เทพนอกรีตโห่ร้องตะโกนเสียงดังลั่นภายในใจ แต่มันไม่สามารถจับความเร็วของเย่หยวนได้ทันเลย
มันไม่แม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตาใดๆ
เทพบนอกรีตแทบอยากกัดลิ้นตาย!
ในตอนที่เย่หยวนตัดขาดการเชื่อมต่อกับศาสตร์แห่งสวรรค์ มันคิดว่าโอกาสของตนเองมาถึงแล้ว
เขาได้แต่หัวเราะเยาะความโง่เขลาของเย่หยวนภายในใจ
แต่ทันทีทันใด มันก็เริ่มรู้แจ้งเห็นจริงในอะไรบางอย่าง
เสี้ยวพริบตาแรกเย่หยวนแสร้งทำเป็นอ่อนแอให้มันตายใจ และทำลายความหวังทิ้งไปโดยไม่ทันตั้งตัว
จากความภาคภูมิใจและความสำเร็จที่เปี่ยมล้นกลายมาเป็นความสิ้นหวังอีกครั้ง และเย่หยวนก็มอบความหวังครั้งใหญ่ พร้อมบดขยี้ให้จมดินลึกกว่าเดิม
ในชั่วเวลาสั้นๆ มันทรมานขมขื่นใจเสียยิ่งกว่าความตายหลายเท่านั้น ความสิ้นหวังในขณะที่ยังมีชีวิตช่างน่ากลัวเกินพรรณนายิ่งแล้ว! หัวใจของมันแทบแตกสลายแล้ว
ทันทีทันใดเสียงตบหน้าก็หายไป
เย่หยวนหยุดตบเขาแล้ว!
ทุกคนต่างปิดปากเงียบสงัด ตื่นตะลึงต่อความแข็งแกร่งนี้ของเย่หยวน
บรรพชนพระเจ้าชั้นกลางสามารถเอาชนะบรรพชนพระเจ้าขั้นสุดได้อย่างง่ายดาย ปานไล่ตีสุนัข!
แน่นอนว่านี่ยังคงเป็นภาพฉากที่คุ้นเคยนัก!
ความแข็งแกร่งของเย่หยวนยังไม่สามารถพรรณนาได้เช่นเดิม
ตอนนี้พวกเขาทราบแล้วว่า ความกังวลก่อนหน้าของทุกคนล้วนเป็นเรื่องไร้สาระโดยแท้
สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำคือ เชื่อใจเย่หยวนเท่านั้นจริงๆ
ยามนี้ใบหน้าของเทพนอกรีตเละจนไม่เหลือเค้าโครงมนุษย์แล้ว
ฟันทั้งหมดในปากของมันหลุดร่วงไม่เหลือ ใบหน้าบวมช้ำหนัก ปากเอ่อล้นเลือดสีทองเข้มทะลักไหลไม่หยุด ยิ่งดูยิ่งน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่
เย่หยวนหยิบใช้พลังแห่งแนวคิด จึงสามารถสร้างบาดแผลให้แก่อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย และบาดแผลเหล่านี้ยังยากต่อการรักษาอีกด้วย
เขาจับจ้องเทพนอกรีตที่ยามนี้มีใบหน้าเละราวกับหัวหมูและกล่าวเสียงเย็นชืดดังว่า
“เมื่อครู่รู้สึกอย่างไร? อย่าเพิ่งสิ้นหวังไปเสีย? ข้าอุตส่าห์หาสะบั้นศาสตร์แห่งสวรรค์ทิ้งไปแล้ว เจ้าคือผู้ควบคุมศาสตร์แห่งสวรรค์แก่เพียงผู้เดียวมิใช่รึ? เช่นนั้นอย่าเพิ่งสิ้นหวังไป รีบๆจัดการข้าสิ? ไฉนยังไม่เข้ามา? หากยังโค่นข้าไม่ได้แล้วตัวเจ้าจะมีความสุขได้อย่างไร!”
รูม่านตาดำของเทพนอกรีตตีบตันหนัก เขารู้ดีว่าเย่หยวนยังไม่ได้เอาจริงกับมันเลยตั้งแต่ต้นรจวบจนตอนนี้!
เด็กหนุ่มคนนี้สามารถฆ่ามันทิ้งได้ทันทีเพียงปลายนิ้วสัมผัส!
แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ทำ!
การถูกอีกฝ่ายปั้นหัวทรมานเล่นเช่นนี้มันน่าอับอายเสียยิ่งกว่าถูกผู้หญิงทิ้งไปเสียอีก!
มันเป็นแค่ไอ้โง่ตัวหนึ่งที่วิ่งเล่นอยู่บนฝ่ามือของเย่หยวน!
เย่หยวนผู้ซึ่งมอบความหวังให้แก่มัน แต่เขาก็ทำลายความหวังเหล่านั้นลงทันทีชนิดไม่เหลือซาก
“เจ้า…เจ้ามันปีศาจ!”
เทพนอกรีตกล่าวทั้งน้ำตา
ยามนี้ตัวมันทั้งรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัวเย่หยวนเกินบรรยายได้แล้ว!
มันต้องโง่แค่ไหนถึงกล้าโอ้อวดความยิ่งใหญ่ต่อหน้าปีศาจตนนี้? ต่อหน้าปีศาจนามว่าเย่หยวน มันก็เป็นได้แค่มดปลวกตัวน้อย!
เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เย่หยวนเอาจริงได้เลยด้วยซ้ำ!
เย่หยวนแสยะยิ้มเย็นกล่าวว่า
“ปีศาจ? หึหึ ขนาดปีศาจยังต้องกลัวข้าด้วยซ้ำ! แต่…เจ้ายังคงเชื่อว่า ตัวข้าที่ตัดสะบั้นศาสตร์แห่งสวรรค์ไปแล้ว จะไม่สามารถใช้พลังเหล่านั้นได้อีก? เจ้าคิดเช่นนั้นจริงๆรึ?”
รูม่านตาดำของเทพนอกรีตตีบแคบหนักกว่าเก่า มันร้องคร่ำครวญด้วยความไม่เชื่อว่า
“ไม่…เป็นไปไม่ได้!”
ณ ปัจจุบัน มิใช่เพียงเทพนอกรีตเท่านั้น แม้แต่ทุกคนที่อยู่เบื้องล่างเองยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อเช่นกัน
ตัดการเชื่อมต่อกับศาสตร์แห่งสวรรค์ไปแล้ว เย่หยวนจะสามารถควบคุมศาสตร์แห่งสวรรค์ได้อย่างไร”
รอยยิ้มจางๆพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่หยวน เพียงเขากระดิกนิ้วชี้เบาๆฟ้าดินก็พลันเปลี่ยนสีทันใด
“พร๊วดดด!!”
ในเสี้ยวพริบตา คลื่นอากาศเดือดปะทุ ศาสตร์แห่งสวรรค์จำนวนมหาศาลระดมก่อตัวขึ้นพร้อมทะลวงกลางอกของเทพนอกรีตจนเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่!
สายตาของเทพนอกรีตยามนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความเหลือเชื่อ
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
เป็นไปได้ยังไง!!
เด็กนั้นยังสามารถระดมใช้ศาสตร์แห่งสวรรค์ได้จริงๆ!
หรือเป็นไปได้ไหมว่า ภาพฉากที่เขาสะบั้นศาสตร์แห่งสวรรค์ทิ้งไปก่อนหน้าจะเป็นภาพลวงตา?
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่มิใช่รอยยิ้มและกล่าวว่า
“เจ้าคงแปลกใจใช่ไหม? เหตุใดข้าถึงยังสามารถใช้พลังศาสตร์แห่งสวรรค์ได้?”
เย่หยวนเว้นจังหวะหยุดชะงักเล็กน้อย และกล่าวต่อว่า
“หุหุ โทษที แต่นี่…เป็นความลับ!”
“พร๊วดดด!!”
ความขมขื่นแสนอัปยศพุ่งทะยานขึ้นสู่หัวใจจนท่วมท้น มันรู้สึกแน่นหน้าอกจนกระอักพ้นอาเจียนออกมาเป็นเลือดสด
เทพนอกรีตในยามนี้เปรียบเสมือนกับศรธนูแรงปลายที่ใกล้ดับวอด
เย่หยวนจงใจไม่ฆ่ามันเพื่อให้มันลองลิ้มชิมรสต่อความสิ้นหวังให้เต็มที่
เย่หยวนเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยและกล่าวว่า
“อย่าถามเลยว่าทำไมข้าเลือดเย็นปานนี้ หากต้องการตำหนิใครสักคนก็ควรตำหนิตนเอง!”
“พร๊วดดด!!”
เย่หยวนกระดิกนิ้วขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คลื่นพลังศาสตร์แห่งสวรรค์ตรงเข้าเจาะทะลวงทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเทพนอกรีตจนทะลุเป็นรู!
“อ๊ากกก!! ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของข้า!!!”
เทพนอกรีตกรีดร้องระงมสุ้มเสียงสุดอนาถใจ
เย่หยวนฉีกยิ้มแสนเยือกเย็นกล่าวว่า
“เนื่องจากเจ้าถูกผนึกมานานกว่าสามแสนปีและยังไม่ตาย นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าเจ้าตายยากตายเย็นเพียงใด เช่นนั้นก็ถูกผนึกต่อไปเสียเถอะ!”
เย่หยวนพลิกฝ่ามือจ่อเหนือศีรษะของมัน และระดมพลังปราณเทวะอัดใส่เทพนอกรีตจนร่างฝังดินโดยตรง
จากนั้นเขาก็หยิบใช้มวลพลังศาสตร์แห่งสวรรค์จำนวนมหาศาลหลั่งไหลเข้าปกคลุมทั่วร่างของเทพนอกรีตและปิดผนึกลงในใต้ดินทันทีอย่างแน่นหนา
ผนึกของเย่หยวนคราวนี้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าผนึกเมื่อสามแสนปีก่อนไม่รู้กี่เท่า
มันจะถูกปิดผนึกเช่นนี้ไปจนตาย
ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ร่างหนึ่งที่ยืนตระหง่านเหนือฝากฟ้า มันคือบุคคลผู้ไร้เทียมทานที่สุดแห่งดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ และพวกเขาไม่ทราบเลยว่าต่อจากนี้ควรวางตัวอย่างไรกับคนตรงหน้าดี
หายนะครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ได้ถูกเย่หยวนช่วยเหลือเอาไว้ได้แล้วอย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขายังทรงพลังเกินไปจน เบื้องลึกภายในของแต่ละคนรู้สึกหวาดกลัวยิ่ง
เย่หยวนทำให้เทพนอกรีตวิ่งเต้นอยู่บนฝ่ามือได้ ทั้งยังทรมานทั้งร่างกายและจิตใจของมันนานกว่าครึ่งวันก่อนที่จะขังลืมอีกฝ่ายไปตลอดกาล
อย่างไรก็ตาม พวกฟางเทียนทราบดีว่า เหตุที่เย่หยวนเลือดเย็นปานนั้นเป็นเพราะเทพนอกรีตล้ำเส้นเย่หยวนเกินไปจนทำให้เข่าโกรธจัด หากต้องการตำหนิใครสักคนคงหนีไม่พ้นตัวมันเอง
หากเป็นศัตรูคนอื่น แม้คู่ต่อสู้ตรงหน้าจะเป็นเย่หยวน แต่จุดจบลงไม่ทรมานปานนี้แน่นอน
แต่เดิมการจากไปของมู่หลินเสวียก็ทำให้เย่หยวนเสียใจเกินทนแล้ว ตอนนี้เทพนอกรีตยังจะมาแย่งคนรักของเขาไปอีกคน นี่ยังเป็นอะไรได้อีก หากมิใช่การรนหาที่ตาย?
ร่างของเย่หยวนไสววาบ ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าลี่เอ๋อ
เย่หยวนเอื่อมมือออกไปลูบไล้ใบหน้าเนียนขาวของลี่เอ๋อเล็กน้อย ครู่หนึ่งหลากหลายอารมณ์พลันพลุ่งพล่านออกมาไม่หยุดหย่อน
“ลี่เอ๋อ เจ้าผอมลงไปเยอะเลย”
เย่หยวนเอ่ยกล่าวทั้งดวงตาที่เห่อร้อนขึ้น
เย่หยวนเข้าดีว่า ตัวเขาแทบไม่มีความหวังอยู่เลยที่จะอยู่รอดขนมหาพิภพถงเทียน หลายปีมานี้ลี่เอ๋อจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะมัวแต่กังวลใจเรื่องความปลอดภัยของเขา
หนึ่งร้อยปีกลับไม่ง่ายเลย!
ทันใดนั้นหยดน้ำตาสีใสบริสุทธิ์พลันไหลรินออกมา แต่ลี่เอ๋อก็ยังคงฝืนยิ้ม
ในทีแรก นางคิดว่าตนคงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเย่หยวนอีกต่อไปแล้ว
แต่ใครจะไปคิด ในช่วงวิกฤตสุดท้ายของชีวิต จู่ๆเย่หยวนก็กลับเข้ามาในดินแดนพฤกษานิรันดร์มาอย่างปาฏิหาริย์!
นางส่ายหัวแรงกล่าวตอบไปว่า
“ลี่เอ๋อกินดีหลับสบายมาตลอด! ข้ามิได้ซูบผอมลงเสียหน่อย! แต่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เดินทางในมหาพิภพถงเทียนยากลำบากหรือไม่?”
เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า
“เป็นเจ้าที่เข้าใจข้าดีที่สุด แต่ยิ่งเจ้าเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งรู้สึกเป็นหนี้บุญต่อเจ้า!”
ลี่เอ๋อส่ายหัวอีกคราพลางเอ่ยกล่าวน้ำเสียงสะอื้นว่า
“หาดเปรียบกับพี่หลินเสวียแล้ว ตัวข้ายังนับเป็นอันใด? พี่ใหญ่ดินทางท่องทั่วมหาพิภพถงเทียน ยามนี้ค้นพบวิธีรักษาพี่หลินเสวียแล้วรึยัง?”
เย่หยวนส่ายหัวขณะถอนหายใจเอ่ยตอบไปว่า
“นั้น…ยากเกินไป!”
น้ำตาของลี่เอ๋อหลั่งไหลออกมาโดยมิตั้งใจ
เย่หยวนดึงร่างของลี่เอ๋อเข้ามาสวมกอดเบาๆ คำกล่าวทุกอย่างถูกถ่ายทอดสื่อถึงกันและกันโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ
เหลียงหวางหรูย่อมมิได้ยินว่าทั้งสองกำลังสนทนาอะไรกัน แต่เมื่อเห็นภาพฉากที่ทั้งสองสวมกอดกันจากระยะไกล ร่างบางของนางพลันสั่นสะท้านอย่างหนักพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างห้ามปรามไม่อยู่
นางไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่า ภายในโลกใบเล็กๆแห่งนี้ยังมีสาวงามขนาดนี้อยู่
ไม่น่าแปลกใจเลยที่พี่ใหญ่เย่ปฏิเสธนาง!
…………………………………