เพียงสะบัดมือทัพศึกเหลือแต่ผุยผง!
ไร้ซึ่งท่าทีเกรงกลัวหรือเผยถึงอารมณ์ใด ชายหนุ่มผู้นี้ยืนสงบนิ่งต่อหน้าฝ่ามือล้างพิภพ
เมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ามือล้างพิภพอันน่าสะพรึงนี้ เขายืนนิ่งมั่นคงดุจหุบเขาไท่ซาน ที่แม้แต่ฝ่ามือมหึมานี้ก็ไม่สามารถฝ่าผ่านไปได้
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ ชายหนุ่มผู้นี้สามารถหยุดฝ่ามือล้างพิภพได้ด้วยมือแค่ข้างเดียว!
“เย่หยวน!”
“จอมราชันย์พิชิตสวรรค์! นั้นมันจอมราชันย์พิชิตสวรรค์!! ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดท่านจอมราชันย์พิชิตสวรรค์ก็กลับมาแล้ว!!”
การปรากฏตัวของเย่หยวนทำให้ทุกคนตื่นอกตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่!
ก่อนหน้านี้ จอมราชันย์วิญญาณเพิ่งกล่าวไปว่า จอมราชันย์พิชิตสวรรค์กำลังเดินสำรวจอยู่ในเขตพระเจ้าต้องห้ามเพื่อเสาะหาโอกาสที่จะขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้า
แล้วการที่จอมราชันย์พิชิตสวรรค์กลับมาในเวลานี้ นั้นมิได้หมายความว่า…เขาประสบความสำเร็จแล้วรึ?
พวกเขารู้สึกปิติยินดียิ่งจนหัวใจแทบทะลุออกจากทรวงอก!
เมื่อฟางเทียนเห็นว่าเป็นเย่หยวนจริงๆ แววตาอันไร้ชีวิตคู่นั้นก็กลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง
เต็งหยุนเอ่ยปากกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน เขาเข้าจับมือฟางเทียนอย่างประณีตและกล่าวอย่างตื้นตันว่า
“ท่านอาวุโส เขา…เขากลับมาแล้ว! เขากลับมาแล้วจริงๆ! หรือเป็นไปไม่ไหมที่…ที่….”
ฟางเทียนไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะพูด เขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างมั่นใจ
ยามนี้ฟางเทียนสามารถยืนยันได้แล้วว่า ปรากฏการณ์ฟ้าดินวิปลาสในไม่กี่วันก่อน ที่แท้ก็เกิดจากเย่หยวน!
ซึ่งตราบใดที่เย่หยวนสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย นั้นหมายความว่าเขาสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้แล้วแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้นเอง แนวคิดความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งสวรรค์ฟางเทียนก็ลึกซึ้งและเหนือชั้นกว่าคนอื่นๆยิ่ง เขาสามารถบอกได้ทันทีว่า ภายในร่างกายของเย่หยวนมีบางสิ่งที่แม้แต่เขาก็มิอาจหยั่งถึงได้
ความรู้สึกที่แสนลึกล้ำเกินหยั่งถึงเช่นนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่นึกออก…ศาสตร์แห่งสวรรค์!
ข่านนั่วโพล่งตาเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน พร้อมจับจ้องภาพฉากตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
มันทราบของมันดี ฝ่ามือล้างพิภพนี้กล้าแกร่งเพียงใด ทว่าเย่หยวนกลับปราบปรามลงได้ด้วยมือข้างเดียว!
“ฝ่ามือล้างพิภพ! บดขยี้มันซะ!!”
ข่านนั่วโคจรพลังปีศาจจนเร็วจี๋ถึงขีดสุด พร้อมระดมพลังอย่างบ้าคลั่งและปลดปล่อยออกไปเต็มสูบ
เย่หยวนพรูลมหายใจออกมาเล็กน้อย พร้อมพลิกฝ่ามือสะบัดออกไปเบาๆ
เพียงคลื่นสายลมบางเบาเข้าสัมผัสกับฝ่ามือล้างพิภพ ฝ่ามือมหึมาอันน่าสะพรึงขวัญนั้นสั่นเทาอย่างหนัก
พลังปีศาจที่ควบแน่นกลายเป็นฝ่ามือนั้นถึงกับคงความเสถียรไว้ไม่อยู่
ใชที่สุดฝ่ามือล้างพิภพนั้นระเบิดกระจายพร้อมเสียงดังบูม ยามนี้เหนือน่านเวหาเหลือแต่ความว่างเปล่า!
เมื่อทัพศึกของเผ่าปีศาจเห็นดังนั้น พวกมันถึงกับโพล่งตาโตจับจ้องอย่างไม่น่าเชื่อ
“นี่มันเรื่องบ้าอันใด?! ฝ่ามือ…ฝ่ามือล้างพิภพในตำนาน…ถูกทำลายในพริบตา!”
ปีศาจตนนั้นที่กล่าวขึ้นก็คือเจียหลาน ยามที่เห็นภาพฉากนี้ มันยังสงสัยอยู่เลยว่า สายตาของมันมีปัญหาอันใดหรือไม่?
ฝ่ามือล้างพิภพของเทพอสูรเทวะข่านนั่วแกร่งกร้าวเพียงใด?
หากย้อนกลับไป ตอนที่เข้าสัประยุทธ์เดือดกับเซียนเต๋าสวรรค์ ข่านนั่วเองก็ยังใช้กระบวนฝ่ามือนี้เข้าต่อกรอย่างสูสี!
ทว่าตอนนี้ กระบวนฝ่ามืออันทรงอนุภาพนั้นกลับถูกเย่หยวนบดขยี้ไม่เหลือในพริบตา!
ม่านตาดำไสวของเยวี่ยจี้หดแคบเท่ารูเข็มไม่ต่างกัน นางในฐานะเทพอสูรเทวะเช่นเดียวกับข่านนั่ว ย่อมตระหนักทราบดีถึงความน่ากลัวของฝ่ามือล้างพิภพ
วรยุทธต่อสู้กระบวนนี้ถูกถ่ายทอดโดยท่านจอมเทพอสูรนิรันดร์โดยตรง ดังนั้นพลานุภาพการทำลายล้างจึงจัดได้ว่าไร้ขอบเขต
แม้แต่ข่านนั่วเองก็ไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของฝ่ามือล้างพิภพได้ แต่นั้นก็เกินพอสำหรับล้างโคตรเผ่าพันธุ์ในดินแดนเล็กๆนี้ได้
ดังนั้นแล้ว ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ…เย่หยวนได้รับศาสตร์แห่งสวรรค์และขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
แต่นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?
เย่หยวนหาได้สนใจต่อความประหลาดใจของทุกคน ทันทีทันใด ร่างของเขาก็อันตรธานหายวับไป
ยังไม่ทันรู้สึกตัว เย่หยวนก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งข้างฟางเทียนแล้ว
“ท่านอาวุโส เย่หยวนคนนี้มาสาย ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ให้ท่านตกอยู่ในสภาพเช่นนี้!”
ในขณะที่เย่หยวนเอ่ยปากกล่าวขึ้น เขาก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมา บนปลายนิ้วนั้นปรากฏเป็นลูกไฟสีเขียวจุติขึ้น
เพียงเขานำลูกไฟสีเขียวนี้แตะไปยังกลางหน้าผากของฟางเทียนเบาๆ ลูกไฟสีเขียวก็ซึมซับเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายทันที
พลังชีวิตปริมาณมหาศาลเกินคนานับไหลบ่าดุจน้ำป่าเข้าสู่ร่างกายของฟางเทียน ส่งผลให้ตัวเขาที่ใกล้จะตายฟื้นตัวกลับเป็นปกติในทันใด!
“เย่หยวน นี่…นี่คือสิ่งใด?”
ฟางเทียนยกมือยกเท้าขึ้นพินิจมองอย่างงุนงง ร่างกายที่เหี่ยวย่น ยามนี้กลับฟื้นฟูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
จากคนที่ใกล้ตายกลับฟื้นขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง
เย่หยวนกล่าวว่า
“นี่คือสัญญาแห่งชีวิตที่ข้าได้รับมาจากท่านอาวุโสคุนหวู ด้วยสิ่งนี้จะสามารถยืดอายุขัยของท่านได้อีกหนึ่งร้อยปีเป็นอย่างน้อย!”
“นะ-หนึ่งร้อยปี?!”
ฟางเทียนสูดไอเย็นแช่มลึกสุดขั้วปอด พร้อมจับจ้องเย่หยวนราวกับเห็นผี
ก่อนหน้านี้ เย่หยวนใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะหลอมกลั่นโอสถต่ออายุขัยสวรรค์ขั้นลี้ลับ แต่นั้นยังช่วยยืดอายุขัยของเขาได้เพียงสามสิบปี
แต่เพียงลูกไฟสีเขียวขนาดจิ๋วบนปลายนิ้วของเย่หยวนเมื่อครู่ สามารถยืดอายุขัยของฟางเทียนได้ยืนยาวถึงหนึ่งร้อยปี!
และหนึ่งร้อยปีที่ว่ายังเป็นอย่างน้อยที่สุด!
นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันอย่างแท้จริง!
เย่หยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า
“ถูกต้องแล้ว! ความแข็งแกร่งของท่านอาวุโสคุนหวูกลับมิใช่สิ่งที่เราสามารถจินตนาการถึงได้ หากมิใช่เพราะร่างกายของท่านทรุดโทรมเกินไป สัญญาแห่งชีวิตนี้จะสามารถยืดอายุขัยได้นานถึงหนึ่งหมื่นปี!”
ทุกคนต่างตื่นตกใจยิ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น!
แม้แต่โอสถที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดก็ยังไม่สามารถยืดอายุขัยคนได้นานถึงหนึ่งหมื่นปี!
แต่ไม่เพียงแค่นั้น เย่หยวนยังมีสัญญาแห่งชีวิตถึงสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับฟางเทียนและอีกส่วนสำหรับท่านแม่ของเขาเอง
“เย่หยวน เจ้า…เจ้า… เจ้าหรือว่า…”
ยามนี้เต็งหยุนตื่นตะลึงแปรปรวนหลากอารมณ์ยิ่งจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ยามนี้คล้ายคนใบ้พยายามส่งเสียงพูด
เขากังวลใจอย่างยิ่งว่า เย่หยวนจะไม่สามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้
เพราะเรื่องเช่นนี้แทบไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ทว่าภายใต้สถานการณ์อันน่าทึ่งเหล่านี้ หรือเย่หยวนจะสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้จริงๆ?
เย่หยวนแค่ยิ้มและพยักหน้าตอบเท่านั้น
เมื่อได้เห็นดังนั้น ทุกสิ่งที่คาดการณ์ไว้กลับเป็นความจริง ในห้วงความคิดของทุกคนขาวโพล่นว่างเปล่าไปโดยพลัน และไม่สามารถครุ่นคิดอันใดได้อีกต่อไป
ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง!
เย่หยวนทะลวงขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าได้แล้วจริงๆ!
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ฮ่าฮ่า! เย่หยวน ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย! ฮ่าฮ่าฮ่า…”
สีหน้าการแสดงออกของเต็งหยุนดูร่างเริงดีใจอย่างยิ่ง ตัวเขามีความสุขราวกับเป็นตนที่กลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าแทน
คนอื่นๆที่เหลือเองก็ตกตะลึงไม่ต่างเช่นกัน
ในเมื่อเย่หยวนขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าแล้ว พวกเขาก็หาได้หวาดกลัวข่านนั่วอีกต่อไป!
นอกจากนี้เอง การที่เย่หยวนสามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้ นั้นหมายความว่าพวกเขาเองก็สามารถทำได้เช่นกัน!
บางทีศาสตร์แห่งสวรรค์อาจกลับมาจุติบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งแล้ว!
เรื่องราวดีๆเหล่านี้จะไม่ทำให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร?
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า
“ค่อยกล่าวเรื่องนี้กันภายหลัง! ขอจัดการธุระตรงหน้าก่อน!”
มาเหนือเมฆ!
ครั้งนี้เย่หยวนมาเหนือเมฆอย่างแท้จริง!
นี่เป็นวาจาคำพูดที่ควรกล่าวต่อหน้าเทพอสูรเทวะในตำนานอย่างข่านนั่ว? หรือมีเพียงเย่หยวนที่กลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าแล้วในปัจจุบันที่มีทุนรอนกล่าวได้?
เพียงประกายแสงระยับโฉบแล่น ร่างเย่หยวนปรากฏขึ้นอีกครั้งเหนือน่านฟ้านภาสูง
แม้แต่ข่านนั่วในยามนี้ยังเป็นแค่มดตัวหนึ่งในสายตาของเขา
สรรพสิ่งภายใต้อาณาจักรพระเจ้าล้วนไม่นับเป็นอันใด และไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะปริปาก!
หลังจากที่เย่หยวนนิมิตเห็นฟางเทียนกับข่านนั่วสัประยุทธ์เดือดกัน เขาก็ดึงจิตสำนึกตัวเองกลับเข้าร่างก่อนจะทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้สำเร็จในไม่ช้า หลังจากขอสัญญาแห่งชีวิตของคุนหวูเสร็จสรรพ เพียงสองอึดใจเขาก็ปราดมาถึงเผ่ามังกรและเข้าบดขยี้ฝ่ามือล้างพิภพของข่านนั่วอย่างที่เห็นไป
“ข่านนั่ว เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก ดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ไม่ต้อนรับเจ้า! เตรียมตัวตาย!”
วาจาสุดแสนไม่แยแสของเย่หยวนเอ่ยลั่นสนั่นพิภพ ราวกับความเป็นความตายของข่านนั่ววิ่งเล่นอยู่ในมือเขา
สีหน้าการแสดงออกของข่านนั่วแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก มันกล่าวเจือน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า
“ทักศึกแห่งเผ่าปีศาจโจมตี! ฆ่าไอ้เด็กเหลือขอนั้นให้ได้!”
ทัพศึกเผ่าปีศาจรับคำสั่งและเคลื่อนไหวทันที
แม้หนทางข้างหน้าจะเป็นหุบเขาใบมีดหรือทะเลเพลิงเดือด แต่พวกมันก็หาได้เกรงกลัวไม่!
ชั่วครู่ต่อมา ฝูงปีศาจนับหมื่นล้านถาโถมเข้าสู่เย่หยวนประดุจคลื่นยักษ์บดบังน่านนภาทั้งหมด
เหล่าเซียนแห่งเผ่าปีศาจโรมรันเข้าสัประยุทธ์สำแดงกระบวนโจมตีสุดกำลัง
เย่หยวนถอนหายใจเล็กน้อยและกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมยว่า
“เหอะ! น่าเบื่อสิ้นดี!”
พอสิ้นเสียง เย่หยวนเพียงสะบัดฝ่ามือออกไปเบาๆอย่างคร้านใส่ใจ แต่นั้นถึงขั้นทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีในบัดดล!
มังกรฟ้าขนาดยักษ์ผงาดง้ำกลางห้วงเวหา พร้อมเข้ากลืนกินฝูงปีศาจจำนวนไม่ถ้วนโดยตรง!
บูมมม….
หลังจากนั้นไม่ถึงสิบอึดใจ ผืนแผ่นดินเบื้องหน้าเย่หยวนทั้งหมดกลับเหลือแค่ความว่างเปล่า
เพียงสะบัดฝ่ามือออกไปลวกๆ ทัพศึกของเผ่าปีศาจทั้งหมดก็ถูกเป่าเหลือแค่ฝุ่นผง!