ความแตกต่างระหว่างสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กับสมุนไพรวิญญาณสามัญ คือสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จักมีเศษเสี้ยวศาสตร์แห่งสวรรค์เร้นแฝงอยู่ภายใน
ฐานะที่เป็นจอมเทพโอสถ การหลอมรวมศาสตร์แห่งสวรรค์ลงในเม็ดโอสถจึงเป็นความสามารถที่พึงกระทำได้อยู่แล้ว
แต่ก็เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่งานง่ายๆเลย
นักหลอมโอสถสามารถเลือกที่จะไม่ทำความเข้าใจกับศาสตร์แห่งสวรรค์เหล่านั้นได้ แต่พวกเขาจำต้องมีความเชี่ยวชาญในการผสานรวมศาสตร์แห่งสวรรค์เหล่านั้นลงไป นี่คือจุดที่จะชี้วัดความเชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งโอสถของแต่ละคน
ในแง่นี้ เย่หยวนเหนือชั้นกว่านักหลอมโอสถคนอื่นๆอย่างไม่ติดฝุ่น
อันที่จริงแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับการเข้าใจศาสตร์แห่งสวรรค์ได้อย่างถ่องแท้ หากเทียบกับที่เข้าใจเพียงผิวเผิน สิ่งเหล่านั้นกลับไม่จีรัง
ดังนั้นแม้ว่าจะมีนักหลอมโอสถมากมาย แต่ผู้ที่สามารถเข้าถึงขอบเขตความเข้าใจชั้นสูงกลับมีน้อยมาก
สำหรับขอบเขตแห่งเต๋าไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเลย
และการประลองในรอบที่สองคือ การพัฒนาเต๋า คือการชักนำศาสตร์แห่งสวรรค์จากในสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมา
นี่เป็นทักษะโดยพื้นฐานของจอมเทพโอสถทุกคน!
เมื่อเปรียบเทียบกับการหลอมกลั่นโอสถแล้ว การดึงศาสตร์แห่งสวรรค์ออกมาจากสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลับทำได้ค่อนข้างง่ายกว่ามาก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงวาจาเท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์ปกติ สำหรับจอมเทพโอสถสามดาว การจะดึงเอาคุณสมบัติของสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาถึงสามในสิบส่วนก็นับว่าดีมากแล้ว
สามารถดึงออกมาได้จากห้าในสิบส่วน พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นระดับแนวหน้าโดดเด่นกว่าฝูงชน
ผู้ที่สามารถดึงออกมาได้เจ็ดในสิบส่วน ทอดสายตาในบรรดาผู้คนระดับชั้นเดียวกัน นับเป็นระดับปรมาจารย์แห่งยุค
ส่วนเก้าในสิบส่วนนั้นเป็นเพียงตำนาน
แน่นอนว่าสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บางประเภทค่อนข้างง่ายในการดึงเอาคุณสมบัติออกมา ในขณะที่บางชนิดกลับเป็นเรื่องยากยิ่ง สิ่งเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ในเวลานี้เอง สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามชนิดก็ถูกจัดเรียงไว้หน้าโต๊ะของทุกคน นี่คือสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้แข่งขันในรอบที่สอง
“โสมโลหิตสวรรค์อายุขัย! หยกจักจั่นอมตะ! ต้นสนกฎราชัน! พวกมันล้วนเป็นสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาก!”
“จบแล้ว มันจบแล้ว! สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามชนิดนี้ยากยิ่งในการดึงเอาคุณสมบัติออกมา แล้วนี่จะทำอย่างไร?”
“การประลองครั้งนี้ดูท่าจะล้มเหลวโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่? ต่อให้เอาผลลัพธ์จากการชักนำคุณสมบัติของสมุนไพรทั้งสามชนิดรวมกัน ข้ายังได้คะแนนไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ำ!”
…
สมุนไพรวิญญาณทั้งสามชนิดนี้ แต่ละชนิดจะมีคะแนนเต็มสิบ เมื่อดึงคุณสมบัติออกมาได้หนึ่งในสิบส่วนเท่ากับได้รับหนึ่งคะแนน
สุดท้ายนี้จะรวมคะแนนที่ได้จากทั้งสามเพื่อจัดอันดับต่อไป
สมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้รวมกันไม่ถึงสิบคะแนน นั้นหมายความว่า พวกเขาไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยที่จะชักนำคุณสมบัติออกมาได้แม้แต่เศษเสี้ยว
เศษเสี้ยวศาสตร์แห่งสวรรค์ที่อยู่ภายในสมุนไพรวิญญาณทั้งสามชนิดนี้มีความซับซ้อนและยากที่จำจะสกัดออกมา
ชนิดโอสถที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรเหล่านี้ กล่าวได้ว่าความยากในการหลอมกลั่นค่อนข้างสูงมาก!
ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงสร้างปัญหาให้อย่างมาก
แต่ซ่งฉีหยางก่นเสียงเย็นภายในใจ เขากล่าวว่า
“เจ้าพวกโง่เขลา ทั้งๆที่อ่อนแอปานนี้ แต่ก็ยังคิดที่จะผ่านเข้าสู่รอบที่สาม? เหอะ หนิงซื่ออวี๋ เจ้าตกรอบนี้แน่นอน!”
เพื่อความยุติธรรมในการประลองหอโอสถ สมุนไพรที่ใช้ในการแข่งในรอบที่สองนี้ที่ได้รับการคัดเลือกจากเหล่าผู้อาวุโสแห่งหอยุทธ์ที่มีความเป็นกลาง มากชื่อเสียงและได้รับการเคารพจากทุกคน
แม้แต่ผู้อาวุโสแห่งหอโอสถก็ยังไม่รู้ว่ามีชนิดใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีกำแพงบนผืนพิภพแห่งนี่ที่ปิดกั้นสรรพสิ่งได้ หรงซูตระเวนสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลในการประลองรอบนี้มาแล้วจากหน่วยข่าวลับ และแจ้งให้ซ่งฉีหยางกับคนอื่นๆรู้ตัวก่อน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เหล่าศิษย์เชื้อสายของเขาได้เปรียบกว่าคนอื่น
เว้นเสียแต่ หรงซูกลับไม่คิดเลยว่า การแข่งในรอบแรกเหล่าศิษย์ของเขาจะตกรอบกันระนาวขนาดนี้ จึงมีหลายคนที่ไม่มีโอกาสใช้ข้อมูลในจุดนี้ให้เป็นประโยชน์
อย่างไรก็ตามซ่งฉีหยางก็ได้ฝึกซ้อนเตรียมตัวมาก่อนแล้วล่วงหน้า การจะคว้าอันดับหนึ่งหาใช่ปัญหาเลย
หรงซูมิได้ให้ความสนใจกับการประลองในระดับชั้นผู้พิทักษ์เลย เพราะเขาตระหนักดีขึ้นความแข็งแกร่งของลวี่อี้ และยากยิ่งที่ศิษย์ฝ่ายเขาจะทัดเทียมได้
แต่การประลองระดับชั้นศิษย์ในรอบแรก เขาเสียหน้าแทบไม่เหลือดี
ในรอบที่สองเขาต้องคว้าชัยชนะกลับมาให้ได้!
เขาไม่เชื่อว่าหนิงซื่ออวี๋จะสามารถเอาชนะซ่งฉีหยางได้อีกในรอบนี้!
“รอบที่สองเริ่ม! เริ่มจากอันดับที่หนึ่งร้อย!”
ผู้ดูแลที่เป็นกรรมการเอ่ยกล่าวขึ้น
เมื่อกล่าวจบ ก็มีศิษย์คนหนึ่งเดินถือเครื่องรางนภาสวรรค์เลิศล้ำออกมา และตรงมาหยุดลงต่อหน้าศิษย์อันดับที่ร้อย
สิ่งนี้คือ เครื่องคัดแยกเต๋า สามารถดึงเอาคุณสมบัติของศาสตร์แห่งสวรรค์ออกมาได้ผ่านวรยุทธหลอมกลั่นโอสถ
และมันก็ใช้เพื่อทดสอบคุณสมบัติที่ดึงออกมาได้คิดเป็นตัวเลขหนึ่งถึงสิบส่วน
ศิษย์คนนั้นหายใจเข้าลึกๆ ฝ่ามือของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อยทำให้โสมโลหิตสวรรค์อายุขัยแตกเป็นผุยผง
จากนั้นเขาก็เริ่มดึงความศาสตร์แห่งสวรรค์ในโสมโลหิตสวรรค์อายุขัยออกมาอย่างรวดเร็ว และนำชิ้นส่วนเหล่านั้นเข้าเครื่องคัดแยกเต๋า
เกณฑ์วัดมีทั้งหมดสิบขั้น และในแต่ละขั้นยังมีขั้นเล็กๆอีกมากมาย เห็นได้ชัดว่าเครื่องนี้มันแม่นยำเพียงใด
ศิษย์คนนั้นใช้พละกำลังทั้งหมดของตน และดึงชิ้นส่วนของศาสตร์แห่งสวรรค์เข้าสู่เครื่องคัดแยกเต๋าด้วยท่าทีหมดหวัง แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร เกณฑ์การวัดกลับหยุดลงเพียงขั้นที่สามเท่านั้น
แววผิดหวังสาดสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน เขารู้ว่าตนหมดโอกาสเข้าสู่รอบที่สามไปแล้วไม่ว่าอะไรจากเกิดขึ้น
รอบที่สองจะทำการกำจัดออกไปเจ็ดสิบคนและเหลือเพียงสามสิบคนเพื่อเข้าสู่รอบที่สาม
เห็นได้ชัดว่าภายใต้ผลคะแนนของเขา มันไม่มีสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้เลย
แน่นอนว่า การดึงเอาคุณสมบัติออกมาจากสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อีกสองชนิด ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ค่อยดีนัก
มีแม้แต่หนึ่งในสองชนิดนั้นที่เกณฑ์วัดไปไม่ถึงขั้นที่สาม
“หวังเหิง โสมโลหิตสวรรค์อายุขัย สามจุดสอง หยกจักจั่นอมตะ สามจุดสอง ต้นสนกฎราชัน สองจุดเก้า คะแนนรวมเก้าจุดสาม!”
ผู้ดูแลที่เป็นกรรมการป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด
เมื่อเหล่าผู้คนได้ฟังผลลัพธ์ ต่างก็ใจสั่นระรัว
ไม่มีใครกล้าล้อเลียนซ้ำเติมหวังเหิงสักคน เพราะพวกเขาต่างทราบดีว่าสมุนไพรวิญญาณศักดดิ์สิทธิ์ทั้งสามชนิดนี้มากยากเพียงใด
หากให้พวกเขาลงมือทำเอง ผลที่ได้คงมิได้ดีไปกว่าหวังเหิงเลย
แน่นอนว่าศิษย์อันดับที่เก้าสิบเก้า ยังทำได้แย่กว่าหวังเหิงด้วยซ้ำ
ผลงานของศิษย์อันดับที่เก้าสิบแปด ก็มิได้ทำให้ผู้คนประหลาดใจเท่าไหร่นัก
“ศิษย์อันดับที่เก้าสิบเจ็ด ซ่งฉีหยาง!”
ผู้ดูแลเอ่ยกล่าวเสียงดังฟังชัด
เมื่อตรงมาอยู่ต่อหน้าสมุนไพรวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ความมั่นใจที่แตกสลายไปก่อนหหน้ายามนี้กลับเพิ่มพูนเติมเปี่ยมอีกครั้ง
เขาค่อนข้างตื่นเต้นมาก!
เพื่อประโยชน์ของการประลองในวันนี้ ซ่งฉีหยางเคยฝึกสกัดคุณสมบัติออกจากสมุนไพรทั้งสามชนิดออกมาก่อน
เมื่อตอนที่เขาอยู่สู่สภาวะสุดยอด เขาเคยสามารถทำคะแนนได้มากถึงสิบเจ็ดแต้ม!
ไม่ควรมองว่ามันเป็นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด เพราะคะแนนขนาดนี้นับว่าสูงมาก
ซ่งฉีหยางคลี่ยิ้มกว้าง ฝ่ามือสั่นกระเพื่อมรุนแรง โสมโลหิตสวรรค์แยกชิ้นส่วนแตกออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ในขณะนี้วรยุทธหลอมกลั่นอันน่าสะพรึงของซ่งฉีหยาง ถูกเผยแสดงเป็นประจักษ์ต่อหน้าทุกคนแล้ว ชิ้นส่วนของศาสตร์แห่งสวรรค์ถูกนำมาเข้าเครื่องคัดแยกเต๋าอย่างไม่หยุดหย่อน
ระดับเกณฑ์วัดเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
“จุจุ ศิษย์พี่ซ่งช่างน่าทึ่งโดยแท้! เขาพลาดท่าอย่างไม่น่าให้อภัยจริงๆในรอบแรก แต่ในรอบที่สองเขากำลังตีตื้นกลับมาแล้ว!”
“ฝ่ามือลวงสวรรค์ลี้ลับได้สำเร็จถึงขั้นสูงสุดแล้ว!”
“เกินสี่คะแนนไปแล้ว! ดูเหมือนว่าโสมโลหิตสวรรค์อายุขัยของศิษย์พี่ซ่งจะต้องมีอย่างน้อยห้าจุดห้าแต่มเป็นแน่! นี่นับว่าน่าประทับใจจริงๆ”
…
ความแข็งแกร่งของซ่งฉีหยางไม่อาจโต้แย้งได้ก็จริง การใช้วรยุทธหลอมกลั่นนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบชื่นหัวจิตหัวใจนัก
เหล่าศิษย์น้องของซ่งฉีหยางต่างจับจ้องเขาด้วยสายตาแสนเลื่อมใสยิ่งยวด
ในที่สุดเครื่องคัดแยกเต๋าก็หยุดนิ่งไม่ขยับต่อไป ผลที่ได้คือห้าจุดเจ็ดคะแนน
“ฮ่าๆๆ…วันนี้ข้าค่อนข้างมือขึ้น! สังหรณ์ใจได้ว่าวันนี้ข้าอาจทำคะแนนได้เกินสิบเจ็ดแต้ม! ตอนนี้ข้าต้องคว้าที่หนึ่งได้แน่นอน!”
เมื่อเห็นผลลัพธ์ตัวเองที่ห้าจุดเจ็ดคะแนน ซ่งฉีหยางก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
สิบเจ็ดคะแนนก่อนหน้าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขา และตอนนี้ซ่งฉีหยางได้แปรเปลี่ยนความโศกเศร้าและคับแค้นเป็นพลัง และสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
สิ่งนี้ทำให้ความมั่นใจของเขากลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
ซ่งฉีหยางเหลือบสายตาเย้ยหยันใส่หนิงซื่ออวี๋เล็กน้อย ในขณะที่นางแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายทันทีที่เห็นแบบนั้น
…………………………………