เฉวียนซุยเซิงอ้าปากคล้ายต้องการพูดอะไรออกมา แต่คล้อยหลังกลับพบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกสักอย่าง
จินอวี้ในฐานะอันดับหนึ่งแห่งงานชุมนุมร้อยเมือง พ่ายให้แก่เย่หยวนในท้ายที่สุด
ตัวเขาไม่แม้แต่จะโค่นจินอวี้ลงได้ด้วยซ้ำ แล้วนี่นับประสาอะไรกับเย่หยวน?
เฉวียนซุยเซิงเป็นดั่งความภาคภูมิใจของสวรรค์ นอกจากจินอวี้แล้ว ทอดสายตาทั่วร้อยเมืองหลวงเกรงว่าหาผู้ใดทัดเทียมไม่ แต่ตอนนี้…เขากลับไม่มีแม้กระทั่งกล้าที่จะท้าเย่หยวนสู้! ความภาคภูมิใจของสวรรค์เฉกเช่นเขาพบทางแถบที่ยากจะข้ามผ่านแล้ว!
ภายใต้สถานการณ์จนมุมแบบเมื่อครู่ ตามธรรมชาติไม่ว่าใครล้วนต้องกลับลำเปลี่ยนรูปแบบเป็นตั้งรับเพื่อรักษาชีวิตก่อนโดยสัญชาตญาณ แต่เย่หยวนคนนี้กลับเลือกที่จะหันดาบเข้าใส่ความตายแทน! ถึงจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเผยท่าทีลังเลอะไรเสียบ้าง แต่เย่หยวนกลับยกดาบฟาดฟันโดยไม่ลังเลแม้สักนิด!
ในเวลานั้นเอง เฉวียนซุยเซิงพลันนึกถึงคำกล่าวก่อนหน้าของฉินส่าวอย่างอดมิได้ เด็กหนุ่มคนนี้เกิดมาเพื่อสร้างปาฏิหาริย์! เฉวียนซุยเซิงแอบสบถหยามเหยียดวาจาประโยคนี้ของฉินส่าวอย่างลับๆในตอนนั้น ทว่ายามนี้เขาค้นพบแล้วว่า ฉินส่าวหาได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย
“ตอนนี้มันบาดเจ็บหนัก ฆ่ามันแล้วชิงแหวนเก็บของทั้งหมดในตัวมันมา!”
ท่ามกลางฝูงชน จู่ๆ ใครมิทราบตะโกนดังลั่นเข้าปลุกระดมฝูงชนโดยรอบในทันที
ในศึกสัประยุทธ์รอบที่สองนี้ มีผู้คนมารวมตัวและเฝ้าดูการต่อสู้นี้กว่าพันคนแล้ว!
คล้อยหลังสุ่มเสียงปลุกระดมนี้ ผู้คนจำนวนมากริเริ่มความคิด ต้องการดักจับปลาในน่านน้ำที่ไม่พร้อมเสียแล้วเสี้ยวอึดใจต่อมา ปรากฏกลุ่มคนจำนวนมากเข้าปิดล้อมโดยมีเย่หยวนที่คลานอยู่บนพื้นเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งที่มิใช่แค่เขา กระทั้งทางด้านจินอวี้เองก็มีคนอีกกลุ่มเตรียมดักฆ่าแล้วเช่นกัน
“ไอ้พวกไร้ยางอาย! เมื่อครู่พวกเจ้าเป็นคนล้มจินอวี้ได้รึไง!?”
เฉวียนซุยเซิงแผดเสียงคำรามลั่นด้วยความโกรธจัด ยามนี้คู่เท้ากระตุกวูบปราดพุ่งออกไปโดยไวดุจฟ้าแลบ
สีหน้าการแสดงออกของฉินส่าวเองก็ไม่สู้ดีเช่นกัน ก่อนเร่งปรี่ไปช่วยเย่หยวนทันที
กวาดสายตาจับจ้องเหล่าศิษย์มากหน้าหลายตาที่เข้ารายล้อมดักจับตาย เย่หยวนพลางเค้นเสียงเย็นหัวเราะเยาะคำหนึ่ง ฝ่ามือกระชับดาบพิชิตมารฟ้าแน่นพร้อมฟันฟาดออกไปตรงหน้าอีกระลอก! แม้สภาพในตอนนี้ของเย่หยวนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่หากมิใช่ยอดฝีมือระดับชั้นเดียวกับจินอวี้ การจะโค่นเขาลงเกรงว่าคงฝันไป!
วรยุทธ์บ่มเพาะกายเนื้อของเย่หยวนเป็นถึงสุดยอดวิชาในตำนานอย่าง เคล็ดสมบัติศักดิ์สิทธิ์กายาเต่าดำแห่งเผ่าเต่าดำ แม้นี่จะมิอาจเทียบเทียมได้กับสุดยอดวรยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์บนมหาพิภพถงเทียน แต่พลังป้องกันของมันกลับสูงเข้าขั้นวิปลาส เหนือชั้นกว่าวรยุทธ์กายเนื้อทั่วไปอย่างหาที่เปรียบไม่ จุดเด่นของเผ่าเต่าดำคือพลังป้องกันอันแกร่งกล้าและทนทานจนน่าอัศจรรย์ใจ ดังนั้นวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้อของพวกเขาย่อมหาใช่ชนชั้นกินเจเช่นกัน
แม้การปะทะครั้งนี้จะค่อนข้างหนักหน่วง แต่มันก็ไม่ถึงขนาดจะทำให้เย่หยวนสูญเสียพลังการต่อสู้ทั้งหมดไปเพียงจัดการกับขยะกองนี้ เศษเสี้ยวพลังของเขาก็เพียงพอแล้ว!
ชวิ้ง!
เย่หยวนสับคลื่นคมดาบพลังสุดน่าสะพรึงออกไปอย่างไร้ปรานี ฝูงคนที่ห้อมล้อมเย่หยวนไว้ต่างหน้าถอดสีกันเป็นแถวด้วยความหวาดกลัว พวกเขามีหรือจะคาดคิด เย่หยวนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แท้ๆ แต่ไฉนยังสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่น่าสะเทือนขวัญขนาดนี้ได้? เหล่าศิษย์ที่อยู่แถวหน้าไม่แม้แต่จะมีเวลาทำลายจี้หยก พวกเขาถูกเย่หยวนกำจัดทิ้งไม่เหลือซากโดยตรง ส่วนพวกที่อยู่แถวหลังถัดไป ยามนี้รู้ตัวว่าถอยหนีไม่ทันการณ์แล้ว จึงหยิบจี้หยกขึ้นมาทำลายกันชุลมุนพร้อมถูกส่งกลับไปยังแท่นบูชาทันที
“อย่าไปกลัวมัน! สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากลูกธนูแรงปลาย กระบวนดาบเมื่อครู่มันขู่ให้พวกเราหวาดกลัวเสียขวัญเท่านั้น บุกเข้าโจมตีพร้อมกัน!” มีใครบางคนกลางฝูงชนตะโกนปลุกกระตุ้นฝูงชนอีกครั้ง
เหล่าศิษย์อีกหลายคนที่กำลังจะทำลายจี้หยกพลันหยุดชะงักทันที พลางคิดกันไปว่า การโจมตีเมื่อครู่คงเป็นพลังทั้งหมดที่เย่หยวนเหลืออยู่แล้ว หลังจากนี้ย่อมไร้พิษสง!
เย่หยวนได้ยินดังนั้นพลันฉีกยิ้มแสยะเย็นกว้าง ต่อหน้าคนพวกนี้เขาหาได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
มาหนึ่งตายหนึ่ง!
มาสองตายคู่!
คนเหล่านี้ช่างโง่งมเสียจริงที่คิดว่าเย่หยวนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว
พวกเขาหารู้ไม่ว่า วรยุทธบ่มเพาะพลังของเย่หยวนมันน่ากลัวเพียงใด ปริมาณพลังปราณเทวะที่นำจ่ายออกไปในอัตราเพียงเท่านี้ กลับไม่นับว่าเป็นปัญหาอันใดสำหรับตัวเย่หยวนเลย ต่อให้พลังปราณเทวะในกายเขาเหลือไม่มากนัก แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ย่อมมีอีกหลากหลายหนทางให้เลือกใช้
คมดาบโบกสะบัดพลิ้ว เย่หยวนล่าสังหารเด็ดชีพของเหล่าศิษย์โง่งมพวกนั้นอย่างไร้ปรานี
ทว่าภายในฝูงชนเหล่านั้นกลับมีสายตาหนึ่งจ้องเขม็งไปที่เย่หยวนไม่คลายอ่อน ดุจอสรพิษเตรียมฉกเหยื่ออันโอชะของมัน
อาณาจักรพลังของบุคคลนี้หาได้โดดเด่นกว่าใครคนอื่น ในทางตรงข้ามกลับดูธรรมดาทั่วไปไม่โดดเด่นแม้แต่น้อย แต่ทันใดนั้น บุคคลนี้พลันเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปยังทิศทางด้านหลังเย่หยวนตามธารฝูงชน!
ประจวบเหมาะลอบโจมตี เขาคนนั้นปราดกระหน่ำเต็มสูบจากด้านหลังหวังจับตายด้วยความเร็วดุจสายฟ้าแลบ! กลางใจฉินส่าวเต้นกระหน่ำผิดจังหวะ ยามนี้พลันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแสนคุ้นเคย เร่งหันควับขยับขยายสายตาจับจ้องไปที่เย่หยวนทันที
“เย่หยวนระวังข้างหลัง!” ฉินส่าวตะโกนลั่นสุดเสียง
แต่ในจังหวะนั้นเอง กลับมีรัศมีกลิ่นอายอันทรงพลังอีกหอบหนึ่งคำรามลั่นพร้อมเสียงคำรนหอน!
“ฉินหยวนหลง เจ้ากล้า!?”
อีกบุคคลหนึ่งผู้เปี่ยมล้นรัศมีสุดแกร่งกร้าว เขาหาใช่ใครอื่นไม่นอกเสียจากอัสนีคำรนที่เพิ่งเดินทางมาถึง!
เมื่อเขาทราบข่าวว่าเย่หยวนประกาศกร้าวท้าทายเหล่าอัจฉริยะทุกคน อัสนีคำรนก็รู้ทันทีว่าฉินหยวนหลงจะต้องมาที่นี่แน่นอน แต่เขากลับคาดไม่ถึงเลยว่า ฉินหยวนหลงจะหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้ ถึงขั้นที่ว่าลอบเร้นแฝงตัวอยู่กลางฝูงชนเพื่อหาจังหวะซุ่มโจมตีเย่หยวนจากด้านหลัง!
ปราศจากความสงสัยใด เย่หยวนเป็นศิษย์ของสถานศึกษาหวูเมิ่งที่มีศักยภาพสูงมาก และยังเหนือชั้นเสียยิ่งกว่าฉินเทียน ก่อนออกเดินทาง เหวินอี้หยางเข้ากำชับกับอัสนีคำรนโดยส่วนตัวว่า จงเฝ้าสังเกตการณ์ฉินหยวนหลงอย่างให้คลาดสายตา และอย่างปล่อยให้เขาฆ่าเย่หยวนได้เด็ดขาด
ทว่าใครจะไปคิด ฉินหยวนหลงกลับหนีออกไปจริงๆ!
เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าซุ่มโจมตีเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้า เรื่องนี้ไม่ว่าใครทราบต่างต้องรู้สึกอับอายแทน
ฉินหยวนหลงเก็บซ่อนกลิ่นอายระงับอาณาจักรพลังตัวเองไว้ พร้อมเข้าปะปนกลางฝูงชนเพื่อหาตำแหน่งที่เข้าใกล้เย่หยวนให้มากที่สุด ทั้งนี้เขาหวังฆ่าเย่หยวนให้ตายคามือโดยไม่แม้แต่จะมอบโอกาสให้อีกฝ่ายทำลายจี้หยกได้ทัน! รอยยิ้มแสนเลือดเย็นปรากฏขึ้นบนมุมปากฉินหยวนเทียน ในที่สุดเขาก็สามารถฆ่าเย่หยวนลงได้เสียที!
ไอ้เด็กเหลือขอตัวนี้ มันทำให้ตระกูลฉินเสียหน้าอัปยศอย่างที่สุด ฉะนั้นโทษของมันคือความตาย!
แต่น่าเสียดาย ยามนี้เย่หยวนกำลังหันหลังให้เขาอยู่ ฉินหยวนหลงจึงมิอาจมองเห็นรอยยิ้มแสนเย้ยหยันบนใบหน้าของเย่หยวน!
บูมมมม!
ฉินหยวนหลงสัมผัสได้โดยพลัน เงาร่างเย่หยวนไสวเลือนรางก็อันตรธานหายไปต่อหน้า
ฝ่ามือจับตายที่เขากระหน่ำออกไป ปรากฏว่าไปโดนศิษย์คนอื่นๆที่อยู่เคียงข้างตายคาที่แทน
ฝ่ามือล่าสังหารระดับชั้นอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าทรงอานุภาพเพียงใดมีหรือจะไม่ทราบ? เหล่าศิษย์ในบริเวณนั้นล้วนถูกฝ่ามือนี้ของฉินหยวนหลงบดขยี้ไม่เหลือซากในพริบตา มาตรได้ว่าตายไม่รู้ตัว
ทุกคนในตอนนี้ประหลาดใจยิ่ง เย่หยวนหายไปไหนแล้ว?
ฉินหยวนหลงขนลุกซู่วทุกอณูทั่วร่างยันหนังศีรษะ เขาในตอนนี้เพิ่งรู้ตัวว่า ตนได้มองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุดไปสนิท!
เรื่องนี้มิใช่แค่เขา ทุกคนต่างมองข้ามมันไปสนิท!
เย่หยวนใช้วิชาขี่ดาบได้!
“ท่านอาจารย์ฉินดูเหมือนท่านจะผิดหวังมิใช่น้อย? แต่เรื่องนี้ท่านประมาทเองที่ลืมไปว่าข้าขี่ดาบเหาะเหินได้!”
กลางห้วงเวหาฟ้า เย่หยวนยืนตระหง่านบนตัวดาบพลางกดสายตาจับจ้องฉินหยวนหลงที่อยู่เบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าฉินหยวนหลงบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่ เขาเงยหน้าจับจ้องเย่หยวนฉายแววอำมหิตสุดขั้วหัวใจ
เรื่องสำคัญเช่นนี้เขากลับมองข้ามไปจริงๆ! จริงอยู่ที่เย่หยวนจงใจไม่ใช้วิชาดาบขี่ นั้นก็เพื่อให้ทุกคนลืมเรื่องนี้ไป
นับตั้งแต่ศึกดวลเป็นตายกับฉินส่าว เย่หยวนก็ไม่เคยสำแดงใช้วิชาขี่ดาบต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย ชั่วพริบตากว่าหกปีผ่านพ้นไป เย่หยวนสู้ศึกสัประยุทธ์บนพื้นดินมาตลอด ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด เขาก็ไม่เคยหยิบใช้ทักษะนี้สักครั้ง ดังนั้นแล้ว ทุกคนจึงมองข้ามจุดสำคัญข้อนี้ไปสนิท!
ท้ายที่สุดแล้ว ภายในมหาพิภพถงเทียนแห่งนี้ สรรพชีวิตที่อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้าลงไปจะไม่สามารถเหาะเหินอากาศได้!
………………………………………………..