บทที่ 232 ความรัก
บทที่ 232 ความรัก
ถ้าไม่มีคุณนายลู่ ตระกูลลู่ในตอนนี้คงไม่สามารถมาอยู่ในบริษัทชั้นนำได้อย่างมั่นคงเช่นนี้
จนนิตยสารพีเพิลเลือกเธอให้เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดหญิงเก่งของประเทศจีน
พอซูโย่วอี๋อ่านรายละเอียดการเจรจาธุรกิจที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ ครั้งของคุณนายลู่ เธอก็หลงใหลในเสน่ห์ของคุณนายลู่ในทันที
มีพ่อกับแม่ที่ยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ ลู่เฉินไม่รู้สึกภาคภูมิใจบางเลยเหรอ?
ทำไมถึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันล่ะ
ทันใดนั้นซูโย่วอี๋ก็รู้สึกว่าเธอไม่เคยรู้เรื่องราวในอดีตของลู่เฉินมาก่อนเลย
เพราะเธอใส่ใจลู่เฉินน้อยเกินไปหรือเปล่านะ?
นาฬิกาชี้เวลาตีสอง ซูโย่วอี๋พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ เธอปัดโทรศัพท์ไปมาจนสุดท้ายก็โทรศัพท์หาลู่เฉิน
“[ฮาโหล]”
เสียงสัญญาณดังขึ้นไม่เกินสามวินาที สายโทรศัพท์ก็ถูกรับ เสียงของลู่เฉินดูยืดยาน เห็นได้ชัดว่าเขาถูกปลุกให้ตื่น
ซูโย่วอี๋รู้สึกผิดขึ้นมาในทันที เธอรู้ว่างานของลู่เฉินยุ่งมาก ๆ เธอเลยไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเขาดึกดื่นขนาดนี้
“ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไร คุณนอนต่อเถอะ”
ลู่เฉินพลิกตัวและพูดด้วยเสียงขึ้นจมูก “[อืม คุณพูดมาเลย ผมฟังอยู่ เป็นอะไรหรือเปล่า]”
“ฉันถ่ายละครเสร็จแล้ว”
ดวงตาของลู่เฉินเปิดขึ้นเล็กน้อย “[ดีใจจนนอนไม่หลับเลยเหรอ?]”
“นิดหน่อย ฉันจองเครื่องบินกลับพรุ่งนี้ตอนเช้า มีเรื่องอะไรค่อยพูดกันต่อหน้าแล้วกันนะ คุณนอนก่อนเถอะ”
มีเสียงไอมาจากปลายสาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงกลืนน้ำ “[ไม่ง่วงนอนแล้ว ตอนนี้คุณมีเวลาอีกมากที่จะบอกผมว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่]”
ซูโย่วอี๋กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ “ลู่เฉิน ทำไมเมื่อก่อนฉันดูไม่ออกเลยนะว่าคุณดื้อ”
ดื้อ?
“[คุณเป็นคนแรกที่พูดกับผมแบบนี้เลยนะ]”
ซูโย่วอี๋ไม่พูดอ้อมค้อมอีกต่อไป “รุ่นพี่ฮันเจ๋อหยางบอกฉันว่าคุณนายลู่จะกลับมาแล้ว”
นิ้วเรียวยาวของลู่เฉินกำลังถือโทรศัพท์อยู่ “[อืม วันพุธหน้าน่ะ]”
เขาพอจะเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้แฟนสาวตัวน้อยของเขานอนไม่หลับกลางดึกอย่างนี้แล้ว
“[ผมดีใจมากนะ ที่ดึกดื่นขนาดนี้แล้วคุณก็ยังโทรศัพท์มาถามผม]”
“หืม?”
ซูโย่วอี๋ไม่เข้าใจ มีอะไรให้น่าดีใจกัน “คุณไม่คิดว่าฉันน่ารำคาญเหรอ?”
ถ้ามีใครมารบกวนเวลานอนของเธออย่างนี้ เธอคงหงุดหงิดไปแล้ว ถึงจะเป็นคนที่ชอบก็เถอะ
“[ไม่รำคาญ]”
เสียงของลู่เฉินต่ำลงและเต็มไปด้วยความเย้ายวน
“[ผมดีใจที่คุณพูดเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกกังวลใจออกมาด้วยตัวเอง อย่างน้อย ๆ นี่ก็ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างเราสองคน]”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง
“[ผมไม่ได้บอกคุณเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ไม่ว่าเธอจะคิดยังไง พวกเราก็จะอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนไป]”
แม้ว่าซูโย่วอี๋จะรู้สึกประทับใจในความหนักแน่นของลู่เฉิน แต่เธอก็ยังอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “คุณเคยคิดมาก่อนมั้ย หรือคุณคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยไม่ยอมบอกฉัน นี่มันคิดถึงแต่ตัวเองชัด ๆ คุณตัดสินใจไปเองโดยไม่ปรึกษาฉันเลยสักนิด”
“ฉันหวังให้คุณพูดมันออกมา แล้วให้พวกเราสองคนช่วยกันตัดสินใจ ถ้าเกิดว่าฉันต้องรับรู้เรื่องต่าง ๆ จากปากของคนอื่น… ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูโย่วอี๋พูดความคิดจริง ๆ ของเธอออกมาให้ลู่เฉินได้ฟัง
ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
นั่นทำให้ลู่เฉินนึกถึงอวิ๋นเหมี่ยวและนึกถึงเรื่องที่คุณนายลู่จะกลับมา เขาจึงรู้สึกว่ายังให้เกียรติซูโย่วอี๋ไม่มากพอ
“[อืม ที่คุณพูดก็ถูก ผมควรบอกคุณไปตามตรง]”
ซูโย่วอี๋รู้สึกมีความสุขขึ้นมา เหมือนได้รับชัยชนะครั้งใหญ่
“ฉันพูดสิ่งที่อยากพูดออกไปหมดแล้ว ฉันรู้สึกสบายตัวขึ้นแล้วล่ะ อยากนอนแล้วด้วย”
ลู่เฉินยกมุมปากขึ้น “[โอเค ๆ งั้นพรุ่งนี้กลับมานอนด้วยกันนะครับ]”
ใบหน้าของซูโย่วอี๋แดงก่ำพร้อมกับเตรียมจะกดวางสายโทรศัพท์
“[พรุ่งนี้คุณมาถึงปักกิ่งตอนกี่โมง ผมจะไปรับคุณเอง]”
“บ่ายสองโมง”
เพราะไม่อยากรีบตื่นนอน ซูโย่วอี๋เลยไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่เช้าที่สุด
“[โอเค โย่วอี๋ ฝันดีนะครับ]”
เมื่อวางสายไป ซูโย่วอี๋ก็คิดขึ้นมาว่าในที่สุดเธอก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจสักที
ทันใดนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์มือถือ ทำให้ซูโย่วอี๋แทบจะกระโดดลงมาจากเตียง
[ดาราดังซูหยินถูกสงสัยว่ากำลังปลูกต้นรักอยู่กับผู้บริหารเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์]
เมื่อเห็นข่าวนั้น ซูโย่วอี๋ก็นึกถึงกู่อวี๋เฉิงขึ้นมาในทันที แต่ครั้งที่แล้วตอนที่คุยกับซูหยิน เห็นได้ชัดว่าซูหยินยังมีความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้อยู่ ทำไมอยู่ดี ๆ ข่าวนี้ถึงหลุดออกมาไวขนาดนี้?
พอกดเข้าไปดูก็พบว่าในข่าวนั้นเขียนบรรยายเอาไว้ได้ชัดเจนมาก
เห็นได้ชัดว่าปาปารัสซี่ติดตามพวกเขามาเป็นเวลานานแล้ว และยังอธิบายถึงลำดับเหตุการณ์การนัดเดทของซูหยินกับกู่อวี๋เฉิงออกมาได้ทั้งหมด
เขาไปรับซูหยินตอนเลิกงาน ดินเนอร์ใต้แสงเทียน เดินจูงมือกันที่สวนสาธารณะ
และไฮไลต์ที่สุดของข่าวนี้ก็คือภาพการจูบกันบนรถ
ซูโย่วอี๋เปิดดูช่องความคิดเห็น ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างพากันสงสัยว่าตกลงแล้วคนที่จูบกันบนรถใช่ซูหยินหรือไม่
แต่ซูโย่วอี๋มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านั่นคือซูหยิน
แม้ว่าจะเห็นเพียงแค่ศีรษะด้านหลัง แต่ซูโย่วอี๋ก็จำเธอได้!
หญิงสาวรู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะโทรศัพท์ไปก่อกวนซูหยินในกลางดึกเสียตอนนี้
เธอจ้องมองไปบนเพดานด้วยใจที่ไม่สามารถสงบลงได้
ช่างเถอะ
ซูหยินกับกู่อวี๋เฉิงตัวติดกันอย่างกับกาวแบบนั้น ตอนกลางคืนคงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกมั้ง
เธอพิมพ์ข้อความไปถามก่อน ถ้ากู่อวี๋เฉิงได้ยินก็คงจะเกร็ง ๆ
เพราะมันมีบางเรื่องที่ไม่สามารถบอกให้แฟนหนุ่มสุดที่รักรู้ได้
ซูโย่วอี๋อ่านรายงานในข่าวอย่างกระตือรือร้น เพื่อจะได้อ่านรายละเอียดการออกเดตของทั้งสองให้ละเอียดถี่ถ้วน
สถานการณ์นี้ทำให้เธอนึกถึงตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอไม่เคยจริงจังกับการทำความเข้าใจในการอ่านบทความอะไรเท่านี้มาก่อน
ซูโย่วอี๋อ่านไปด้วยพร้อมใช้ความคิดไปด้วย ถ้ากลับไปแล้ว เธอจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกับลู่เฉิน แล้วจะจับมือกันแบบนี้บ้าง!
แม้ว่าข่าวจะเผยแพร่ออกมากลางดึก แต่มันก็เป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็ว ทำให้เหล่ามนุษย์กลางคืนที่นอนดึกต่างพากันตามข่าวนี้
มีการแสดงความคิดเห็นนับหมื่นภายใน 10 นาที
มีทั้งคนที่อวยพรให้ คนที่ด่า และคนที่อิจฉาตาร้อน
จนกระทั่งซูโย่วอี๋เห็นความคิดเห็นหนึ่ง
[หึ ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยเหรอว่า sy เคยถูก hj เลี้ยงดูมาก่อน?]
sy ย่อมาจากซูหยินชัดเจน แต่ hj นั้นเป็นใครไม่มีใครรู้
[ห๊ะ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ คุณพิมพ์ชื่อเขาออกมาเลยสิ]
[ใช่ ๆ อย่าทำให้คนอื่นสงสัยแบบนี้]
[ฉันก็เคยได้ยินมาก่อนนะ เหมือนว่าคนวงในก็รู้กันหมด แต่เรื่องนี้เอามาพูดได้เหรอ]
เจ้าของความคิดเห็นตอบกลับอย่างรวดเร็ว :
[ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะ ถ้าพวกคุณอยากจะรู้อะไรก็ลองหาดูเอาในเน็ตสิ น่าจะเคยมีกระทู้ข่าวอยู่บ้าง ฉันจะไม่ขอพูดอะไรแล้ว กลัวว่าความคิดเห็นนี้จะถูกลบทิ้ง]
ความคิดเห็นยังคงถูกเผยแพร่ออกไป จนมันกลายเป็นการโจมตีบุคคลที่สามไปแล้ว
[ฉันก็ว่าทำไมซูหยินถึงปีนขึ้นมาได้ไวขนาดนี้]
[มีคนช่วยดันนี้เอง]
[อ่า เดิมทีก็คิดว่าเทพธิดาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตอนนี้ความคิดนั้นหายวับไปเลย]
[แค่หน้าตาดีก็พอแล้ว ไม่มีอะไรจะพูดเรื่องใบหน้าของซูหยินเลย ฉันรักเธอจริง ๆ]
ซูโย่วอี๋เปิดบัญชีผู้ใช้ขึ้นมา เธอแสดงความคิดเห็นในช่องความคิดเห็นอย่างบ้าคลั่ง
[เรื่องของคนอื่นไม่ต้องไปยุ่งให้มาก รีบไปอาบน้ำนอนไม่ดีกว่าหรือไง]
[คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลยหรือไง ใครบอกคุณกัน ซูหยินโทรศัพท์ไปบอกคุณเหรอ?]
[อย่านินทาคนอื่นลับหลัง แล้วก็อย่าทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูด]
[ขออวยพรให้ทั้งสองคนคบกันไปนาน ๆ]
เหล่าชาวเน็ตเห็นบัญชีผู้ใช้นี้แสดงความคิดเห็นในช่องความคิดเห็นอย่างบ้าคลั่ง
[คุณคงไม่ใช่ sy ใช่มั้ย]
[นั่นสิ มาแสดงความคิดเห็นด้วยตัวเองหรือเปล่าฮ่า ๆ ๆ]
[จะว่าไป ฉันลองดูแล้ว เป็นบัญชีที่พึ่งสร้างขึ้นมาจริง ๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยแสดงความคิดเห็นอะไรมาก่อนเลย]
[หรืออาจจะเป็นคนที่บริษัทจ้างมา ฝ่ายชายเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทบันเทิง จะทำแบบนั้นก็ยังได้]
[ที่พูดมาก็มีเหตุผล เหล่าพี่น้องพวกเราต้องยึดมั่นกันต่อไป หากมีการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยก็แสดงว่าไม่มีมูลของความจริง]
[หึ ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริง]
[ทุกคนช่วยอย่าเขียนชื่อย่อได้มั้ย อ่านดูแล้วมันเหนื่อยจริง ๆ]
ซูโย่วอี๋โกรธจนแทบหายใจไม่ออก เธอคงไม่ได้… หวังดีจนทำให้เรื่องมันแย่ลงใช่ไหม