ดาวเต็มฟ้าในคืนที่มืดสนิท ลูเซียนใช้พลังดวงดาวยกระดับพลังวิญญาณในโลกฌานสมาธิ
ท่ามกลางดวงดาวทั้งหลาย ดาวประจำตัวลูเซียนเป็นดาวที่สว่างไสวมากที่สุดและเป็นดาวที่เขาควบคุมง่ายที่สุด
แสงของดาวค่อยๆ แผ่ซ่านครอบคลุมวิญญาณของลูเซียน ลูเซียนรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขากำลังได้รับพลังจากดวงดาวและพลังวิญญาณกำลังพัฒนา
โดยมีน้ำยาพายุเป็นตัวช่วย ลูเซียนสัมผัสได้ถึงพลังมากกว่าที่เคยเป็น พัฒนาการของเขาเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าวิญญาณได้รับพลังเต็มพิกัด เหมือนกับว่าพลังกำลังแผ่วิญญาณไปจนถึงดวงดาว นับเป็นครั้งแรกที่ลูเซียนรู้สึกว่าวิญญาณของเขาสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพลัง
เมื่อเสร็จสิ้นการเข้าฌานสมาธิ ภาพมิติมายาท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวก็อันตรธานหายไป จิตของลูเซียนสงบและปลอดโปร่งอย่างที่ไม่เคยเป็น เขารู้สึกว่าเขาพัฒนาถึงชั้นนักเวทฝึกหัดระดับพื้นฐานแล้ว แม้การเปลี่ยนแปลงพลังจิตจะเล็กน้อยจนคนอื่นสังเกตไม่เห็น แต่พลังวิญญาณของลูเซียนสามารถต่อต้านเวทสะกดจิตได้ดีขึ้น ฟื้นจากอาการบาดเจ็บได้เร็วขึ้นเป็นสองเท่า และมีสัญชาตญาณต่อบรรยากาศโดยรอบดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายต่อร่างกายจากการใช้น้ำยาพายุและการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเห็นได้ชัด ไม่นานลูเซียนก็รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงอีกครั้ง ลูเซียนรู้ดีว่าเขาต้องพัฒนาเป็นนักเวทตัวจริงให้ได้เพื่อใช้เวทมนตร์ในการยืดอายุไข มิฉะนั้น เขาอาจตายตั้งแต่อายุหกสิบต้นๆ
…
ในอีกหลายวันต่อมา ด้วยความช่วยเหลือของลูเซียน วิกเตอร์ก็พัฒนาซิมโฟนีเพลงชะตาชีวิต และเรียบเรียงจนกลายเป็นเพลงซิมโฟนีสมบูรณ์แบบ หลังจากฝึกซ้อมจนนับครั้งไม่ได้ และด้วยการสนับสนุนจากไรน์ ในที่สุด การบรรเลงของพวกเขาก็ทำให้โอเทลโล่ประทับใจ
เสียงปรบมือของโอเทลโล่ดังก้องโรงแสดงดนตรีอยู่พักใหญ่ “เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก ผู้ฟังต้องคลั่งไคล้ วิกเตอร์ เจ้ามีลูกศิษย์ที่เก่งมาก”
“และเจ้า ลูเซียน” โอเทลโล่หันไปรอบๆ “เจ้ามีพรสวรรค์มาก แต่จงจำไว้ โด่งดังตั้งแต่อายุน้อยแบบนี้มีความเสี่ยงเหมือนกันนะ”
โอเทลโล่ส่ายหน้าเบาๆ ยังรู้สึกเสียดายที่ลูเซียนไม่อุทิศตนเพื่อดนตรีแนวศาสนา ก่อนเดินจากไป
“ข้าคิดว่าที่ท่านโอเทลโล่พูดก็ถูกนะ ลูเซียน” วิกเตอร์ดูเป็นกังวลเล็กน้อย “เจ้าจะต้องเจอแรงกดดันมากมาย แต่ก็เพราะข้านี่แหละ”
“อย่าห่วงข้าเลย อาจารย์วิกเตอร์” ลูเซียนพูดให้เขาสบายใจ “ข้ามีชีวิตอยู่กับแรงกดดัน ท่านก็รู้ว่าข้ารับมือกับมันได้”
ลูเซียนวางแผนไว้แล้ว ถ้าเขามีชื่อเสียงขึ้นมา เขาจะสามารถพบปะกับชนชั้นสูง เขาสามารถใช้ประโยชน์ในการหาวัตถุเวทมนตร์ราคาแพง เช่น ผงกุหลาบแสงจันทร์ และหาเงินหาทองมาดูแลชีวิตได้มากขึ้น
“ข้าเชื่อในตัวเจ้า” วิกเตอร์พยักหน้า “หลังจากการแสดง ภารกิจแรกของเจ้าคือการฝึกเปียโน นี่จะเป็นทักษะสำคัญที่สุดในการเป็นนักดนตรีที่ดี ข้าจะช่วยให้เจ้าอยู่กับร่องกับรอยอย่างสุดความสามารถ”
วิกเตอร์เปลี่ยนเรื่องคุย “ถ้าเจ้าต้องการ ลูเซียน เจ้าจะชวนครอบครัวหรือเพื่อนๆ มาดูการแสดงด้วยก็ได้นะ”
“จริงหรือขอรับ?! แต่ข้ารู้ว่าตั๋วชมการแสดงในซาล์มฮอลใบหนึ่งอย่างน้อยก็หนึ่งธาเล… มันเป็นเงินเก็บทั้งปีของครอบครัวชาวบ้านธรรมดาเลยนะขอรับ” ลูเซียนไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง
“ใช่ ตามนั้นแหละ ก็เจ้ามีส่วนสำคัญในการแสดงดนตรีครั้งนี้ เจ้าก็สมควรได้รับแล้ว” วิกเตอร์ยิ้ม “นักดนตรีแถวหน้า วาทยกร และหัวหน้าคณะนักดนตรีในการแสดงที่ซาล์มฮอลจะได้รับตั๋วพิเศษสำหรับครอบครัวและสหาย ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ดีมากๆ เลยขอรับ อาจารย์! ขอบคุณมากขอรับ!” ลูเซียนตื่นเต้นมาก เขายังจำได้ว่าดนตรีเป็นความฝันของลุงโจเอล “ข้าชวนมาห้าคนได้ไหมขอรับ?” ลูเซียนคิดถึงลุงโจเอล ป้าอะลิซ่า จอห์น ไอเวิน และเอเลน่า
“ได้สิ… ดูเหมือนเจ้าจะมีญาติเยอะนะ ลูเซียน” วิกเตอร์ยิ้ม “ข้าดูแลเอง ไม่ต้องห่วง”
…
“จริงหรือ ซาล์มฮอลเลยนะ? ที่อัลโต้?” อะลิซ่าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ใช่ป้า ที่นั่นแหละ ป้าจะไปไหมละ?” ลูเซียนถามทั้งครอบครัวอีกครั้งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“แน่นอน เราต้องไปสิ ลูเซียน” โจเอลตื่นเต้นสุดๆ แต่ก็รู้สึกสับสนอยู่ “แต่เรา… เราคงไม่มีปัญญาไปที่นั่นหรอกจริง ไหม? ข้าคิดว่าเฉพาะครอบครัวและเพื่อนของนักดนตรีในการแสดงที่ได้รับเชิญ”
“ไม่เอาน่า พ่อ! ลูเซียนเป็นลูกศิษย์ของท่านวิกเตอร์!” สายตาไอเวินเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “พระเจ้าช่วย… เด็กทั้งอาเดรอนต้องอิจฉาข้าแน่ๆ!”
“จริงๆ แล้ว… ข้าช่วยท่านวิกเตอร์แต่งเพลงๆ หนึ่งในการแสดง ข้าเลยชวนครอบครัวและสหายไปได้” ลูเซียนเขินๆ ที่ต้องยอมรับ
“อะไรนะ?” ส้อมของโจเอลหล่นลงบนโต๊ะ “เจ้าแต่งเพลง?” ในฐานะกวี เขาเข้าใจดีว่าการประพันธ์เพลงนั้นยากแค่ไหน
ลูเซียนไม่ได้อธิบายตรงๆ “ข้ารู้ว่าดูไม่น่าเชื่อ ลุงโจเอล แล้วลุงจะได้เห็น”
“เดี๋ยวนี้อีวานส์น้อยของเราหัดมีความลับนะ!” โจเอลหัวเราะ “เอาละ เราจะรอดู ก่อนอื่น เราต้องหาเช่าเสื้อผ้าดีๆ เสียก่อน”
“แน่ละ เราจะบอกจอห์นด้วย” สีหน้าอะลิซ่าเฉิดฉายด้วยความภูมิใจ “หวังว่าเขาจะมาได้นะ”
…
วันเสาร์ ยี่สิบนาฬิกา ณ ซาล์มฮอล
รถม้าประดับตราประจำตระกูลชั้นนำเทียบหน้าโรงแสดงดนตรีเต็มไปหมด บางคันประดับประดาอย่างหรูหรา บางคันแม้จะเป็นรถม้าธรรมดาแต่ก็มีรสนิยม แต่ทุกคันจะมีใช้ม้าเกล็ดมังกร ม้าสายพันธุ์ลากมา
เหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีแต่งกายดีพากันลงมาจากรถม้า รับเอกสารรายชื่อเพลงสำหรับค่ำคืนนี้และหันมาทักทายโอภาปราศรัย
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบท่านที่นี่ครับ ข้าหวังว่าท่านคงเดินทางจากคฤหาสน์มาถึงอัลโต้อย่างปลอดภัยนะขอรับ” ชายวัยกลางคนค้อมศีรษะลงเล็กน้อยทักทายเอิร์ลผมแดง พวกขุนนางคนอื่นๆ รอบตัวเขาก็ดูน่ายำเกรงมาก เนื่องจากเอิร์ลท่านนี้เป็นผู้นำตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในนครอัลโต้ ตระกูลเฮย์น และเป็นลุงของเฟลิเซีย
“ท่านวิกเตอร์เป็นอาจารย์สอนดนตรีของหลาวสาวข้าเอง ข้าต้องมาร่วมชมการแสดงอยู่แล้วละ” เอิร์ลเฮย์นยิ้ม “ยิ่งกว่านั้น มีปัญหามากมายเกิดขึ้นในอัลโต้ช่วงนี้ ข้ามีหน้าที่ต้องกลับมาถวายการรับใช้ท่านแกรนด์ดยุก”
เอิร์ลเฮย์นอายุราวห้าสิบปี แต่ด้วยพลังอัศวินหลวงระดับสามด้วยพรแห่งไฟ ไม่มีใครสามารถบอกอายุของเขาได้จากรูปลักษณ์ภายนอก ส่วนบุตรชายของเขา แฮร์ริงตัน เป็นชายฉกรรจ์ผู้มีความสามารถโดดเด่น หลังจากสามารถขึ้นเป็นอัศวินนภาระดับหกด้วยอายุเพียงสามสิบต้นๆ และช่วยค้ำจุนให้สถานะของตระกูลมั่นคงยิ่งขึ้น
พวกขุนนางคนอื่นต่างพยักหน้าทักทายและสรรเสริญกันไปมา
เมื่อรับรายชื่อเพลงและมองสำรวจอย่างรวดเร็ว เอิร์ลเฮย์นเห็นชื่อหนึ่งในเอกสาร “ลูเซียน อีวานส์? วิกเตอร์มีลูกศิษย์ที่สามารถแต่งเพลงเองได้ตั้งแต่เมื่อไร?”
“ถึงจะไม่ได้เจอเฟลิเซียมาสักพักใหญ่” อีเว็ตต์ สตรีสูงศักดิ์นางหนึ่ง ตั้งข้อสงสัย “นางไม่เคยพูดถึงลูกศิษย์ที่ชื่อลูเซียนมาก่อน ตอนเจอกันเมื่อหลายเดือนก่อนระหว่างไปพักร้อน”
“ถ้าอย่างนั้น ก็รอดูกันเถอะ” ลอร์ดเฮย์นเดินเข้าโถงโรงแสดงดนตรี เขาปลดดาบและส่งให้กับทหารรักษาการณ์ และให้ทหารตรวจสอบสัมภาระส่วนตัว
เนื่องจากแกรนด์ดยุกจะเสด็จมาในคืนนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงต้องเคร่งครัด
ในขณะเดียวกัน ทางศาสนจักรได้ตั้งเกราะสกัดเวทขนาดใหญ่ กินพื้นที่ทั่วทั้งซาล์มฮอล เวทเหนือธรรมชาติเกือบทั้งหมด ยกเว้นเวทชั้นตำนาน จะถูกสกัดทั้งหมด เกราะสกัดเวทนี้เป็นกลยุทธ์ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาสนจักรมานานกว่าร้อยปี
หลังจากเอิร์ลเฮย์นเข้าสู่โถงโรงแสดงดนตรี รถม้าสีม่วงประดับอย่างประณีตสองคันก็มาถึง ตามด้วยแถวทหารรักษาการณ์สองแถวในเครื่องแบบสีแดงพร้อมบั้งสีทอง
……………………………………….