ตอนที่ 1653 เหรียญตราสูงสุด
มีเงินนี่มันดีจริง ๆ
ในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เย่หยวนและหนิงเทียนปิงได้ทำแค่เรื่องเดียว นั่นคือซื้อ ซื้อ และก็ซื้อ!
ตอนนี้เย่หยวนยังไม่สามารถที่จะหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ตัวเขาจึงทำได้แค่ซื้อยาสมุนไพรและสมบัติธรรมชาติให้หนิงเทียนปิงไปพลาง ๆ
หนิงเทียนปิงนั้นได้บ่มเพาะจนตอนนี้มาถึงช่วงสุดของอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวแล้ว ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ช่วงคอขวดก่อนขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาว
แต่เมื่อไม่มีความช่วยเหลือจากเย่หยวน ตัวเขาเองลำพังก็ไม่สามารถที่จะบรรลุคอขวดนี้ไปได้ง่าย ๆ
ทั้งสมบัติธรรมชาติและสมุนไพรต่าง ๆ นั้นมันยังไม่ถูกหลอมเป็นโอสถ จึงไม่สามารถช่วยเขาได้มากมายเท่าใดนัก
เพราะหากซื้อสมุนไพรมากินแล้วบรรลุคอขวดได้ ก็คงไม่มีใครคิดสนใจเหล่านักหลอมโอสถแล้ว
อาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวขึ้นสู่สี่ดาวนั้นเป็นคอขวดที่ยากไม่น้อย หากเขาอยากจะบรรลุคอขวดนี้ไปให้ได้โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก ต่อให้หนิงเทียนปิงจะมีพรสวรรค์ที่มากมายแค่ไหน มันก็คงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย ๆ เป็นพันปี
แต่หนิงเทียนปิงก็ไม่ได้เร่งรีบใด ๆ ขนาดนั้น เพราะแค่ความเร็วการบ่มเพาะที่เขาขึ้นมาสู่ระดับสามดาวได้ตอนนี้มันก็รวดเร็วจนเกินกว่าจะมีใครตามทันแล้ว
เรื่องทั้งหมดนี้ย่อมต้องขอบคุณเย่หยวน หนิงเทียนปิงพอใจกับตัวเองในตอนนี้มาก ๆ
ด้วยผลึกปราณเทวะในมือตอนนี้เย่หยวนจึงเริ่มที่จะซื้อสมุนไพรระดับสี่หายากต่าง ๆ เพื่อจะได้นำมันไปศึกษา
แต่ความจริงในเรื่องการศึกษาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่นั้น เย่หยวนได้เริ่มทำมันมานานมากแล้ว
ด้วยศิลาจารึกบัลลังก์พิภพที่เขามี มันจึงทำให้เขามีเวลามากกว่าคนอื่น ๆ นับสิบเท่า
เวลาสามร้อยปีที่ผ่านมาในโลกภายนอก เย่หยวนกลับได้ใช้เวลาไปแล้วกว่าสองพันปี
ในเวลากว่าสองพันปีนี้ มันก็ไม่มีทางเลยที่เย่หยวนจะใช้เวลาทั้งหมดเสียไปกับการหาทางบรรลุอาณาจักรเพียงอย่างเดียว
การศึกษาวิจัยโอสถจึงได้กลายมาเป็นเป้าหมายที่สองของเย่หยวน
ตอนนี้เย่หยวนนั้นมีพื้นฐานที่หนักแน่นมาก ต่อให้ไม่มีการแนะนำของหวู่เฉินเขาก็สามารถที่จะเข้าใจโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ได้ไม่น้อย
แต่เมื่อได้รับการแนะนำจากหวู่เฉินด้วย การพัฒนาของเขามันจึงยิ่งก้าวกระโดด
หากตอนนี้เขาสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าได้ เขาคงสามารถที่จะหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ความยากหกถึงเจ็ดได้ในทันทีอย่างง่ายดาย
แต่ว่าช่องว่างในพลังระหว่างอาณาจักรพระเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป เขาไม่สามารถกระโดดข้ามอาณาจักรเพื่อทำการหลอมโอสถได้เหมือนสมัยยังอยู่ในอาณาจักรมนุษย์
มีแต่ต้องรอให้เย่หยวนบรรลุอาณาจักรอาณาจักรราชันพระเจ้าเท่านั้นเขาถึงจะสามารถหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์สี่ ได้
สมบัติธรรมชาติระดับสี่นั้นมันแพงไม่น้อย แต่ละชิ้นราคาขึ้นไปถึงหลักร้อยล้านผลึกปราณเทวะได้ง่าย ๆ
ในเวลาห้าวันนี้ พวกเขาทั้งสองได้ใช้เงินไปแล้วกว่าหนึ่งแสนล้าน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า นายใหญ่ ความรู้สึกในการใช้เงินแบบนี้มันรู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย! ข้าเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านถึงได้บ่มเพาะพลังได้เร็วนัก!” หนิงเทียนปิงหัวเราะลั่น
หนิงเทียนปิงนั้นเคยเชื่อว่าตัวเองเป็นเด็กร่ำรวยในเมืองใหญ่ แต่เวลาไม่กี่วันมานี้เขาเพิ่งจะได้รู้ตัวว่าตัวเองมันแค่เด็กจน ๆ บ้านนอกคนหนึ่ง!
อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าใช้เงินเหมือนเป็นน้ำ?
นี่ต่างหากล่ะคือการใช้เงินเหมือนเป็นน้ำอย่างแท้จริง!
การใช้จ่ายนับแสนล้านในเวลาแค่ห้าวัน มีใครที่ไหนจะกล้าทำแบบนี้อีก?
สำหรับเย่หยวนแล้ว ผลึกปราณเทวะนั้นมันเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่จะใช้ในการเพิ่มความแข็งแกร่ง
อย่างที่เขาว่ากัน เงินนั้นไม่ตายก็ยังหาใหม่ได้ และสำหรับเย่หยวนแล้วการหาเงินมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เมื่อก่อนข้านั้นเคยซื้อแต่สมุนไพรระดับสามเลยไม่รู้สึกอะไรมากมาย แต่ตอนนี้หลังจากได้ลองซื้อสมุนไพรระดับสี่ดูแล้ว ข้าถึงได้รู้ว่า ‘แพง’ มันเป็นยังไง หากข้าคิดซื้อทุกอย่างที่อยากจริง ๆ สี่แสนล้านมันก็คงไม่พอที่จะจ่าย”
เย่หยวนนั้นต้องการที่จะร่วมงานประมูล เขาจึงไม่ได้ปล่อยตัวเองซื้อทุกอย่างตามที่อยากได้จริง ๆ
เมื่อใดก็ตามที่เขาขึ้นไปสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ เงินสี่แสนล้านแค่นี้มันจะไร้ค่าไปเลยสำหรับเขา
แค่จะเอามาซื้อวัตถุดิบหลอมโอสถระดับสี่กลับไปศึกษามันก็ยังไม่น่าจะพอ
เพราะตอนที่เย่หยวนเริ่มศึกษาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามนั้นเขาใช้ผลึกปราณเทวะไปหลายหมื่นล้าน
และเงินจำนวนนั้นแม้แต่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าก็ยังไม่มีปัญญาจะใช้จ่ายมัน ไม่ต้องพูดถึงอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเลย
คนทั้งสองตอนี้กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ในที่พักก่อนที่ตู้หมิงเหลียงจะมาถึง
“คารวะเถ้าแก่เย่!” ตู้หมิงเหลียงนั้นมีท่าทางเคารพเย่หยวนมาก ถึงขั้นเปลี่ยนคำเรียกชื่อไปเลยทีเดียว
ท่าทางแสนเคารพแบบนี้มันมิใช่ท่าทางที่จะแสร้งทำได้เลย
โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะที่เย่หยวนหลอมนั้น ทางพันธมิตรดาบดวงดาวได้ทำการคัดเลือกศิษย์ที่มีความสามารถดีเข้ามากินมัน แล้วผลที่ได้มันกลับน่าประทับใจจนพูดไม่ออก!
เมื่อก่อนนั้น พวกเขาทั้งหลายเคยได้ยินแค่ชื่อโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะแต่ไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน พวกเขาจึงไม่รู้เลยว่าผลของโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะมันจะดีได้แค่ไหน
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้เห็นพลังที่แท้จริงของโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะแล้ว
เขาเขี้ยนนั้นเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ได้รับการคัดเลือกใก้กินโอสถสุริยันจักรวาลเม็ดนั้นเข้าไป และนั่นทำให้เขาสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าได้ในเวลาแค่สามวัน!
ความเร็วในการบรรลุนี้มันเหนือล้ำคำบรรยายใด ๆ
ที่สำคัญตัวเจาเจี้ยนเองยังบอกว่าผลของโอสถยังไม่หมดลง มันคงต้องใช้เวลาอีกนานแสนนานในการดูดซับมันให้หมด
หากไม่มีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้นเสียก่อน ผลของมันน่าจะอยู่ไปได้อีกราวหนึ่งร้อยปี!
ถึงตอนนั้นการจะบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ผลโอสถระดับนี้ มีหรือที่หลี่ซิงและตู้หมิงเหลียงจะไม่ตื่นตะลึง?
ส่วนโอสถชนิดอื่น ๆ ที่พวกเขาได้มามันก็ให้ผลที่วิเศษไม่แพ้กัน
ทำให้ตอนนี้ตู้หมิงเหลียงคารวะเคารพต่อเย่หยวนอย่างสุดใจ ตอนนี้เขายิ่งมั่นใจว่าหลี่ซิงคงคาดเดาไม่ผิดนัก
เย่หยวนผู้นี้ต้องเป็นยอดศิษย์จากยอดกองกำลังค่ายสำนักใดสักแห่งแน่ ๆ พวกเขาไม่มีทางที่จะกล้าไปหาเรื่องเขาเลย!
และที่สำคัญคือพวกเขาไม่มีเหตุผลใด ๆ ให้ต้องหาเรื่องเลยด้วย!
เย่หยวนพยักหน้าและถามขึ้นอย่างผ่อนคลาย “แล้วเจ้ามามีธุระใดรึ?”
ตู้หมิงเหลียง “เถ้าแก่เย่ ผู้นำพันธมิตรของข้านั้นได้ยินมาว่าท่านต้องการจะเข้าร่วมงานประมูลของเมืองหลวงลาภสายน้ำ ผู้นำพันธมิตรจึงได้สั่งการให้ข้านำเหรียญตราสูงสุดนี้มามอบให้ท่าน ท่านสามารถใช้มันเพื่อเข้าร่วมการประมูลในเขตที่นั่งสูงสุดได้ นอกจากนี้พันธมิตรดาบดวงดาวของเรายังจะยกค่านายหน้าให้เถ้าแก่ห้าเปอร์เซ็นต์ด้วย! เหรียญตรานี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเก้าเหรียญ และพันธมิตรดาบดวงดาวมีอยู่สามเหรียญ นี่คือหนึ่งในเหรียญทั้งสามนั้น!”
เย่หยวนนั้นประหลาดใจไม่น้อย เพราะการยกค่านายหน้าให้ห้าเปอร์เซ็นต์มันก็เท่ากับว่าพวกเขาลดราคาประมูลห้าเปอร์เซ็นต์
มันเป็นการกระทำที่เห็นได้ยากมากในงานประมูล
เพราะว่าของที่นำมาขึ้นการประมูลนั้นไม่ได้เป็นของที่สามขั้วอำนาจจัดหามาเอง พวกมันทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นของที่นักยุทธนำมาฝากขายในกลุ่มเครือข่ายสวรรค์จนได้ขึ้นสู่เวทีประมูล
กลุ่มเครือข่ายสวรรค์นั้นเป็นเจ้าภาพจัดงานประมูล พวกเขาจึงคิดค่านายหน้าในการขายเพื่อเป็นค่าจัดการงาน
แต่การยกค่านายหน้าให้ห้าเปอร์เซ็นต์มันก็เท่ากับว่าทางกลุ่มเครือข่ายสวรรค์จะได้กำไรน้อยลง นั่นทำให้เย่หยวนประหลาดใจกับเรื่องนี้มาก
แน่นอนว่าเหล่าคนที่เข้าร่วมงานประมูลนั้นคงไม่สนใจผลึกปราณเทวะแค่ไม่กี่ร้อยล้านนี้หรอก
ที่สำคัญที่สุดคือสิ่งนี้มันเป็นสัญลักษณ์แสดงฐานะ!
ตอนนี้มันมีจำนวนกองกำลังค่ายสำนักตั้งอยู่เมืองนี้มากมายมหาศาล บ้างก็เป็นกองกำลังภายนอกทำให้แม้แต่ 3 ขั้วอำนาจใหญ่ก็อยู่ไม่สุขนัก
การที่พวกเขาทำเหรียญตราสูงสุดนี้ออกมาแค่เก้าเหรียญมันก็หมายความถึงคุณค่าที่สูงส่ง
แต่เย่หยวนก็ไม่ได้สนใจและรับมันมาเฉย ๆ “ได้ ข้าจะรับมันไว้ ขอฝากคำขอบคุณไปถึงท่านผู้นำพันธมิตรด้วย!”
ตู้หมิงเหลียงรีบตอบกลับมา “ไม่เลย ๆ เถ้าแก่เย่นั้นช่วยเหลือพันธมิตรดาบดวงดาวเราไว้มาก เรื่องนี้มันเป็นเพียงแค่คำขอบคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเราเท่านั้น”
เย่หยวนพยักหน้ายอมรับมันไว้
เพราะเมื่อได้รู้ถึงความน่ากลัวของผลจากโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะ พันธมิตรดาบดวงดาวก็รู้ได้ทันทีว่าโอสถแบบนั้นในราคาแค่หมื่นล้านกว่า ๆ นั้นมันแสนจะถูก!
ตอนนี้หากโอสถเหล่านั้นขึ้นเวทีประมูล อย่าว่าแต่สามพันล้าน ต่อให้เป็นหกหรือเจ็ดพันล้านมันก็เป็นไปได้ ทุกคนคงต่อสู้กันเพื่อมันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น
เพราะโอสถแค่เม็ดเดียวกลับสามารถสร้างยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาวขึ้นมาได้ มันไม่มีอะไรจะคุ้มค่าไปกว่านั้นแล้ว!
ที่สำคัญทางพันธมิตรดาบดวงดาวยังเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดด้วย เพราะพวกเขาทั้งหลายเป็นกลุ่มคนแรกที่ได้ซื้อโอสถนั้นมาก่อนสองเม็ด
หลังจากนั้นพวกเขาก็หายาสมุนไพรจบครบและกลับไปหาเย่หยวนอีกครั้งเพื่อหลอมอีกสองเม็ด สุดท้ายพวกเขาจึงได้มาทั้งหมดสี่เม็ด มากกว่าขั้วอำนาจอื่น
แค่ส่วนลดห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมันเรียกได้ว่าไม่เสียหายใด ๆ เลย
เมื่อมูดงเห็นตู้หมิงเหลียงเขาก็ได้แต่ทำหน้าไม่พอใจ
โดยเจ้าหมอนี่มาตัดหน้าอีกแล้ว!
คราวนี้พันธมิตรดาบดวงดาวนั้นได้ไปมากจริง ๆ
มูดงและตู้หมิงเหลียงนั้นมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขามาที่นี่เพื่อมอบเหรียญตราสูงสุด
แถมประโยชน์ที่ให้ก็ยังเหมือนกัน ด้วยส่วนลดค่านายหน้าห้าเปอร์เซ็นต์
ไม่นานจากนั้นหลิวฮั่นก็มาถึงด้วย
นับรวม ๆ แล้วตอนนี้เย่หยวนมีส่วนลดถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ติดตัว
หากนับรวม ๆ ส่วนลดที่ทั้งสามขั้วอำนาจให้มา มันก็ไม่น้อยเลยทีเดียว
จากเหรียญตราสูงสุดทั้งเก้ามันมาอยู่ในมือเย่หยวนแล้วสาม!
ของที่ราคาหมื่นล้านก็จะได้รับส่วนลดถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้าน จะเรียกมันว่าไม่จริงจังก็คงไม่ได้แล้ว