ตอนที่1246 ดินแดนเนรเทศ
“กรรร!!”
เสียงมังกรคำรามแผดลั่นสะท้านสิบทิศ สีหน้าการแสดงออกของท่านบรรพบุรุษเปลี่ยนไปในทันที!
ท่านบรรพบุรุษย่อมทราบตระหนักดีว่า วรยุทธที่เย่หยวนปลดปล่อยชนิดนี้คืออะไร ดังนั้นแล้วจึงไม่มีใครประหลาดใจไปกว่าเขาแล้วใน ณ ที่แห่งนี้
เพียงว่าภายใต้สถานการณ์กะทันหันเช่นนี้ ท่านบรรพบุรุษไม่เหลือเวลามาตื่นตะลึงอันใดอีกต่อไป หากถูกเสียงแห่งจอมเทพมังกรของเย่หยวนเข้าเต็มสูบ กระทั้งเขาเองก็ไม่เหลือซากเช่นกัน!
แต่หลังจากชั่วอึดใจนี้เอง ปฏิกิริยาการตอบสนองของท่านบรรพบุรุษเองก็ใชว่าจะเชื่องช้า
ทันทีทันใดปรากฏคลื่นพลังผันผวนปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา!
และคลื่นพลังผันผวนนี้สามารถลดทอนพลานุภาพของเสียงแห่งจอมเทพมังกรได้โดยตรง!
“นี่…นี่มันเสียงแห่งจอมเทพมังกร! เจ้านี่ไปรู้จักเสียงแห่งจอมเทพมังกรจากแห่งหนใดกัน?! เป็น…เป็นไปไม่ได้!”
อ้าวลี่โพล่งกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตะลึงสุดขีด
สำหรับเผ่ามังกรแล้ว มีตำนานกล่าวขานกันว่า เสียงแห่งจอมเทพมังกรเป็นสุดยอดวรยุทธสมัยบรรพกาล ไม่ว่ากาลอดีตหรือปัจจุบัน ความน่าสะพรึงกลัวของยังคงถูกเล่าสืบต่อกันผ่านตัวหนังสือที่สลักไว้จากรุ่นสู่รุ่น
ถึงแม้สุดยอดวรยุทธนี้จะหายสาบสูญเป็นเวลาเนินนานแล้ว ทว่าสมาชิกเผ่ามังกรทุกคนยังคงตระหนักทราบถึงความแกร่งกล้าของมันอย่างดี!
“มิใช่ว่าเสียงแห่งจอมเทพมังกรเป็นวรยุทธที่หายสาบสูญไปนานแล้วรึ? ไฉนมนุษย์คนนี้ถึงสามารถสำแดงใช้สุดยอดวรยุทธแห่งยุคบรรพกาลชนิดนี้ได้?”
“เหลือเชื่อ! เหลือเชื่อเกินไปแล้ว! ในตอนที่เขาปลดปล่อยฝ่ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมา ข้าก็แทบหยุดหายใจแล้ว แต่ใครจะไปคิด แม้กระทั้งเสียงแห่งจอมเทพมังกรเอง เขาก็สามารถใช้ได้เช่นกัน!!”
“นี่…นี่เขาใช่มนุษย์จริงๆรึ? หากกล่าวว่าเขาคือสมาชิกเผ่ามังกรที่ใช้วิชาปลอมแปลงมายังน่าเชื่อเสียยิ่งกว่า! ใครก็ได้บอกข้าที…ว่านี่เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?!”
………………
สุดยอดวรยุทธในตำนานที่หายสาบสูญไปเนินนาน ยามนี้ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าสาธารณะ เหล่าสมาชิกเผ่ามังกรทุกคนรู้สึกดั่งฝันไป
ไม่เพียงแค่สมาชิกเผ่ามังกรเท่านั้น แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดของอีกสามเผ่าที่เหลือยังแทบไม่อยากเชื่อสายตา
พวกเขาคาดไม่ถึงจริงๆว่า วรยุทธต่อสู้ของเผ่ามังกรในตำนานจะปรากฏขึ้นอีกครั้งบนตัวมนุษย์!
หนึ่งอึดใจ… สองอึดใจ!
เมื่อเย่หยวนเห็นว่า ตนไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของท่านบรรพบุรุษได้ เขาจึงกัดฟันแน่นผืนสำแดงใช้ต่อเป็นสามอึดใจเต็ม!
ในเวลานั้นเอง เสียงถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยพลันดังขึ้นจากภายในถ้ำ
เย่หยวนไม่สามารถทานทนได้ไหวอีกต่อไป เขาแทบหมดสติล้มทั้งยืน พร้อมเสียงมังกรคำรามที่หยุดลงในทันทีทันใด!
“พี่ใหญ่หยวน!”
เพียงสองอึดใจ ร่างกายเย่หยวนก็ถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ครั้งนี้นับว่าฝืนเกินกำลังมากไปจริงๆ กระทั้งร่างกายยังไม่สามารถประคองได้อยู่ เย่หยวนทรุดฮวบล้มลงในทันใด แต่ยังดีที่ลี่เอ๋อพุ่งเข้ามาประคองเขาได้ทัน
“พร๊วดดด!!”
ใบหน้าของท่านบรรพบุรุษซีดเผือกลงอย่างมาก ก่อนกระอักพ่นเลือดสดคำโตออกมา
ท้ายที่สุดนี้ กระทั้งเขาก็ไม่สามารถต้านรับเสียงแห่งจอมเทพมังกรได้สมบูรณ์!
“ท่านบรรพบุรุษ! ท่านเป็นอะไรหรือไม่!?”
เมื่อเห็นท่านบรรพบุรุษกระอักเลือดไม่หยุด อ้าวลี่และคนอื่นๆต่างอุทานขึ้นด้วยความตื่นตะใจอย่างมาก
ท่านบรรพบุรุษโบกมือปัด และหันมองเย่หยวนด้วยแววตาหลากอารมณ์ ก่อนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
“เราชายชราเข้าใจแล้ว! ฮะ-ฮ่าฮ่า กลับกลายเป็นว่าสายตาคู่นี้ของข้าต่างหากที่ฝ้าฟาง! จุนเอ๋อ,เพราะเหตุนี้นี่เอง ที่เจ้ายังไม่ออกมาพบตั้งแต่แรก!”
หลังจจากสิ้นเสียงประโยคสุดท้าย ท่านบรรพบุรุษก็กวักมือเรียกเย่หยวนและชี้ไปยังด้านในถ้ำ
ความหมายช่างชัดเจนนัก เขากำลังเรียกเย่หยวนให้เข้าไป
“ท่านบรรพบุรุษ เรียกเขาเข้ามา”
ทันใดนั้นเอง พลันปรากฏเสียงหญิงสาวดังขึ้นจากภายในถ้ำ
สีหน้าการแสดงออกของอ้าวลี่และที่เหลือเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า นอกจากท่านบรรพบุรุษแล้ว ภายในถ้ำแห่งนี้ยังมีคนอื่นดำรงอยู่!
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เย่หยวนยิ่งรู้สึกใจสั่นเข้าไปใหญ่
เห็นได้ชัดว่า สุ้มเสียงนี่เขาไม่เคยได้ยินหรือรู้จักมาก่อน ทว่านั้นกลับทำให้เขารู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง
“เจ้าเข้าไปข้างในได้แล้ว! แต่มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ข้าอนุญาต”
ท่านบรรพบุรุษกล่าวขึ้นเสียงเรียบ
เย่หยวนพยักหน้ารับคำและตรงเข้าไปภายในถ้ำทันที
“ท่านบรรพบุรุษ ภายในถ้ำนั้น…”
อ้าวลี่อดใจเอ่ยปากถามมิได้
“อ้าวจุน!”
ท่านบรรพบุรุษเองก็มิได้คิดบิดบังเช่นกัน และเอ่ยตอบไปตามตรง
สีหน้าการแสดงออกของอ้าวลี่ยิ่งตื่นตะลึงหนัก เขาโพล่งอุทานลั่นว่า
“ราชินีมังกรอ้าวจุน! นะ-นาง….นางยังไม่ตายรึ?”
อ้าวจุนนางนี้ใช้เวลาฝึกปรือเพียงพันปีเท่านั้นก็สามารถทะลวงขึ้นสู่ระดับเก้าขั้นสุดได้ แถมยังเข้าใจศาสตร์แห่งสวรรค์ในระดับลึกซึ้งยิ่ง
ความแกร่งกล้าของนางทรงพลังยิ่งกว่าอ้าวลี่ในปัจจุบันหลายขุมนัก
แต่ช่างน่าเศร้า เมื่อแปดร้อยปีก่อน นางหนีออกจากดินแดนสัตว์เทวะไปและซ้อนตัวอยู่ในหุบเขาเหวพระเจ้า
ต่อจากนั้นเป็นต้นมา เหล่าสมาชิกเผ่าในดินแดนสัตว์เทวะก็ไม่เคยมีใครเคยเห็นนางอีกเลย
ดังนั้นท่านบรรพบุรุษจึงเริ่มอุทิศทรัพยากรและคำสอนสั่งต่างๆให้แห่อ้าวลี่แทน หวังเพื่อปั้นเขาขึ้นมาแทนนางในฐานะประมุข
อ้าวลี่ไม่คิดไม่ฝันเลนว่า แท้ที่จริงแล้วนางจะอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้มาโดยตลอด!
ท่านบรรพบุรุษถอนหายใจเสียงยาวและกล่าวว่า
“เรื่องนี้ยากที่จะอธิบายในประโยคเดียว! แต่นางคงรู้สึกโล่งใจอย่างยิ่งที่ได้พบหน้าลูกชายของนางอีกครั้ง”
“ละ-ลูกชาย?”
เหล่าสมาชิกเผ่าทั้งหมดต่างอุทานขึ้นด้วยความตกใจสุดขีด
“ถูกต้องแล้ว! เย่หยวนเป็นลูกชายของอ้าวจุน นางให้กำเนิดบุตรชายกับมนุษย์”
ท่านบรรพบุรุษกล่าวขึ้นอย่างแช่มช้า
ลี่เอ๋อและอิ้งหมัวหู่สบสายตากันไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อนเผยถึงความประหลาดใจเกินพรรณนาออกมา
ทั้งสองคาดไม่ถึงเลยสักนิดว่า เย่หยวนยังมีภูมิหลังเช่นนี้อยู่ด้วย
ไม่น่าแปลกใจว่าไฉนเย่หยวนถูกรู้สึกผิดปกติหลังจากเข้ามาที่นี่
ในเวลานั้นเอง ท่านบรรพบุรุษพลันหยุดสายตาจับจ้องอิ้งหมัวหู่ด้วยความประหลาดใจ ก่อนกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า
“โอ้…หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงเป็นลูกหลานของไป๋เซ่ออวี้? กลิ่นอายของเจ้าช่างคล้ายคลึงกับนางยิ่งนัก! หื้ม…กายวิญญาณพยัคฆ์ขาวสมบูรณ์ ไม่เลว! ช่างน่าประทับใจ! หากย้อนกลับไป๋เซ่ออวี้กับจุนเอ๋อ เจ้าสองสาวตัวแซ่บคู่นี้บังอาจผนึกกำลังสร้างภาพลวงตาเพื่อหลอกเราชายชราในปีนั้น! ฮ่าฮ่า… แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่า ลูกชายของทั้งคู่จะสามารถทำลายคำสาปนั้นได้!”
เมื่อกล่าวขึ้นถึงเรื่องวันวาน ท่านบรรพบุรุษพลันหัวเราะขื่นพลางส่ายหัวอย่างเศร้าใจ
ทั่วทั้งร่างอิ้งหมัวหู่สั่นเทาอย่างหนักเมื่อได้ฟังดังนั้น ประหนึ่งถูกสายฟ้าฟาด
“ทะ-ท่านบรรพบุรุษ สิ่งที่ท่านกล่าวไปหมายความอย่างไร?”
อิ้งหมัวหู่กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบากก่อนเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านบรรพบุรุษจึงนั่งลงและเริ่มเล่าเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับดินแดนสัตว์เทวะให้ฟัง
อิ้งหมัวหู่ที่ได้ฟังเรื่องเล่าของท่านบรรพบุรุษ ก็อดรู้สึกประหลาดใจมิได้เลย
ปรากฏว่า เดิมสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า ดินแดนเนรเทศ!
เผ่าปีศาจที่นี่ล้วนแล้วแต่ถูกเนรเทศออกมาเพราะก่ออาชญากรรมร้ายแรง จนไม่สามารถกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อีก!
ดินแดนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าบรรพชนต้นกำเนิดแห่งเผ่าสี่สัตว์เทวะ พวกเขาได้ร่วมมือกันสร้างอาคมผนึกดินแดนแห่งนี้เอาไว้ด้วยศาสตร์วิชาลับอันน่าสะพรึง
คนที่ถูกเนรเทศมายังที่นี่ เมื่อใดที่พวกเขาเดินทางออกจากดินแดนแห่งนี้ อายุของพวกเขาจะเดินเร็วขึ้นจนน่าตกใจและตายลงในท้ายที่สุด!
ยิ่งไปกว่านั้นเอง ลูกหลานของพวกเขาก็ไม่สามารถออกจากที่นี่ได้เช่นกัน!
นี่เป็นคำสาปอันน่าสะพรึงยิ่ง กล่าวได้ว่าความผิดผลาดเพียงครั้งเดียว ถึงขั้นถูกเนรเทศออกจากบ้านเกิด กระทั้งรุ่นลูกรุ่นหลานยังถูกขังอยู่ที่นี่โดยไม่มีวันเห็นแสงตะวันอีกต่อไป!
อย่ามองเสียว่าสถานที่แห่งนี้มีทั้งภูเขาสลักซ้อนเขียวขจี หรือน้ำทะเลสีใสบริสุทธิ์ ทว่าความจริงแล้วที่นี่คือคุกขนาดยักษ์ดีๆนี่เอง!
ตามที่ท่านบรรพบุรุษกล่าวเล่าไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาเนินนานมีสมาชิกเผ่าหลายต่อหลายคนพยายามหนีออกจากกรงขนาดยักษ์แห่งนี้
ทว่าหลังจากออกไป พวกเขากลับแก่ชราลงอย่างรวดเร็วและสิ้นใจตายลงในท้ายที่สุด
แม้แต่เซียนอาณาจักรพระเจ้าเองก็ไม่เว้น!
และปัจจุบัน ท่านบรรพบุรุษแห่งเผ่ามังกรผู้นี้ก็เป็น เซียนอาณาจจักรพระเจ้าคนสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ในดินแดนแห่งนี้
แน่นอนว่าเหล่าบรรพชนต้นกำเนิดแห่งเผ่าสี่สัตว์เทวะมิได้ต้องการให้ผลักไสให้พวกเขาสูญพันธุ์ตายลง แต่เพียงต้องการบ่มเพาะเมล็ดแห่งความหวังขึ้นมา
บรรพชนต้นกำเนิดทั้งสี่ตั้งเงื่อนไขไว้สองข้อ ขอเพียงบรรลุเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งได้ คำสาปนี้จะคลายออกโดยทันที หนึ่งคือ จะต้องมีใครบางคนทะลวงขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าให้ได้ หรือสอง…สมาชิกภายในเผ่าจะต้องให้กำเนิดกายวิญญาณอันแข็งแกร่งขึ้น
ในปีนั้น อ้าวจุนกับไป๋เซ่ออวี้ ทั้งคู่เป็นพี่น้องร่วมสาบานที่สนิทสนมกันยิ่ง ทั้งสองได้จับมือกันวางแผนหนีออกจากดินแดนแห่งนี้ โดยการล่อลวงคนอื่นๆด้วยภาพมายาในทางทิศตะวันออก ในขณะที่พวกตนหนีไปทางทิศตะวันตก
คนหนึ่งหนีไปยังดินแดนไร้สิ้นสุดโดยผ่านทางดินแดนเทพอสูรต้องห้าม ในขณะที่อีกคนหนีจนไปโผล่ที่หุบเขาเหวพระเจ้า
ในตอนนั้น ท่านบรรพบุรุษโมโหโกรธเกรี้ยวอย่างมากต่อการกระทำของทั้งคู่ จึงสร้างค่ายกลป่าดอกท้อเข้าขว้างระหว่างดินแดนไว้
เพียงแต่ เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่า หนึ่งในบรรดาลูกหลานของไป๋เซ่ออวี้จะให้กำเนิดกายวิญญาณพยัคฆ์ขาวสมบูรณ์ขึ้นจริงๆ
ในขณะที่ลูกชายของอ้าวจุนถึงขั้นให้กำเนิดฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงในตำนาน!