ตอนที่ 1658 วงแสงวิญญาณ
คลื่นยักษ์ใหญ่กำลังไหลซัดในใจของเจียงเจิ้นเทา!
วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลของเขานั้นบ่มเพาะไปจนถึงระดับยอดสี่ศาสตร์แห่งการดูรัศมีของเขาเอาก็ถึงขั้นสุดของระดับสี่เช่นกัน แต่ทว่าเขากลับต้องรับแรงสะท้อนกลับมากมายขนาดนี้ด้วยการจ้องมองแคบครั้งเดียว
อนาคตโชคชะตาของเด็กคนนี้มันช่างยิ่งใหญ่และเจิดจ้านัก!
“ผู้อาวุโสเจียง ท่านใช้… ใช้ศาสตร์การดูรัศมีกับเย่หยวนงั้นรึ?” หลี่ซิงดูท่าจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
เจียงเจิ้นเทารู้ดีว่าตัวเองคงซ่อนเรื่องนั้นไว้ไม่ได้แล้วจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม “เมื่อได้ยินเรื่องที่ท่านว่ามาเมื่อสักครู่ เฒ่าคนนี้ก็เกิดสงสัยขึ้นมาในใจจึงได้ใช้ศาสตร์แห่งการดูรัศมีออกไป ไม่นึกเลยว่า… เฒ่าคนนี้จะยังอ่อนหัดและถูกผลของมันสะท้อนกลับมา!”
หลี่ซิงกล่าวขึ้นอย่างตระหนก “ผู้อาวุโสเจียงคงล้อเล่นแล้ว! ในเขตแดนของสามเมืองจักรพรรดินี้มีใครบ้างเล่าไม่รู้ว่าศาสตร์การดูรัศมีของท่านนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด จะเป็นไปได้อย่างไรที่ท่านจะยังอ่อนหัด?”
ตอนนั้นก็มีชายอีกสองคนก็เดินเข้ามา หนึ่งคือเจ้าเมืองไช่หรง และเจ้าคฤหาสน์สายรุ้งโลหิต หวังจ้าว
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าดวงตาของเจียงเจิ้นเทามีเลือดไหลลงมาเป็นสายแบบนั้นพวกเขาก็หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด “ผู้อาวุโสเจียง เกิดอะไรขึ้นกับท่านกัน?”
หลี่ซิงจึงเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้ทั้งสองฟังก่อนที่พวกเขาจะหันมามองเย่หยวนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ดูท่าแล้วพวกเขาจะคาดเดาไม่ผิดจริงๆ
“ผู้อาวุโสเจียง ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเถ้าแก่เย่หยวนมีสีชะตาใด?” ไช่หรงถาม
เรื่องศาสตร์การดูรัศมีของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมิใช่เรื่องที่เป็นความลับใดๆ พวกเขารู้กันว่าสีชะตาผู้คนนั้นจะแบ่งออกได้เป็นเจ็ดสี เมื่อมองดูแล้วพวกเขาจะแยกออกมาได้
โดยมีสีแดงอยู่ระดับต่ำสุด และสีม่วงอยู่ระดับสูงสุด!
ปกติแล้วหากใครก็ตามที่มีชะตารัศมีสีม่วง หากพวกเขาไม่พลาดพลั้งไปก่อนพวกเขาก็จะบรรลุถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้อย่างแน่นอน
ยอดฝีมือที่ทิ้งประตูกดสวรรค์โบราณไว้เองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้รับการดูจากตระกูลเจียงและเขานั้นมีชะตารัศมีสีม่วงที่ส่องสว่างที่สุด
เจียงเจิ้นเทายิ้มออกมา “เฒ่าคนนี้ไม่เห็นอะไรเลย! แต่การที่เฒ่าคนนี้โดนสะท้อนกลับมาแบบนี้มันก็หมายความว่าเพื่อนตัวน้อยเย่หยวนคนนี้มีรัศมีจักรพรรดิแน่นอน!”
เพราะเขาแค่เหลือบมองมันก็แทบทำเขาตาบอดแล้ว!
“รัศมีจักรพรรดิ!” ยอดฝีมือทั้งสามร้องลั่น
รัศมีจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็เคยได้ยินมาก่อน แต่สำหรับเมืองหลวงบ้านนอกอย่างเมืองหลวงลาภสายน้ำนั้น มันไม่มีทางเลยที่จะมีรัศมีระดับนั้นปรากฏตัวขึ้นได้
เพราะเหล่าผู้คนที่มีรัศมีจักรพรรดินั้นล้วนแต่มีพรสวรรค์ที่สะท้านฟ้าดิน พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้เลย!
การเป็นเทพสวรรค์มันก็หมายความว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือบนจุดสุดยอดของโลกแล้ว เป็นตัวตนที่พวกเขาทั้งหลายได้แต่เงยหน้ามอง เป็นตัวตนที่พวกเขาไม่มีทางขึ้นไปเทียบเคียงได้ตลอดชีวิต!
หรือว่าชายหนุ่มคนนี้จะสามารถขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้จริงๆ ในวันข้างหน้า?
หวู่เฉินเคยบอกเรื่องพวกนี้กับเย่หยวนไว้แล้ว เย่หยวนจึงพอเข้าใจความหมายของรัศมีจักรพรรดิอยู่บ้าง
แต่เขาไม่คิดจะสนใจ เพราะสิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือวรยุทธบ่มเพาะที่เจียงเจิ้นเทาใช้ต่างหาก
เย่หยวนยกมือขึ้นมาคำนับก่อนจะกล่าว “ผู้อาวุโสเจียง เย่หยวนผู้นี้มีเรื่องอยากขอร้องท่าน”
ตอนนี้สายตาของทุกผู้คนที่ใช้มองเย่หยวนมันได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง
อนาคตเทพสวรรค์ เขามีค่าให้เอาใจมากแค่ไหน?
เจียงเจิ้นเทาพยักหน้ารับ “ว่ามาสิ”
เย่หยวนบอก “ผู้อาวุโสเจียง ท่านช่วยแสดงปราณเทวะของท่านให้ข้าชมอีกสักครั้งได้หรือไม่? ข้าอย่างจะลองเห็นมันตรงๆ ดูสักครั้ง”
เจียงเจิ้นเทานั้นตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธใดๆ เขาจึงใช้วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลและปล่อยปราณเทวะของตนเองออกมา
หลังมองดูปราณที่เจียงเจิ้นเทาปล่อยออกมาอย่างถี่ถ้วนแล้วเย่หยวนก็ต้องตัวสั่นไปทั้งร่าง
ปราณเทวะนี้มันช่างลึกลับเสียจริงๆ ที่สำคัญกว่าคือเย่หยวนกลับสัมผัสได้ถึงปราณเทวะโกลาหลจากปราณเทวะของเจียงเจิ้นเทา
เรื่องนี้มันทำให้เขาประหลาดใจมาก!
นักยุทธทุกคนล้วนแล้วแต่มีปราณเทวะที่แตกต่างกันไปตามวรยุทธบ่มเพาะที่พวกเขาฝึกฝน
บ้างมีปราณเทวะที่เหมาะต่อการฝึกวิชาดาบ บ้างมีปราณเทวะที่เหมาะต่อการฝึกวิชาไฟ แต่คนที่จะมีวรยุทธบ่มเพาะแฝงปราณเทวะโกลาหลนั้นมีเพียงแค่หยิบมือ!
“โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเหล่าวีรบุรุษมากจนเกินไป! เจียงเจิ้นเทาคนนี้มีพลังเพียงอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวแต่กลับแข็งแกร่งได้ปานนี้ ข้านึกไม่ออกเลยว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน!” เย่หยวนพูดขึ้นในใจ
หวู่เฉินจึงพูดขึ้น “จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นชีวิตมานานหลายต่อหลายหมื่นปี เขาเป็นหนึ่งในอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่มีชีวิตยืนยาวที่สุด! ว่ากันว่าเคยมีครั้งหนึ่งที่เขาต่อสู้เพื่อตำแหน่งเต๋าบรรพกาลแต่พ่ายแพ้ลงด้วย ตัวตนระดับนั้นมันไม่มีทางจัดลงมาอยู่ระดับเดียวกับผู้คนทั่วๆ ไปได้เลย คนเหล่านั้นคือยอดฝีมือที่ก้าวเข้าสู่ยอดเต๋า การบ่มเพาะปราณเทวะโกลาหลสำหรับพวกเขามันคงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย”
เย่หยวนจึงตอบ “ดูท่าวิถีของข้าจะไม่ผิดจริงๆ ขนาดยอดคนอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้คนนั้นก็ยังใช้ปราณเทวะโกลาหล! จะต่างกันก็ตรงที่พวกเขามีปราณเทวะโกลาหลที่บริสุทธิ์กว่าข้ามากนัก”
เมื่อได้เห็นปราณเทวะของเจียงเจิ้นเทา เย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจในเส้นทางของตัวเองมากขึ้น
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการหาทางไปต่อที่ถูกต้องเท่านั้น!
“ขอบพระคุณอย่างสูงผู้อาวุสเจียง! วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลนี้มันช่างลึกลับและเข้าใจได้ยาก เย่หยวนชื่นชมมันนัก” เย่หยวนตอบออกมาอย่างจริงใจ
“หึหึ นี่มันคือสมบัติที่เราได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เราแค่นำมันส่วนหนึ่งมาเรียนรู้ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรให้น่าชื่นชมหรอก หากเพื่อนตัวน้อยเย่หยวนว่างก็ลองมาเที่ยวที่เมืองจักรพรรดิเลิศประกายได้นะ” เจียงเจิ้นเทาชวน
เย่หยวนพยักหน้า “ได้เลย ข้าจะต้องไปเยือนที่นั่นให้ได้สักวัน!”
…
ที่มุมถนนหนึ่ง จิงลู่กัดฟันแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว “ลุงหวง เด็กคนนั้นมันยังไม่ออกมาอีก มันต้องซื้ออะไรไปแน่ๆ ในเขตสูงสุด คนที่จะซื้อศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดคงมีแค่มัน!”
หลังจบงานประมูลจิงลู่ก็กลับออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก
เขาสงสัยว่าคนที่ประมูลแย่งของไปจากเขาคือเย่หยวน เขาจึงดักรอดูอยู่ที่ด้านหน้างาน
ลุงหวงคนนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย “เป็นไปได้! ข้าเองก็ได้ลองไปถามๆ มาบ้าง ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เด็กคนนั้นมันจะกำลังหาศิลาอายุวิญญาณสวรรค์ยืนยาว เรื่องที่เขาจะประมูลแย่งศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดกับนายน้อยก็มีความเป็นไปได้สูง”
จิงลู่พูดออกมาอย่างเย็นชา “ไม่มีทาง ข้าไม่ยอมรับ! ลุงหวง ข้าจะสังหารมันให้ได้! ก่อนอื่นก็เพื่อล้างแค้นที่มันทำไว้! อีกอย่างก็คือเพื่อแย่งชิงศิลาวิญญาณสวรรค์ไร้สิ้นสุดมาจากมัน หากครั้งนี้เราพลาดไปอีกท่านพ่อคงต้องรออีกนานแสนนานกว่าจะได้มีโอกาสบรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์!”
ลุงหวงนั้นขมวดคิ้วแน่น “นายน้อย เรื่องนั้นอาจจะใช่ แต่ดูท่าทางที่สามขั้วอำนาจมีต่อเด็กคนนั้นแล้วเราคงลงมือไม่ได้ง่ายๆ แน่!”
“ข้าเองก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะลอบสังหารมันในเมือง เมื่อประตูกดสวรรค์โบราณเปิดออก มันจะต้องออกจากเมืองหลวงลาภสายน้ำแห่งนี้แน่ ถึงตอนนั้น…”
จิงลู่มีใบหน้าที่แสนชั่วช้าระหว่างที่พูดเรื่องพวกนั้นออกมา
ลุงหวงคิดอยู่นิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า “นายน้อยพูดมาก็มีเหตุผล! แค่ว่า… เด็กคนนั้นคงมีเบื้องหลังที่ไม่เล็ก หากอยากสังหารมันเราต้องเตรียมตัวกันให้ดี!”
จิงลู่พยักหน้า “อืม ท่านลองไปถามขอความช่วยเหลือจากท่านพ่อหน่อย บอกให้ท่านพ่อส่งยอดฝีมือมา! หึหึ แค่เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนเดียวกลับกล้ามาท้าทายนายน้อยคนนี้ นายน้อยคนนี้จะทำให้เจ้าได้รับรู้ถึงความสิ้นหวังเอง!”
“ขอรับ นายน้อย!” ลุงหวงตอบรับ
…
ในวันนี้ ที่ด้านเหนือของเมืองได้เกิดแสงส่องสว่างลงมาจากฟากฟ้า
แสงนับร้อยลำกำลังส่องลงมาจากท้องฟ้า ราวกับว่าเป็นแสงสปอตไลท์ที่ส่องลงมายังพื้นโลก
“วงแสงวิญญาณ! นี่มันวงแสงวิญญาณ! ประตูกดสวรรค์โบราณเปิดออกแล้ว!”
ปรากฏการณ์นี้มันทำให้นักยุทธในเมืองตื่นตัวขึ้นมาทันที
ในวินาทีต่อมาพวกเขาทั้งหลายก็รีบวิ่งมุ่งหน้าออกไปด้วยความเร็วที่สุดแสนจะบ้าคลั่ง
ที่รกร้างทางตอนเหนือของเมือง มีประตูหินยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่
ที่หน้าประตูนั้นมีวงแสงปรากฏขึ้นรอบ พร้อมด้วยภาพที่นักยุทธหลายต่อหลายคนต่างต่อสกันเพื่อแย่งชิงพื้นที่ในวงแสงนั้น