สามเดือนต่อมา ในที่สุดเย่หยวนก็ปรับแต่งแกนมณีวิญญาณสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง
ธารข้อมูลมากมายหลายหลากหลั่งไหลเข้าสู่จิตใต้สำนึกของเขาโดยตรง
ตอนนี้เย่หยวนสามารถควบคุมได้เพียงหนึ่งในสามส่วนหลักของโถงแห่งนี้
หากเขาต้องการที่จะควบคุมโถงบัลลังก์ม่วงให้เชี่ยวชาญกว่านี้ เขาจำต้องบ่มเพาะฝึกปรือวรยุทธในส่วนที่เหลือ
“ฟู่วว..กินผลึกปราณเทวะมหาศาลปานนี้เลยรึ? น่ากลัวจริงๆ!”
เย่หยวนแทบหมดคำพูดทันทีที่เห็นมันกลืนกินผลึกปราณเทวะอย่างกระหาย
ยามนี้เขาควบคุมให้โถงบัลลังก์ม่วงปลดปล่อยการโจมตีเพื่อกำจัดศัตรูระดับชั้นราชันพระเจ้าหนึ่งดาว ซึ่งจำต้องใช้ผลึกปราณเทวะระดับต่ำมากถึงห้าสิบล้านก้อน!
สิ่งนี้เทียบเท่าได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของราชันพระเจ้าหนึ่งดาวคนหนึ่ง
เนื่องจากเย่หยวนมีฐานะเป็นถึงนักหลอมโอสถผู้แกร่งกล้าและเคารพสรรเสริญยิ่งต่อผู้คน ดังนั้นกระเป๋าเขาจึงหนักมิใช่น้อย ยามนี้พกผลึกปราณเทวะระดับต่ำไม่น้อยกว่าหลายสิบล้านก้อนในตัว
หากเป็นนักสู้ทั่วไป ระดับชั้นเดียวกับเย่หยวนคงมีแค่ผลึกปราณเทวะระดับต่ำติดตัวแค่หลักแสนเท่านั้น
สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ เหล่านักฝู้จำต้องดูดซับพลังจากผลึกปราณเทวะเพื่อบ่มเพาะพลังเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องใช้มันเป็นตัวกลางเพื่อจับจ่ายซื้อทรัพยากรการบ่มเพาะพลังอื่นๆ รวมไปถึงสิ่งของเบ็ดเตล็ดอีกมากมาย
“จุจุ นี่มันของเล่นคนรวยชัดๆ!”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวพร้อมสีหน้าสุดขื่นขม
“อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้นับเป็นของดีโดยแท้!”
หวูเฉินรวนหัวเราะกล่าว
“ท่านอาวุโสพอจะมีวิธีช่วยผู้อาวุโสนิกายบัลลังก์ม่วงหรือไม่?”
เย่หยวนเอ่ยถามขึ้น
“ไม่มีทางช่วยเหลือได้เลยจริงๆ แม้ยอดเซียนผู้ไร้เทียมทานยังไม่สามารถอยู่เหนือกาลเวลาได้เช่นกัน ร่างที่กำลังสนทนากับเจ้าเป็นเพียงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น หลังจากถูกปิดผนึกมานานเกินคณานับ จิตวิญญาณของเขาก็แทบจะสลายแล้ว”
หวูเฉินกล่าวอย่างหมดหนทาง
“คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ น่าเสียดายนัก”
เมื่อเย่หยวนกลับเข้าสู่ความเป็นจริงก็พลันพบว่า ชายชราร่างผอมกำลังจับจ้องเขาพร้อมสีหน้าการแสดงออกแสนอยากรู้อยากเห็นยิ่ง
“ผู้อาวุโส ขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง!”
เย่หยวนประสานมือกล่าวขอบคุณ
ชายชราร่างผอมยิ้มและกล่าวว่า
“คนที่ควรกล่าวขอบคุณกลับเป็นข้าเสียมากกว่า เราชายชราถูกปิดผนึกอยู่ที่นี่มานานเกินนับแล้ว และเจ้าคือผู้ที่ช่วยปลดปล่อยข้า ทั้งยังดับผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งเช่นเจ้าอีก นี่นับเป็นพรของสวรรค์แล้ว! เจ้าคือผู้สอบทอดนิกายบัลลังก์ม่วงคนต่อไป! เห็นแบบนี้เราชายชราก็สามารถจากไปอย่างหมดห่วงแล้ว”
ความหมายของชายชราผู้นี้ค่อนข้างชัดเจน เขาต้องการจะจบชีวิตตัวเองลง!
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้า แท้ที่จริงเขายังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ต่ออย่างน้อยสองถึงสามปี
แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ในขณะที่เอ่ยกล่าวร่างของชายชราก็ค่อยๆสลายหายไป
“พ่อหนุ่ม เจ้าชื่ออะไร?”
ชายชราเอ่ยถาม
เย่หยวนกล่าวด้วยความเคารพว่า
“ผู้เยาว์นามว่าเย่หยวน”
ชายชราระเบิดหัวเราะลั่นและกล่าวว่า
“ดี! ดี! ดีมาก! เย่หยวน เจ้าทำให้เราชายชราผู้นี้ไม่ผิดหวังเลย! จงสลักจำไว้ เราชายชรานามว่าเนียเซิง ประมุขนิกายบัลลังก์ม่วงคนรุ่นสุดท้าย ในที่สุดวันนี้เราชายชราก็สามารถชดเชยความผิดตลอดมาของข้าได้ในที่สุด!”
เย่หยวนเฝ้ามองอีกฝ่ายที่ค่อยๆสลายหายไปกลายเป็นแสง เขาถอนหายใจพร้อมกล่าวอย่างหนักแน่นมุ่งมั่นว่า
“ผู้อาวุโสเนียเซิงโปรดมั่นใจ เราผู้เยาว์เย่หยวนจะนำพานิกายบัลลังก์ม่วงผงาดขึ้นสู่มหาพิภพอีกครั้ง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเนียเซิงพลันฉีกยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจ ก่อนจะจากไปอย่างเป็นสุข
จิตใจของเย่หยวนยามนี้ปั่นป่วนมิใช่น้อยภายในโถงบัลลังก์ม่วงแห่งนี้
เมื่อกวาดสายตามองไปยังสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำที่กองรวมกันเป็นภูเขา เย่หยวนก็รู้สึกราวกับฝันไป
“จุจุ นี่ถือว่าข้าถูกรางวัลใหญ่แล้วกระมัง? มหาขุมทรัพย์ทั้งหมดของนิกายอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว!”
เย่หยวนกล่าวขึ้น พยายามระงับอาการตื่นเต้นอย่างสุดกำลัง
วรยุทธบ่มเพาะพลัง วรยุทธต่อสู้ สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ ผลึกปราณเทวะ…
ทรัพยากรมากมายเหล่านี้ที่ถูกสะสมไว้ในโถง ทำให้เย่หยวนรู้สึกราวกับวิ่งมาเจอห้องเก็บสมบัติยักษ์
นับแค่ผลึกปราณเทวะระดับต่ำภายในนี้ก็มีมากถึงห้าพันล้านก้อน!
แน่นอนว่านี่มิใช่ทุนรอนที่มีตั้งแต่แรกแน่นอน
แม้ว่าโถงบัลลังก์ม่วงแห่งนี้จะอยู่ในสภาพปิดผนึก แต่นั่นมิได้หมายความว่ามันไม่จำเป็นต้องใช้ผลึกปราณเทวะ
จำต้องใช้จ่ายมันอย่างต่อเนื่อง มิฉะนั้นจะไม่สามารถคงสภาพเช่นนี้ได้ตลอดมาจวบจนปัจจุบัน
สันนิษฐานได้ว่า ในตอนนั้นที่เนียเซิงปิดผนึกโถงบัลลังก์ม่วงแห่งนี้ จำนวนผลึกปราณเทวะที่ใช้จ่ายไปน่าจะเป็นปริมาณที่มหาศาลจนน่ากลัว
ตอนนี้ที่เหลือเพียงห้าพันล้านก้อน นับเป็นเศษเสี้ยวของตอนนั้นอย่างชัดเจน
แต่ด้วยจำนวนผลึกปราณเทวะห้าพันล้านก้อน เย่หยวนสามารถใช้มันจำกัดจ้าวทัพปีศาจได้กว่าร้อยคนพร้อมกัน
แน่นอนว่ามีเงื่อนไขสำคัญคือ จำต้องล่อให้อีกฝ่ายเข้ามาในโถงบัลลังก์ม่วงแห่งนี้เท่านั้น
ค่ายกลสังหารของโถงบัลลังก์ม่วง มีรัศมีพิฆาตแค่ในโถงเท่านั้น
“จุจุ ไม่น่าแปลกใจที่ไฉนโถงโลหิตปรโลกถึงประสบปัญหามากมายกับที่แห่งนี้ โถงบัลลังก์ม่วงเก็บสะสมสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำระดับต่ำอย่างน้อยห้าถึงหกสิบชิ้น ภายข่าวนี้แผ่กระจายออกไป มหาพิภพต้องสั่นสะเทือนเป็นแน่!”
ภายในหนึ่งในสามส่วนของพื้นที่แห่งนี้ ได้เก็บสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำระดับต่ำมาถึงห้าหกสิบชิ้นอย่างลับๆ ใครได้ยินต่างต้องไล่ล่าอย่างสุดชีวิต
เพียงว่าตอนนี้ทั้งหมดเป็นของเย่หยวนแก่เพียงผู้เดียว ผู้ใดได้ยินต่างต้องเป็นบ้า
และสมบัติที่กล่าวเล่าทั้งหมดในเป็นเพียงของที่เก็บไว้ในห้องส่วนเดียวของโถงเท่านั้น!
มูลค่าสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำต่อหนึ่งชิ้น มีราคาอย่างน้อยร้อยล้านผลึกปราณเทวะระดับต่ำ
เท่ากับว่าเย่หยวนมีทรัพย์สินรวมกว่าห้าพันหกร้อยล้านผลึกปราณเทวะระดับต่ำ นี่ยังไม่นำวรยุทธบ่มเพาะพลังและวรยุทธต่อสู้มาตีราคา
อย่างไรก็ตามแต่นี่เป็นแค่ราคาตลาดเท่านั้น ไม่มีใครโง่พอที่จะนำสมบัติเหล่านี้ออกมาขายได้ง่ายๆ
ดังนั้นแล้ว มูลค่าที่แท้จริงของสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ มีแนวโน้มสูงกว่าราคาตลาดหลายเท่า!
เย่หยวนในตอนก่อนหน้า ยังรู้สึกพอใจไม่น้อยที่ได้รับหม้อหลอมมณีเหลืองพิสุทธิ์มา แต่ใครจะไปคิด พริบตาเดียวต่อมา เขากลับจมลงในมหาสมุทรแห่งสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำไปเสียแล้ว
กระนั้นเอง ในบรรดาสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่ ดาบ กระบี่ ทวน ง้าว ที่เป็นอาวุธทั้งสิ้น มีแม้กระทั่งอาวุธเสริมอีกจำนวนเล็กน้อย แต่กลับไม่มีหม้อหลอมโอสถอยู่เลย
หม้อหลอมโอสถที่เป็นสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำนับเป็นของหายากยิ่งในบรรดาทั้งหมด เนื่องจากเป็นสมบัติคู่กายของนักหลอมโอสถ
กล่าวได้ว่าหม้อหลอมมณีเหลืองพิสุทธิ์ใบนี้ มีแต่ผู้คนเฝ้าปรารถนา แต่กลับไม่มีใครนำออกมาขาย
เย่หยวนเข้าตรวจสอบสมบัติราชันพระเจ้าโดยละเอียด ก่อนจะมีดาบยาวเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามือของเขามา
“ดาบจักรพรรดิล้ำฟ้า อืม…ไม่เลว!”
เย่หยวนร่ายกระบวนดาบเล่นเล็กน้อย เขาพึงพอใจกับดาบเล่มนี้อย่างมาก
ณ ปัจจุบันดาบพิชิตมารฟ้าค่อนข้างกลายมาเป็นภาระของเย่หยวนไปแล้ว
เมื่อจับคู่สัประยุทธ์กับเหล่าอัจฉริยะบางคนที่ใช้สมบัติเลิศล้ำ เย่หยวนค่อนข้างเสียเปรียบอย่างมาก
เท่าที่เย่หยวนทดลองมาทั้งหมด ในบรรดาสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำเหล่านี้ มีเพียงดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าเล่มนี้ที่เหมาะสมกับเขาที่สุดแล้ว
อาศัยขุมพลังของดาบจักรพรรดิล้ำฟ้า มันสามารถเพิ่มทวีพลังต่อสู้ของเย่หยวนได้ถึงขีดจำกัด
ท้ายที่สุดนี้แม้กระทั่งเหล่ายอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าเอง ก็มีน้อยคนนักที่ได้ครอบครองสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ
“เจ้ายังควบคุมโถงบัลลังก์ม่วงแห่งนี้มิได้ทั้งหมด ควรจะมีสมบัติที่ระดับชั้นสูงกว่านี้ในส่วนที่ลึกลงไป นี่เป็นเพียงส่วนผิวเผินเท่านั้น”
ดวงตาของเย่หยวนสว่างไสวขึ้นทันที เขากล่าวว่า
“เข้าท่า! อย่างไรก็ตามแต่…บนมหาพิภพถงเทียนแห่งนี้มีนิกายที่ว่ามาก่อนด้วยงั้นรึ?”
หวูเฉินส่ายหัวพร้อมกล่าวตอบว่า
“ข้าเองก็ไม่รู้ มหาพิภพถงเทียนดำรงอยู่เนิ่นนานเกินนับได้ ไม่มีใครรู้ว่าสมัยบรรพกาลเป็นอย่างไรบ้าง บางทีก่อนที่มหาพิภพถงเทียนจะเป็นอยู่อย่างในปัจจุบัน อาจมีนิกายมากมายดำรงอยู่เป็นขั้วอิทธิพลใหญ่ เรื่องแบบนี้มีเพียงระดับชั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์ฟ้าและเหล่าบรรพชนเต้าท่านั้นที่ล่วงรู้”
“เช่นนั้นรึ? การจะก่อตั้งนิกายขึ้นในตอนนี้คงเป็นปัญหาไม่น้อย”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวขึ้นอย่างหมดหนทาง
หากเย่หยวนเริ่มก่อตั้งนิกายแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อาจละเมิดกฎการปกครองอย่างไม่ต้องสงสัย นั้นอาจทำให้เขากลายมาเป็นศัตรูร่วมของหลายๆอาณาเขตได้
ภายในระดับเวลาอันสั้น เย่หยวนยังไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเนียเชิงได้
…………………………………………