวทมนตร์หลายๆ ชนิด ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณสิบนาร์ เห็ดที่มีสีเข้มจะมีราคาแพงขึ้นไปอีก ถ้าลูกค้าต้องการมาก ราคาอาจพุ่งเป็นเท่าตัวหรือมากกว่านั้น
ลูเซียนไม่อาจต้านทานข้อเสนอนั้น เขาพยักหน้า ‘ตกลง’
เมอร์คิวรีพูดถึงบทความในวารสาร เรื่อง ‘ธาตุใหม่ที่ได้จากการสังเคราะห์โดยวิธีใหม่’ แล้วถามว่า “คำถามของข้าเกี่ยวกับธาตุพื้นฐาน ในบทความนี้ผู้เขียนระบุว่า ‘ไท้’ (Tai) ซึ่งสกัดมาจากหินซันสโตนนั้นเป็นธาตุ แต่ข้าคิดว่ามีเพียงดิน ไฟ ลม และน้ำเท่านั้นที่เป็นธาตุพื้นฐาน…”
เสียงนางสั่นเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าคำตอบจะทำลายความรู้เดิมของนางเกี่ยวกับธาตุเวทมนตร์ แต่จริงๆ แล้ว คำถามนี้เกี่ยวข้องกับข้อแตกต่างที่สำคัญของระบบเวทมนตร์โบราณกับระบบเวทมนตร์สมัยใหม่
“อืม…” หลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลูเซียนก็ตอบคำถาม “บอกตรงๆ ข้าก็ไม่แน่ใจนัก ข้าศึกษาระบบเวทมนตร์โบราณเช่นเดียวกับพวกท่าน แต่ก่อนข้าเจอสิ่งที่ขัดกันระหว่างบางทฤษฎีกับการทดลองของข้าอยู่บ่อยๆ ข้าจึงขบคิดหนักขึ้น เหตุผลที่ข้าสามารถอธิบายสูตรเหล่านั้นไม่ใช่เพราะว่าข้าเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งหรอกนะ แต่เพราะคำถามเหล่านั้นเป็นคำถามที่อยู่ในใจข้ามานาน และวารสารเล่มนี้ก็ช่วยให้คำตอบ”
เป็นเรื่องน่าสงสัยอย่างยิ่งที่นักเวทผู้บอกว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับสภาเวทมนตร์แห่งทวีปสามารถเข้าใจสูตรทั้งหมดในบทความได้ แต่ตอนที่ได้อ่านวารสารเป็นครั้งแรก ลูเซียนก็ตื่นเต้นจนลืมความจริงข้อนี้ ตอนนี้เขาต้องควบคุมตัวเองสักหน่อย
“นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงอธิบายแค่การใช้สูตรเท่านั้น เพราะว่าหลักการที่แท้จริงของมันก็ยังเป็นเรื่องแปลกสำหรับข้า” ลูเซียนอธิบายต่อ เขาไม่อยากเสี่ยงให้ถูกสงสัยแม้เพียงนิดเดียวก็ตาม “บทความนี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการและผลลัพธ์ของการทดลอง โดยใช้สูตรสองสามสูตร ข้าทำได้เพียงแสดงความคิดเห็นคร่าวๆ เกี่ยวกับทฤษฎีที่ถูกกล่าวถึงในบทความ แต่ความเห็นของข้าอาจผิดก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกท่าน” เมอร์คิวรีตอบอย่างหนักแน่นแล้วหันไปหานักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ “ข้าขอเชิญพวกท่านทุกคนมาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องนี้กัน”
การเชิญชวนนี้นับว่ามีค่ามาก ถ้าผู้ที่ตั้งคำไม่อนุญาต คนอื่นๆ ก็ไม่อาจร่วมฟังด้วยได้ ในบางครั้งข้อมูลสำคัญจะได้รับการปกป้องโดยเวทมนตร์พิเศษเรียกว่า ‘การสื่อสารลับ’ เพื่อป้องกันการแอบฟัง
“ข้าได้ยินว่ามีการถกเถียงกันมายาวนานในหมู่นักเวทว่าธาตุพื้นฐานทั้งสี่ในโลกเป็นเพียงตำนานหรือไม่” ลูเซียนเริ่มวิเคราะห์ หลายคนเชื่อว่าธาตุแท้จริงควรจะมีลักษณะนามธรรมมากกว่านี้ และมีมากกว่าสี่อย่าง”
นักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ พยักหน้าอย่างใช้ความคิด หลายๆ คนสงสัยเรื่องนี้เหมือนกันตอนที่พวกเขาทำการทดลองเวทมนตร์
“ข้าไม่แน่ใจว่าธาตุแท้จริงคืออะไร แต่จากบทความนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกำหนดนิยามของคำว่าธาตุเสียใหม่ และค้นพบธาตุใหม่หลายธาตุจากการทดลองหลายแบบ”
การทดลองที่ปรากฏในบทความคือตัวอย่าง ผู้เขียนบอกวิธีการที่เขาค้นพบธาตุชนิดใหม่ โดยการใช้เวทวายุเพลิงขั้นที่ 9 กระหน่ำใส่หินซันสโตนที่อยู่ในวงเวท ผู้เขียนได้คริสตัลบริสุทธ์และงดงาม เรียกว่า ไท้ ซึ่งยืดหยุ่นและเบากว่าแร่มิธริล
ลูเซียนสังเกตว่าในโลกนี้ยังไม่มีตารางธาตุ แต่ในโลกเวทมนตร์นี้ เราอาจจะไม่สามารถทำนายสมบัติต่างๆ ของธาตุได้เลย
ลูเซียนยกตัวอย่างธาตุเวทมนตร์พื้นฐานเพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อขัดแย้งกันของทฤษฎีธาตุโบราณกับการฝึกฝนจริง หลังจากได้ฟังเขาอธิบาย นักเวทฝึกหัดต่างรู้สึกตื่นเต้นมาก
“ท่านศาสตราจารย์…ข้า ข้าเชื่อแล้วว่าท่านพูดถูก! เมื่อได้ฟังท่านอธิบายเช่นนี้ ข้อสงสัยหลายอย่างเกี่ยวกับการทดลองก็หายวับไปทันที!” เมอร์คิวรีรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก “ขอบคุณท่านมาก ท่านศาสตราจารย์!”
แฮงเกอร์ ผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงมุมห้องมาตลอดก็ยังไม่อาจปดปิดความตื่นเต้นได้ “ท่านศาสตราจารย์ แล้วเรื่องดวงจิตล่ะ? จิตประกอบด้วยธาตุบ้างหรือไม่? ข้าไม่มีวัตถุที่ท่านต้องการ แต่ท่านเลือกเอาอะไรก็ได้จากกระเป๋าข้า”
ตอนนี้นักเวทฝึกหัดที่เหลือไม่มีใครสงสัยในตัวลูเซียนอีกแล้ว พวกเขาเชื่อสนิทใจว่าลูเซียนเป็นนักเวทที่มีความรู้มากที่สุดที่เคยเจอ และตั้งตารอให้นักเวทยิ่งใหญ่ผู้นี้แบ่งปันความคิดกับพวกตน
ลูเซียนส่ายหน้าอย่างเสียดาย “ขออภัยด้วย ข้าไม่ได้สนใจเรื่องศาสตร์มืด ข้าตอบคำถามท่านไม่ได้”
หลังจากเก็บเห็ดซากศพใส่กระเป๋า และหยิบกระเป๋าใส่ของที่ได้จากนักปราชญ์ ลูเซียนก็เอ่ยถาม “ท่านมีเห็ดซากศพหรือผงวิญญาณแค้นอีกหรือไม่ ข้าต้องการซื้อเพิ่ม หรือท่านจะถามคำถามข้าอีกก็ได้”
เยื่อสมองผีดิบใต้น้ำเพียงพอสำหรับการทดลอง 7-8 ครั้ง และการทดลองแต่ละครั้งจะใช้เห็ดซากศพหนึ่งชิ้น ลูเซียนอยากรวบรวมวัตถุดิบเหล่านี้ให้มากที่สุด
“ตั้งแต่ศาสนจักรเฝ้าจับตาพวกเรามานานและเสี่ยงเกินไปที่เราจะออกไปเก็บเห็ดเอง ช่วงนี้จึงแทบไม่มีเลย นอกจากเมอร์คิวรี ข้าไม่คิดว่าคนอื่นๆ จะมีให้ท่านได้อีก ท่านศาสตราจารย์” นักปราชญ์ตอบอย่างสุภาพ เขาดูเหมือนผู้นำของกลุ่ม
นักปราชญ์เป็นสมาชิกกลุ่มนักเวทฝึกหัดกลุ่มอื่นๆ ด้วย เช่นเดียวกับน้ำผึ้งขาว แต่นักเวทคนอื่นๆ ที่เขาเคยเจอนั้นถือตัว พวกเขาจะช่วยสมาชิกของกลุ่มอื่นหากสามารถมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการได้เท่านั้น บางคนก็ให้คำแนะนำเฉพาะสมาชิกในกลุ่มตนเท่านั้น ความช่วยเหลือของลูเซียนจึงน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก
“ถ้าเทียบกับเห็ดซากศพ ผงวิญญาณแค้นนั้นหายากกว่า” น้ำผึ้งขาวพูดเสริม การเกิดรูปของวิญญาณจะต้องใช้ความคับแค้นใจและความขุ่นเคืองอย่างหนักมารวมกัน ถึงแม้ว่าการใช้เลือดของสัตว์ปีศาจบางชนิดจะสามารถเรียกวิญญาณได้ แต่เลือดนั้นมีค่ายิ่งกว่าผงเสียอีก ยังไงก็ตาม ที่นี่คือนครอัลโต้”
ลูเซียนรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็ทำหน้าที่ต่อไปอย่างรวดเร็ว เขาตอบข้อสงสัยของสมาชิกในกลุ่มอีกหลายข้อและได้รับวัตถุและส่วนประกอบสำหรับสร้างเวทมนตร์เป็นสิ่งตอบแทน ความรู้ของลูเซียนทำให้เขาเป็นที่นับถือของพวกนักเวทฝึกหัด
นอกจากความนับถือแล้ว สิ่งที่ลูเซียนได้รับ คืออุปกรณ์ทดลองเวทมนตร์ครบชุด เห็ดซากศพสามชิ้น วัตถุและสารประกอบสำหรับสร้างเวทมนตร์อีกหลายชนิด สมดังคำพูดที่ว่า “ความรู้คือทรัพย์”
……………………………………….