บทที่ 67 ประธานลู่ ฉันล้อเล่น
บทที่ 67 ประธานลู่ ฉันล้อเล่น
หลังจากลู่เฉินจากไป ผู้เฒ่าลู่ก็ไม่มีอะไรทำ
“หลี่ขุย หลี่ขุย”
ไม่นานพ่อบ้านก็รีบเข้ามา “ครับนายท่าน”
ชายชราชี้ไปที่โทรทัศน์อย่างกระวนกระวาย “เปิดสตรีมของโย่วโย่วให้ฉันดูเร็ว”
“ถ้าไม่ได้ดูสักวัน ฉันคงจะไม่มีความสุข”
“แต่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีสตรีมนะครับ” พ่อบ้านพูดตอบ
เมื่อได้ยินอย่างนั้นผู้เฒ่าลู่รู้สึกสับสนเล็กน้อย “ไม่มี? ถ้าอย่างนั้นเปิดวิดีโอบันทึกย้อนหลังเร็ว ฉันจะดูโย่วโย่ว”
ในเขตหัวซี
เฉินซีซีสวมรองเท้าส้นสูงคริสตัลที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ เดินอยู่ในห้องนั่งเล่น
“พี่สาว ดูฉันสิ”
ซูโย่วอี๋ที่นั่งไถโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นเป็นครั้งคราวและชมว่า “สวยมาก”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก
ซูโย่วอี๋หน้าบึ้งและกดรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ”
เสียงที่สุภาพมากดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “สวัสดีค่ะ คุณซูโย่วอี๋ใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันเป็นตัวแทนของเซี่ยงไฮ้เอนเทอร์เทนเมนต์ ฉันได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคุณในรายการวาไรตี้ของ 22 วันปั้นดาว หลังจากการประเมินหลายครั้ง บริษัทของเราสนใจคุณมาก และอยากเสนอเงื่อนไขการเซ็นสัญญาให้คุณมาอยู่ในบริษัทของเรา คุณซูโย่วอี๋สนใจเข้าร่วมบริษัทเราไหมคะ?”
บริษัทเซี่ยงไฮ้เอนเทอร์เทนเมนต์ บริษัทที่เป็นหนึ่งในสิบบริษัทชั้นนำในวงการบันเทิงของประเทศน่ะเหรอ!
แต่ในเมื่อเธอมีโอกาสได้เข้าสู่เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ที่เป็นบริษัทอันดับหนึ่ง ทำไมเธอต้องเลือกบริษัทอันดับสองด้วย?
“อ้อ ไม่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
“คุณซูคะ โปรดอย่าเพิ่งวางสาย บางทีคุณอาจอยากฟังผลประโยชน์ของบริษัทเราก่อน แม้ว่าเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์จะดี แต่การแข่งขันภายในบริษัทก็มีอยู่มากเช่นกัน หากคุณมาที่บริษัทของเรา ฉันรับรองได้ว่าบริษัทจะทำให้คุณได้แสดงความสามารถให้มากที่สุด”
ซูโย่วอี๋เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เขากำลังให้เธอเลือกระหว่างหัวไก่กับหางนกฟีนิกซ์
แต่ถึงอย่างนั้น ใครกันที่กำหนดว่าเธอสามารถเป็นได้แค่หางนกฟีนิกซ์เท่านั้น?
“ฉันยังไม่สนใจค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
ไม่กี่นาทีต่อมา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ซูโย่วอี๋ชะงักไปครู่หนึ่งและกดรับสาย “สวัสดีค่ะ”
คราวนี้มีเสียงแหบแห้งของผู้หญิงดังขึ้นที่ปลายสาย “สวัสดีค่ะ คุณซู ฉันตัวแทนของชื่อจี๋บิงเหอเอนเทอร์เทนเมนต์ แม้ว่าบริษัทของเราจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่ก็มีความแข็งแกร่งมาก ไมไมที่โด่งดังในตอนนี้ก็อยู่บริษัทของเรา คุณจะพิจารณาบริษัทของเราไหมคะ?”
ไมไม?
โด่งดัง?
นั่นมันนักแสดงเรื่องสาวหมื่นปี ละครขวัญใจวัยรุ่นไม่ใช่เหรอ?
“แล้วฉันจะคิดดูนะคะ” ซูโย่วอี๋พูดอย่างกลาง ๆ
เธอวางสายก่อนที่ปลายสายจะทันได้พูดอะไร
เฉินซีซีเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา “พี่สาว พี่ดังแล้ว”
“ไม่เหมือนฉันเลย ทุกบริษัทที่ติดต่อฉันมา ต่างก็ทักมาทางเวยป๋อ และถามฉันว่าต้องการสตรีมเกมไหม”
เธอเดาว่าหลายบริษัทอาจตั้งเป้าหมายไปที่ผู้ที่มีชื่อเสียงไม่มากนักในรายการ ในเวลานั้น แม้ว่าพวกเธอจะไม่สามารถเป็นศิลปินของเทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ได้ แต่ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่จะเข้าร่วมกับบริษัทอื่น
แต่เฉินซีซียังไม่ประสีประสามากพอ คนที่โตกว่าอย่างเธอจึงต้องเอ่ยเตือน
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอต้องปรึกษากับผู้ปกครองก่อนเซ็นสัญญา อย่าตัดสินใจเองหากไม่ได้รับอนุญาต เข้าใจไหม?”
กระต่ายน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ซูโย่วอี๋ไม่ได้กังวลมากเกินไป เพราะคุณเฉินรักลูกสาวของเขามาก อาจทำให้มีบางบริษัทมุ่งร้ายเล่นงานเฉินซีซีแทนการมุ่งเป้าไปที่พวกเขาโดยตรง
ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณเฉินจะทำให้คนเหล่านั้นเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปแน่
ตลอดบ่ายดูเหมือนจะมีเอเจนซีมากมายโทรเข้ามาหาเธอราวกับนัดกันมา มีอยู่เจ็ดหรือแปดบริษัทโทรหาเธอเพื่อสอบถามว่าเธออยากจะเซ็นสัญญากับพวกเขาหรือไม่
บางคนสุภาพในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ข้ามเส้นกลายเป็นการก่อกวนเธอ
ซูโย่วอี๋รู้สึกโกรธเมื่อถูกโทรหาอีกครั้ง
มันเป็นเบอร์แปลกอีกแล้ว
ซูโย่วอี๋หยิบขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “ขอโทษนะคะ ฉันจะไม่เซ็นสัญญาและฉันจะไม่พิจารณาเงื่อนไขของบริษัทไหนในตอนนี้ แม้ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม ขอบคุณที่สนใจในตัวฉัน แค่นี้นะคะ”
จากนั้นเธอก็เสริมว่า “ใช่ ฉันคือซูโย่วอี๋ แล้วคุณก็ไม่ได้โทรผิด”
อีกฝ่ายเงียบไปสองสามวินาที
ในที่สุดเธอก็สามารถข่มขู่ได้
มาดูกันว่าจะกล้าโทรมาอีกไหม
“ใครอยากเซ็นสัญญากับคุณกัน”
เขาพูดด้วยเสียงต่ำ
ซูโย่วอี๋กำลังจะตอบเขาว่า ก็คุณไง?
แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นเคยมากราวกับว่าเธอเคยได้ยินที่ไหนสักที่
จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิดของเธอ
ด้วยความตกใจ ซูโย่วอี๋จึงถามออกไปอย่างไม่แน่ใจว่า “คุณคือลู่เฉินหรือเปล่า?”
ชายที่ปลายสายตะคอก “ลู่เฉิน? ดูเหมือนว่าคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนงานแล้วนะ”
เมื่อรู้ตัวว่าเธอเรียกชื่อเจ้านายของเธอ ซูโย่วอี๋ก็ยิ้มอย่างเขินอาย “เอ่อ ประธานลู่ ฉันล้อเล่นค่ะ”
“คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“มาที่ข้างล่าง ผมมีอะไรจะให้”
เพราะเธอเดาไม่ออกว่าเขาจะเอาอะไรมาให้เธอ เธอจึงไม่กล้าถามจึงพูดออกไปเพียง “ตกลงค่ะ”
“ให้เฉินซีซีลงมากับคุณด้วย”
หน้าคอนโด
ลู่เฉินจอดรถของเขาที่ข้างถนน เพราะเขาจะรีบกลับไปที่บริษัท โชคดีที่ซูโย่วอี๋ลงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ด้วยใบหน้าท้วม ๆ เธอมองไปรอบ ๆ สี่รอบโดยไม่สังเกตเห็นรถเลย
“ซูโย่วอี๋” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ขณะที่ลงจากรถ
“พี่สาว ตรงนั้น”
เขาท้ายหลังรถและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เอาส้มโอนี่ไป”
หลังรถมีส้มโอลูกกลมมากกว่าสิบผล
“ประธานลู่นี่มันอะไรกันคะ?” ซูโย่วอี๋ถามอย่างไม่เข้าใจ
เมื่อนึกถึงความชื่นชอบของคุณปู่ที่มีต่อเธอ เขาจึงลดน้ำเสียง “แฟนคลับส่งมาให้คุณ”
ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น แต่มันถึงขนาดฝากท่านประธานมาเองเลยเหรอ
แฟน ๆ ของเธอน่าทึ่งมาก
ซูโย่วอี๋กล่าวด้วยความขอบคุณว่า “ขอบคุณมากค่ะ ประธานลู่”
เมื่อเห็นส้มโอมากมาย ดวงตาของเฉินซีซีก็เป็นประกาย “พี่ลู่คุณมีของขวัญจากแฟน ๆ ของฉันด้วยไหมคะ”
ลู่เฉินมองไปที่กระต่ายน้อยและตอบว่า “ไม่”
“ซูโย่วอี๋คงยกคนเดียวไม่ไหว”
เฉินซีซีหน้ามุ่ย “ก็ได้ค่ะ”
ให้เธอลงมาด้วยเพราะจะใช้งานสินะ
ส้มโอนั้นลูกกลมและใหญ่มากและพวกเธอไม่สามารถยกมันไหว แต่เธอก็ไม่อยากรบกวนเขา
ดังนั้นพวกเธอจึงส่งส้มโอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยยก
ด้านลู่เฉิน เขาถ่ายรูปส้มโอในอ้อมแขนของซูโย่วอี๋และเฉินซีซีส่งไปให้ผู้เฒ่าลู่ดู
[ส่งส้มโอแล้ว]
ผู้เฒ่าลู่เปิดดูรูปถ่าย
เมื่อเขาเห็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ในรูป เขายิ้มอย่างยินดี [ลู่เฉิน ดูสาวน้อยสิ เธอน่ารักจัง]
[นั่นเฉินซีซีเหรอ เธอก็ดูดีเหมือนกันนะ]
[ปู่เป็นแฟนคลับคู่จิ้นของพวกเธอด้วย]
ลู่เฉินเลิกคิ้วอย่างยอมแพ้ ‘คุณปู่ปลื้มเธอเกินไปแล้ว’
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ซูโย่วอี๋เพิ่งพูดทางโทรศัพท์ เขาพูดอย่างจริงจังว่า “ซูโย่วอี๋ ตอนนี้เทียนฉีเอนเทอร์เทนเมนต์ ยอมรับคุณอย่างเป็นทางการแล้ว คุณอยากมาที่บริษัทของเราไหม”
ด้วยความร้อน ทำให้เหงื่อของซูโย่วอี๋ไหลออกมาจากหน้าผาก
ภายใต้แสงแดด ดวงตาสีเหลืองอำพันของเธอแวววาวและสดใส
เธอกะพริบตาปริบ ๆ “แต่การถ่ายทำรายการยังไม่จบเลยนะคะ ถึงฉันจะอยู่ในห้าอันดับแรกของรายการ แต่มัน…”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องคิด ถึงไม่ติดห้าอันดับแรก ผมก็จะเซ็นสัญญากับคุณ”
ซูโย่วอี๋ตะลึง “ทำไม…”
“เพราะคุณคู่ควรกับมัน”
ลมร้อนพัดผ่านเส้นผมของเขา
เสียงที่หนักแน่นและมีเสน่ห์
เมื่อได้ยินเสียงของเขา หัวใจของเธอเต้นแรงพลันสั่นไหวไปทั่วร่าง