Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1626 สังหาร

ตอนที่ 1626 สังหาร
หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนสุดที่ผู้คนจะจินตนาการ

แม้ต้องมาเจอกับพลังแห่งโลกของหนูยักษ์แทะกระดูก เย่หยวนกลับไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย

เพราะคลื่นดาบฉีของเขาในตอนนี้ดูท่าใกล้จะพังมิติที่ห่อหุ้มตัวอีกฝ่ายได้แล้วเสียด้วยซ้ำ

นั่นทำให้ทุกผู้คนที่ได้เห็นต้องเบิกตาค้าง แต่ตัวเย่หยวนเองกลับได้แต่ถอนหายใจ

ที่เขาออกมาสำรวจด้วยในครั้งนี้สมบัตินั้นเป็นแค่เพียงแค่ของแถม เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวนคือการหาวิธีการบรรลุอาณาจักรต่างหาก

และการปรากฏตัวของเจ้าหนูยักษ์แทะกระดูกมันก็เหมาะสมที่จะให้เขาได้ทดสอบฝึกฝนตัวเอง

การต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังอาจจะช่วยให้เขาสามารถเข้าใจอะไรได้ มันอาจจะช่วยให้เขาก้าวขึ้นไปยังระดับสี่ได้

แต่ตอนนี้ที่เท่าที่ได้ลองต่อสู้ดูแล้ว มันเหมือนกับการโยนหินถามทางลงมหาสมุทร

การปล่อยเพลงดาบเมฆาลับแลออกมาพร้อมกับบัญญัติเทพแห่งถงเทียนนั้นสามารถยกระดับตัวเองให้ทัดเทียมกับสัตว์อสูรระดับสี่ได้

แต่สุดท้ายเขาก็ยังหาต้นเหตุไม่ได้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหนกันแน่

เย่หยวนในตอนนี้นั้นเหมือนคนที่กำลังหลงทางอยู่กลางมหาสมุทร

แม้จะดูยิ่งใหญ่แต่เส้นทางภายหน้าช่างมืดมน

หากเขาไม่สามารถหาเส้นทางไปต่อที่ถูกต้องได้ สุดท้ายศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาจะพอสู้ได้ก็คงมีแต่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวเท่านั้น

“เพลงดาบเมฆาลับแลสิ้นแนวมิติควบแน่น!”

เย่หยวนร้องออกมาพร้อมผสานวิชาเข้าด้วยกัน ดาบนี้ของเขาทะลุผ่านโลกของเจ้าหนูยักษ์แทะกระดูกระดับสี่ ได้ทันที ส่งร่างของมันลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย

สิ้นแนวมิติควบแน่นนี่คือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เย่หยวนมีในตอนนี้ด้วยการผสานแนวคิดแห่งดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติเข้าด้วยกัน เป็นไม้ตายของเย่หยวน

เขาผสมแนวคิดแห่งห้วงมิติเข้ากับเพลงดาบ ด้วยคลื่นดาบฉีที่เข้ารวมพลังกันในช่องว่างแห่งมิติ ทำให้นี่กลายเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เย่หยวนทำได้

เมื่อนำมันมารวมกับพลังจากดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าที่เป็นสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำนี่ทำให้เย่หยวนสามารถเจาะทะลุโลกของสัตว์อสูรระดับสี่ได้

ตอนนี้เจ้าหนูยักษ์แทะกระดูกระดับสี่ ได้แต่นอนอยู่กับพื้นพร้อมดิ้นอย่างทุรนทุราย ดูท่าคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว

ทุกคนที่ได้เห็นแบบนั้นตกตะลึงจนตาแทบทะลุออกมาจากเบ้า

คมดาบนั้นมันทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาว สายตาที่พวกเขามีต่อเย่หยวนนั้นตอนนี้มันมีอารมณ์แห่งความกลัวเข้ามาผสมไปด้วย

เพราะนี่คือนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าที่สังหารสัตว์อสูรระดับสี่ ลงได้ มันช่างเป็นอะไรที่เหนือจินตนาการของทุกผู้คน

เพราะหากตัวพวกเขาเหล่านั้นต้องไปต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับสี่ ด้วยตัวเอง พวกเขาก็ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะจัดการมันลงได้!

เพราะฉะนั้นมันจึงหมายความว่าเย่หยวนเองก็สามารถสังหารพวกเขาลงได้ไม่ยากเช่นกัน!

เย่หยวนเก็บดาบลงและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ร่างกายผอมบางของเขาในตอนนี้มันกลับดูยิ่งใหญ่หนักแน่นในสายตาของผู้ที่ได้เห็น

“ผู้อาวุโสเย่ช่าง… ข-แข็งแกร่ง!”

“อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าสังหารอาณาจักรราชันพระเจ้ามันเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน!”

“อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้เลยรึนี่?”

“แนวคิดแห่งห้วงมิติช่างเหนือล้ำ มีพลังถึงขนาดนี้เลยเชียว! หากข้าสามารถเข้าใจมันได้แม้สักเล็กน้อยมันคงมีประโยชน์กับข้าไม่น้อยเลย!”

เหล่าผู้ดูแลและผู้พิทักษ์ต่างจ้องมองไปด้วยสายตาเปี่ยมความชื่นชมในตัวเย่หยวน

เจิ่งชีเองก็มองไปทางเย่หยวนก่อนจะกล่าวพึมพำกับตัวเองขึ้น “เย่หยวนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสี่ ลงได้แบบนี้มิใช่เพราะว่าเขาพึ่งพาแนวคิดแห่งห้วงมิติเพียงอย่างเดียว! พลังการบ่มเพาะของเขาเองก็เหนือล้ำไม่แพ้ใคร เพราะแบบนั้นมันถึงสามารถรองรับวิชาแบบนั้นได้! ข้าเกรงว่าสิ่งที่น่าเกรงขามที่สุดในตัวเย่หยวนนั้นจะเป็นวรยุทธบ่มเพาะของเขานั่นแหละ!”

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นพวกเขาก็ยิ่งตื่นตะลึงหนักเข้าไปอีก

จะเป็นวรยุทธบ่มเพาะแบบไหนที่สามารถช่วยให้อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าสังหารสัตว์อสูรระดับสี่ ลงได้?

วรยุทธบ่มเพาะแบบนั้นมันจะไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยรึ?

ดวงตาของเจิ่งชีเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม แต่ในวินาทีนั้นเขากลับเห็นความผิดหวังในดวงตาของเย่หยวน มันทำให้ เจิ่งชีต้องประหลาดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

พลังการต่อสู้ที่เหนือล้ำขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าเด็กคนนี้ยังไม่พอใจกับมัน?

ความผิดหวังนั้นไม่ใช่สิ่งที่เย่หยวนต้องการจะแสดง

เย่หยวนนั้นพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะเก็บอารมณ์เหล่านั้นไว้ในใจ แต่เจิ่งชีกลับทันสังเกตเห็นมันได้

เด็กหนุ่มคนนี้กำลังตามล่าอะไร? เขาต้องการจะไปให้ถึงระดับไหน?

ตอนนี้กู่ฮั่นลืมเรื่องการไปช่วยอาจารย์จนหมดสิ้นแล้ว

เพราะเขากำลังตื่นตกใจกับพลังฝีมือของเย่หยวนจนหัวสมองคิดอะไรไม่ได้อีก

หลังจบศึกเย่หยวนก็กลับมาหาคนอื่นๆ และการกลับเข้ามาของเย่หยวนในครั้งนี้ทำให้ผู้คนมากมายต่างมารุมล้อมเขาไว้ทุกด้าน ส่วนเย่หยวนก็ได้แต่ยิ้มฝืนๆ ตอบกลับไป

บูม! บูม! บูม!

จู่ ๆ ก็เกิดเสียงดังราวกับระเบิดดังขึ้นมากลางฝูงหนูยักษ์แทะกระดูก ส่งร่างของหนูยักษ์แทะกระดูกมากมายกระเด็นขึ้นฟ้าไป

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

และเงาร่างมากมายก็ฝ่าวงล้อมของเหล่าสัตว์อสูรออกมาพร้อมๆ กัน

แน่นอนว่าผู้ที่นำกลุ่มคนนั้นมาคือเกาหยุน

ตอนนี้ร่างกายของเขาอาบไปด้วยบเลือดสีแดงฉาน ดูท่าแล้วคงบาดเจ็บมาไม่น้อย

หนูยักษ์แทะกระดูกนั้นไม่ใช่ปัญหาเลยสำหรับเย่หยวน แต่กลับเป็นงานยากถึงตายของคนอื่นๆ

ที่สำคัญกว่านั้นคือเหล่าหนูยักษ์แทะกระดูกกลายพันธุ์พวกนี้มีม่านพลังที่ทำให้คนต้องเสียจังหวะง่ายๆ

“ท่านอาจารย์!”

เมื่อกู่ฮั่นได้เห็นหน้าของหลิงจี้คุนเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที ตอนนี้เขารู้สึกสุขใจอย่างมาที่เห็นว่าอาจารย์ยังไม่ตายจึงคิดจะเข้าไปช่วยพยุงร่างที่บาดเจ็บของอาจารย์

เมื่อเกาหยุนได้เห็นหน้าเย่หยวนดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเลือดด้วยความโกรธแค้นในทันที ใบหน้าอันหงิกงอนั้นราวกับว่าอยากจะกลืนกินเย่หยวนลงไปทั้งตัว

แต่ทว่าเขากลับตะโกนขึ้นมาก่อน “รีบไปเร็ว! ข้างหลังมีราชันหนูยักษ์แทะกระดูกระดับกลางกำลังไล่ตามมา!”

ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเจิ่งชีก็เปลี่ยนไปทันที เขารีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ทุกคน รีบไปเร็ว!”

คนกลุ่มใหญ่นี้รีบวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ปล่อยพลังที่มีในร่างกายออกมาอย่างเต็มกำลัง

ไม่นานนักพวกเขาก็ได้พบว่าที่ด้านหลังไม่มีอะไรตามมาอีกแล้ว ทำให้พวกเขาได้หยุดพักในที่สุด

การต่อสู้เสี่ยงชีวิตพร้อมๆ กับการวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตนี้ทำให้คนทั้งกลุ่มเหนื่อยอ่อนกันจนถึงที่สุด

เดิมทีทั้งสองเผ่านั้นมีกำลังคนนับร้อยแต่ตอนนี้มันกลับเหลือเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งแล้ว

เห็นได้ชัดเลยว่ามีคนมากมายพลาดท่าในดงหนูยักษ์แทะกระดูก ตอนนี้ร่างของพวกนั้นคงไม่เหลือแม้กระทั่งกระดูกแล้ว

เมื่อได้หยุดพักแบบนี้สายตาของดาราสวรรค์ ตี้เอิ่น เกาหยุนและคนอื่นๆ ก็หันมามองทางเย่หยวนในทันที

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สายตาที่เปี่ยมมิตรนัก สายตาพวกนี้เปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นราวกับอยากจะกลืนกินแย่หยวนลงไปทั้งตัว

เพราะทุกคนในที่นี้ต่างพยายามดิ้นรนใช้ที่สิ่งอย่างที่มีกันอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อที่จะฝ่าวงล้อมนั้นออกมา คงเรียกได้ว่าพวกเขาสูญเสียไปมาก

แต่พอได้มาเห็นเย่หยวนอีกครั้ง เย่หยวนที่ร่างกายไม่มีแม้แต่รอยฝุ่นผง!

นั่นทำให้ทุกผู้คนรู้สึกเสียเปรียบอยู่ในใจ

“เกาหยุน เผ่าปีศาจเราขอยอมรับข้อเสนอพันธมิตรของพวกเจ้า! ตอนนี้เป้าหมายของพวกเราคือเจ้าเด็กคนนี้!” ดาราสวรรค์กล่าวขึ้น

เมื่อเกาหยุนได้ยินแบบนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มอันชั่วร้ายขึ้นมาและตอบกลับไป “ได้สิ! หลิงจี้คุน เจ้าล่ะว่ายังไง? แม้เจ้าเด็กคนนี้มันจะช่วยศิษย์ของเจ้าไว้แต่มันก็ทิ้งเจ้าไว้กลางวงล้อม! เจ้าคงไม่คิดจะเข้าข้างมันใช่ไหม?”

หลิงจี้คุนแสดงสีหน้าลังเลออกมา เขาหันมองเกาหยุนและกล่าวขึ้น “ไม่ เย่หยวนช่วยชีวิตศิษย์ข้าไว้ มันก็เท่ากับว่าช่วยชีวิตชายแก่คนนี้ไว้เหมือนกัน! คราวนี้ชายแก่คนนี้ขอยืนข้างเจ้าหนุ่มเย่หยวน!”

หลิงจี้คุนนั้นเสียใจกับการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้มาก เพราะหากเขายืนยันที่จะอยู่เคียงข้างเย่หยวนต่อไป คนจากเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ก็คงไม่ต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้

และเพราะว่าเย่หยวนได้ช่วยกู่ฮั่นออกมา เขาถึงสามารถพาคนอื่นๆ ออกมาได้

กู่ฮั่นนั้นเป็นศิษย์ที่เขารักมากที่สุด เขาตั้งใจอบรมสั่งสอนกู่ฮั่นมาอย่างดี

หากไม่ใช่เพราะเย่หยวน หากกู่ฮั่นตกอยู่ในวงล้อมด้วย เขาไม่มีทางเลยที่จะรอดชีวิตออกมาได้

เพราะฉะนั้นตอนนี้หลิงจี้คุนจึงเลือกที่จะเข้าข้างเย่หยวน

คำตอบนั้นทำให้เกาหยุนเสียหน้าไปนิดหน่อย เพราะเขาไม่คาดคิดเลยว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างนี้

“เฮอะ! หลิงจี้คุนหากเจ้าคิดเช่นนั้นเราก็ต้องแยกทางกันแล้ว! เจ้าไปทางหลวงส่วนข้างจะข้ามสะพานขอนไม้นี่เอง! การต่อสู้นี้เราไม่มีทางเลี่ยงมันได้แล้ว!” เกาหยุนข่มขู่

หลิงจี้คุนหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับมา “งั้นก็เข้ามา! กู่ฮั่นเจ้าถอยไปก่อน”

เจิ่งชีหันไปมองหน้าเกาหยุนก่อนจะกล่าวออกมาอย่างเย็นเยือก “เกาหยุน เจ้าคนชั่วช้า! ถึงขนาดคิดคบกับเผ่าศัตรูเพื่อทำร้ายฝ่ายเดียวกันเองแบบนี้! วันนี้แหละเรามาตัดสินให้มันรู้ดำรู้แดงกันไป!”

พูดจบเจิ่งชีก็ชักดาบออกมาและพุ่งตัวเข้าใส่เกาหยุนในทันที

Unrivaled Medicine God

Unrivaled Medicine God

Type: Author: ,
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง…. กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก… ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า! A Pill Emperor of his generation was set up by a traitor. Since then, the world lost a Qingyun Zi and gained an invincible silkpants. Once again, walking the Great Dao of Alchemy. How can I defy the heavens . . . with the medicine in my hands!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset