บทที่ 49 เกลียดชังราวกับว่าฆ่าใครตาย
บทที่ 49 เกลียดชังราวกับว่าฆ่าใครตาย
ใบหน้าหล่อเหลาของลู่เฉินไม่ได้หันกลับมามองเธอ สายตาของเขาทอดมองออกไป “ก็เธอทำตัวไม่ดีกับคุณไม่ใช่เหรอ?”
อะไรนะ?
แล้วมันเกี่ยวกันยังไง?
“หลังจากที่ผมบอกเรื่องของคุณ เธอก็จะจัดประเภทคุณอยู่ในกลุ่มเปราะบางโดยอัตโนมัติ”
“เธอจะได้ไม่ทำให้คุณลำบากใจอีก”
ราวกับมีเสียงจั๊กจั่นร้องระงม
ซูโย่วอี๋จ้องมองใบหน้าของลู่เฉิน และรู้สึกแปลก ๆ ในใจ
“ประธานลู่ หากคุณมีลูก ลูกของคุณต้องเป็นคนเจ้าเล่ห์มากแน่ ๆ”
ลู่เฉินเป็นคนที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ซูโย่วอี๋เคยเจอ
เพราะอย่างนั้น เขาต้องมีวิธีจัดการกับหลินเจี้ยนกับฉูรั่วฮวนแน่
‘เจ้าจิ้งจอกเน่า ถ้าลู่เฉินหาคนทำผิดได้ ภารกิจของฉันจะสำเร็จไหม’
สุนัขจิ้งจอกกลอกตาและพูดว่า [แน่นอนว่าไม่นับ นี่เป็นภารกิจของคุณ ไม่ใช่ของลู่เฉิน]
โอเค
ลู่เฉินเหลือบเห็นผู้อำนวยการและอาจารย์จงที่ชั้นบน จากนั้นเขาก็มองไปที่ซูโย่วอี๋ซึ่งอยู่ในภวังค์และเขาก็กระแอมให้เธอรู้ตัว
“แดดมันร้อนนะ พวกสาว ๆ คนอื่นต่างก็กลัวแดด ใส่เสื้อแขนยาวกันหมดแล้วทำไมคุณถึงไม่ใส่ล่ะ”
ฮะ?
ซูโย่วอี๋มองไปตามสายตาของลู่เฉิน และพบว่ามีเด็กสาวหลายคนกำลังทำกิจกรรมอยู่
เธอไม่เคยใช้ชีวิตที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้มาก่อน
เสื้อแขนยาว?
จู่ ๆ ซูโย่วอี๋ก็นึกบางอย่างได้ ฉูรั่วฮวนสวมเสื้อแขนยาว แต่หลินเจี้ยนไม่ได้สวมนี่นา
หากอ้างอิงจากสิ่งที่ฉูรั่วฮวนพูดก่อนหน้านี้ ที่เธอบอกว่าคุณยายจับมือของหลินเจี้ยน
ถ้าอย่างนั้นคุณยายก็น่าจะจำได้ว่าคนที่เธอจับสวมเสื้อแขนยาวหรือไม่ได้สวม
“ประธานลู่…”
ซูโย่วอี๋พยายามบอกลู่เฉินว่าเธอนึกอะไรบางอย่างได้ แต่ลู่เฉินก็ไม่อยู่แล้ว
“ผู้อำนวยการ อาจารย์จง”
มีหลายคนเข้ามาในห้องประชุมเพื่อพูดคุยหาทางออกของเรื่องนี้
ซูโย่วอี๋เห็นอย่างนั้นจึงตามเข้าไป และหวังว่าผู้อำนวยการและพวกเขาจะพบหลักฐานอะไรบางอย่าง
แต่ความจริงแล้วกลับไม่มีอะไรคืบหน้า
สิ่งที่คุณยายพูดก็เหมือนกับสิ่งที่พวกเธอพูด
คนหนึ่งเตรียมน้ำและอีกคนเข้ามาช่วยเธอ
คุณยายตาไม่ดีและมองไม่ชัดว่าใครอยู่ข้างหน้าเธอ เธอได้ยินเพียงการสนทนาและการเคลื่อนไหวของพวกเธอเท่านั้น
เพราะอย่างนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครกันแน่ที่โกหก และทุกคำที่พวกเธอพูดคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเวลานั้น!
อับจนหนทางอีกครั้ง
หลินเจี้ยนทรุดตัวลงและร้องไห้โดยหวังว่าสิ่งนี้จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะไม่ได้ผล
จู่ ๆ ซูโย่วอี๋ก็พูดขึ้น “หลินเจี้ยนกับฉูรั่วฮวน มีคนหนึ่งสวมเสื้อแขนยาวและอีกคนหนึ่งไม่ได้สวม ถึงคุณยายจะตาไม่ดีแต่ก็ไวต่อการได้ยินและการสัมผัส เธอคงจะบอกได้ว่าคนที่เธอจับสวมเสื้อแขนยาวหรือไม่”
ทันทีที่เธอพูดแบบนี้ ทุกคนในห้องประชุมก็มองมาที่เธอ
ใบหน้าของฉูรั่วฮวนเปลี่ยนไป “ซูโย่วอี๋ มันไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ซูโย่วอี๋มองตรงไปที่หญิงสาว “ใช่ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน แต่ฉันแค่เสนอความคิด”
เมื่อได้ยินข้อเสนอของซูโย่วอี๋ทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับเธอ
ผู้อำนวยการถังออกจากห้องประชุมทันทีและโทรหาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้สูงอายุ
“ใช่ สวมเสื้อแขนยาวไหม”
“คุณแน่ใจไหม?”
“อืม เข้าใจแล้ว”
เมื่อผู้อำนวยการถังกลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้ง สายตาของเขาก็จับจ้องไปยังหญิงสาวที่สวมเสื้อแขนยาว
ตอนนี้ฉูรั่วฮวนเหมือนยืนอยู่บนเข็ม
ผู้อำนวยการถังเดินไปหาลู่เฉิน และพูดว่า “คุณยายแน่ใจว่าคนที่ช่วยเธอลุกขึ้นในเวลานั้นและผลักเธอลงไปสวมเสื้อแขนยาว เพราะในตอนที่คุณยายล้มลง เธอพยายามคว้าเสื้อผ้าของคนคนนั้น”
ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ
ใบหน้าของหลินเจี้ยนที่ร้องไห้ตลอดเวลาในที่สุดก็ยิ้มได้ เธอโบกมือแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ใส่เสื้อแขนยาว ดูสิ ไม่ใช่ฉัน”
ฉูรั่วฮวนมองไปที่ซูโย่วอี๋อย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไร
ดวงตาของเธอราวกับมีดที่ทำให้ผู้คนสั่นเทาโดยไร้เหตุผล
ความเกลียดชังฉายแววออกมาราวกับเธอไปฆ่าใครตาย
“ซูโย่วอี๋ คุณออกไปก่อน”
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เฉิน ซูโย่วอี๋ก็ออกมาจากห้องประชุมอย่างรวดเร็วราวกับว่าได้ถูกปล่อยออกจากสถานกักกัน
สำหรับการสอบสวน เธอไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้ และนั่นก็ไม่ใช่ธุระของเธอ
ติ๊ง!
[รางวัลภารกิจ: ขอแสดงความยินดีกับซู่จู่ที่ทำภารกิจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้สำเร็จ และให้รางวัลแพ็กเกจเร่งการลดน้ำหนัก]
เร่งการลดน้ำหนัก?
ซูโย่วอี๋เข้าไปในห้องน้ำและเข้าไปในระบบเพื่อตรวจสอบรางวัล
[แพ็กเกจเร่งการลดน้ำหนัก] ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้ใช้ การใช้แพ็กเกจเร่งการลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักปัจจุบันได้ 10% โดยไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ
ตามคำอธิบายของแพ็กเกจลดน้ำหนัก เป็นเรื่องธรรมดาที่หากน้ำหนักของผู้ใช้มาก ผลของแพ็กเกจนี้ก็จะยิ่งคุ้มค่ามาก
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณหนัก 90 กิโลกรัม คุณจะลดได้ 9 กิโลกรัม แต่ถ้าคุณใช้ตอนน้ำหนัก 50 กิโลกรัม คุณจะลดได้เพียง 5 กิโลกรัม
ซูโย่วอี๋มีน้ำหนัก 77 กิโลกรัม การใช้แพ็กเกจนี้สามารถลดน้ำหนักของเธอได้ถึง 7.7 กิโลกรัม
สุนัขจิ้งจอกพูดว่า [ซู่จู่ ฉันแนะนำว่าอย่าเพิ่งใช้มันตอนนี้]
ซูโย่วอี๋ไม่ได้ตั้งใจจะใช้มันในตอนนี้อยู่แล้ว เรื่องการลดน้ำหนัก เธอจะใช้ความพยายามของเธอเอง แทนที่จะพึ่งพาระบบ
แต่เธอยังต้องการฟังเหตุผลจากเจ้าจิ้งจอก
“คุณหมายความว่าอย่างไร?”
[อย่างที่เคยบอกไป การลดน้ำหนักจะยากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อย่างที่เขาว่า เหล็กดีไว้ใช้ทำใบมีด แพ็กเกจเร่งลดน้ำหนักก็คือเหล็กที่ดี จึงต้องใช้มันเพื่อแก้ปัญหา ในตอนที่ลดน้ำหนักยากที่สุด]
ซูโย่วอี๋พยักหน้า “อืม เข้าใจแล้ว ประเด็นที่สองล่ะ?”
สุนัขจิ้งจอกเปล่งเสียงยาว [ประเด็นที่สองคือถ้าทุกคนรู้ว่าคุณสามารถลดจาก 65 กิโลกรัมไปเป็น 50 กิโลกรัมในหนึ่งสัปดาห์ พวกเขาคงบ้าคลั่งกันไปหมดแน่!”
ซูโย่วอี๋แตะคางของเธออย่างครุ่นคิดและพูดว่า “บางครั้งคุณก็ฉลาดดีนะ”
สุนัขจิ้งจอกชูหางขึ้นและพูดว่า [แน่นอน อะไรที่มาจากระบบย่อมมีคุณภาพ]
“เจ้าจิ้งจอกเน่า ฉันรู้สึกว่าสำนวนภาษาและความรู้ของนายดีขึ้นมากนะ นายไม่รู้สึกบ้างเลยเหรอ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สุนัขจิ้งจอกก็จริงจังและพูดว่า [ใช่ ฉันพบว่าทุกครั้งที่คุณทำภารกิจสำเร็จและได้รางวัล ฉันจะเข้าสู่โหมดการนอนในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งระหว่างนั้นฉันจะไม่รู้สึกถึงเสียงเรียกของคุณ]
“เกิดอะไรขึ้น?”
สุนัขจิ้งจอกขมวดคิ้ว [ฉันไม่รู้ว่าคิดถูกต้องหรือเปล่า ดูเหมือนว่าฉันกำลังวิวัฒนาการ]
ฮะ?
วิวัฒนาการ?
ซูโย่วอี๋ คิดอยู่เสมอว่าระบบได้รับการแก้ไขแล้ว เผลอ ๆ ก็เหมือนกับแอปที่มีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา ระบบยังอัปเกรดได้อีกเหรอ?
ถือว่าเป็นเรื่องดี
“เอาล่ะ”
จากนั้นจึงตกลงกันว่าเราจะยังไม่ใช้ [แพ็กเกจเร่งการลดน้ำหนัก] ในขณะนี้
ณ ห้องประชุม
ศีรษะที่เคยตั้งตรงของฉูรั่วฮวนลดต่ำลง แต่เธอก็ไม่ได้แสดงอาการรู้สึกผิดเลยสักนิด
”อาจารย์และผู้อำนวยการ ให้หลินเจี้ยนออกไปเถอะค่ะ ฉันยอมรับว่าฉันเผลอทำคุณยายล้มลง แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
หลินเจี้ยนได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ค่อยพอใจ “นี่มันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไปไหน”
จากนั้น ฮันเอินจีก็กล่าวว่า “หลินเจี้ยน ออกไปก่อน ฉันและอาจารย์จะจัดการเรื่องนี้อย่างยุติธรรมแน่นอน”
หลินเจี้ยนลังเลและไม่กล้าพูดว่าเธอคิดอะไรอยู่
เธอชำเลืองมองอาจารย์ทีละคน และมองไปที่ลู่เฉิน บางทีเขาอาจจะคิดถึงความดีของเธอที่เอาโจ๊กไปให้เขาให้ในตอนเช้า?
แต่เธอก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ลู่เฉินมองเธอด้วยสายตาเฉยเมยเหมือนกับคนอื่น ๆ
หลินเจี้ยนไม่เต็มใจ แม้ว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อ แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมในการจัดการคนที่ใส่ร้ายเธอ!