บทที่ 50 ภารกิจสำเร็จหรือไม่?
บทที่ 50 ภารกิจสำเร็จหรือไม่?
เมื่อฉูรั่วฮวนเห็นว่าประตูห้องประชุมปิดลง เธอก็พูดต่อ “หากครอบครัวของคุณยายไม่ติดใจอะไร เรื่องนี้จะจบลงไหมคะ?”
ไม่มีการตอบกลับ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ลู่เฉิน
เขาเงียบมากและนั่งเฉยอยู่อย่างนั้น
“ใช่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉูรั่วฮวนก็โล่งอก
แต่ลู่เฉินกลับพูดขึ้นอย่างเย็นชา “แต่ผมมีเงื่อนไขสองข้อ”
“ข้อแรก ไม่ว่าจะใช้วิธีใด อธิบายเรื่องการหกล้มของคุณยายให้ครอบครัวพวกเขาฟังให้เข้าใจในวันนี้ ข้อที่สอง เรื่องนี้ต้องไม่นำปัญหามาให้บ้านพักคนชราเด็ดขาด”
เขาต้องให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
และให้โรงพยาบาลคอยดูแลคุณยายอย่างดีที่สุด
เมื่อซูโย่วอี๋กลับเข้ามาในอาคาร เธอก็พบคุณยายฉินในลานพักผ่อน เนื่องจากเธอไปนานมากจึงคิดว่าคุณยายกลับเข้าห้องพักไปแล้ว
แต่คุณยายกลับนั่งรออยู่ที่นี่ และมีพยาบาลอยู่กับเธอด้วย
ซูโย่วอี๋เดินเข้าไปหาเธอและพูดอย่างเขินอาย “คุณพยาบาล ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเฝ้าดูคุณยายทุกวันอยู่แล้ว เธอก็เหมือนครอบครัวของฉัน”
เมื่อเฉี่ยวเชิงเห็นซูโย่วอี๋กลับมา เธอก็เดินเข้ามาหาด้วยความสงสัย “ซูโย่วอี๋ เธอรู้เรื่องอะไรบ้างไหม? ”
[!!!]
[นั่นสิ ฉันเองก็อยากรู้]
[เธอถามคำถามที่ฉันอยากรู้พอดี]
[ใครกันผลักคุณยายจนล้ม]
[ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก]
[น่ารังเกียจมาก ไม่ต้องการทำความดีแต่ต้องการมีชื่อเสียง คนแบบนี้ไม่สมควรอยู่บนโลก]
ซูโย่วอี๋ส่ายหน้า “ฉันไม่รู้เหมือนกัน”
ลู่เฉินและอาจารย์คงจะแก้ปัญหานี้ได้อยู่แล้ว ถ้าเธอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป มันจะทำให้พวกเขาทำงานได้ยาก
[เธอโกหก เธอเข้าไปในห้องนั้นนะ!]
[ว้าว สาวน้อยของฉันปากแข็งเกินไปแล้ว!]
[ทำไมฉันได้กลิ่นตุ ๆ]
[ใช่ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ไม่ต้องปิดบัง]
[ฉันเริ่มอยากรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ!]
[ต่อมอยากรู้ของฉันทำงานแล้ว]
เมื่อเฉี่ยวเชิงไม่ได้คำตอบที่เธอต้องการ เธอก็รู้สึกเบื่อและจากไป
คุณยายขมวดคิ้วมุ่นมองไปที่ซูโย่วอี๋ “เธอไม่ควรทำแบบนั้นนะ ต้องเข้าสังคมมากกว่านี้”
ในตอนเช้าสาว ๆ ที่ทำงานอาสาสมัครด้วยกันที่สนามจะรวมตัวกันเพื่อพูดคุย แต่ซูโย่วอี๋กลับเงียบและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไร
ซูโย่วอี๋นิ่งเฉยไม่สนใจใคร “คุณยาย ฉันคิดว่าเราเป็นคนประเภทเดียวกันนะคะ”
คุณยายมองแล้วยิ้มน้อย ๆ “นั่นสิ…”
เมื่อทานอาหารเสร็จ ทีมงานแจ้งว่ากิจกรรมอาสาสมัครจะเสร็จสิ้นก่อนกำหนด และให้ไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมในเวลาหกโมงเย็น และทีมงานรายการจะอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับการหกล้มของคุณยายเตียง 48 ให้ทุกคนทราบรวมถึงผู้ชมการถ่ายทอดสดด้วย
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนรีบไปที่ห้องประชุม
และเมื่อซูโย่วอี๋มาถึง ก็มีคนมากมายนั่งอยู่ในห้องประชุมแล้ว เธอจึงหาที่นั่งตามต้องการ
หลังจากที่ตากล้องทั้งห้าสิบคนที่ติดตามสาว ๆ มารวมตัวกันแล้ว การประชุมในครั้งนี้ก็ออกอากาศพร้อมกันบนกล้องทั้งห้าสิบตัว
การถ่ายทอดสดเป็นไปอย่างดุเดือด
มีผู้ชมทั้งหมดในห้องถ่ายทอดสดเกินหนึ่งล้านคน
ลู่เฉิน ฮันเอินจี แจ็คและผู้อำนวยการถังนั่งแถวแรก ขณะที่จงลี่นั่งอยู่บนเวที
ซูโย่วอี๋งงงวยพวกเขาไม่ได้ให้ฉูรั่วฮวนขอโทษเหรอ?
มาถึงตอนหกโมง
จงลี่หันหน้าไปทางกล้องและกล่าวว่า “สำหรับการล้มของคุณยายบนเตียง 48 ในบ่ายวันนี้ ในนามของทีมงานรายการ ผมต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูงอายุ ครอบครัว ผู้ชมทุกคนในห้องถ่ายทอดสด และบ้านพักคนชราด้วยครับ”
“เพราะความประมาทของเด็กฝึก คุณยายจึงล้มลงและบาดเจ็บ ซึ่งทีมงานขอสัญญาว่ารายการจะดูแลคุณยายอย่างเต็มที่และรับผิดชอบจนถึงที่สุด”
ซูโย่วอี๋ขมวดคิ้วทันทีที่เธอได้ยิน ทำไมเรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นเพราะความประมาทได้ล่ะ?
แล้วผู้ชมจะเชื่อเหรอ?
ท้ายที่สุด ต่างก็มีการพูดคุยถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างกว้างขวางในช่องแสดงความคิดเห็น
[ประมาท?]
[เขาพูดอย่างมั่นใจมากเลยนะ]
[ทำไมจู่ ๆ ถึงมาเป็นแนวนี้ได้]
[ฉันเห็นพวกสมคบคิดอีกแล้ว]
[จงลี่มีวุฒิภาวะมากพอ ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่โกหก]
[เชื่อง่าย ๆ ซะอย่างนั้น พลังของเงินไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ]
[สนับสนุนอาจารย์จงลี่]
แต่ซูโย่วอี๋ก็คิดอย่างที่ผู้ชมคิดเช่นกัน แล้วทีมงานรายการจะคิดไม่ได้เลยเหรอ?
หลังจากที่จงลี่พูดจบ คุณยายคนหนึ่งก็ถูกเข็นออกมา
“เราได้รับความยินยอมจากคุณยาย ในการอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทุกคนทราบด้วยตัวเองครับ”
คุณยายในรถเข็นดูมีอายุมากแล้ว เสื้อผ้าบนร่างกายและผมดูเรียบร้อย เธอดูเป็นคนสูงอายุที่ใครต่อใครก็ต้องเกรงใจ
หลังจากที่คุณยายขึ้นมาบนเวที จงลี่ก็ส่งไมโครโฟนไปให้เธอ
ทุกคนต่างจ้องเธอเป็นสายตาเดียว
“สวัสดี ทุกคน ขอบคุณที่เป็นห่วงฉัน ฉันไปโรงพยาบาลได้ทันเวลาหลังจากที่ล้มเมื่อบ่ายวันนี้ ฉันไม่เป็นไรมาก และนี่คือผลการตรวจ”
เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างหลัง คลี่กระดาษออก และกล้องก็ถ่ายทันที
“ฉันโกรธมาก ดังนั้นฉันจึงโทษเด็กสาวตัวน้อยทั้งสอง แต่ที่จริงพวกเขาก็แค่สะเพร่า ทั้งสองคนขอโทษฉันอย่างจริงใจ และไม่ติดใจเอาความอีกแล้ว”
ในระหว่างการพูด คุณยายยังคงหายใจอย่างเหนื่อย ๆ ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะหมดแรง
[เอาล่ะ เรารู้แล้ว]
[คุณยายดูเหนื่อยมาก ให้เธอไปพักผ่อนเถอะ]
[ความผิดพลาด?]
[คนที่ทำให้ล้มจะไม่ออกมาขอโทษเหรอ?]
[แล้วทำไมตอนนั้นคุณยายถึงใส่ร้ายคนอื่น? ฉันไม่เข้าใจเลย ฉันสาปแช่งพวกเขามาตั้งนาน!]
[ฉันเกลียดการเห็นคนแก่ถูกทำร้าย โชคดีที่คุณยายสบายดี]
[ออกไปได้แล้ว!]
[แล้วใครล่ะที่ประมาท ทำไมไม่ชี้แจง]
หลินเจี้ยนที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง บีบมือของเธอแน่น การประชุมในครั้งนี้มีเพื่อปกปิดความผิดของฉูรั่วฮวน!
เธอไม่เห็นฉูรั่วฮวนผลักคุณยายก็จริง แต่ฉูรั่วฮวนต้องการที่จะโยนความผิดให้เธอนะ
ทีมงานรายการและบ้านพักคนชราต่างเลือกที่จะปกป้องฉูรั่วฮวน และจงใจปิดบังว่าใครทำให้คุณยายล้ม!
เธอออกไปจากห้องประชุม เพราะมันไม่จำเป็นต้องฟังคำอธิบายอะไรอีกแล้ว
หลังจากการชี้แจง ทีมงานรายการให้ทุกคนไปรับประทานอาหารในโรงอาหารของบ้านพักและรีบกลับไปที่เกาะ
ซูโย่วอี๋มองไปที่บ้านพักคนชราที่ไกลออกมาเรื่อย ๆ จนลับตา และถอนหายใจ ในที่สุดเธอก็ไม่สามารถเปิดปมในใจของคุณยายได้สำเร็จ
“เจ้าจิ้งจอกเน่า คราวนี้ฉันจะถูกลงโทษยังไง”
เจ้าจิ้งจอกขมวดคิ้วสองข้าง [ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ภารกิจของคุณคืบหน้าไป 80% แล้ว และคุณทำสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง ภายหลังหากคุณยายคิดได้ก็จะถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น เพราะไม่มีการจำกัดเวลาสำหรับภารกิจนี้]
มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?
“ทุกครั้งที่ฉันทำภารกิจ นายจะเห็นความคืบหน้าของภารกิจเหรอ?”
สุนัขจิ้งจอกรู้สึกอิ่มเอมในใจ [ไม่แน่นอน มันเพิ่งได้รับการอัปเดต ฮ่าฮ่า ฉันมีพลังมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว]