เมื่อลูเซียนได้วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่เขาต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาต้องกลับ “ข้าต้องไปแล้ว” ลูเซียนบอกด้วยเสียงแสร้งแข็งกร้าว “เอาไว้ค่อยคุยกันต่อในการประชุมครั้งหน้า” เขาเองก็ต้องกลับไปทบทวนความรู้ด้านฟิสิกส์และเคมีเพื่ออธิบายได้กระจ่างขึ้น
สมาชิกทั้งหมดลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความขอบคุณลูเซียน โดยวางมือขวาบนหน้าผากและค้อมตัวต่ำ
“ท่านศาสตราจารย์ ช่วยเป็นเกียรติอยู่ต่ออีกสักนิดได้ไหม? พวกเรากำลังจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน จะเป็นเรื่องน่ายินดีมากหากท่านอยู่กับเรา” นักปราชญ์ถามอย่างมีความหวัง
ช่วงอภิปรายนั้นเปิดสำหรับทุกคน นักเวทฝึกหัดในที่นี้ต่างปรารถนาให้ลูเซียนแสดงความเห็นต่อแนวคิดของพวกเขา แม้แต่คำอธิบายจากนักเวทผู้มีความรู้โดยที่ไม่ได้เจาะจงก็นับว่ามีประโยชน์ต่อพวกเขามาก
สำหรับลูเซียน คำชวนคราวนี้นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจยิ่งนัก ถึงแม้ว่าลูเซียนจะสามารถเข้าใจสูตรขั้นสูงหลายสูตรเพราะพื้นฐานความรู้เดิม แต่เขาก็เจอปัญหาในการวิเคราะห์เวทมนตร์ระดับฝึกหัดบางอย่าง “ตกลง” ลูเซียนข่มเสียงให้นิ่งที่สุดเพื่อปดปิดความตื่นเต้น
“ขอบคุณ ศาสตราจารย์” น้ำผึ้งขาวพูดขอบคุณเป็นครั้งแรก
ช่างเป็นการอภิปรายที่มีประสิทธิผล ลูเซียนได้ข้อมูลมากมายจากสมาชิก ข้อสงสัยของเขาหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ระดับฝึกหัดถูกขจัดและความรู้ของเขาก็ได้รับการเติมเต็ม ในขณะเดียวกัน นักเวทฝึกหัดคนอื่นๆ ก็รู้สึกมีกำลังใจที่เห็นว่าศาสตราจารย์ให้ความสนใจการอภิปรายนี้จริงๆ
รุ่งเช้า หลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูลกันพอสมควร การประชุมครั้งนี้ก็ใกล้สิ้นสุดลง ลูเซียนกำลังจะกลับแต่นักปราชญ์รั้งไว้ก่อน
“ท่านศาสตราจารย์” นักปราชญ์เอ่ย “ข้าขอวิธีติดต่อท่านได้ไหม? ถ้าเราหาผงวิญญาณแค้นได้ เราจะติดต่อท่านไปทันที”
แต่ลูเซียนกลับส่ายหน้า “ขออภัย ข้าบอกท่านไม่ได้ แต่นกฮูกรู้ว่าจะติดต่อข้าได้ยังไง” ลูเซียนระมัดระวังตัว เขาไม่เชื่อใจใครง่ายๆ
“งั้น…” นักปราชญ์พยักหน้าอย่างผิดหวัง “ครั้งหน้าท่านจะมาพบพวกเราอีกไหม สองสัปดาห์นับจากนี้” สมาชิกคนอื่นต่างตั้งตารอคำตอบจากลูเซียน
“ข้ายังตอบไม่ได้” ลูเซียนไม่ได้ให้คำตอบชี้ชัด เขาไม่อยากให้การเข้าร่วมของเขาเป็นเรื่องปกติ “ข้าอาจจะเข้าไปที่ป่าดำเมลเซอร์เพื่อเตรียมการทดลอง ยังไงก็ตาม ข้าจะบอกให้นกฮูกรู้ล่วงหน้าก็แล้วกัน” แต่คำตอบคลุมเครือของลูเซียนก็ทำให้ทุกคนพอใจแล้ว อย่างน้อยที่สุด นักเวทชั้นยอดผู้นี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
เมื่อสไมล์แน่ใจแล้วว่าด้านนอกปลอดภัย ลูเซียนและสมาชิกคนอื่นๆ ก็ทยอยออกจากห้องใต้ดิน ลูเซียนก็เดินกลับที่พักตามลำพังโดยหิ้วกระเป๋าและมีวัตถุสำหรับสร้างเวทมนตร์ชนิดใหม่ๆ อยู่ในกระเป๋าชุดคลุม ระหว่างทาง ลูเซียนได้แผ่พลังจิตปกคลุมบริเวณรอบๆ เพื่อตรวจดูว่ามีใครตามมาหรือไม่ ปรากฏว่าเป็นนกเรเวนตัวหนึ่ง
เมื่อกลับมาถึงกระท่อม ลูเซียนไม่ได้รู้สึกโล่งใจเท่าไรนัก
……..
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลูเซียนขุดหลุมติดกับกระท่อมของเขาสำเร็จโดยใช้เวทมนตร์ที่เปลี่ยนหินให้เป็นดินและโคลน หลุมยาว 3 เมตร กว้าง 2.50 เมตร และเชื่อมต่อกับกระท่อมของเขาด้วยบันไดหินเล็กๆ เป็นห้องทดลองเวทมนตร์ห้องใหม่และห้องแรกของลูเซียน จากนั้นเขาขึ้นไปยืนบนเก้าอี้หัวโล้นตัวเล็กๆ แล้วกรีดเส้นลงบนผนังด้วยกริชสีเงินจากชุดอุปกรณ์สำหรับห้องทดลอง เขากำลังสร้างวงเวทเพื่อป้องกันคลื่นพลังงานที่เกิดจากการร่ายเวทมนตร์หรือการทดลองเวทมนตร์
นอกจากนี้ ลูเซียนยังสร้างวงเวทเพิ่มขึ้นอีกเพื่อคุ้มกันห้องทดลอง เขาใช้เวทกำจัดเสียงสะท้อนเพื่อที่ว่าหากมีคนกระทืบพื้น ก็จะไม่รู้ว่ามีห้องใต้ดินอยู่ และสร้างวงเวทอีกหลายวงเพื่อวางกับดักเวทมนตร์ที่สามารถดักจับได้เมื่อจำเป็น
หลังกรีดผนังเสร็จ ลูเซียนก็ดึงถุงใส่ผงสีดำออกมา ผงนี้ทำมาจาก ‘เถาองุ่นสีดำ’ มันสามารถยึดจับสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลูเซียนค่อยๆ ใช้กริชตักผงออกมา แล้วทาลงบนเส้นให้เป็นสีดำ จากนั้นเทปรอทลงไปทีละนิดๆ ปรากฏว่าปรอทไม่ได้หยดลง แต่กลับถูกผงสีดำดูดซึมเข้าไปทันที ตอนนี้เส้นวงเวทนั้นคมชัดขึ้นมาแล้ว
ลูเซียนใช้ฝ่ามือกดลงตรงกลางของรูปแล้วแผ่พลังจิตและใช้เวทเปิดวงเวทนั้น เส้นสีเงินค่อยๆ เปล่งแสงทีละน้อย หลังจากแสงสีเงินเปล่งวาบขึ้นมา วงเวทก็หายไปในผนังราวกับว่าตรงนั้นไม่เคยมีอะไรมาก่อน
ลูเซียนก้าวลงจากเก้าอี้ เขารู้สึกหมดเรี่ยวแรง การสร้างวงเวทนั้นกินพลังมาก แต่สิ่งที่เป็นปัญหากว่าคือ สิบวันต่อมา เขาต้องสร้างวงเวทขึ้นใหม่เนื่องจากพลังงานของวงเวทเดิมหมด สำหรับนักเวทตัวจริงนั้น พวกเขาทำให้วงเวทคงอยู่ได้โดยใช้พลังจิตของตัวเอง หรือสร้างอันที่ซับซ้อนกว่าซึ่งสามารถฟื้นพลังได้ด้วยตัวมันเอง บางส่วนของร่างกายของสัตว์เวทมนตร์ เช่น ขน เขา หรือเลือด ก็สามารถใช้ได้ผลเหมือนกัน
จากนั้นก็เป็นขั้นตอนสุดท้าย ลูเซียนสร้างโต๊ะหินยาวตัวหนึ่งจากดินโดยการร่ายเวทมนตร์ถอยหลัง เขาวางอุปกรณ์ที่เป็นแก้วและเตาเล็กๆ บนนั้น ลูเซียนรู้สึกมีความสุขและพึงพอใจมาก
ห้องทดลองพร้อมแล้ว นับจากนี้ไป ลูเซียนก็มีสถานที่สำหรับฝึกและทดลองเวทมนตร์ของตัวเองแล้ว จริงที่ว่าห้องใต้ดินนี้แม้จะไม่กว้างขวาง แต่ก็ยังดีกว่าท่อระบายน้ำเสียที่ทั้งเย็นทั้งเหม็น
ลูเซียนยืนอยู่บนบันไดพลางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็กลับขึ้นไปยังกระท่อม เมื่อแน่ใจว่ากับดักเวทมนตร์ใช้งานได้แล้ว เขาก็ล็อกทางเข้าโดยใช้เวทมนตร์
เช้าตรู่แล้ว ทันทีที่ลูเซียนหัวถึงหมอน เขาก็หลับผล็อยทันที เขาต้องไปทำงานที่ห้องสมุดอีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง
…
“อย่างที่ข้าบอก…” ปิแอร์มองลูเซียนอย่างกังวล “เจ้าต้องเพลาๆ มือหน่อย”
“เมื่อคืนข้านอนไม่ค่อยหลับ” ลูเซียนส่ายศีรษะช้าๆ
“ว่าแต่ เครื่องดนตรีที่เจ้าเลือกเรียนน่ะคืออะไร ลูเซียน?” จู่ๆ ปิแอร์ก็เปลี่ยนเรื่องคุย
……………………………………….