ลูเซียนยังคงเล่นต่อไป เขากดคีย์ได้เพียงครั้งละหนึ่งคีย์ เพราะซิมโฟนีใช้ต้องทักษะเกินกว่าระดับเริ่มต้นของเขามาก ล็อตต์ เฟลิเซีย และเฮโรโดตัสรู้สึกเหมือนถูกค้อนหนักๆ ทุบเข้าที่หัว ความกังวลและความโกรธก่อตั้งมากขึ้นๆ
“พอ!” เฮโรโดตัสกับล็อตต์ตะโกนออกมาพร้อมกัน
“อะไร?” ลูเซียนหันไปมองทั้งสองอย่างไร้เดียงสา “อาจารย์วิกเตอร์บอกให้เราซ้อม และข้าก็กำลังซ้อม พวกเจ้าสองคนนั่นแหละทำอะไรอยู่?”
“ลูเซียน!” เฮโรโดตัสกำมือแน่น หน้าแดงด้วยความโมโห อย่างไรก็ตาม เขาเตี้ยและผอมบางเกินกว่าจะวิวาท ลูเซียนฝึกต่อสู้มาตลอดและตัวสูงกว่าเขาราวครึ่งศีรษะ ว่าแล้วเฮโรโดตัสก็ชูกำปั้นขึ้นชกอากาศ “ข้าไม่อยากโดนอาจารย์วิกเตอร์ลงโทษเพราะต่อยปากเจ้า” เขาหันหลังเดินออกจากห้องซ้อมไป
“ขอโทษที่เสียงดัง” ลูเซียนยักไหล่แต่ไม่คิดจะหยุดเล่น เขาคว้าปากกาขนนกมาเขียนโน้ตลงกระดาษต่อ ตอนนี้ทำนองเต็มไปด้วยส่วนเล็กส่วนน้อยของบทประพันธ์เพลงชิ้นเอก แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากการแกล้งโง่ของลูเซียน
“เอาจริงหรือไง ลูเซียน?” ล็อตต์มองเพดานห้อง กุมขมับ
“อยากดูไหมล่ะ?” ลูเซียนกำลังจะยื่นกระดาษโน้ตเพลงใส่มือล็อตต์ แต่ล็อตต์ไม่ยอมดู
ล็อตต์มองไปที่เฟลิเซีย “ไปกันเถอะ ขืนอยู่ที่นี่ต่อ ข้าได้ประสาทเสียแน่ๆ”
เธอพยักหน้า “จริงของเจ้า ข้าอยากออกไปสูดอากาศสักหน่อย…”
ในที่สุด ตามที่เขาวางแผน ลูเซียนได้อยู่ในห้องซ้อมดนตรีคนเดียว หลังจากล็อกประตู ลูเซียนกลับมาทำงาน เขาเริ่มหยิบส่วนต่างๆ จากซิมโฟนีหมายเลขห้ามาใส่ในทำนองมากขึ้น หวังว่าเขาจะทำให้ซิมโฟนีหมายเลขห้าฉบับลดความไพเราะลงเต็มไปด้วยจุดช่องโหว่ วิกเตอร์จะได้พัฒนาต่อให้มันกลับมาเป็นซิมโฟนีชิ้นเอกของจริง
เพื่อสร้างหลักฐานกระบวนการแต่งเพลง ลูเซียนต้องเขียนร่างโน้ตหลายๆ ฉบับ นอกจากนี้ ลูเซียนต้องซ้อมซ้ำหลายครั้งให้มั่นใจว่าการเล่นด้วยทักษะน้อยนิดของเขาไม่ได้ทำลายสุนทรียภาพของเพลงไปทั้งหมด อย่างน้อยที่สุด ต้องสามารถแสดงให้เห็นคุณค่าอันแท้จริงของเพลงนี้ต่อหน้าอาจารย์ของเขา
หลายชั่วโมงผ่านไป ร่างฉบับต่างๆ กองพะเนินเต็มโต๊ะ และกองสูงขึ้นๆ เมื่อเขาเล่นท่อนต่างๆ ของเพลงซ้ำแล้วซ้ำอีก ลูเซียนเหงื่อท่วมไปทั้งตัว
…
ฟ้าเริ่มมืด ลูเซียนยืดตัวคลายกล้ามเนื้อ ก่อนออกจากห้องซ้อมดนตรีพร้อมกับกระดาษโน้ตเพลงกองใหญ่เต็มมือ
ล็อตต์ เฟลิเซีย และเฮโรโดตัสกำลังนั่งอยู่ในโรงแสดงดนตรี เฝ้าดูอาจารย์วิกเตอร์ควบคุมวงออร์เคสตรา เมื่อลูเซียนเข้ามา ทั้งสามกรอกตาแทบจะพร้อมกันอย่างเหม็นขี้หน้า อย่างไรก็ตาม ลูเซียนกลับยิ้มกว้างตอบ เฟลิเซียส่ายหน้าถอนหายใจยาว
ลูเซียนนั่งหลับตาและคิดวนเวียนเรื่องเพลงที่แต่งบนเก้าอี้เบาะนุ่มสบาย ครึ่งชั่วโมงต่อมา การซ้อมจบลง วิกเตอร์และไรน์ลงมาจากเวที เดินมายังพวกเขา สภาพวิกเตอร์ดูดีขึ้นมาก
“ซ้อมรอบบ่ายเป็นอย่างไรบ้างทุกคน? มีปัญหาอะไรไหม?” วิกเตอร์ถาม
“ลูเซียนเป็นตัวปัญหาขอรับ อาจารย์วิกเตอร์!” เฮโรโดตัสตอบทันควัน “เขา… เขาแต่งเพลงซิมโฟนี! พวกอ่อนหัด! เสียงมันน่ารำคาญมาก จนพวกเราทนอยู่ในห้องซ้อมดนตรีไม่ไหว!”
แอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ลูเซียนแทบจะกลั้นยิ้มออกมาไม่ไหวอีกต่อไป เขาต้องขอบคุณเฮโรโดตัสที่เปิดประเด็นให้วิกเตอร์รู้ว่าเขากำลังทำอะไร
“จริงหรือ ลูเซียน?” วิกเตอร์มองลูเซียนอย่างประหลาดใจ “เจ้าประพันธ์ซิมโฟนีอย่างนั้นหรือ?”
ไรน์ยักคิ้วสีเงินขึ้นข้างหนึ่ง มองลูเซียนอย่างสนอกสนใจ
ลูเซียนพยักหน้าจริงจัง “เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้กับเรื่องราวที่ข้าเจอมาตลอดในอดีตมันสร้างแรงบันดาลใจ ข้าเลยอยากเขียนมันออกมาขอรับ”
วิกเตอร์มีท่าทางสุภาพและอ่อนโยนเช่นเคย เขาไม่ตำหนิลูเซียนที่อวดดีในทันที แต่เขากลับถามลูกศิษย์ “ขอข้าดูหน่อยสิ?”
“ข้าด้วย” ไรน์แทรกเข้ามาด้วยความอยากรู้ “ขอข้าดูได้ไหม ลูเซียน”
“ยินดีเลยขอรับ” ลูเซียนส่งกระดาษโน้ตเพลงทั้งสองให้วิกเตอร์
ขณะที่ไรน์อ่านงานของลูเซียน ริมฝีปากบางๆ ของเขาขบแน่นราวกับเขากำลังกลั้นหัวเราะตลอดเวลา ขณะที่วิกเตอร์กลับดูจริงจัง
“ลูเซียน” วิกเตอร์ส่งร่างเพลงกลับให้เขา “ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อข้า ข้าขอบใจในความพยายามของเจ้า แต่ลูเซียน การแต่งซิมโฟนีต้องใช้พื้นฐานความรู้ที่เข้มข้นกว่าที่เจ้าคิดมาก เจ้ายังอยู่ระดับพื้นฐาน ข้าแนะนำให้เจ้าเริ่มศึกษาทฤษฎีพื้นฐานส่วนใหญ่ก่อนอย่างน้อยสองสามปี ก่อนเริ่มประพันธ์เพลงจริงๆ”
วิกเตอร์ปลื้มใจที่เห็นลูกศิษย์พยายามช่วยเขา อย่างน้อยเขาก็มีเจตนาดี นอกจากนี้ ลูกศิษย์คนอื่นก็ตระหนักดีว่าลูเซียนทำเพื่ออะไร พวกเขาได้เข้าใจว่าลูเซียนมีฝีมือและเจนโลกมากกว่าที่พวกเขาคิด
“ข้าว่า… ถึงงานของเจ้ายังดู… ขาดๆ เกินๆ แต่มีจุดน่าสนใจอยู่นะ” ไรน์พยายามปลอบใจลูเซียน “อย่าง ท่อนนี้” ท่อนที่ไรน์ชี้ล้วนเป็นท่อนที่มาจากซิมโฟนีหมายเลขห้า
“ขอบคุณขอรับ ท่านไรน์” ลูเซียนพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ เขาหันไปพูดกับวิกเตอร์ “อาจารย์วิกเตอร์ ข้ารู้ว่าท่านไม่เห็นด้วยที่ข้าทำ แต่ก็ยังอยากแต่งให้จบเพลง ไม่ว่าจะออกมาดีหรือแย่ หรือฟังไม่ได้เลย อย่างไรมันก็เป็นงานดนตรีชิ้นแรกในชีวิตของข้า”
สถานการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง วิกเตอร์รู้จักความดื้อด้านของลูเซียนดี อีกอย่างวิกเตอร์ก็ล้ากับเรื่องคอนเสิร์ตของตัวเองมากแล้ว ในที่สุด เขาก็ยอมตามคำขอ “อย่าให้กระทบการซ้อมปกติละ”
…
หลังจากได้รับอนุญาตจากวิกเตอร์ ลูเซียนเริ่มทำงานประพันธ์เกือบทุกวัน เขาค่อยๆ เติมท่อนของซิมโฟนีหมายเลขห้าลงในงาน ความก้าวหน้าของซิมโฟนีซ่อนอยู่ภายใต้เสียงที่น่ารำคาญ
ในช่วงหลังนี้ ล็อตต์ เฟลิเซีย และเฮโรโดตัสพยายามหลบหน้าหลบตาเขาให้มากที่สุด ขณะที่วิกเตอร์ก็ง่วนอยู่กับซิมโฟนีเพลงสุดท้ายในห้องทำงาน ไม่มีใครสนใจลูเซียน
ภายในสัปดาห์สุดท้ายก่อนคอนเสิร์ต หลังจากฝึกซ้อมมาครั้งแล้วครั้งเล่า ลูเซียนก็สามารถเล่นซิมโฟนีหมายเลขห้าฉบับของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะไม่เหมือนเสียทีเดียวและเล่นง่ายกว่าผลงานต้นฉบับมาก
……………………………………….