บทที่ 177 ต้องดูให้ได้
บทที่ 177 ต้องดูให้ได้
วันอังคารสองทุ่ม ละครรักในฝันออนแอร์ตรงเวลาที่ช่องหมางกั๋วในช่วงของละครหลังข่าวค่ำ
ในอาทิตย์แรก การถ่ายทำผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีโหมวจึงสั่งให้ทีมละครหยุดพักและเชิญให้นักแสดงนำทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมของโรงแรมเพื่อดูละครทางโทรทัศน์พร้อมกัน
พนักงานโรงแรมจัดห้องประชุมให้ดูเหมือนห้องนั่งเล่น ฮันเจ๋อหยางรู้สึกว่าแค่ดูคงไม่พอ เลยสั่งปิ้งย่างมาอีกโต๊ะหนึ่งและสั่งชานมมาจากร้านข้างนอกด้วย
สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการตกแต่งสถานที่ไปด้วยสีสันมากมาย
ทันใดนั้น เสียงเพลงเปิดตัวที่คุ้นเคยดังขึ้น ซูโย่วอี๋นั่งตัวตรงโดยมีฮันเจ๋อหยางนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ “ตื่นเต้นไหม?”
“นิดหน่อย”
นี่เป็นครั้งแรกของกซูโย่วอี๋ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอทีวี
ส่วนฮันเจ๋อหยางทำหน้าที่การเป็นรุ่นพี่ “ต่อไปพอดูเยอะ ๆ ก็จะชินไปเอง เธออยากกินปิ้งย่างหน่อยไหม?”
ซูโย่วอี๋ส่ายหัวปฏิเสธเพราะอยากตั้งใจดูละคร บางครั้งก็ดื่มชานมไปด้วย
เนื้อเรื่องไม่ได้เริ่มต้นด้วยการปรากฏตัวของฮั่วเสวียน แต่จะเชื่อมต่อไปกับเนื้อเรื่องในอีกสิบนาทีต่อมาแทน
เธอรอจนฮั่วเสวียนปรากฏตัวขึ้น ซูโย่วอี๋รู้สึกได้ในทันทีเลยว่าในทีวีเธอดูอ้วนกว่าตัวจริง
แม้ว่าในกล้องเธอจะดูดีมาก แต่ก็ไม่สวยเท่ากับตัวจริง
อีกทั้งพอได้ดูละครจริง ๆ แล้ว ซูโย่วอี๋พบว่าสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดไม่ใช่การแสดง
แต่เป็นจุดอื่น ๆ ที่อธิบายไม่ได้ เช่นปอยผมบนหน้าผากที่จัดไม่ค่อยเรียบร้อย
หรือรอยยับตามมุมเสื้อผ้า
ดูไปสักพักซูโย่วอี๋ก็ปล่อยวางและเริ่มเล่นมุกตลกกับฮันเจ๋อหยาง “รุ่นพี่ฮัน ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณถ่ายอันนี้คุณใส่กางเกงตัวใหญ่กับรองเท้าแตะนี่”
ใครจะไปคิดว่าตัวจริงของหลี่จื้อผู้สง่างามและโรแมนติกจะเป็นแบบนี้
ฮันเจ๋อหยางไม่ยอมแพ้ “ก็มีตัวเลือกไม่มากนักนี่ บางคนยังร้อนถึงขั้นไม่ใส่รองเท้าเลยด้วยซ้ำ”
ซูโย่วอี๋หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉันจะไปซื้อพัดลมมือถือขนาดเล็กมา”
“และฉันก็เอาให้คุณใช้ด้วยนะ”
เธอไม่ได้สนใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮั่วเสวียนและหลี่จื้อในละครตอนนี้จะเป็นแบบไหน ซู โย่วอี๋และฮันเจ๋อหยางต่างก็ทั้งมองหน้ากันและหัวเราะ แถมยังช่วยกันบ่นอีกด้วย
สวีโหมวหันหน้ามาพอดีและยกยิ้มอย่างเอ็นดู “พวกคุณดูสิ พวกเขาสองคนนั่งด้วยกันเหมือนพี่น้องกันเลย”
ซูโย่วอี๋นิ่งไป
ฮันเจ๋อหยางเองก็นิ่งไปเช่นกัน
จากนั้นซูโย่วอี๋ก็หันไปมองยังฮันเจ๋อหยางอย่างละเอียดและพบว่าพวกเขาไม่เห็นจะเหมือนกันเลย
หลังจากแสดงปฏิกิริยาไปอย่างนั้น เธอก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวเกินไป
แม้ว่าเธอจะเข้ากับฮันเจ๋อหยางได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความพวกเขาว่าจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันสักหน่อย
หากแต่ฮันเจ๋อหยางกลับรู้สึกว่าถ้ามีน้องสาวแบบซูโย่วอี๋ก็คงจะดี อย่างไรก็ตามซูโย่วอี๋ ดูเหมือนแม่ของเขามาก ต่อให้บอกว่าไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันก็คงไม่มีใครเชื่อ
ทีมงานที่จิ้นคู่สองคนนี้แอบหลบอยู่ตรงมุม “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอย่างคุณฮันมองเทพธิดาซูด้วยสายตาเปล่งประกาย”
“นี่ไม่ใช่ความรักงั้นเหรอ?”
“ทำไมผู้กำกับสวีถึงพูดว่าเหมือนคู่พี่น้องล่ะ!”
“ใช่ ดูยังไงก็ควรจะเป็นคู่รัก คบกันเลยเถอะ”
“ฉันดูนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมฮันกับรุ่นน้องของเขาได้เป็นร้อยรอบเลยนะ”
“พวกคุณเคยเห็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมฮันดีกับผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้ไหม? มีไหม? ไม่มีทาง”
“ถ้าทุกอย่างนี้ไม่ใช่ความรัก”
“คงจะเป็นข้อยกเว้นสำหรับเทพธิดาซู”
“ฉันจะสร้างกลุ่มลับของฮั่วเสวียนกับหลี่จื้อ มีใครอยากเข้าร่วมด้วยมั้ย”
“ฉัน!”
“ยกมือเลย!”
“ยกสองข้างเลย”
กลุ่มคนดูละครต่างมีความสุข
วันนี้ ละครตอนที่สองจบลงที่ทั้งสองคนร้องเพลงด้วยกันในค่ายทหาร พอละครจบสวีโหมวไม่ได้ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปในทันที แต่ยังให้นั่งอยู่ที่เดิมรอรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากทีมต่าง ๆ
ตอนนี้พึ่งจะสี่ทุ่ม ซูโย่วอี๋เองก็ยังไม่อยากกลับไปนอน
เธอเหมือนนักเรียนที่สอบเสร็จแล้วและกำลังรอคะแนนสอบอยู่
เธอกินปิ้งย่างไปสักพัก ตอนที่ทีมงานสองคนที่ใส่หมวกเดินเข้ามา ทุกคนในห้องประชุมต่างก็หันมองไปทางพวกเขา
ทั้งสองคนดูดีใจมาก “ผู้กำกับสวีครับ เรตติ้งพุ่งกระฉูดเลย!”
“วันนี้จำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นสองเท่า”
ละครรักในฝันจะออนแอร์ในช่วงของละครหลังข่าวค่ำ และในช่วงเดียวกันก็มีละครยอดนิยมหลายเรื่องที่มีจุดขายแบบเดียวกันออกฉายด้วย ผู้ชมจึงแบ่งกันไปดูช่องอื่น ๆ
ซึ่งเรตติ้งของละครรักในฝันไม่เคยเพิ่มขึ้นเลยและยังคงที่อยู่ในอันดับที่สอง
สำหรับสวีโหมวแล้ว นี่คือความอัปยศอดสูอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่รายงานเรตติ้งในวันนี้ รักในฝันสามารถเอาชนะละครอันดับหนึ่งไปได้และยังได้เรตติ้งเต็มสิบอีกด้วย!
แล้วยังห่างจากอันดับที่สองอยู่ไกลพอสมควร
สวีโหมวอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้น “เยี่ยม!”
ทีมละครทั้งทีมต่างพากันดีใจไปกับเรตติ้งของละครที่ได้รับ
สวีโหมวมองไปยังซูโย่วอี๋และฮันเจ๋อหยาง “พยายามกันต่อไป”
“เพื่อความสำเร็จ”
ระหว่างทางเดินกลับห้อง ซูโย่วอี๋ยังคงรู้สึกเหลือเชื่อ “รุ่นพี่ฮัน คนดูละครเรื่องนี้เพราะฉันจริง ๆ เหรอ?”
ฮันเจ๋อหยางพยักหน้า “เธอไม่ได้ยินที่ผู้กำกับสวีพูดเหรอ? เรตติ้งขึ้นหลังจากที่เธอปรากฏตัวและก็สูงขึ้นมากด้วย”
นี่จะบอกว่าผู้คนชื่นชอบเธองั้นเหรอ?
พอมาถึงหน้าประตู ซูโย่วอี๋ยืนนิ่ง “รุ่นพี่ฮัน เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของหญิงสาวดูสดใสขึ้น ผมสีดำสนิทสะท้อนแสงไฟจากทางเดิน ทำให้เธอดูน่ารักมาก
ฮันเจ๋อหยางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของเธอ “สู้ ๆ นะ รุ่นน้อง”
หลังจากที่ซูโย่วอี๋กลับมาที่ห้องและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ได้เข้านอนในทันที แต่กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูความคิดเห็นจากชาวเน็ต
ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วหลังจากที่ละครออกอากาศไป แต่ในอินเตอร์เน็ตยังมีการค้นหาอยู่ไม่น้อยเลย
ครั้งนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างพากันชื่นชมและให้คำแนะนำละครเรื่องนี้
[สาว ๆ ละครรักในฝันสนุกมากจริง ๆ ทุกคนต้องดูให้ได้นะ]
[คนที่ไม่เคยดูละครเรื่องนี้มาก่อนเลยอย่างฉันยังรู้สึกเจ็บปวดเลย]
[ฮั่วเสวียนขึ้นม้า ฮั่วเสวียนลงม้า มันเท่มากเลย]
[ฮั่วเสวียนดูเหมือนต้นฉบับมาก ฉันขอโทษที่เคยด่าซูโย่วอี๋นะ]
[ไม่คิดมาก่อนเลยว่าทักษะการแสดงของซูโย่วอี๋จะดีถึงขนาดนี้ ไม่เพียงแค่ไม่ทำลายภาพของฮั่วเสวียนในใจฉัน แต่ยังแสดงได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก ฉันคิดว่าทีมงานแคสนักแสดงบทฮั่วเสวียนได้ดีที่สุดเลย]
[คุณเชื่อสายตาของผู้กำกับสวีได้]
[อยากเป็นภรรยาของฮั่วเสวียนเลยค่า]
[ขอเปลี่ยนตัวนางเอกได้ไหม ฮั่วเสวียนก็คือนางเอกในสายตาของทุกคนชัด ๆ แค่ฮั่วเสวียนขมวดคิ้ว ใจฉันก็แทบละลายแล้ว]
ซูโย่วอี๋มองดูความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตอย่างมีความสุข ก่อนหน้านี้ แฟนคลับในเวยป๋อของเธอคงที่อยู่ที่ประมาณห้าล้านคน พอละครออกอากาศไปก็เพิ่มขึ้นไปอีกกว่าหนึ่งล้านคน
อีกทั้งตอนนี้พึ่งออกอากาศไปแค่สองตอน!
มากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลอันน่ากลัวของฮั่วเสวียนด้วยซ้ำ
กลุ่มคนที่สนับสนุนซูโย่วอี๋ได้แสดงความประทับใจต่อละครในทันทีด้วยเช่นกัน มีการเขียนความคิดเห็นยืดยาวเพื่อชื่นชมซูโย่วอี๋ของพวกเขา
เมื่อซูโย่วอี๋กำลังดูความคิดเห็นต่าง ๆ อย่างกระตือรือร้นอยู่นั้น ลู่เฉินก็ส่งข้อความมาหาเธอ
พอกดเข้าไปดู หน้าแรกของเขามีโพสต์ ๆ หนึ่งหลังจากที่ประกาศเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอย่างเป็นทางการบนเวยป๋อไปแล้ว
รูปที่หนึ่ง จากภาพพื้นหลังก็เห็นได้ว่าคือห้องทำงาน ในคอมพิวเตอร์กำลังเปิดละครรักในฝันอยู่ บนหน้าจอเป็นภาพระใกล้ของฮั่วเสวียนพอดี
ดูเผิน ๆ คงไม่มีอะไร แต่ด้วยประโยคหนึ่งที่ลู่เฉินลงไว้พร้อมกับรูป
‘ฮั่วเสวียนสวยมากจริง ๆ’
[อ่า มาดูคำชมตรง ๆ จากผู้ชายคนนี้สิ]
[อยากจะชมแฟนตัวเองว่าสวยก็พูดมาเถอะ]
[รู้สึกว่าซูโย่วอี๋สวยมาก ๆ งั้นเหรอ? บังเอิญจัง ฉันก็คิดแบบนั้น]
[ดูละครกับประธานลู่]
[ประธานลู่ตาดีเหมือนกันนะ]
โดยปกติแล้ว คนในวงการบันเทิงส่วนใหญ่จะกดติดตามลู่เฉินอยู่แล้ว หลังจากลู่เฉินลงเวยป๋อในครั้งนี้ก็เกิดกระแสอันร้อนแรง!
ดูไปสักพัก ซูโย่วอี๋ก็เจอกับคนคุ้นเคย
อวิ๋นเหมี่ยว!