ผลกำไรมหาศาลที่เย่หยวนทิ้งทวนให้
“เจ้าว่าอย่างไร? เขา…เขาสามารถหลอมกลั่นโอสถล้างพิษขั้นเทวะได้จริงๆ?”
พอได้ฟังรายงานจากผู้จัดการซู หวางรุยสะดุ้งโหย่งตกตะลึงสุดขีด สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัด เสียงของเขาโพล่งดังคล้ายสูญเสียความเยือกเย็นชั่วขณะ
ผู้จัดการซูยังคงระทึกใจไม่หาย สีหน้าการแสดงออกคล้ายยังไม่ได้สติดี ผิดธรรมชาติแตกต่างจากตัวในยามปกติไป
“จริงแท้แน่นอน! ตอนที่เขาป้อนโอสถให้แม่นางหวางหรู พวกเขาทั้งสามเห็นกับตาคู่นี้! หลังจากนั้นไม่นาน พิษที่ติดค้างในร่างกายของนางก็ค่อยๆถูกล้างออกไปจนสิ้น!”
หยางหรูสูดหายใจแช่มลึกสุดปวดหวังดึงสติมิให้หลุดลอยออก
ข่าวนี้ช่างน่าเหลือเกินจินตนาการเขามาก!
ทันทีที่เขาตัดสินใจที่จะปกป้องเย่หยวน หยางหรูไม่คิดไม่ฝัน ผลลัพธ์ที่ได้กลับย้อนคืนกลับเป็นผลดีอย่างไม่คาดคิด!
ยามนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่า เย่หยวนคือต้นกล้าชั้นเยี่ยมที่ควรค่าแก่การเลี้ยงดูยิ่ง!
อย่างไรก็แล้วแต่ พัฒนาการของเย่หยวนก็เกินความคาดหมายของเขาไปมากจริงๆ
“ยังมีอีกเรื่อง! เย่หยวนสั่งให้พวกเราไปช่วยเก็บกวาดห้องบ่มเพาะฝึกปรือของเขา แต่หลังจากที่พวกเราส่งคนไปทำความสะอาดกลับพบว่า ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยโอสถปราณเทวะและโอสถล้างพิษจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นโอสถขั้นสวรรค์! มีขั้นยอดเยี่ยมและขั้นสูงปะปนเป็นส่วนน้อย!”
คู่ดวงตาของหยางรุยสว่างวาบ เขากวาดสายตาจ้องเขม็งไปที่ผู้จัดการซูทันทีและกล่าวว่า
“เจ้ากล่าวว่าอันใด?! แทบทั้งหมดล้วนเป็นโอสถขั้นสวรรค์! ไหนก่อนหน้าเจ้าถึงบอกว่าเขาไม่รู้จักวิธีหลอมกลั่นโอสถล้างพิษ? นี่…นี่ใช้เวลาแค่เดือนเดียว สามารถเป็นคนให้เป็นเซียนได้เลย?”
ผู้จัดการซูพยักหน้า ความตื่นตะลึงที่สลักจารึกในใจยังไม่คลายอ่อน
“ยอดเซียนเลยกระมัง!”
“ฟู่วว…”
หยางหรูพรูเย็นเจือทึ่งตะลึง ท่าทีกิริยาสุดองอาจดั่งราชวงศ์ชั้นสูง ยามนี้หยางหรูคนนั้นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ปัจจุบัน ราวกับเขาเป็นกระต่ายน้อยขี้ตกใจ
สีหน้าการแสดงออกดูสนใจในตัวเย่หยวนอย่างหาที่เปรียบไม่
หลังจากไม่ได้สติอยู่นาน หยางรุยสะดุ้งเฮือกและเร่งกล่าวกับผู้จัดการซูทันทีว่า
“เย่หยวนอยู่ไหน? ไปเรียกเขามาหาข้าเดี๋ยวนี้! ไม่! ไม่! ข้าจะไปหาเขาเอง!”
ในขณะที่หยางรุงกำลังรีบลุกขึ้น แต่กลับถูกผู้จัดการซูหยุดไว้พร้อมกล่าวว่า
“ท่านประมุขหอไม่จำเป็น! ตอนนี้เย่หยวนปลีกวิเวกเก็บตัวเรียบร้อยแล้ว!”
หยางรุงตะลึงงันไปอีกชั่วครู่และกล่าวว่า
“เขาไม่จำเป็นต้องหลอมกลั่นโอสถล้างพิษขั้นเทวะแล้วมิใช่รึ? แล้วจะเข้าเก็บตัวเพื่ออันใดอีก?”
ผู้จัดการซูส่ายหัวเล็กน้อย
“เขาฝากหงหยิงช่วยดูแลแม่นางหวางหรูจากนี้ต่อ ก่อนจะขนกองสมุนไพรอีกกองใหญ่และเข้าเก็บตัวอีกครั้ง”
หยางรุยขมวดคิ้วย่น เขากล่าวว่า
“รายการสมุนไพรที่เขาสั่งไปมีอะไรบ้าง?”
ผู้จัดการซูกล่าวตอบว่า
“สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสั่งในรอบนี้มีมากกว่ารอบก่อนหน้า แถมยังค่อนข้างหลากหลายชนิด พิจารณาโดยรวม คาดเดาได้ยากว่าเขาวางแผนหลอมกลั่นโอสถชนิดใดบ้าง”
หยางรุยเงียบลงคล้ายครุ่นคิด ทันทีทันใด เขาสะดุ้งขึ้นทันทีเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนสาดสายตาสายใส่ผู้จัดการซูด้วยสายตาสุดแผดเผา เขากล่าวว่า
“หรือเป็นไปได้ไหมว่า…จะเป็นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว?”
ม่านตาดำของผู้จัดหารซูหดแคบตีบตันคล้ายได้ยินผิดไป เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวขึ้นและโพล่งกล่าวปฏิเสธ เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินตอนนี้
“ไม่มีทาง? ถึงแม้จะเป็นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาว แต่กระทั่งจอมเทพโอสถสองดาวเองก็ไม่สามารถหลอมกลั่นได้เลย! แต่…หากพิจารณาจากรายการสมุนไพรเหล่านั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงมาก! ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาเสียหายขั้นรุนรีง มีเพียงโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้!”
หยางรุยรู้สึกได้ในทันใด การที่เขาตัดสินใจช่วยเย่หยวนเอาไว้ นับเป็นความคิดที่ชาญฉลาดยิ่ง!
กระทั่งตอนนี้ เขาเองก็ยังหวาดกลัวในพรสวรรค์ของเย่หยวน
หากเย่หยวนสามารถหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งๆดาวได้ ชื่อเสียงของหอมหาสมบัติจะต้องยิ่งใหญ่ทรงอำนาจเป็นเท่าตัว!
ถึงหอมหาสมบัติจะมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียน แต่เนื่องจากเมืองกุยฉางไม่ได้อยู่ในอาณาเขตการปกครองของจักรพรรดิเทพสวรรค์มหาสมบัติ ดังนั้นหอมหาสมบัติแห่งนี้จึงมิได้มีสง่าราศีมากมายนัก
เนื่องจากหอมหาสมบัติมีมากมายนับไม่ถ้วนบนมหาพิภพถงเทียน ดังนั้นชื่อเสียงอำนาจย่อมแตกต่างออกไปตามเขตอำนาจ
ตามคำกล่าวที่ว่า : จ้าวมังกรมิอาจปราบปรามงูถิ่นได้จนหมด เหล่ากลุ่มอิทธิพลประจำถิ่นสามารถปราบปรามหอมหาสมบัติได้ หากพวกเขาคิดลงมือจริงๆ
เพียงหอมหาสมบัติสาขาเมืองกุยฉาง การจะต่อกรกับตระกูลหวังที่ร่วมมือกับตระกูลเหลียง กลับมิใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ถึงตระกูลเหลียงจะเป็นกลุ่มอำนาจเล็กๆที่มีจำนวนนับสิบภายในเมือง
แต่ตระกูลหวังเป็นถึงสามตระกูลใหญ่ที่แท้จริงผู้ชักใยเมืองกุยฉาง หากตระกูลเหลียงเพียงอย่างเดียว จะไปหาญกล้ายั่วยุหอมหาสมบัติได้อย่างไร?
หอมหาสมบัติอาศัยป้ายทอง พึ่งพานามขานของจักรพรรดิเทพสวรรค์มหาสมบัติ ถึงสามารถตั้งตระหง่านได้ในเมืองกุยฉาง
แต่หากนับกันโดยรวม หอมหาสมบัติสาขาเมืองชนบทอันห่างไกลเช่นนี้ บุคคลระดับสูงกลับหาได้ให้ความสำคัญเลย
เพื่อให้หยางรุยบริหารหอมหาสมบัติสาขานี้ต่อไป เขาเองก็เร่งท้อแท้แล้วเช่นกัน
เขาไม่มีทางสนใจหรือเจียดเนื้อเข้าสนับสนุนใครง่ายๆแน่นอน หากมิใช่สัตว์ประหลาดเฉกเช่นเย่หยวน
ท้ายที่สุดนี้ หยางรุยหมดหวังกับคำว่าเหล่าอัจฉริยะมาแล้วมากมายเกินไป
ความแข็งแกร่งของเฟิงปิงนับว่าไม่เลวก็จริง แต่นั้นก็มิได้โดดเด่นเหนือคนอื่นๆในเมืองกุยฉาง
แม้แต่หัวหน้านักหลอมโอสถของทั้งสามตระกูลใหญ่ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าของเฟิงปิง
ซึ่งพรสวรรค์ในเส้นทางแห่งโอสถของเย่หยวนจะนำมาสู่รุ่งอรุณของหอมหาสมบัติอีกครั้ง หยางรุยเชื่อมั่นในศักยภาพของเย่หยวน มิเช่นนั้น เขาจะยอมถึงขนาดส่งหลัวเจียออกไป แถมยังยั่วยุตระกูลหวังอีก
“ไม่ต้องสนใจไป! หากเขาต้องการอะไร ทำตามคำขอของเขาทุกอย่าง! ไม่ว่าจะเป็นผลึกปราณเทวะหรือสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อย่าคิดตระหนี่เด็ดขาด!”
หยางหรูกล่าว
ผู้จัดการซูคลี่ยิ้มบางพลางกล่าวตอบว่า
“ท่านประมุขหอ ทำดีกับเย่หยวนในตอนนี้ ภายภาคหน้าเขาอาจนำมาซึ่งผลกำไรมหาศาล! ศักยภาพของเด็กคนนั้นไร้ขีดจำกัด! แค่ตอนนี้พวกเราก็เริ่มกำไรแล้ว!”
หยางหรูเค้นเสียงหัวเราะเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า
“ล้อเล่นเกินจริงกระมัง หรือคือเราที่เป็นหนี้บุญคุณเขา?”
ผู้จัดการซูกลับผงกศีรษะกล่าวตอบทันควัน
“แค่โอสถปราณเทวะขั้นสวรรค์ที่เขาทิ้งให้พวกเราจำนวนหลายร้อยเม็ด ก็นับเป็นกำไรมหาศาลแล้ว! คำนวณคร่าวๆก็เป็นกำไรกว่าหนึ่งแสนผลึกปราณเทวะระดับต่ำแล้ว! เด็กคนนั้นใช้ใจแลกใจ เคยช่วยเหลือเขาไว้ตอนลำบาก ยามนี้เขาให้ทุกอย่างโดยไม่แบมือขอเงินสักแดง! แถมทุนที่เราเคยช่วยเขาไปยังไม่ถึงร้อยก้อนผลึกปราณเทวะระดับต่ำด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขาตอบแทนกลับมา มีทั้งโอสถปราณเทวะขั้นยอดเยี่ยม ทั้งขั้นสวรรค์ นับหลายร้อยเม็ด คุณภาพโอสถที่เขาหลอมกลั่นการันตีคุณภาพ!”
ร่างหยางรุยถึงกับสั่นสะท้านทันทีที่ได้ยิน เขากล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า
“กำไรมหาศาลขนาดนั้นเชียว?”
ผู้จัดการซูยิ้มและกล่าวต่อว่า
“นี่ยังเป็นเพียงส่วนของโอสถปราณเทวะ ภายในห้องบ่มเพาะฝึกปรือของเขายังมีกองโอสถล้างพิษขั้นสวรรค์อีกกว่าห้าร้อยเม็ด ขั้นยอดเยี่ยมและขั้นสูงรวมแล้วอีกพันกว่าเม็ด! ท่านคิดว่า ทั้งหมดนี้คิดเป็นกำไรเท่าใด?”
หยางรุยสูดไอเย็นเข้าลึกสุดขั้วปอด ยังทันจะอารมณ์สลบดี ยามนี้ถีงขั้นกระสับกระส่ายหนัก
สิ่งที่ผู้จัดการซูกล่าวไปก่อนหน้า เขาหาได้สนใจมากนัก สิ่งที่ยังทำให้เขาตกตะลึงที่สุดยังเป็น โอสถล้างพิษขั้นเทวะที่เย่หยวนหลอมกลั่นออกมาได้!
ตอนนี้หยางรุยทราบเพียงว่า เย่หยวนคือเครื่องหลอมกลั่นโอสถที่ยอดเยี่ยมเหนือสิ่งใด!
หากกล่าวตามหลักเหตุและผล เย่หยวนที่ช่วยหอมหาสมบัติหลอมกลั่นโอสถจำนวนมากมายขนาดนี้ เขาควรจะได้รับส่วนแบ่งโดยธรรมชาติ
แต่เย่หยวนกลับไม่ต้องสิ่งพวกนั้น และเต็มใจมอบผลประโยชน์ทั้งหมดให้แก่หอมหาสมบัติ
ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า หอมหาสมบัติเริ่มเดิมพันครั้งใหญ่ได้ถูกข้างแล้ว!
ทีแรกแผนการในหัวของหยางรุยคือ ส่งมอบสมุนไพรวิญญาณและผลึกปราณเทวะให้เย่หยวนในปริมาณมาก หวังเพื่อให้ติดหนี้บุญคุณหอมหาสมบัติ จะกลัวผิดใจไม่กล้าออกไปไหนและอย่าสร้างกำไรต่อไป
ทว่าใครจะไปคิดว่า กลับเป็นฝ่ายหอมหาสมบัติเสียเองที่ติดหนี้บุญคุณเย่หยวนครั้งใหญ่
ผลลัพธ์แบบนี้ หาใช่สิ่งที่เขาเคยนึกเคยฝันมาก่อนไม่
“เด็กหนุ่มคนนี้…น่ากลัวจริงๆ!”
หยางรุนเงียบนิ่งเป็นเวลาครู่ใหญ่ ก่อนเค้นคำเอ่ยประโยคนี้ออกมา
แผนการก่อนหน้าที่วาดวางเอาไว้ ยามนี้กลับไร้ประโยชน์ไปโดยปริยาย
ผู้จัดการซูคิดเห็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน เขาพยักหน้ากล่าวว่า
“ถูกต้องแล้ว เราชายชราเองก็คิดแบบนั้น!”
หยางรุยโบกมือปัดเอ่ยปากขึ้นว่า
“เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นอย่าไปรบกวนเขาเชียว หากเขาสามารถหลอมกลั่นโอสถตราสวรรค์หนึ่งดาวขึ้นมาได้จริงๆ ต่อไปหอมหาสมบัติแห่งนี้จักถึงคราวผงาดขึ้นสู่ฟ้า! ตอนนี้ปิดข่าวเรื่องที่คุณหนูคนโตของตระกูลเหลียงกำลังฟื้นตัวให้สนิท หากมีข่าวหลุดออกมาเมื่อไหร่ เจ้าจะต้องรับผิดชอบ!”