บทที่ 229 ไม่เป็นตัวเอง
บทที่ 229 ไม่เป็นตัวเอง
ท่ามกลางสายตาของเหล่าทหาร โลงศพที่ทำจากพลอยสีดอกตะแบกเนื้อดีถูกยกเข้าไปในกระโจมที่อูซือม่านพักอยู่
มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในยามนี้
“ท่านผู้นำอูอยากนอนกับโลงศพอย่างนั้นหรือ”
“คนผู้นั้นคือใคร? ใช่เข่อลี่น่าที่หายตัวไปในคืนวันแต่งงานไหม”
“แต่คนที่ท่านผู้นำพากลับมาสวมเสื้อผ้าผู้ชายนะ”
อูซือม่านทำเป็นไม่ได้ยินทุกสิ่งรอบตัว เขาใช้ผ้าสีดำคลุมศีรษะของฮั่วเสวียนและพูดเบา ๆ ว่า “พวกเรากลับถึงบ้านแล้วนะ”
จากนั้นก็วางนางลงในโลงอย่างเบามือ
เขาเช็ดหน้าและมือด้วยผ้าให้นางทุกวัน แล้วคุยกับนางที่หมดลมหายใจไปแล้ว
แม้เฟ่ยชินทั่วจะตกใจกับการจากไปของฮั่วเสวียน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นทำให้ผู้บัญชาการของเขาผิดปกติไปจากเดิม!
เขากระวนกระวายมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งหลี่จื้อและข้าราชบริพารนำทหารเข้ามาหาเขา
ระหว่างการปะทะกันภายใน ทหารของหร่งตี๋ที่หลบหนีความโกลาหลไปที่ต้าเซี่ยถูกกองทัพตระกูลฮั่วจับตัว ก่อนจะสารภาพว่าจับฮั่วเสวียนไปทรมานที่ใด
จากนั้นขุนนางชั้นผู้ใหญ่เลยมาตามหาคนที่หร่งตี๋
“อูซือม่าน ฮั่วเสวียนอยู่ที่ใด”
ทั่วทั้งตัวของอูซือม่านถูกคลุมด้วยเสื้อขนสัตว์สีดำ ทำให้ไม่มีใครเห็นสีหน้าของเขา
เฟ่ยชินทั่วรีบพูดขึ้นว่า “ฮั่วเสวียนตายแล้ว หากพวกเจ้าต้องการ ก็เอาศพนางไป”
เขากังวลเนื่องจากยังหาวิธีจัดการกับฮั่วเสวียนไม่ได้ ทว่าก็คิดไม่ถึงว่าทางต้าเซี่ยจะมาตามหานาง
ดีเหมือนกัน ส่งฮั่วเสวียนกลับต้าเซี่ย สภาพจิตใจผู้นำของเขาจะได้ดีขึ้นในเร็ววัน
หากแต่ชุยดาบเดียวไม่เชื่อและคำรามว่า “เจ้าหมายความว่ายังไง”
“เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ ฮั่วเสวียนตายแล้ว!”
“เป็นไปไม่ได้ ท่านแม่ทัพทั้งฉลาดและเก่งกาจถึงเพียงนั้น เขาไม่มีวันตายง่าย ๆ เจ้าคิดจะหลอกพวกข้าอย่างนั้นหรือ”
ดวงตาของชุยดาบเดียวแดงก่ำและจ้องมองไปที่เฟ่ยชินทั่ว
ส่วนอูซือม่านก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
ใช่ เขาสงสัยมาตลอดว่าทำไมฮั่วเสวียนถึงตายอย่างง่ายดายภายใต้คมมีดของเขา
นั่นทำให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ยิ่งสงสัย “อูซือม่าน ต้าเซี่ยไม่มีความตั้งใจที่จะเริ่มสงครามในครั้งนี้ เรามาเพื่อรับตัวฮั่วเสวียนผู้ทรยศเท่านั้น ตราบเท่าที่เจ้ามอบศพของเขาคืนมา กองทัพของเราจะถอนตัวออกจากหร่งตี๋ทันที”
“คนทรยศรึ?” อูซือม่านหรี่ตา
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ตระกูลฮั่ววางแผนกบฏ ฮั่วเสวียนจึงถือเป็นคนทรยศของต้าเซี่ย!”
ทันใดนั้นอูซือม่านก็ยิ้มออกมา ดวงตาของเข้าเต็มไปด้วยความอ้างว้างและโกรธแค้น
เช่นนี้นี่เอง
ถ้าตอนนั้นเจ้าไม่ไร้ซึ่งความสิ้นหวัง คงไม่บุกเข้ามาในหร่งตี๋คนเดียวและต้องการจะสละชีวิตเช่นนั้น
เจ้ากังวลว่าข้าจะไม่ต่อสู้กับเจ้า จึงพูดว่าถ้าข้าชนะ เจ้าจะอยู่กับข้าด้วยความเต็มใจ เจ้าหลอกลวงข้า
เจ้าต้องการให้ข้าตัดหัวของเจ้าแล้วส่งไปที่ต้าเซี่ยเพื่อพิสูจน์ให้จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยเห็นว่าเจ้าไม่ได้เป็นกบฏ
เจ้าได้คิดทุกอย่างถี่ถ้วนแล้ว แต่เจ้าไม่ได้คิดถึงข้าเลยแม้แต่น้อย!
ฮั่วเสวียน เจ้าโหดร้ายมาก!
มันเป็นไปตามที่เจ้าต้องการแล้ว!
ต้าเซี่ยใส่ร้ายเจ้าถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้ายังปกป้องพวกเขาอยู่
ข้าจะทำให้ทุกคนในตระกูลฮั่วถูกฝังไปพร้อมกับเจ้า!
จากนี้ไป ข้าจะไม่มีวันให้เจ้าได้มีความข้องเกี่ยวกับต้าเซี่ยอีก!
มุมปากเผยรอยยิ้มอันแสนเยือกเย็นขึ้น “ฮั่วเสวียนได้สื่อสารกับหร่งตี๋แล้ว ก่อนที่กองทัพทั้งสองจะต่อสู้กัน ต้าเซี่ยยอมล่าถอยอย่างเต็มใจ เพราะแม่ทัพแอบส่งข่าวถานการณ์ของกองทัพต้าเซี่ยให้ข้า และแสร้งทำเป็นต่อสู้เพื่อตบตาคนภายนอกเท่านั้น”
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผงะไปครู่หนึ่ง ความผิดฐานกบฏนั้นมีมูลจริง ๆ หรือ?
ฮั่วเสวียนกบฏจริง ๆ
หลี่จื้อขมวดคิ้ว “อูซือม่าน หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ฮั่วเสวียนอยู่ที่ใด ให้เขาออกมาเผชิญหน้ากับข้า”
“หึ” อูซือม่านพูดอย่างประชดว่า “ตายแล้ว”
เฟ่ยชินทั่วกำดาบแน่น “ใช่แล้ว ร่างของฮั่วเสวียนอยู่ในค่ายผู้บัญชาการ”
อูซือม่านชำเลืองมองไปที่เฟ่ยชินทั่วที่เหมือนจะเสียสติไปแล้ว
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากส่งฮั่วเสวียนออกไปอย่างรวดเร็ว
หลี่จื้อก้มศีรษะลงและมองไปที่ชุยดาบเดียว “ข้าจะเข้าไปตรวจสอบในกระโจมของอูซือม่าน”
หลังจากพูดจบเขาก็พุ่งตัวไปทันที
เพื่อที่จะช่วยฮั่วเสวียน หลี่จื้อได้ทำความเข้าใจแผนผังค่ายหร่งตี๋อย่างถ่องแท้ เขาพบที่พักของอูซือม่านอย่างรวดเร็ว
เมื่อเปิดม่านออก โลงศพที่ทำจากหินพลอยคุณภาพสูงก็ปรากฏให้เห็น
ใครคือคนที่นอนอยู่ข้างในหากไม่ใช่ฮั่วเสวียน?
เขาคิดถึงความตายมาสักพักแล้ว หากแต่ใบหน้าของฮั่วเสวียนกลับไม่มีรอยเลือดใด ๆ เลย ใบหน้าของเขาซีดเซียว ไม่ว่าเขาจะเคยบ้าดีเดือดเพียงใด แต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว
จากนั้นเสียงของชุยดาบเดียวดังขึ้น “ท่านอ๋อง เร็วเข้าขอรับ”
อูซือม่านคลั่งไปแล้ว เขาและทหารหลายคนไม่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้นาน
สิ้นเสียงนั้น หลี่จื้อก็ระงับความสมเพชในใจของเขาในทันที “ท่านแม่ทัพ ข้าขอโทษ”
เขาตัดศีรษะของฮั่วเสวียนด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว!
เขายกศีรษะขึ้นและเดินออกจากกระโจม “ท่านแม่ทัพใหญ่ตายแล้ว หัวของเขา… อยู่นี่”
อูซือม่านหันศีรษะไปเห็นภาพนี้ก็โกรธจัด “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ทั้งสองสู้ฟันกันอย่างดุเดือด
หลี่จื้อรู้สึกว่าท่าทีของอูซือม่านที่มีต่อฮั่วเสวียนนั้นแปลกไป เขาลดเสียงลงในขณะที่ตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่าย “อูซือม่าน หากเจ้าไม่หยุด ข้าจะทำลายหัวของนาง”
ได้ยินเช่นนั้นอูซือม่านก็หยุดและระงับความโกรธของตนลง
หลี่จื้อถือโอกาสนี้ประกาศต่อหน้าเหล่าทหารต้าเซี่ย พร้อมกับหัวของฮั่วเสวียน และตะโกนเสียงดังว่า “เพื่อกำจัดอันตรายที่ซ่อนอยู่ในชายแดนต้าเซี่ย ท่านแม่ทัพมาที่หร่งตี๋เพียงลำพังเพื่อลอบสังหารอูซือม่าน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาได้เสียชีวิตลงภายใต้ดาบของอูซือม่าน หรือแม้แต่โดนตัดหัว!”
ชุยดาบเดียวสติแตกทันทีที่เห็นหัวของฮั่วเสวียน “เป็นไปไม่ได้ ท่านแม่ทัพจะตายได้ยังไง”
ชายผู้หยาบกระด้างและแข็งแกร่งมาโดยตลอดหลั่งน้ำตาไหลออกมาโดยละทิ้งซึ่งภาพลักษณ์ใด ๆ
เสียงร้องของเขาทำให้ทหารของต้าเซี่ยต่างพากันโศกเศร้า
“ท่านแม่ทัพไม่ได้กบฏ เขาจะภักดีต่อต้าเซี่ยไปจนวันตาย หัวใจของเขายิ่งใหญ่ไม่มีอะไรมาเทียบได้”
ทหารต้าเซี่ยคุกเข่าทีละคน “ได้โปรดคืนความบริสุทธิ์ของท่านแม่ทัพด้วย”
“แม่ทัพจงรักภักดีต่อจักรพรรดิและรับใช้ชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด ข้าหวังว่าศาลท่านจะไม่ทำให้หัวใจของทหารที่เขตชายแดนนี้เสื่อมเสีย”
“ชดใช้ให้ท่านแม่ทัพด้วย!”
เมื่อมองไปที่เสียงที่ดังกึกก้องต่อหน้าเขา ขุนนางชั้นผู้ใหญ่รู้สึกราวกับว่าตนกำลังถูกย่างบนกองไฟ
การจับกุมกลายเป็นการชดใช้ และธุระของจักรพรรดิก็พาลวุ่นวาย
โชคดีที่ฮั่วเสวียนตายแล้ว และตระกูลฮั่วก็คงไม่ได้เสียใจอะไร
“ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิ แล้วจึงตัดสินใจอีกที”
“พวกเขาได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ท่านผู้นำอู พวกข้าขอตัวกลับก่อน”
ชุยดาบเดียวยืนขึ้น “มอบร่างของท่านแม่ทัพคืนมาด้วย”
“ใช่ เอาร่างเขาคืนมา”
แม่ทัพใหญ่จะมาตายในต่างแดนได้อย่างไร?
อูซือม่านมองไปที่ทหารต้าเซี่ย และค่อย ๆ ถอยออกเพื่อให้ชุยดาบเดียวเข้าไปพาร่างนางออกมา
“ชุยดาบเดียว”
ชุยดาบเดียวหยุดอยู่กับที่ เขามองไปที่อูซือม่านราวกับถูกวางยาพิษ
“ฝังนางให้ดี”
“อูซือม่าน ตราบใดที่ข้าอยู่ในโลกนี้ ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป”
ว่าจบหลี่จื้อและพรรคพวกของเขาพาร่างของฮั่วเสวียนเคลื่อนออกจากค่ายของหร่งตี๋
จากนั้นเฟ่ยชินทั่วก็คุกเข่าลงต่อหน้าอูซือม่านด้วยความรู้สึกผิด “โปรดลงโทษข้า”
กองทัพทั้งสองเผชิญหน้ากัน เขารู้ว่าท่านผู้นำเป็นห่วงฮั่วเสวียนเพียงใด แต่เขาละเมิดความปรารถนาของท่านผู้นำซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงเปิดเผยว่าศพของฮั่วเสวียนอยู่ที่ใด
หากแต่อูซือม่านยืนขึ้นด้วยสีหน้าราวกับวิญญาณหลุดลอย “ข้าเพิ่งรู้วันนี้ว่าการรักใครสักคนมันทำให้คนเราไม่เป็นตัวเองได้ถึงเพียงนี้”
เขาไม่สามารถแม้แต่จะแก้แค้นฮั่วเสวียน
เมื่อนึกถึงภาพทหารต้าเซี่ยที่คุกเข่าลงเพื่อขอร้อง ในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยภาพของฮั่วเสวียนและหุยเค่อตงหลังจากที่นางชนะการประลอง
เจ้าคือทหารต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่ ข้านับถือเจ้าจากหัวใจ!