แพ้คู่
“หลัวเจีย อนาคตของเจ้านับว่าไร้ขีดจำกัด! เพิ่งทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดได้หมาดๆ แต่กลับสัประยุทธ์ต่อกรกับเราชายชราได้สูสี! นี่นับว่าน่าภาคภูมิยิ่งนักแล้ว!”
หวังอวีกั่นแอบประหลาดใจอย่างอดมิได้ ความลึกล้ำของหลัวเจียคนนี้สูงเกินความคาดหมายของเขายิ่ง
หากหลัวเจียทะลวงขึ้นถึงจุดนี้ก่อนหน้าประมาณแปดถึงสิบปี เขาจะมิใช่คู่มือของหลัวเจียได้เลย
ทว่าตอนนี้เขาที่คุ้นชินกับขุมพลังในมือมากกว่าย่อมได้เปรียบเหนือชั้น ยามนี้หลัวเจียถูกไล่ต้อนจนตันแล้ว
เพลงทวนของหวังอวีกั่นทั้งหนักหน่วงทรงพลัง กระทั่งความเร็วร่ายกระบวนยังนับไม่ไม่ช้า
ความคล่องแคล่วของหลัวเจียลดลงอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย
แต่ทันทีทันใด สีหน้าการแสดงออกของหวังอวีกั่นพลันผลัดเปลี่ยน จิตสังหารแห่งดาบของหลัวเจียพุ่งทะยานเสียดฟ้าสูง
ทั้งคนทั้งดาบคล้ายว่าหลอมรวมเป็นหนึ่ง ผิวหนังถูกรมแดงเดือดประดุจเหล้าสีโลหิต
“เพลงดาบฟ้าดินนิรันดร์กาล!”
เสี้ยวพริบตา ทั้งความเร็วและพละกำลังของหลัวเจียก็เพิ่มทวีขึ้นนับสิบเท่า!
หลัวเจียที่ถูกไล่ต้อนเสียเปรียบมาโดยตลอด ยามนี้พลิกสถานการณ์กลับในอึดใจ การเคลื่อนไหวทิ้งทวนเพียงลำแสงสายหนึ่งโฉบวูบเสมือนภูตผี พุ่งเข้าโจมตีหวังอวีกั่น
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าหลัวเจียจงใจใช้ชีวิตแลกชีวิต!
เย่หยวนมองผ่านอ่านสถานการณ์ออกอย่างรวดเร็ว หลัวเจียหยิบใช้วิธีผลาญพลังปราณเทวะในร่ายกายเพื่อดึงศักยภาพตนเองออกมาให้ถึงขีดสุด
แต่วิธีเช่นนี้มันสร้างภาระหนักยิ่งให้แก่ร่างกายของเขาเอง
นอกจากนี้ สภาวะพลังที่แกร่งกล้าขึ้นยังเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น
หากเขาไม่สามารถจัดการหวังอวีกั่นให้ตายได้ภายในเวลาที่กำหนด เย่หยวนกับเขาเตรียมตีตั๋วลงนรกได้เลย!
“นับเป็นกระบวนท่าที่ทรงอนุภาพ แต่การทำเช่นนี้กลับทำให้ข้าปิดฉากเจ้าเร็วขึ้น!”
หวังอวีกั่นกล่าวขึ้นพร้อมเสียงเย็นแผดดัง
แม้ระดับฝีมือและประสบการณ์จะแตกต่างกันไม่น้อย แต่การจะสังหารหลัวเจียให้อยู่หมัดภายในเวลาอันสั้นกลับไม่มีทางเลย
หวังอวีกั่นตวัดทวนยาวเข้าพินิจทิ่งทะลุดังทิศทาง พร้อมส่องประกายยิ้มสีเย็น
เพลงทวนนี้มิได้ต่างจากก่อนหน้าเลย
เขาไม่ลังเลแม้สักนิด พร้อมทิ่งแทงทวนยาวออกไปอย่างมั่นใจ
แต่ขณะที่ปลายทวนกำลังดิ่งเข้าปะทะกับคมดาบ จู่ๆหลัวเจียก็อันตธานหายวับไปต่อหน้า
ม่านตาดำของหวีงอวีกั่นตีบแคบหดเล็กในทันใด ยามนี้ปรารถนาชักทวนออกมาตั้งหลัก แต่กลับสายเกินไปเสียแล้ว
ชวิ้ง!
ชวิ้ง!
เสียงคู่โลหะดังเสียด ปลายคมแหลมทั้งสองเจาทะลุเข้าเนื้อโดยตรง!
ทวนยาวของหวังอวีกั่นเสียบทะลวงผ่านทรวงอกของหลัวเจีย
ในขณะที่คมดาบของหลัวเจียทะลวงเสียบเข้ากลางอกของหวังอวีกั่น!
แลกหมัดหนัก!
“พร๊วดด!”
“พร๊วดด!”
ทั้งสองกระอักพ่นเลือดสดคำโตออกมาโดยพร้อมเพรียง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลัวเจีย ยามนี้ธารเลือดสีทองไหลรินลงมาตามแนวของทวนยาว สภาพยามนี้ค่อนข้างน่าสยดใจไม่น้อย
หลัวเจียหมดสติไปทั้งแบบนั้น ปล่อยร่างแขวนค้างอยู่บนทวนยาว
คู่ดวงเนตรของหวังอวีกั่นแข็งค้าง พลางเปี่ยมไปด้วยความไม่แน่ใจ ไฉนคมดาบเหมือนครู่ถึงพลาดสายตาเขาไปได้?
แต่ในไม่ช้า เขากลับคร้านจะใส่ใจและเร่งพลังปราณเทวะอย่างบ้าคลั่งจนเร็วจี๋ เพื่อต้องการทะลวงหมุนทวนยาวในมือ
หวังอวีกั่นหวังบดขยี้อวัยวะภายในของหลัวเจียให้แหลกเป็นชิ้นๆ!
แต่ทันใดนั้นเอง แสงประกายคมเฉียบเย็นปราดพุ่งเข้าใส่ทันที เย่หยวนตรงเข้ามาจู่โจมสกัดทันควัน!
จังหวะสอดผสานของเย่หยวนกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบ ไม่ปล่อยโอกาสให้หวังอวีกั่นปิดฉากสังหารหลัวเจียได้ลง
แม้ว่าหวังอวีกั่นจะแข็งแกร่งมาก แต่นั้นมิได้หมายความว่าจะจัดการทุกอย่างได้ตามใจนึก
“เพลงดาบไม่เลว! แต่น่าเสียดาย เจ้ายังไม่ชำนาญลึกล้ำ!”
หวังอวีกั่นส่งเสียงเอ่ยดังขึ้น ยามนี้ไม่มีเวลาปิดฉากหลัวเจียอีกต่อไปและเตะร่างที่เสียบคาอยู่ออกจากทวนยาวของตน
ลูกเตะนี้ทรงพลังหวังเอาให้ตาย ร่างไร้สติของหลัวเจียกระเด็นออกไปโดยตรงหลายหมื่นฉื่อ
กระบวนเคลื่อนไหวของหวังอวีกั่นคล่องแคล่วคล่องตัวนัก ทวนยาวโบกสะบัดจัดท่า เขากระหน่ำโจมตีใส่เย่หยวน
ในมุมมองของหวังอวีกั่น ถึงเขาในตอนนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เย่หยวนกลับไม่มีพิษภัยนักต่อตัวเขา
แต่ทันใดนั้นเอง รอยยิ้มเหยียดเย็นพลันปรากฏขึ้นบนมุมปากเย่หยวนโดยพลัน
สีหน้าการแสดงออกของหวังอวีกั่นแปรเปลี่ยนในทันที
“กรรร!!”
เสียงมังกรคำรามดังลั่นสะท้านสวรรค์อัดใส่หน้าของหวังอวีกั่นโดยตรง!
หลังจากที่เย่หยวนเดินทางมาถึงมหาพิภพถงเทียน นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้สำแดงใช้เสียงแห่งจอมเทพมังกร!
หากกล่าวให้ถูกต้องคือ นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนปลดปล่อยเสียงแห่งจจอมเทพมังกรหลังจากทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้า!
ภายในดินแดนพฤกษานิรันดร์ เพียงใช้เต๋าควบคุมสรรพสิ่งได้ แค่สะบัดนิ้วก็ฆ่าล้างเสร็จสรรพ ไม่จำต้องถึงมือเสียงแห่งจอมเทพมังกรเลย
อย่างไรก็ตามแต่ เย่หยวนที่ทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้แล้ว การสำแดงใช้เสียงแห่งจอมเทพมังกรในครานี้ กลับแตกต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงของเขาได้ตื่นขึ้นแล้ว ระดับความลึกล้ำของเสียงแห่งจอมเทพมังกรย่อมพัฒนาขึ้นด้วยเป็นเท่าทวี
แต่เนื่องจากแต่ก่อน มีข้อกำจัดทางด้านอาณาจักรพลัง เขาจึงสำแดงใช้ได้เพียงระดับแรกเท่านั้น แถมยังใช้ได้แค่สองถึงสามอึดใจไม่เกินนี้
แต่ปัจจุบัน ข้อจำกัดต่างๆกลับลดน้อยลงมาแล้ว
พลานุภาพทำลายล้างของเสียงแห่งจอมเทพมังกรในตอนนี้ มาตรได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของระดับแรกแล้ว!
การสัประยุทธ์ข้ามระดับกลับหาใช่ปัญหาเลย!
หากหวังอวีกั่นอยู่ในระยะที่ห่างกว่านี้ เย่หยวนย่อมไม่สามารถทำอันตรายได้เช่นกัน
แต่ตอนนี้ระยะโจมตีคือหน้าต่อหน้า!
หวังอวีกั่นขนลุกซู่วยันหนังศีรษะ คล้ายถึงสายฟ้าฟาดอัดกลางหัว ชั่วครู่ต่อมาเขาบาดเจ็บถึงขั้นหลั่งเลือดออกจากทาวรทั้งเจ็ด
โดยเฉพาะบาดแผลที่หลัวเจียฝากไว้ก่อนหน้าที่กลางอก ภายใต้แรงกระตุ้นจากเสียงแห่งจอมเทพมังกร ปากแผลฉีกขยายใหญ่ขึ้นทันทีพร้อมธารโลหิตสีทองพุ่งกระฉูดออกมาราวกับน้ำพุ
ผลการสัประยุทธ์ที่หลัวเจียถึงขั้นใช้ชีวิตแลกชีวิต เย่หยวนไม่ยอมปล่อยโอกาสทองเช่นนี้ให้หลุดมือได้ไม่ว่าอย่างไร!
สิบอึดใจ!
นี่คือขีดจำกัดที่เย่หยวนสามารถทำได้ในปัจจุบัน หากยังฝืนไปมากกว่านี้เขาจะไม่มีแรงเหลือสำหรับหนีอีกต่อไป
ความแตกต่างระหว่างเขากับหวังอวีกั่นมีมากเกินไป เย่หยวนไม่มีทางฆ่าอีกฝ่ายได้เลย
เขาทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสที่สุดทำที่จะทำได้แล้ว
ในพริบตาเดียว เย่หยวนตีเชิงร่นถอยออกมาห่างก่อนคว้าร่างหลัวเจียและหนีออกไปโดยไว
“ตาเฒ่าบัดซบ หนี้แค้นในวันนี้ ข้า,เย่หยวนได้สลักจำฝังใจไว้แล้ว! หัวสุนัขนั้นข้าจะเป็นคนสะบั้นออกมาเองในสักวัน! เย่หยวนผู้นี้ขอรับปากไม่ตระบัดสัตย์!”
ลั่นวาจาทิ้งทวนจบ เย่หยวยเร่งฝีเท้าเร็วจี๋หนีหายไปสุดสายตาของหวังอวีกั่น คำกล่าวเปี่ยมอาฆาตยังฝังระทึกกึกก้องกลางห้วงอากาศไม่คลายอ่อน
สีหน้าของหวังอวีกั่นในยามนี้ซีดเผือกอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่า เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นอย่างเย่หยวนจะเก็บซ่อนไพ่ตายที่น่ากลัวขนาดนี้เอาไว้ด้วย
พลังเต๋าฟ้าดินที่กอปรอยู่ในคลื่นเสียงคำรามนั้นอยู่ในระดับที่น่ากลัวเกินไปนัก หากระดับพลังของเย่หยวนสูงกว่านี้เล็กน้อย หวังอวีกั่นอาจต้องพบจุดจบในวันนี้อย่างเลี่ยงมิได้
หวังอวีกั่นทราบดี เย่หยวนเป็นนักหลอมโอสถ แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ความแกร่งกล้าในศาสตร์แห่งการต่อสู้เองจะสูงส่งถึงเพียงนี้
แม้แต่เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางยังหาใช่คู่มือของเย่หยวนไม่เช่นกัน!
จำต้องเป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นปลายขึ้นไปเท่านั้น ที่จะสามารถสู้รบปรบมือกับเย่หยวนได้
เรื่องในวันนี้อาจดูเหมือนว่าหลัวเจียช่วยเหลือเย่หยวน
แต่ในความเป็นจริง กลับเป็นเย่หยวนที่ช่วยกู้สถานการณ์และหนีออกมาได้
หากมิใช่เพราะเย่หยวนช่วยให้หลัวเจียเลื่อนระดับได้ ต่อให้หลัวเจียจะหยิบใช้ไพ่ตายทุกแขนงออกมา ก็ไม่มีทางทำให้หวังอวีกั่นบาดเจ็บถึงขั้นนี้ได้เช่นกัน
“กระบวนโจมตีเมื่อครู่เป็นวรยุทธต่อสู้ของเผ่าอสูรอย่างชัดเจน! แต่…แต่มันเป็นมนุษย์ มันไปเรียนรู้จากแห่งหนใดกัน?”
หวังอวีกั่นตบโอสถเม็ดหนึ่งเข้าปากทันทีพร้อมสายตาแดงกล่ำ
บนทรวงอกปรากฏเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ พินิจจากจุดนี้น่าสยดสยองหาที่เปรียบไม่
บาดแผลที่หลังเจียฝากเอาไว้ให้ มีระยะความกว้างเพียงตัวดาบเท่านั้น
แต่เสียงแห่งจอมเทพมังกรของเย่หยวน กลับทำให้ปากแผลของเขาฉีกตัวขยายออกจนกลายมาเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่อย่างที่เห็น
เว้นเสียว่า แม้อาการบาดเจ็บจะค่อนข้างสาหัส แต่นั้นก็มิได้อันตรายถึงชีวิต
การจะฆ่าเซียนอาณาจักรพระเจ้าให้ตายสักคนหนึ่ง นับเป็นเรื่องยากมาก
สามวันต่อมา อาการบาดเจ็บของหวังอวีกั่นก็เริ่มควบคุมได้ในที่สุด
เขาหยิบยันต์สื่อสารแผ่นหนึ่งออกมาและเอ่ยปากกล่าวว่า
“สถานการณ์เปลี่ยน การซุ่มโจมตีล้มเหลว! ส่งผู้อาวุโสสองกับผู้อาวุโสสามออกมา! ไม่ว่าอย่างไรจักต้องฆ่าเด็กนั้นโดยเร็วที่สุด!”
ในขณะที่กล่าวจบ ยันต์สื่อสารนั้นก็สลายหายไปกลางอากาศ
ณ เวลาเดียวกัน เย่หยวนได้นำร่างหลัวเจียที่กำลังบาดเจ็บสาหัสหลบหนีออกไปไกลนับหลายหมื่นลี้แล้ว