วูบบบ!
ร่างเย่หยวนแปรผันเป็นเงาทับซ้อนพุ่งโฉบลอบโจมตีจากด้านหลังกองทัพปีศาจ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เย่หยวนรีดเร้นพลังดาบไร้ขอบเขตสัญจรฟาดฟันไม่หยุดหย่อนเป็นแนวยาวขยายกว้างออกไป
เหล่าปีศาจยามนี้มุ่งสนใจเพียงเบื้องหน้า หันเข้าโรมรันพันตูเต็มกำลัง หาได้สนใจท้ายหลังไม่ เช่นนั้นแล้วด้านหลังของพวกมันจึงไร้ด่านปราการป้องกันและกลวงยิ่งกว่าอะไร
แม่ทัพอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ารีบไต่กำแพงเมืองทันทีในเวลานี้ ส่วนทัพด้านหลังส่วนใหญ่เป็นปีศาจอาณาจักรปฐมพระเจ้า ผสมกับอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าจำนวนหนึ่ง
เย่หยวนเข้าพิฆาต หนึ่งดาบต่อหนึ่งตน เสมือนพญาเสือไล่ต้อนฝูงแกะอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ต่อหน้าเขาผู้นี้ ไร้ซึ่งคู่ต่อสู้คนใดเทียบเทียมต่อกรเย่หยวนได้
สยบดาราสาดสะบั้นฉีกห้วงอากาศเป็นจุญ เหล่าทหารปีศาจกลุ่มใหญ่บรรลัยสิ้นในพริบตา เสียงคราวญครางแสนน่าสังเวทดังกึกก้องโดยพร้อมเพรียง
“แย่แล้ว! มีกองทัพมนุษย์ดักลอบโจมตีเราจากด้านหลัง!”
“กองทัพบิดาเจ้าเถอะ! มันมาคนเดียว!”
“แค่คนเดียว? เช่นนั้นยังรออะไร? ช่วยกันฆ่ามัน!”
…
เย่หยวนเข้าทะลวงฝ่าพิฆาตกองทัพปีศาจด้วยตัวเพียงลำพัง
เขาปราดพุ่งล่าสังหารด้วยความเร็วสูงสุด ศัตรูเบื้องหน้าที่พบพานยามนี้กลับมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีแม้กระทั่งแม่ทัพอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุดปรากฏกายออกมา
แต่หลังจากที่เย่หยวนเลื่อนระดับชั้นขึ้นสู่อาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าชั้นกลางได้ ความแกร่งกล้าของเขาก็ยกทวีขึ้นเป็นหลายเท่าตัว
วรยุทธเคลื่อนไหวที่เขาสำแดงใช้ช่างรวดเร็วเกินไปนัก แม้แต่เซียนอาณาจักรปัจฉิมพระเจ้าขั้นสุดยังมิอาจไล่ตามอีกฝ่ายได้ทัน
“ไม่ดีแล้ว! รับหยุดเขาโดยเร็ว! มันคิดจะทำลายพลหน้าไม้!”
เสียงคำรามของแม่ทัพปีศาจตนหนึ่งคำรามกึกก้อง
กลุ่มทหารปีศาจยืนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเจือสยดสยอง ยามนี้ทำตามสั่งการ เร่งสกัดกั้นเย่หยวนราวกับผืนทะเลเข้ามาฉีกแยกออกจากกันเป็นสองฝั่ง
สิ่งที่แม่ทัพตนนั้นกลับไปล้วนถูกต้องทั้งหมด เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวนคือ ทำลายแนวทัพของพลหน้าไม้และพลหอกอสูรมังกร!
แน่นอนว่ากลยุทธ์จับกลุ่มระดมรวมกันนั้นได้ผล!
เส้นทางเบื้องหน้าของเย่หยวนล้วนถูกปิดกั้นโดยกลุ่มมวลทหารมากมายนับไม่ถ้วน
ขุมพลังความแกร่งกร้าวของเย่หยวนนั้นเหนือชั้นเกินพรรณนา แต่ยามนี้มีเพียงเขาแค่คนเดียว
มวลทหารปีศาจยามนี้ เขาไม่สามารถล่าสังหารได้ทั้งหมด
ในที่สุดความเร็วของเย่หยวนก็เริ่มลดลง
ตัวเขาอยู่ห่างจากพลหน้าไม้และพลหอกอสูรมังกรแค่ไม่กี่ร้อยฉื่อ ทว่าไม่กี่ร้อยฉื่อนี้ช่างห่างไกลดั่งสุดขอบฟ้า
เมื่อล่าสังหารกลุ่มปีศาจฝูงใหญ่เสร็จสรรพ พวกมันกลับเข้ามาขัดขวางอีกระลอกหนึ่ง
“เราไม่สามารถจัดการมันลงได้! มนุษย์คนนี้แข็งแกร่งเกินไป! ทางที่ดีหยิบใช้กลยุทธ์จับกลุ่มต้านรับจนกว่ามันจะเหนื่อยตาย!”
“ทั้งหมดผสานช่วยกันโจมตี! ยามนี้มันหนีไม่รอดแล้ว! ไม่ว่าแกร่งกล้าเพียงใด แต่มันมีตัวคนเดียวอีกไม่นานมันก็หมดแรงตายไปเอง!”
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่าเจ้ามนุษย์!”
…
ทะเลเลือดที่เย่หยวนล่าสังหารไม่ยั้งมืออย่างบ้าคลั่ง ทำให้เหล่าปีศาจพวกนี้หวาดกลัวไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยิ่งไปกระตุ้นความบ้าดีเดือดของพวกมันมากขึ้นเช่นกัน ทำให้พวกมันวิ่งเข้าใช่ไม่หยุดยั้งราวกับเสียสติกันไปแล้ว
“เหอะ กลยุทธ์โถมโจมตีด้วยคลื่นมนุษย์ จะใช้ได้ผลแน่รึ?”
เย่หยวนรวนหัวเราะคำหนึ่งเสียงเย็นสะท้าน แต่ยามนี้ความเร็วในการปราดพุ่งเคลื่อนไหวไม่มีลดลงสักนิด เขายังคงฆ่าสังหารพวกมันต่อเนื่องประดุจดาวพิฆาตไม่หยุดมือ
คล้อยหลังที่เย่หยวนตรงเข้ากลางวงล้อมซัดโหมโรมรันอย่างหนักจวบจนตอนนี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สิบอึดใจสั้นๆ ทว่าเขาก็ล่าสังหารสิ่นไปกว่าร้อยตนได้แล้ว
จำนวนที่ตายลงเทียบเท่ากับกองทหารได้กลุ่มใหญ่พอดี
ในทางตรงกันข้าม เย่หยวนกลับมิได้รับบาดเจ็บเลยแม้สักนิด
จันทร์สลาย!
ทันทีทันใด คลื่นพลังอันทรงอานุภาพพลันปะทุขึ้นบนร่างกายของเย่หยวน พร้อมพุ่งเข้าใส่แม่ทัพตนหนึ่งด้วยความเร็วเกินคาดจินตนาการถึงได้
แม่ทัพตนนั้นไม่คิดไม่ฝันแม้นสักนิด เย่หยวนยังเก็บรอนไพ่ตายอันน่าสะพรึงขนาดนี้ไว้อีกด้วย ซ้ำยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ตกเป็นรอง ถูกกองทัพปีศาจตีล้อมห้อมกรอบ
โพล๊ะ!
เมื่อแตะสัมผัสกับกระบวนโจมตีของเย่หยวน ร่างของมันระเบิดแหลกเละออกไปโดยตรง เศษซากร่างที่ยังหลงเหลือทรุดลงบนพื้นทั้งแบบนั้น
เหล่าทหารปีศาจต่างตกตะลึงอย่างหนักจนปิดปากไม่อยู่ แม่ทัพอันทรงพลังของพวกมันกลับตายลงทันทีภายในหนึ่งกระบวนดาบ?
มนุษย์คนนี้ไม่วิปลาสเกินไปใช่หรือไม่?
ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ยังไม่มีใครรู้สึกสัมผัสได้ เย่หยวนก็ปราดพุ่งเข้าถึงตรงหน้าอีกฝ่ายราวกับสายฟ้า!
ชวิ้ง ชวิ้ง ชวิ้ง!
เย่หยวนปลดปล่อยสยบดาราหลากกระบวนทับซ้อน เสียงกระหึ่มดังราวกับอัสนีคำรน เข้าฟาดผ่าเหล่าทหารปีศาจทั่วสารทิศพิฆาตห่าสิ้นโดยตรง
แม้ว่าหน้าไม้และหอกอสูรมังกรจะทรงพลังอย่างมาก แต่มันก็เป็นเพียงอาวุธระดับชั้นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เลิศล้ำทั่วไป ที่อ่อนแอยิ่งในการป้องกัน
อาศัยความแข็งแกร่งของเย่หยวน ก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายพวกมันลงด้วยคลื่นคมดาบเดียว
ยามนี้บนกำแพงเมืองเข้าสู่ช่วงสัประยุทธ์ระยะประชิดพัลวันประจัญบาน ทั้งสองฝ่ายยามนี้เหลือแต่มือเปล่าแล้ว
เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเหล่านั้นเข้าเข่นฆ่าทัพมนุษย์อย่างไร้ปรานี ด้วยขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพ
แต่ในศึกสมรภูมิชเนนี้เอง เหล่าเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเองก็หาใช่ว่าจะไร้เทียมทานฆ่าไม่ตาย
การหยิบใช้พละกำลังเข้าสัประยุทธ์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ทำให้พวกมันเหนื่อยแทบขาดใจเช่นกัน
ดังนั้น พวกมันจึงเริ่มเกาะกลุ่มกันกดดันฝ่ายทัพมนุษย์
แต่ทันใดนั้น แม่ทัพอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าตนหนึ่งก็พบว่า เหล่าพรรคพวกที่อยู่ด้านหลัง ยามนี้กลับมีไม่มากนัก
นอกจากนี้ไฉนพลหอกอสูรมังกรและพลหน้าไม้ถึงหยุดยิงไปเสียดื้อๆ?
เมื่อเหลียวมองกลับไป พวกมันแทบใจสลายในบัดดล
เนื่องจากพวกเขาอยู่แนวหน้าบนกำแพง จึงไม่มีเวลาไปมุ่งความสนใจกับด้านหลังเท่าไหร่นัก
ทว่าตอนนี้ด้านหลังของทัพอสูรกลับเกิดวิกฤตความโกลาหลครั้งใหญ่!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทหารฝูงใหญ่ที่ตายกันลงมีไม่น้อยกว่าห้าถึงหกพันนาย!
ณ ปัจจุบันเผ่าปีศาจประสบความสูญเสียเป็นมวลรวมกว่าหนึ่งหมื่นคนได้แล้ว ซ้ำร้ายซ้ำเล่าพลังเสริมมิอาจเข้าช่วยเหลือได้ ยามนี้เหลือไม่ถึงสองหมื่นนายแล้ว
ห้าถึงหกพันคนถูกจัดการพร้อมกันไม่เหลือ พวกมันกลับมิได้เหนือชั้นกว่าพวกมนุษย์ที่เฝ้าปกป้องเมืองกระแสพิรุณเลย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะสามสามารถบุกยึดเมืองได้อย่างไร?
ซิ่วเหล่ยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากหน้าไม้ยักษ์ที่ยิงใส่ก่อนหน้า ทำให้ความอแข็งแกร่งของมันลดลงอย่างมาก ในยามนี้มันได้เข้าปะทะกับหวังอี้เฟินแล้ว
แม้มันจะสามารถปราบปรามหวังอี้เฟินได้ แต่กลับเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะจัดการได้อย่างอยู่หมัดภายในระยะเวลาอันสั้น
บางทีในยามนี้ ทั้งสองฝ่ายอาจตกอยู่ในทางตันทั้งคู่!
ฝ่ายมนุษย์อาศัยความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ จึงสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเผ่าปีศาจได้
คล้ายว่าทั้งสองฝ่ายกำลังชักเย่อได้เปรียบเสียเปรียบสลับกันไปมาบนกำแพงเมือง!
“บัดซบ! ไฉนพลังปราณเทวะของเจ้ามนุษย์คนนี้ยังไม่หมดเสียที!”
“พวกเราตายสิ้นไปเกือบพันตนได้แล้วกระมัง แต่มันก็ยังสัประยุทธ์ได้ราวกับไม่มีวันหมดแรง เจ้ามนุษย์คนนี้แข็งแกร่งจริงๆ!”
“หรือเป็นไปได้ไหมว่า ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์คนนี้จะไม่มีวันหมด!?”
…
เหล่ามหารปีศาจแทบจะสิ้นหวังลงทุกที พวกเขาใช้จำนวนเข้าสู่หวังเพื่อทำให้เย่หยวนหมดแรงลง
แต่กลับเป็นพวกเขาที่ตายครั้งละเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ร่างกายเย่หยวนยังเปี่ยมล้นไปด้วยพลังปราณเทวะและพลังจิตวิญญาณ โดยหาได้ปรากฏสัญญาณว่าทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์จะเหือดแห้งเลยแม้แต่นิดเดียว
แม่ทัพจำนวนกว่าห้าถึงหกคนตอนนี้คิดจะปิดล้อมเย่หยวนเอาไว้ แต่กลับไม่มีใครสามารถไล่ตามเขาได้ทันเลยสักคน
เวลาผ่านไป ในที่สุดเย่หยวนก็ไม่สามารถรั้งรอต้านทานได้ไหวอีกต่อไป
เมื่อเหล่าแม่ทัพที่หลงเหลือเห็นแบบนั้น พวกมันต่างก็ดีใจยิ่งยวดประหนึ่งถูกฉีดกระตุ้นคำรามกึกก้องลั่นว่า
“มันใกล้จะหมดแรงแล้ว! เก็บแรงเตรียมสังหารมัน!”
เหล่าทหารปีศาจที่ยื้อเวลาสัประยุทธ์จนถึงขีดจำกัด แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกมันทุกตนต่างรู้สึกคึกขึ้นทันทีอย่างไม่น่าเชื่อและรุมโจมตีเย่หยวนประดุจน้ำป่าไหลหลาก
การไล่ล่าสังหารตลอดทั้งวันทั้งคืนนี้ ทำให้พลังปราณเทวะในกายของเย่หยวนลดฮวบจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว
อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่เขาวางไว้ในทีแรกก็ทำสำเร็จ
“เหอะ ท่านปู่เย่คนนี้เล่นมามากพอแล้ว ต่อไปคงไม่มีโอกาสได้เล่นกับพวกเจ้าอีกแล้ว!”
เย่หยวนระเบิดหัวเราะเยาะคำโต ร่างไสววูบเคลื่อนทะยานขึ้นเหนือฟ้า
ขี่ดาบหลบหนี!
เหล่าปีศาจตื่นตะลึงสุดขีด พวกมันหยิบใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อจะโค่นเย่หยวนลง
ทว่าอีกฝ่ายกลับบินหนีไปอย่างหน้าตาเฉย!
“ฆ่า!”
ทันทีทันใดเสียงคำรามดังลั่นออกมาจากป่าทึบ สีหน้าการแสดงออกของทหารปีศาจแปรเปลี่ยนดูซีดเซียวในบัดดล!
กำลังเสริมมาแล้ว!
…………………………………