สีหน้าการแสดงออกของเฉินเปารวนเรเปลี่ยนไปอยู่พักหนึ่ง พลันกรนเสียงเย็นก่อนเดินไปต่อแถวที่ด้านหลังตามที่อีกฝ่ายกล่าว
ประมุขสั่งการชัดเจน เป้าหมายคือทุบป้ายร้านหาใช่สร้างความเดือดร้านไปทั่ว
ซึ่งในเนื้อหาคำกล่าวของประมุขก็ค่อนข้างชัดแจ้งดี ในเมื่อพวกมันกล้าเขียนป้ายเช่นนี้ก็จงทำลายซะ แต่อย่าให้กระทบกระทั่งกับฝ่ายอื่นๆเด็ดขาด
และชายวัยกลางคนที่นอนโทรมอยู่บนเปลก็คือของขวัญชิ้นโตที่ประมุขเตรียมไว้ให้!
เมื่อหัวหน้าห้าเห็นว่าเฉินเปายอมถอยแต่โดยดี ลางสังหรณ์ที่เกิดภายในใจกลับยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้น
นิสัยของหัวหน้าห้ากับเฉินเปาค่อนข้างคล้ายคลึงกันมาก ทั้งเป็นคนใจร้อนใช้แต่กำลัง โดยปกติทั้งคู่ไม่ค่อยกินเส้นกันดีอยู่แล้ว
และด้วยนิสัยของอีกฝ่าย มันไม่มีทางยอมถอยกลับไปง่ายๆแน่นอน นี่ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน!
ชายวัยกลางคนที่เปลหามนั้นคงไม่ง่ายที่จะรักษาแน่นอน!
หัวหน้าห้าเหลือบมองเย่หยวนด้วยความกังวลใจมิน้อย แต่พลันพบว่ายามนี้เย่หยวนยังคงตรวจวินิจฉัยคนไข้ต่อไปตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม้ว่าจะมั่นใจในฝีมือของเย่หยวนมาก แต่สำหรับคนที่จงใจหาเรื่องย่อมนำปัญหาที่ยากจะแก้ไขมาให้แน่นอน
และนี่มิชาแค่หัวหน้าห้าแม้แต่ประมุขกลุ่มของเขาเองก็ค่อนข้างวิตกกังวลเรื่องนี้
ท้ายที่สุดแล้วแม้แผ่นป้ายนี้ถูกตั้งผงาดต่อหน้าสาธารณชน ไม่ว่าใครต่างก็เข้าท้าทายทั้งนั้น!
เป็นไปได้ว่าไม่เพียงเมืองทางตอนใต้ แต่กระทั่งเหล่านักหลอมโอสถจากทั่วทุกมุมเมืองจักรพรรดิอาจเข้ามาท้าทายเดิมพัน!
“หนิงซื่ออวี๋ ไปทำน้ำสมุนไพรตามใบสั่งนี้มา แล้วนำให้เขาดื่ม”
เย่หยวนจดทุกอย่างที่จำเป็นลงในใบสั่งและยื่นให้หนิงซื่ออวี๋
“ได้เลย!”
หนิงซื่ออวี๋ข่านรับด้วยความตื่นเต้น พร้อมรับใบสั่งในมือเย่หยวนและตรงเข้าหาหม้อหลอมโอสถทันทีอย่างสุขใจ
เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากนี้ต่างอดตื่นตกใจกันมิได้
เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นกลางเชื่อฟังคำสั่งเด็กหนุ่มอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นต้น?
ท่าทีอันแสนเชื่องของหนิงซื่ออวี๋ที่มีต่อเย่หยวนราวกับสถานะศิษย์อาจารย์ไม่มีผิด ซึ่งนางเองก็สนุกไปกับมันด้วยซ้ำ
หลายวันมานี้ ด้วยมาตรฐานการหลอมกลั่นโอสถของหนิงซื่ออวี๋ ก็ดูเหมือนว่านางจะได้การยอมรับจากเย่หยวนบ้างแล้ว
แม้ว่านางจะเป็นคนเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็ยังถือเป็นต้นกล้าชั้นดีและมีพรสวรรค์ทที่สูงลิบลิ่ว
ด้วยสถานะจอมเทพโอสถสามดาวระดับกลางของนาง ทำให้หนิงซื่ออวี๋มีทุนรอนฝีมือมิใช่น้อย
“ต่อไป!”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวขึ้นอย่างไม่แยแส
เมื่อเวลาผ่านไปฝูงชนมากมายต่างได้รับการรักษาจากเย่หยวน
แต่ทันทีที่เห็นคนกลุ่มหนึ่งพาชายหนุ่มน้ำลายย้อยยืดมา หัวหน้าห้าที่เฝ้าสังเกตอยู่พลันขมวเคิ้วขึ้นทันที
ทันทีที่เห็นดังนั้น หัวหน้าห้าพลันใจหายวาบทันที
เขาจดจำได้อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มน้ำลายไหลยืดนี้คือบุตรชายคนโตของตระกูลเฉียนผู้อยู่ภายใต้อำนาจของกลุ่มสุริยันจันทรา
เฉียนปิงคนนี้ก็ปัญญาอ่อนตั้งแต่เกิด
บุตรที่ถือกำเนิดจากเซียนอาณาจักรพระเจ้าและเป็นเช่นนี้ กล่าวได้ว่าแทบจะไม่ปรากฏมาให้เห็นบ่อยนัก
แต่เฉียนปิงคนนี้ไม่เพียงปัญญาอ่อน เขายังเป็นแค่คนธรรมดา!
เนื่องจากประมุขตระกูลเฉียนมาบุตรชายแค่คนเดียว เขาจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาความบกพร่องทางสมองของตนมาโดยตลอด
กระทั่งเชื้อเชิญปรมาจารย์นักหลอมโอสถระดับแนวหน้าของเขตเมืองชั้นในมา รวมไปถึงปรมาจารย์อู๋เฟิน แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
ว่ากันว่าเฉียนปิงเกิดขึ้นมาพร้อมกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์ นั้นจึงทำให้เขาปัญญาอ่อน
ทว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักหลอมโอสถคนใด ใครบ้างจะสามารถรักษาได้?
ลืมไปเลยสำหรับอู๋เฟิน ต่อให้เป็นจอมเทพโอสถสี่ดาวระดับสูงยังจนปัญญา!
สีหน้าของหัวหน้าห้ามิดทมิฬลงทันที เขากล่าวว่า
“ติงซง เจ้าเองก็มาก่อปัญหาด้วยกระมัง?”
ทว่าติงซงแตกต่างไปจากเฉินเปาที่ขี้หงุดหงิดโดยสิ้นเชิง เขาเพียงยิ้มตอบว่า
“เจ้ากำลังกล่าวอันใด? ร้านขายโอสถรับจ้างสารพัดกำลังเป็นที่โด่งดังยิ่งในตอนนี้ ข้าเพียงต้องการพานายน้อยเฉียนมาพบท่านปรมาจารย์ นี่หรือคือการก่อปัญหา? แต่อย่างไร…ป้ายบนหน้าเองก็เขียนว่า รับจ้างสารพัด คงมิใช่ว่าต้มตุ๋นกันใช่ไหม?”
เมื่อเอ่ยกล่าวมาถึงจุดนี้ กลุ่มของเฉินเปาที่อยู่ด้านหลังพลันระเบิดหัวเราะเยาะลั่น
หัวหน้าห้ากัดฟันกรอดกล่าวว่า
“ติงซง เจ้ากำลังหาเรื่องผิดคนแล้ว! เฉียนปิงเกิดมาพร้อมกับสติปัญญาที่บกพร่อง อาการเช่นนี้ไม่มีทางรักษาได้เลย! ที่พาเขามาที่นี่หากไม่มีเจตนาแอบแฝงยังเป็นใดอื่นได้?”
มุมปากของติงซงเชิดยิ้มขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า
“เมิ่งหัว ข้าไม่เห็นเข้าใจสิ่งที่เอ่ยกล่าวเลย สารพัดรับจ้าง สี่อักษรนี้คงเขียนขึ้นเพื่อคึกคะนองเฉยๆกระมัง? ตอนนี้เรามีคำร้องขอต้องการให้ท่านปรมาจารย์เย่ช่วยเหลือ หากรักษาไม่ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งหมดก็แค่พวกต้มตุ๋นเท่านั้น!”
หัวหน้าห้าอดสำลักมิได้เมื่อได้ยิน ยามนี้ถึงกับเอ่ยปากเถียงตอบไม่ออก
ตอนนี้เขารู้แล้วว่า เย่หยวนกำลังยิงตัวตายชัดๆ
การที่แขวนป้ายแบบนั้นต่อหน้าสาธารณชน กลับเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำโดดเด็ดขาด!
“โอ้ ร้านขายโอสถเล็กๆกลับคนเยอะจริงๆ!”
ทันทีทันใดพลันปรากฏชายผู้หนึ่งตรงเข้ามาทักทาย
หัวหน้าห้าเองก็รู้จักกับอีกฝ่ายเช่นกัน เขานามว่าหวางห่าวหลาน ซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหอเต๋ออี้
เหลือบมองหวางห่าวหลานแวบหนึ่ง สีหน้าการแสดงออกของหัวหน้าห้าพลันมืดมนถึงขีดสุด
ชายคนนี้มาในนามของอู๋เฟินไม่ผิดแน่!
อู๋เฟินเองก็เหมือนกับคนอื่นๆ ส่งคนมาดำเนินการสร้างปัญหาที่นี่!
อู๋เฟินเป็นจอมเทพโอสถสามดาว ย่อมคุ้นเคยกับศาสตร์แห่งโอสถดีเกินไป
อาการเจ็บปวดใดรักษายากง่ายอย่างไร เขาล้วนทราบประจักษ์ชัด
และคนที่หวางห่าวหลานพามาหัวหน้าห้าเองก็รู้จักดีเช่นกัน เขาเป็นหลานชายของหวางห่าวหลาน นามว่า หวางเชียน
หลายปีก่อน หวางเชียนได้เดินทางเข้าไปในดินแดนลึกลับเพื่อค้นหาสมบัติ และรอดตายออกมาได้อย่างหวุดหวิด ทว่านับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาไม่เพียงสูญเสียระดับพลังทั้งหมดที่บ่มเพาะมา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียจิตวิญญาณไปด้วย ดังนั้นจึงทำให้สภาพของเขาตอนนี้ไม่ต่างไปจากศพเดินได้เลย
และหวางห่าวหลานก็รักหลานชายคนนี้มาก เขาเคยพบหวางเชียนไปพบกับอู๋เฟินรอบหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายแม้แต่วินิจฉัยอาการป่วยยังไม่ได้
ต่อมาอู๋เฟินอาสาเชื้อเชิญเหล่าปรมาจารย์นักหลอมโอสถจากเขตเมืองทางทิศอื่นๆมา แต่กลับไม่ทมีใครสักคนที่รู้ว่าหวางเชียนเป็นอะไรกันแน่
ดังนั้นเขาจึงถอดใจกับเรื่องนี้มาหลายปีแล้วเช่นกัน
หัวหน้าห้ายามนี้กำลังเดือดดาลสุดขีด พวกมันทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาชัดๆ!
กลุ่มอัสนีคำรนของพวกเขามิได้ตั้งใจทำให้อู๋เฟินโกรธเคืองจริงๆ เย่หยวนสามารถช่วยเหลือพี่สองของพวกเขาได้ ก็จำต้องให้เขาลงมือจริงหรือไม่?
เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะปล่อยให้พี่สองตายทั้งแบบนั้น?
ปรมาจารย์อู๋เฟินคนนี้ใจคับแคบเสียเหลือเกิน เพราะความเสียหน้าเพียงเล็กน้อยกลับสร้างปัญหาใหญ่แก่พวกเขา
ใครจะไปคาดคิด ผูกสัมพันธ์กับเฟิน เสียผลึกปราณเทวะไปจำนวนมหาศาล กลับน้อยใจเสียหน้าในเรื่องไม่เป็นเรื่อง!
ใครจะไปคิดว่าวันนี้ อู๋เฟินคนนั้นจะกลายเป็นศัตรูเสียได้
นอกจากไอ้พวกบัดซบเหล่านี้แล้ว วันนี้ยังมีใครมาหาเรื่องอีกหรือไม่?
ขณะที่หัวหน้าห้ากำลังจะไล่คนเหล่านี้ออกไปไกลๆ เขาพลันเหลือบไปเห็น เย่หยวนที่กำลังเช็ดน้ำลายไหลย้อยให้เฉียนปิงพลางจับชีพจรวินิจฉัยโดยไม่สนใจโลกภายนอกใดๆ
“เอ๊ะ? นี่ท่านปรมาจารย์เย่มิใช่รึ? ปรากฏว่าเด็กน้อยหัตถ์เทวะกลับมาหน้าตาเช่นนี้นี่เอง! หุหุ น่าประทับใจนัก! น่าประทับใจจริงๆ!”
หวางห่าวหลานเอ่ยกล่าวขึ้นพร้อมท่าทีแสนขบขัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องมันยังไม่จบ!
ทั้งหอสุคนธรสสวรรค์ ศาลาห้าโอรส และอื่นๆอีกมากมายต่างส่งคนเข้ามาท้าทายเย่หยวนไม่หยุดหย่อน
บางคนแสวงหาโอสถ บางคนต้องการให้รักษาคนป่วย
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาทั้งหมดมาพร้อมกับโรคภัยที่ยากจะรักษาได้!
โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าขายโอสถยักษ์ใหญ่ของเขตเมืองทางตอนใต้ พวกเขามาที่นี่ภายใต้คำสั่งของเหล่าตระกูลใหญ่และกลุ่มขั้วอำนาจต่างๆ
แต่แม้บางคนจะเป็นนักหลอมโอสถเช่นกัน ทว่าไม่มีใครฝีมือน่าประทับใจเท่าอู๋เฟินสักคน
และเห็นได้ชัดว่า‘ป้ายสารพัดรับจ้าง’ของเย่หยวนทำให้ก่อเกิดคลื่นความโกรธแค้นต่อสาธารณชน
ส่วนหัวหน้าห้าที่พบเห็นภาพฉากนี้ ปัจจุบันแทบจะยกเท้าขึ้นก่ายหน้าผาก
“นี่ท่านปรมาจารย์เย่กำลังทำอะไรอยู่กัน? นี่…นี่มีแต่ปัญหาถาโถมเข้ามาชัดๆ! เช่นนี้แล้วกลุ่มอัสนีคำรนยังจะหาเลี้ยงปากท้องต่อไปในอนาคตได้อย่างไร?”
หัวหน้าห้าปวดเศียรแทบบ้า
อย่างไรก็ตาม ข้างกายไม่ห่างตัวนัก หนิงซื่ออวี๋กลับจับจ้องภาพฉากนี้พร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก ดวงเนตรคู่งามของนางจ้องมองเย่หยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็นยิ่งว่า เขาจะทำอย่างไรต่อไป?
…………………………………