บทนำ
สวัสดีครับ ผม สายฟ้า..
ทุกคนเคยอธิษฐานหรือขออะไรสักอย่างให้กับตัวเองหรือว่าคนอื่นบ้างไหมครับ แน่นอนว่าทุกคนต้องเคย แต่ผมไม่เลย เพราะชีวิตของผมตั้งแต่เกิดมานั้น ผมเป็นคนที่ให้ในสิ่งที่คนอื่นต้องการมาโดยตลอด ดั่งเช่น คำอธิษฐาน
สเปเชี่ยลของผมมีแค่ร้อยในล้านเท่านั้น ผมจึงต้องอยู่กับมันจนกว่าชีวิตผมจะจบสิ้นลง แต่ก่อนที่ชีวิตห่วยๆ มันจะจบ ผมจะต้องเจอกับอะไรบ้างล่ะ
‘เราเลิกกันเถอะสายฟ้า ฉันคิดว่า..เราสองคนคงไม่เหมาะสมกัน ไม่ใช่ว่าสายฟ้าไม่ดีนะ แต่เราเองแหละที่ไม่ดี ขอโทษนะ’
‘หนูตัดสินใจแล้วว่าจะหมั้นกับคนที่พ่อหนูเตรียมไว้ให้ ปล่อยให้เรื่องของเราสองคนเป็นความทรงจำที่ดีเถอะนะคะพี่สายฟ้า’
‘พี่กับแม่จะย้ายไปอยู่นอร์เวย์ด้วยกัน เราคงจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะสายฟ้า พี่รักเธอมากนะ แต่..’
แต่ผมก็ถูกหลอก
ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตผมล้วนแต่มีเป้าหมายแตกต่างกันออกไป ผมยังเคยคิดเลยว่าถ้าผมไม่มีสิ่งพิเศษในตัว คนที่เข้ามาในชีวิตของผมจะต้องการอะไรอีก คงอาจจะเป็น เงิน หน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม ไม่ว่าจะมองทางไหนมันก็แย่ทุกรูปแบบ
หนึ่งครั้งในหนึ่งปีเท่านั้นที่ผมจะสามารถทำให้คำอธิษฐานของใครก็ตามเป็นจริงได้ คำขอของผมทำให้คนที่ผมรักประสบความสำเร็จในทุกอย่าง ยกเว้นแต่เพียงเรื่องของผมคนเดียว เพราะหลังจากที่คำอธิษฐานของผมสัมฤทธิ์ผล คนที่ผมรักหมดหัวใจก็เริ่มหายออกไปจากชีวิตทีละคน พวกเขาทุกคนต่างเติบโตและมีชีวิตที่ดีกันหมด จนในบางครั้ง..ผมก็ยังถามตัวเองว่าการมีชีวิตเพื่อคนอื่นแบบนี้ มันยังเรียกว่าชีวิตอยู่อีกเหรอ
ผมก็แค่หวังว่าสักวันจะมีชื่อของผมอยู่ในคำอธิษฐานนั้น
ขอแค่สักครั้ง..ที่ผมได้พบเจอกับคนที่รักผมด้วยหัวใจอย่างแท้จริง
-สายฟ้า-
“ไอฐาน!! ไออธิษฐานโว้ยยยยยยยยย”
เสียงเรียกของนายเรชดังสนั่นอยู่บริเวณหน้าบ้านสองชั้นในหมู่บ้านแย้มจิตรสักพักใหญ่ ไม่รู้ว่าผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนี้จงใจตะโกนเรียกเพื่อนหรือเรียกคนทั้งหมู่บ้านกันแน่ ไม่นานเกินรอประตูบ้านหลังนี้ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับสีหน้าซังกะตายของใครบางคน ขายาวก้าวเดินดุ่มๆ ออกมาพลางยกมือข้างหนึ่งท้าวเอวตัวเองอย่างหงุดหงิด
“เออๆๆ กูมาแล้ว นี่มึงจะตะโกนโวยวายหาบรรพบุรุษมึงหรือไง โทรไลน์มาก็ได้ ไอห่า!” นายอธิษฐาน วีร์ชาพิภัทร ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำโวยใส่ทันทีหลังเปิดประตูเดินพ้นออกไปจากตัวบ้าน
“ก็กูคิดว่ามึงยังไม่ตื่นนี่หว่า”
“บ่ายสอง นี่ถ้ากูยังไม่ตื่นก็คงนอนตายไปละ”
“หึ.. กูล่ะอย่างชอบตอนเห็นมึงทำหน้ามุ่ยเนี่ย ฮ่าๆๆ ”
นายเรชจึงได้แต่หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีกับคำตอบของเพื่อนรัก เขาเดินกลับเข้าไปในรถและเตรียมตัวสตาร์ทรถเก๋งคันหรู ส่วนหนุ่มหล่อหน้าตาจิ้มลิ้มก็มีหน้าที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเหมือนอย่างเคย เวลาไปทำงานเรชจะขับรถมารับนายอธิษฐานแทบทุกวัน และหากว่าเพื่อนรักของเขาไม่ว่าง ฐานก็จะนั่งรถแท็กซี่หน้าหมู่บ้านไปเอง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่ารถยนต์ส่วนตัวนั้นถูกขายออกไปตั้งแต่ตอนที่พ่อของเขาเสีย หากว่าในอนาคตมีเงินก้อนใหญ่มาช่วยใช้หนี้ได้ก็อาจจะได้รถคันใหม่กลับมา
“แล้วนี่..มึงคิดดีแล้วเหรอวะที่จะไปลาออกอะ มึงไม่ได้งอนๆ กับพี่เป้แล้วอยากจะพาลลาออกนะเว้ย เฮ้อ.. ไอฐาน กูว่ามึงควรคิด”
“กูทบทวนเรื่องนี้มาสักพักใหญ่ละ”
“…..”
“กู..คิดว่าพี่เขาไม่ได้รักกูแล้วว่ะ”
“มึง”
“กูเลยอยากจะไปหางานที่อื่นทำ กูไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากทำงานในที่ที่ต้องเจอเขาทุกวัน กูว่ากูทำใจไม่ได้”
ฐานกัดฟันแน่นพลางเบี่ยงสายตาเจ็บปวดออกไปทางอื่น เล่นเอาเรชเงียบไปราวกับถูกปิดปาก บรรยากาศในรถก็ตึงเครียดขึ้นมาซะดื้อๆ คนที่นั่งเงียบเป็นตุ๊กตาเลยสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มอธิบายให้เพื่อนรักฟังต่อ
“กูเป็นผู้ชาย เขาเป็นผู้ชาย ตอนนี้เขาอายุมากแล้วก็คงจะอยากมีลูก อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่น กูพยายามเข้าใจเขาทุกอย่างเลยนะไอเรช แต่กูแค่ไม่เข้าใจอยู่แค่อย่างเดียว”
ทำไม..กูต้องมาเจ็บปวดกับความหวังที่ตัวเองตั้งไว้ซะสูงเฉียดหอไอเฟลด้วยวะ คงเพราะตั้งความหวังไว้สูงไง พอทุกอย่างมันไม่เป็นอย่างฝันก็ต้องเจ็บปวดเจียนตายอยู่แบบนี้ ฐานพูดพร่ำคนเดียวอยู่ภายในใจด้วยความรู้สึกแย่สิ้นดี
“ทำไมเวลาที่เขาจะไปไหนไม่เคยบอกกูเลยสักคำ วันที่กูเจอกับปัญหาเขาก็หายไป แม่งไม่ว่างทั้งวัน ไม่มีเวลาให้กูทั้งวัน แต่กูก็พยายามทำความเข้าใจตลอด เฮ้อ..แต่สุดท้ายแล้วกูก็รู้..มันไม่มีใครยุ่งจนไม่มีเวลาหรอก แต่กูแค่ไม่สำคัญกับพี่เขาอีกต่อไปแล้วแค่นั้นเอง”
ฐานคบกับแฟนตัวเองมาสี่ปี..สุดท้ายแล้วแฟนเขาก็ทำตัวห่างเหินเพื่อให้ฐานต้องเป็นฝ่ายต้องจำใจบอกเลิกก่อน ทั้งๆ ที่ในตอนนี้ฐานไม่ได้อยากจะจบความสัมพันธ์ลงเลยสักนิด เป็นไงล่ะ ชีวิตอันโชคดีของผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ทุกคนต่างอิจฉามาโดยตลอด เล่นทำเอาเขาเจ็บจนแทบพูดอะไรไม่ออกเลย
“เฮ้อ กูเข้าใจมึงนะฐาน พักหลังมานี้กูเห็นมึงร้องไห้บ่อยเกินไปแล้ว ถ้ามึงอยากออกจากเรดคลับ งั้นกูจะออกด้วย”
“มึงไม่ต้องออกหรอก ที่เรดคลับยังเป็นที่ของมึงอยู่ มึงยังมีฐานลูกค้า ยังมีคนที่เขาพร้อมจะเสียเงินเพื่อมึงอีกเยอะ แต่กูขอออกเถอะนะ กูทนทำงานที่นั่นไม่ได้จริงๆ ว่ะ” ฐานเอ่ยบอกเพื่อนตัวเองไปแบบนั้นโดยที่แววตาว่างเปล่ายังคงจ้องมองทางข้างหน้าอยู่ตลอด
เรดคลับที่ถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้มันคือสถานที่ทำงานของเขากับเรชและรวมไปถึงน้องๆ อีกหลายคน มันคือสถานบันเทิงที่โด่งดังมากในย่านนี้ ซึ่งมันจะเป็นแนวชายหญิงคอยเอนเตอร์เทนแขกที่เข้ามาเที่ยวเพื่อหาความสนุกสนาน ในทุกๆ อาทิตย์จะมีการจัดเรียงลำดับตัวท็อปของเรดคลับ ใครได้ยอดเงินสูงสุดจากแขก คนนั้นก็จะได้เป็นอันดับหนึ่งของที่นั่น และมันก็เป็นสถานที่ที่ทำให้ฐานกับพี่เป้ได้มาพบเจอกัน
พูดแล้วก็น่าใจหาย..เขาเองที่หลงคิดว่าพี่เป้จะเป็นคนที่รักเขาหมดหัวใจแท้ๆ
‘ยังไงพี่เป้เขาก็เป็นแขกวีไอพีของที่นี่ มึงก็ระวังใจมึงหน่อยแล้วกันไอฐาน หลอกเอาเงินเอาทองได้ แต่อย่าให้ใจเชียวนะมึง เดี๋ยวจะเจ็บ!’
ฐานจำเป็นจะต้องไปลาออกและก็รีบหางานใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นบ้าอีกต่อไปแล้ว..
(RED CLUB)
“ทำไมพี่แอนดูไม่ตกใจเลยวะที่มึงจะออก ทำไมเขาไม่ห้ามวะ มึงเป็นถึงตัวท็อปของที่นี่เลยนะ”
“ก็แค่เคยเป็น”
“เฮ้ย มันแปลกดิไอฐาน หรือว่าพี่เขาจะรู้อยู่แล้วว่ามึงจะออก?”
เสียงของเรชยังดังไล่หลังเขามาติดๆ นี่ขนาดคนที่ลาออกจากงานประจำคืออดีตตัวท็อปอย่างฐาน ไอเพื่อนรักมันยังเป็นเดือดเป็นร้อนกังวลใจแทนขนาดนี้เลย ว่าแล้วฐานก็กวาดสายตามองไปยังบริเวณภายในร้านที่ปราศจากผู้คน ถึงแม้เวลานี้คลับยังไม่เปิดแต่ยังมีแสงไฟจากเวทีและก็หน้าจอใหญ่ๆ ด้านหน้าเปิดไว้อยู่เป็นปกติ
แต่แล้วภาพบนหน้าจอก็ฉายเด่นชัดให้เห็นถึงใบหน้าของผู้หญิงที่เขาเองคุ้นเคยดี เธอคือ ปิ่นหงษ์ น้องสาวที่รู้จักกันจากเรดคลับ หญิงสาวหน้าตาดีที่คนอย่างฐานเชื่อใจและไว้ใจที่สุด ในตอนนี้เธอกลับกลายเป็นตัวท็อปของเรดคลับภายในไม่กี่วัน
“ดะ เดี๋ยวนะมึง ชื่อคนสนับสนุนรายใหญ่ของปิ่นหงษ์ก็คือพี่เป้..” เรชคงจะอ่านถึงบรรทัดข้างล่างเหมือนกันกับเขาในตอนนี้
“หึ กูรู้แล้วล่ะว่าทำไมพี่แอนถึงไม่รั้งกู เพราะว่าเขามีตัวท็อปคนใหม่แล้วนี่ไง”
ฐานกัดฟันแน่นด้วยความรู้สึกที่เหมือนตัวเขาเองแทบล้มทั้งยืน ก่อนที่จะรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาและรีบกดโทรหาพี่เป้ให้เร็วที่สุด ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่าเรื่องของเขากับแฟนหนุ่มมันจะต้องจบลง แต่อธิษฐานก็อยากจะพูดความในใจทุกอย่างก่อนที่มันจะสายไปมากกว่านี้ เขาไม่มั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าแฟนหนุ่มของเขายังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่ไหม
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
แต่แล้วเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของใครบางคนก็ดังแว่วขึ้นมาไม่ไกล นั่นจึงทำให้ฐานหยุดนิ่งและค่อยๆ เหลือบสายตามองไปยังห้องแต่งตัวฝั่งตรงข้าม มันคือห้องแต่งตัวที่เขากับพี่เป้ชอบแอบไปจู๋จี๋กันตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆ สิ่งที่ทำให้ฐานพาร่างกันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองมาหยุดอยู่ยังหน้าห้องนี้ก็คงจะเป็นเสียงร้องของปิ่นหงษ์
“อื้มมม อ๊ะๆๆ พ..พี่เป้ขา..อย่างนั้นแหละค่ะ..ทำแบบนั้น..ปิ่นชอบ”
“…..”
มันเหมือนกับว่าตอนนี้หัวสมองของเขาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น สติและความรู้สึกนึกคิดล่องลอยออกไปไกลแสนไกล หัวใจที่ทุกข์ทรมานมาโดยตลอดด้านชาจนไร้ซึ่งความเจ็บปวดใด มันจะต้องเจ็บสักแค่ไหนกันนะ ที่ผ่านมามันต้องเจ็บถึงขนาดไหน..จนทำให้ผู้ชายที่เคยอ่อนแอคนนี้ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
คมมีดที่ถูกกรีดลึกเข้าไปถึงกระดูก มันคงจะเป็นความรู้สึกปวดร้าวจนชินชาแบบนี้เองสินะ..
“เชี้ย..อ..ไอฐาน..”
เรชกระซิบเรียกสติเพื่อนตนในทันทีเมื่อเห็นว่าฐานยืนตัวแข็งทื่อกับภาพตรงหน้า ใช่..แฟนของฐานกำลังร่วมรักกับผู้หญิงที่เขาเคยหลงเชื่อว่าเธอจะเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ พวกเขาคือชายหญิงสองคนที่เขาเคยรักมากที่สุด ในตอนนี้ใจอันแหลกสลายของเขามันไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอีกต่อไป ความสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างมาด้วยกันตลอดระยะเวลาหลายปี แทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะพังทลายได้เพียงไม่กี่วินาที
แต่ก่อนที่ฐานจะทิ้งประโยคอันเรียบเฉยแล้วเดินออกไปจากเรดคลับ ร่างบางก็กระตุกยิ้มด้วยความเจ็บปวดพลางหันไปจ้องมองใบหน้าซีดเซียวของเรช แน่นอนว่าเพื่อนรักคงไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะมาเจอภาพทุเรศๆ แบบนี้
“กูจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ และจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก”
ลาก่อนเรดคลับ ลาก่อนความเลวร้าย
ลาก่อน..ความรักอันแสนทรมาน อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย