วิกเตอร์ยังกำหมัดแน่นจนประตูโรงแสดงดนตรีค่อยๆ ปิดลง เขาถอนหายใจยาวแล้วหันกลับมาพูดกับไรน์และคณะออร์เคสตราที่เหลือ “ข้าจะกลับไปที่ห้องทำงาน แต่งเพลงนี้ให้เสร็จ ทุกคนช่วยซ้อมกันไปก่อนนะ”
“วิกเตอร์ ท่านไม่ต้องฝืนตัวเองขนาดนั้น” ไรน์วางไวโอลินลงและเดินมาหาวิกเตอร์ สีหน้าของดูจริงจัง “ข้าไม่คิดว่าท่านจะประพันธ์ทำนองเพราะๆ ได้ด้วยอารณ์ตอนนี้”
สภาพจิตใจของวิกเตอร์ปั่นป่วนด้วยความเหนื่อย ความเศร้า และความโกรธพร้อมกัน เขาพยักหน้า “ขอบใจเจ้ามาก ไรน์ ข้า…ต้องพักสักหน่อย”
“ลูเซียน ล็อตต์ เจ้าสองคนตามไปส่งท่านวิกเตอร์ที่ห้องทำงาน เฟลิเซียกับเฮโรโดตัส ซ้อมต่อไปนะ” ไรน์พูดกับบรรดาลูกศิษย์
ระหว่างทางลงไปชั้นสาม วิกเตอร์ไม่พูดอะไรสักคำ ลูเซียนกับล็อตต์ก็ไม่รู้จะพูดอะไร ทั้งสองเดินตามเขาไปเงียบๆ
ก่อนออกมาจากห้องทำงานของวิกเตอร์ ลูเซียนเห็นเขาจ้องมองภาพเขียนรูปหนึ่งที่แขวนบนผนัง ในภาพนั้นเป็นรูปผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกำลังยิ้ม เธอมีสีผมและตาสีดำ
พอลูเซียนปิดประตู วิกเตอร์ก็ยังจ้องมองรูปนั้นนิ่งอยู่ราวกับเป็นรูปปั้น
…
เมื่อลูเซียนกับล็อตต์กลับมาถึงห้องซ้อมดนตรีที่ชั้นสี่ ทั้งสองเห็นเฟลิเซียกับเฮโรโดตัสต่างกำลังจมอยู่กับความคิด
“พวกเรา….” ล็อตต์พยายามทำลายความเงียบ “ที่ผู้อำนวยการโอเทลโล่อยากเห็นก็แค่คอนเสิร์ตที่ราบรื่น อาจารย์วิกเตอร์คงเบาใจขึ้นมาบ้าง” คำพูดของเขาไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
“เอาน่า…ข้าก็ห่วงการแสดงของอาจารย์วิกเตอร์มากเหมือนกัน รู้ไหม?” ล็อตต์รีบพูดเสริม “ทุกคนก็เห็นญาติข้าแล้วนี่ เม็กเคนซี ถ้าคอนเสิร์ตของอาจารย์วิกเตอร์สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ข้าก็บอกได้ว่าเป็นศิษย์ของนักดนตรีชั้นนำ มันจะช่วยเราตอนสอบคัดเลือก”
เฟลิเซียบุ้ยปาก “ใช่ เราทุกคนหวังพึ่งอาจารย์วิกเตอร์ ข้าก็ห่วงเขา ถ้าคอนเสิร์ตมีอะไรผิดพลาด ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะเป็นยังไง”
อีกมุมหนึ่ง เฮโรโดตัสซุกหน้าผากลงบนไวโอลิน บ่นพึมพำ
ลูเซียนถูกมองข้ามหัวเหมือนเคย แต่เขาไม่ได้สนใจ เขากำลังใช้สมองครุ่นคิด เพื่อตอบแทนความเมตตาของวิกเตอร์ ลูเซียนกำลังค้นหาบทประพันธ์เพลงชิ้นเอกจากโลกของเขาเป็นแผนสำรอง ก่อนหน้านี้ เขาเข้าไปสำรวจเพลงทุกเพลงในห้องสมุดห้วงจิตเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีเพลงไหนซ้ำกับเพลงที่เขากำลังจะเลือก เอาเข้าจริง งานนี้ง่ายกว่าที่ลูเซียนคิด เพราะเพลงทั้งหมดฝังอยู่ในห้องสมุดห้วงจิตและเขาค้นหาแต่ละเพลงในคลังสมองได้ง่ายๆ ที่เหลือลูเซียนก็แค่หาวิธีเหมาะๆ ที่จะมอบเพลงให้กับวิกเตอร์
โชคดีที่ลูเซียนจัดการขั้นตอนยากๆ อย่างการแปลไว้เสร็จเรียบร้อย พอลูเซียนเข้ามาฝึกอ่านโน้ตดนตรีที่นี่ เขาบันทึกบทประพันธ์เพลงชั้นเอกจากโลกของเขาไว้หลายเพลงด้วยโน้ตที่เรียนในโลกนี้
ในช่วงนี้ ลูเซียนเข้าใจกระแสความนิยมเพลงในโลกนี้มากขึ้น ด้วยอิทธิพลของศาสนจักร ดนตรีในนครอัลโต้ประกอบไปด้วยเค้าโครงการดั้งเดิมและรูปแบบที่เน้นเรื่องศาสนา ลูเซียนต้องเลือกเพลงที่เหมาะกับกระแสเพลงที่นี่ ฉะนั้น เพลงของบาคเป็นตัวเลือกแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว เพราะบทประพันธ์ของคตีกวีท่านนี้เจือไปด้วยรสนิยมด้านศาสนา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปรียบเทียบงานของบาคกับบทประพันธ์ชิ้นเอกหลายบทเพลงในโลกนี้ ลูเซียนเห็นว่ามีส่วนที่คล้ายคลึงกันมากเกินไป! เขาดีใจที่เขารอบคอบมากพอ
แล้วลูเซียนลองดูที่ผลงานของบีโธเฟน โชคดีอีกที่ไม่มีบทประพันธ์เพลงชิ้นไหนของบีโธเฟนเหมือนกับดนตรีในโลกนี้เลย ลูเซียนไม่อยากเสียเวลาในการเลือกเพลงมากนัก เขาตัดสินใจเลือกใช้บทประพันธ์ชิ้นเอกอันโด่งดังที่สุดของบีโธเฟน ซิมโฟนีหมายเลข 5 ลูเซียนยังจำความรู้สึกตอนฟังเพลงนี้ครั้งแรกได้ เขาตะลึงกับแรงขับมหาศาลของซิมโฟนีเพลงนี้
ส่วนที่ยากที่สุดที่ลูเซียนต้องคิดคือวิธีการ ‘มอบ’ เพลงนี้ให้กับวิกเตอร์ จู่ๆ ลูเซียนจะส่งกระดาษโน้ตที่มีสุดยอดบทประพันธ์เพลงกับมือวิกเตอร์ตรงๆ แล้วบอกว่าเจอมาจากห้องสมุดไม่ได้ ในทางกลับกัน ยิ่งน่าสงสัยมาก ถ้าเขาอ้างว่าแต่งทำนองเพลงขึ้นมาเอง คนเพิ่งหัดเรียนดนตรีแบบเขาจะประพันธ์ซิมโฟนีแบบนี้ช่างดูไม่สมเหตุสมผล
ลูเซียนอยากจะรู้วิธีสะกดจิตเสียจริงๆ แต่พลังจิตของเขาตอนนี้ยังไม่แข็งแกร่งพอจะฝังซิมโฟนีทั้งเพลงเข้าไปในจิตของวิกเตอร์
ท้ายที่สุด เขาตัดสินใจปรับเปลี่ยนซิมโฟนีหมายเลข 5 ใหม่ แต่แทนที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น ลูเซียนจะ ‘ลด’ ความเพราะของเพลงนี้ลง ลูเซียนต้องรื้อโครงสร้างทั้งหมดของบทประพันธ์เพลงชิ้นเอกดังกล่าว เพื่อเปิดช่องโหว่ให้วิกเตอร์เห็นจุดบกพร่อง ลูเซียนหวังว่าอาจารย์ของเขาจะได้แรงบันดาลใจจากช่องโหว่พวกนี้
หลังจากเขียนทำนองส่วนหนึ่งลงบนกระดาษ ลูเซียนนั่งลงหน้าเปียโนและใช้มือลงแรงกดคีย์บอร์ดอย่างหนักหน่วง
“พาม พาม พาม ผ่าม!”
เสียงดังระเบิดจนเฮโรโดตัสเกือบตกเก้าอี้ ตามด้วยท่อนเริ่มแสนไพเราะ แต่ทำนองส่วนที่เหลือเละเทะฟังไม่ได้
“เจ้าทำบ้าอะไร?” ล็อตต์ถาม ขมวดคิ้วสงสัย
“ข้าอยากช่วยอาจารย์วิกเตอร์ เรื่องวันนี้ทำให้ข้าทั้งเศร้า ทั้งแค้น อารมณ์ที่ปะทะกันรุนแรงทำให้ข้ามีแรงบันดาลใจ ข้าจะแต่งเพลง” ลูเซียนอธิบาย
“อะไรนะ?” ล็อตต์เกือบหัวเราะออกมา “เจ้าพูดว่าจะแต่งซิมโฟนีงั้นรึ?”
“เจ้าเรียนดนตรีมานานแค่ไหน? แค่วิธีเล่นเปียโน เจ้ายังไม่เข้าใจเลย!” เฟลิเซียขึ้นเสียงสูง
ล็อตต์ผายมือออกและพูดตรงๆ “ไม่ เจ้าช่วยอาจารย์ไม่ได้หรอก ลูเซียน ข้าเข้าใจเจตนา แต่เจ้ายังต่ำชั้น”
“เจ้าคิดว่าใครๆ ก็แต่งซิมโฟนีได้ เพราะเพียงแค่มีไอ้ที่เรียกว่า ‘แรงบันดาลใจ’ อย่างนั้นหรือ?!”เฮโรโดตัสดูถูก “ทำนองที่เจ้าเล่นมันขยะ หยุดทำตัวปากดีต่อหน้าอาจารย์วิกเตอร์ประจบเขาสักที เจ้าตัวตลก!”
“ลูเซียน หยุดเถอะ” เฟลิเซียส่ายหน้าอย่างเศร้าใจ “ช่วยหยุดสักทีได้ไหม? อย่าทำให้เรื่องมันแย่ไปกว่านี้”
แต่ลูเซียนส่ายหน้าปฏิเสธอย่างแน่วแน่ “ไม่ หัวข้ากำลังแล่น เพลงต้องออกมาดีแน่ๆ”
ล็อตต์ เฟลิเซีย และเฮโรโดตัส จ้องลูเซียนเป็นตาเดียวกัน ราวกับเขาสติหลุดไปแล้ว
……………………………………….