เมื่อลูเซียนมาถึงสมาคมนักดนตรี มีทหารองครักษ์สองนายยืนประจำการอยู่หน้าอาคารห้าชั้นหลังนี้ เนื่องจากศาสนิกชนใน ‘พระเจ้าแห่งสัจธรรม’ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่โบสถ์
“อรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านอีวานส์” ทหารองครักษ์ทั้งสองยิ้มทักทายลูเซียน
“สวัสดีขอรับ” ลูเซียนพยักหน้า รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เนื่องจากมหรสพดนตรีเมื่อคืนเลิกดึกแล้ว เลยน่าแปลกใจที่ทหารองครักษ์แสดงความเคารพต่อเขาในเช้าวันอาทิตย์ วันรุ่งขึ้นแบบนี้ ลูเซียนสงสัยว่าเอเลน่าคงเป็นคนเล่าให้ทหารองครักษ์ฟัง เพราะนางเป็นคนเดียวในบรรดาผู้ชมการแสดงที่ต้องมาทำงานวันอาทิตย์
ก่อนลูเซียนจะเข้าไปในอาคาร เขาได้ยินเสียงซุบซิบว่า “สามเดือนก่อน ท่านอีวานส์ยังคอยเก็บขยะจากสมาคมอยู่เลย ท่านยังมาขอให้ข้าหารถเข็นให้ แล้วดูท่านตอนนี้สิ เป็นนักดนตรีแล้ว!”
“ข้ารู้… ครั้งสุดท้ายข้ายังเห็นท่านเป็นนักศึกษาดนตรีอยู่เลย ไม่คิดว่าท่านจะอัจฉริยะขนาดนี้!”
…
เอเลน่าและเคธีกำลังจัดเอกสารอยู่หลังเคาน์เตอร์ เมื่อลูเซียนเข้ามายังห้องโถง ทั้งสองทักทายลูเซียนด้วยความเคารพ “อรุณสวัสดิ์ ท่านอีวานส์”
เอเลน่าขยิบตาให้ลูเซียนพร้อมกับรอยยิ้มหวานบนใบหน้า ส่วนเคธีดูเหมือนจะเกร็งๆ อยู่บ้าง
“สวัสดีเอเลน่า อรุณสวัสดิ์ขอรับ เคธี” ลูเซียนถามด้วยความสงสัย “ทำไมทั้งเจ้าสองคนยุ่งกันแต่เช้า?”
“ดีใจที่เจ้าถาม” เอเลน่าตอบด้วยความตื่นเต้น “ลูเซียน เจ้ารู้อะไรไหม? ชื่อของเจ้าได้ขึ้นหนังสือพิมพ์ทั้งดนตรีวิพากษ์และข่าวสารซิมโฟนีฉบับล่าสุด”
“อะไรนะ? ข้าคิดว่าฉบับต่อไปทั้งสองฉบับจะออกตอนสิ้นเดือนเสียอีก…” ลูเซียนแปลกใจไม่น้อย
“ก็เพราะเพลงของเจ้ามันอัศจรรย์มากอย่างไงละ!” เอเลน่าพูดอย่างภูมิใจในตัวลูเซียนมาก “เหล่านักดนตรีประทับใจซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิตของเจ้ามาก และเขียนบทวิจารณ์กันข้ามคืนเลยทีเดียว! ทางสมาคมเลยตัดสินใจพิมพ์หนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับเดือนนี้ล่วงหน้า นี่ไง เรามีฉบับแรกเลยนะ!”
“ท่านอีวานส์ ท่านอยากได้สักฉบับไหม” เคธีถามด้วยความเคารพและใคร่รู้
“ก็… ข้าคิดว่าก็ควรนะ” ลูเซียนยิ้มและเทเหรียญยี่สิบเฟลล์ออกมาจากกระเป๋าเงิน จากการเก็บออมอย่างยากลำบาก กระเป๋าเงินเล็กๆ ของลูเซียนไม่ได้แฟบเหมือนสมัยก่อน
“พวกเขาเขียนว่าอะไรบ้าง ลูเซียน?” เอเลน่ายังอ่านหนังสือไม่คล่องนัก “เคธีกับข้าอยากรู้ใจจะขาด”
เมื่อหยิบหนังสือพิมพ์ดนตรีวิพากษ์ฉบับล่าสุดขึ้นมา ลูเซียนเห็นภาพเขียนของโรงมหรสพซาล์มฮอล และพาดหัวตัวหนังสือตัวหนาสองแถว
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เชิญพบกับอัจฉริยะตัวจริง!”
โอเทลโล่
ลูเซียนอ่านบทวิจารณ์ของท่านโอเทลโล่ให้เอเลน่ากับเคธีฟัง สายตาของสาวน้อยทั้งสองคนเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
เปิดหน้าถัดไป บทวิจารณ์บทแรกชื่อ ดนตรีและจิตวิญญาณ ขอสดุดีซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต
“เสมือนของขวัญจากพระเจ้า ดนตรีเป็นแรงบันดาลใจให้เราก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างไม่ย่อท้อ อย่างไรก็ตาม ในอดีตนับสามร้อยปีที่ผ่านมา บทบาทสำคัญที่เข้มคลังและศักดิ์สิทธิ์ของดนตรีเชิงศาสนาไม่เคยถูกท้าทายบนเวทีแสดงดนตรีมาก่อน เนื่องจากดนตรีแนวอื่นมักหลบอยู่หลังม่านและมิอาจขึ้นมาเทียบเมื่อต้องเปรียบกับ ‘ดนตรีเชิงศาสนา’
…
“จนกระทั่ง เราได้พบกับ ‘ซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต’ บทประพันธ์เพลงชั้นเอก โดย ‘ลูเซียน อีวานส์’ บรรเลงก่อนแรกในการแสดงดนตรีของวิกเตอร์ ณ โรงมหรสพซาล์มฮอล เมื่อคืนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าตระหนักได้ทันทีว่าอะไรคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดและขาดไม่ได้ในบทดนตรี!
“ดนตรีคืออารมณ์ ดนตรีคือความรู้สึก หากไม่มีอารมณ์และความรู้สึก ก็ไม่มีจิตวิญญาณ ดนตรีจะไม่สามารถเข้าถึงเบื้องลึกสุดขั้วหัวใจของมนุษย์ นักดนตรีหนุ่ม ลูเซียน อีวานส์ เข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้น ทั้งสี่กระบวนที่ประกอบในบทเพลงซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต จึงถูกถักทอเชื่อมโยงกันด้วยความเชื่อและความศรัทธาอย่างเหนียวแน่นตลอดทั้งเพลง กล่าวได้ว่า ความหวังและความอุตสาหะจะสามารถเอาชนะความยากลำบากในชีวิต นับเป็นเพลงซิมโฟนีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แรงบันดาลใจ และไพเราะจับใจที่สุดที่ข้าพเจ้าเลยสัมผัสมา
…
“ลูเซียน อีวานส์ เขาคืออัจฉริยะตัวจริงโดยไม่มีข้อกังขา พรสวรรค์ด้านดนตรีของเขาทำให้นครอัลโต้ทั้งเมืองต้องตกตะลึง ข้าพเจ้าเชื่อสนิทใจว่าในอนาคต เขาจะทำให้ทั้งทวีปต้องตกตะลึงเฉกเช่นเดียวกัน
…
“จิตวิญญาณสำคัญต่อชีวิตฉันใด อารมณ์ก็สำคัญต่อดนตรีฉันนั้น!”
บทวิจารณ์ชิ้นนี้เนื้อหาค่อนข้างยาว ซึ่งใช้น้ำเสียงแสดงอารมณ์มากกว่าการวิเคราะห์ภาคดนตรี เหตุผลที่บทความชิ้นนี้จัดอยู่ในลำดับแรก เพราะผู้เขียนก็คือแกรนด์ดยุกออร์วาริต
“โอ้โห… ท่านแกรนด์ดยุกทรงชื่นชอบซิมโฟนีของเจ้าจริงๆ!” เอเลน่าอุทานด้วยความแปลกใจปนยินดี
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหญิงนาตาซาก็ทรงเขียนวิจารณ์ด้วยนี่คะ” เคธีพูดอย่างสุภาพ “ท่านอีวานส์ ช่วยอ่านบทความของพระองค์ให้พวกเราฟังได้ไหม? ข้าทราบมาว่าองค์หญิงทรงเป็นนักวิจารณ์ดนตรีที่ยอดเยี่ยมเช่นกันนะเจ้าค่ะ”
“ได้สิ” ลูเซียนตอบ รู้สึกกังวลเล็กน้อยที่ต้องการคำวิจารณ์จากเจ้าหญิง
บทความของเจ้าหญิงนาตาซาอยู่ในลำดับที่สองของดนตรีวิพากษ์ ถัดจากบทความของบิดาของนาง โดยใช้ชื่อเรื่องบทความว่า ‘แนวดนตรีแห่งอนาคต การปฏิวัติโลกดนตรีโดยซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต’
“บทเพลงซิมโฟนีอันยอดเยี่ยม แนวดนตรีอันงดงาม และสัมผัสแห่งอารมณ์สุดแสนน่าประทับใจ
“นักดนตรีพรสวรรค์ ลูเซียน อีวานส์ ปรุงแต่งน้ำเสียงเน้นหนักเบาสี่จังหวะในท่อนแรก ณ ช่วงเริ่มบรรเลงเพลงซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต แต่ละกระบวนของทั้งสี่กระบวนในซิมโฟนีเพลงนี้เป็นอิสระจากกัน แต่ก็เชื่อมโยงกันด้วยแนวทางที่เล่าเรื่องไปในทิศทางเดียวกัน ถ่ายทอดความหมายว่าแสงสว่างจะกำราบความมืด และความกล้าจะเอาชนะความทุกข์เข็ญ การใช้เครื่องดนตรีประสานเสียงหลากหลายชนิดด้วยความยืดหยุ่นลงตัวและความชำนาญยิ่งส่งเสริมให้โลกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของซิมโฟนีเพลงนี้ทรงคุณค่ายิ่งขึ้น และคว้าหัวใจของผู้ฟังทุกคนมาครอง ณ คืนวานนี้
……
“ขอเรียกเพลงนี้ว่า ‘วีรกรรม’ ขอเรียกว่า ‘ความมานะบากบั่น’ ขอเรียกว่า ‘จิตวิญญาณแห่งอัศวิน’ ข้าพเจ้าประทับใจกับบทเพลงอันยอดเยี่ยมเพลงนี้เหลือเกิน เพียงท่อนสั้นๆ ที่ประพันธ์ด้วยน้ำเสียงเน้นหนักเบาสี่จังหวะก็จับขั้วหัวใจข้าพเจ้า ราวกับว่าเสียงเพลงบรรเลงไปพร้อมกับเสียงหัวใจของข้าพเจ้าเต้น
“อีวานส์ อัจฉริยะแห่งโลกดนตรีที่ไม่ถูกกักขังด้วยกฎเกณฑ์ใดๆ ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เปิดเผยให้โลกดนตรีได้ประจักษ์กับสิ่งใหม่ต่อหน้าพวกเรา เราจำเป็นต้องศึกษาทักษะดนตรีแนวใหม่ และพัฒนาดนตรีแนวใหม่นี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไป
“สุดยอดนักบุกเบิก! สุดยอดนักประดิษฐ์!”
…
หน้าของลูเซียนแดงด้วยความขวยเขินเมื่ออ่านบทความนี้ เขาเปิดผ่านๆ ดนตรีวิพากษ์แบบเร็วๆ ลูเซียนเห็นว่ามีบทความยี่สิบเก้าชิ้นจากทั้งหมดสี่สิบชิ้นพูดถึงเพลงซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต บางบทความวิเคราะห์แนวเพลง ส่วนบางบทความวิเคราะห์ทักษะดนตรี ขณะที่บทความอื่นๆ อีกมากมายพูดถึงเปียโนคอนแชร์โต้ของวิกเตอร์ และภาพรวมของการแสดงดนตรีเมื่อคืนวาน
พอถูกเอเลน่ากับเคธีรบเร้า ลูเซียนจำต้องเปิดดูหนังสือพิมพ์ข่าวสารซิมโฟนีฉบับล่าสุดเสียหน่อย และก็พบสถานการณ์เดียวกัน บทความวิจารณ์ทั้งหมดถ้าไม่พูดถึงวิกเตอร์ก็พูดถึงตัวเขา
“เดี๋ยวๆ… ข้ารู้จักชื่อนี้” เอเลน่าชี้นิ้วของนางไปยังชื่อภายใต้บทวิจารณ์บทแรกในข่าวสารซิมโฟนี “คริสโตเฟอร์… จิโอนิส”
คริสโตเฟอร์ จิโอนิส เป็นประธานสมาคมนักดนตรี และเป็นนักดนตรีที่โด่งดังที่สุดในนครอัลโต้ ผู้ประพันธ์บทเพลงชั้นยอดมาแล้วเป็นร้อยๆ เพลง จิโอนิสได้รับการยกย่องให้เป็น ‘ตำนานดนตรีที่มีชีวิต’
บทความวิจารณ์ของจิโอนิสว่าไว้ ดังนี้
“หากท่านไม่เคยฟังซิมโฟนีแห่งชะตาชีวิต แปลว่าชีวิตนี้ท่านไม่เคยฟังดนตรี”
“โอ้โห…” นอกจากอุทานด้วยความตื่นเต้น เอเลน่ากับเคธีไม่รู้ว่าจะแสดงความชื่นชอบที่มีต่อลูเซียนอย่างไร
สักพักต่อมา เอเลน่าพูดกับลูเซียนว่า “ข้ามั่นใจว่าอีกไม่กี่เดือน เจ้าจะกลายเป็นหนึ่งในนักดนตรีรุ่นใหม่ที่โด่งดังที่สุดไปทั่วทั้งทวีปแน่ๆ”
ลูเซียนไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายิ้มและส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่เขาจะขอตัวไปห้องทำงานของแฮงก์บนชั้นสาม
“ขอแสดงความยินดีด้วย อีวานส์” แฮงค์ผุดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เดินเข้ามาสวมกอดลูเซียน
“ขอบพระคุณขอรับ ท่านแฮงก์” ลูเซียนยิ้ม “ข้ามาขอลาออกจากงานบรรณารักษ์ขอรับ”
“แน่นอน ข้าคิดไว้แล้ว” แฮงก์ตอบตกลงโดยไม่ลังเล แล้วเขาก็หยิบถุงเงินออกมา “ตามที่วิกเตอร์บอกไว้ เงินส่วนนี้เป็นของเจ้า”
กระเป๋าเงินไม่ใหญ่มากแต่หนักอึ้ง ภายในบรรจุเหรียญทองสามสิบสามเหรียญส่องประกายวิบวับชวนมอง
……………………………………….