ตอนที่ 1669 เฒ่าขี้เมา
“ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็จะจำไว้ว่าติดหนี้เจ้า! เอาดาบนี้ไป ในวันข้างหน้าหากมีเรื่องใดที่ต้องการก็ให้มาหาข้าที่เมืองจักรพรรดิพันทะยานได้”
เล้งชิวหลิงยื่นดาบหยกขนาดเล็กมาให้เย่หยวน มันดูหรูหราไม่น้อย
ดาบหยกนี้ใสมาก เมื่อจับมันไว้ในมือแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ทิ่มแทง ดูท่าแล้วไม่น่าจะเป็นของธรรมดาๆ แน่
เย่หยวนเองก็ไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธใดๆ ให้ยุ่งยากออกไป “เอาล่ะงั้นข้าจะรับมันไว้ เจ้าขี้หมานั่นก็หายไปแล้วด้วย แม่นางเล้งท่านกลับไปพักผ่อนเสียเถอะ”
เย่หยวนนั้นไม่คิดที่จะไปหาเล้งชิวหลิงใดๆ เพียงแค่ว่ารับไว้เพื่อให้เล้งชิวหลิงสบายใจ
ที่ด้านข้างหนิงเทียนปิงเองก็ตื่นตกใจไม่น้อย เพราะเขาไม่คิดว่าสาวงามท่าทางดั่งราชินีน้ำแข็งแบบนี้จะกลับมอบของขวัญให้กับเย่หยวน
และที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าก็คือเย่หยวนกลับไล่สาวงามคนนี้กลับไปอย่างไม่ใยดี
เล้งชิวหลิงนั้นก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะเวลากว่าห้าร้อยปีมานี้นางเพิ่งจะเคยพบเจอคนเช่นนี้เป็นครั้งแรก
ต่อให้คนอื่นๆ จะรู้ว่าไม่มีหวัง แต่พวกเขาก็จะยังตามติดนางไว้เพื่อจะได้อยู่ใกล้นางแม้แต่อีกนิดก็ยังดี
แต่ชายคนนี้กลับไล่เธอกลับเสียอย่างนั้น!
“อืม ขอบคุณ”
ด้วยนิสัยของเล้งชิวหลิง มีหรือที่นางจะกล้าพูดเรื่องที่อยากออกมาตรงๆ นางจึงเลือกที่จะเดินจากไปทันที
แต่ในใจของนางนั้น นางรู้สึกไม่พอใจน้อยๆ
หลังเดินไปได้ครึ่งทางนางก็หันมาหาเย่หยวนอีกครั้ง “อ่า จริงด้วย ข้าว่าเจ้าอย่าขึ้นไปบนเขาแห่งถงเทียนเลยจะดีกว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรมามันไม่เคยมีนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ากลับลงมาได้เลย!”
หยุดไปนิดนางก็พูดขึ้นต่อ “ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะมาจากที่ไหนมันก็ไม่มีทางรอดหรอกนะ!”
เย่หยวนยิ้มกลับไป “ขอบพระคุณแม่นางมากที่เตือน เย่หยวนคนนี้จะระมัดระวัง”
เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวนนางก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่คิดจะฟังคำเตือนนี้เลยแม้แต่น้อย เล้งชิวหลิงจึงได้แต่เดินจากไปอย่างหงุดหงิดใจบอกไม่ถูก
เมื่อเห็นว่าเล้งชิวหลิงเดินหายลับไป หนิงเทียนปิงก็กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางสุดเสียดาย “ชิชิ นายใหญ่นะนายใหญ่ เห็นสาวงามขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่หวั่นไหวสักนิด”
เย่หยวนได้แต่หัวเราะและดุหนิงเทียนปิงออกมา “ความสัมพันธ์ที่ข้ามีตอนนี้มันก็ยุ่งเหยิงพอแล้ว จะยังมีหน้าไปหลงสาวที่ไหนได้อีก?”
เมื่อหนิงเทียนปิงได้ยินแบบนั้นจิตใจขี้ซุบซิบนินทาของเขาก็ตื่นขึ้นทันที “โอะ? นายใหญ่ท่านมีคนรักด้วยรึ แถมยังมิใช่คนเดียวอีกด้วย! ข้าไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!”
เย่หยนจึงตอบกลับไป “อย่าถามเรื่องที่ตัวเองไม่ควรรู้!”
คนทั้งสองมองดูเล้งชิวหลิงจากไปด้วยหางตาก่อนจะเดินเข้าไปในหอใหญ่กลางเมือง
เมื่อเข้ามาเขาก็พบว่าด้านในหอนั้นมันว่างเปล่า มีแค่ชายแก่ขี้เมาคนเดียวกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์
“เฮอะ เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้ามารนหาที่ตายอีกแล้ว! เด็กน้อย ข้าจะแนะนำให้ เขาแห่งถงเทียนนั้นมิใช่สนามเด็กเล่น มาทางไหนก็จงกลับไปทางนั้นเสีย!” คนๆ นั้นบอกเย่หยวนโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะหันมอง
ขี้เมาคนนี้คงกำลังเมาอยู่ไม่น้อย แต่เย่หยวนกลับไม่สามารถหยั่งพลังของเขาได้เลย
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่แนะนำ แต่ว่าเขาแห่งถงเทียนนั้น ผู้น้อยคนนี้จำเป็นต้องขึ้นไปจริงๆ” เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น
ขี้เมาคนนั้นหัวเราะขึ้น “เฮอะๆ เด็กน้อยผู้โง่เขลาและบ้าบิ่น! แต่เจ้านั้น… มาช้าไป! ป้ายของปีนี้มันถูกแจกจ่ายออกไปจนหมดก่อนที่เจ้าจะมาถึงแล้ว หากอยากขึ้นเขาแห่งถงเทียนไปให้ได้จริงๆ ก็คงรอปีหน้าเสียเถอะ”
เย่หยวนนั้นได้แต่นิ่งเงียบ ช่างโชคไม่ดีเสียจริงๆ
เขาเพิ่งจะพลาดรถด่วนขบวนสุดท้ายไปรึ?
เย่หยวนไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ และยกมือขึ้นประกบตรงหน้า “ผู้อาวุโสท่านจะช่วยผ่อนปรนเรื่องนั้นสักนิดได้หรือไม่?”
เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายก็มีร่างสองร่างพุ่งตัวออกมาจากที่ไหนไม่ทราบได้ ปิดด้านหน้าของเย่หยวนไว้
จิตสังหารอันเย็นเหยียบถูกปล่อยออกมาจนทำให้เย่หยวนต้องขมวดคิ้วแน่น
“ฮ่าๆๆ เด็กน้อยเจ้าคิดว่าที่นี่เราทำงานกันยังไง? ไปๆ หากยังไม่ไปข้าคงไม่สุภาพด้วยแล้ว” ขี้เมาคนนั้นโบกมือไล่
เย่หยวนได้แต่ถอนหายใจและกำลังคิดจะเดินจากไป ก่อนที่จู่ๆ ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนสีไป
“เฮอะๆ ไม่ได้เจอกันหลายล้านปีแต่เจ้าเฒ่าขี้เมาคนนี้กลับยังทำตัวอวดเก่งไม่หาย!”
จู่ๆ ก็มีเงาร่างอีกร่างปรากฏขึ้นในหอแห่งนี้
แต่ที่เย่หยวนตกใจมากที่สุดก็คือร่างนั้นมันเป็นร่างของหวู่เฉิน
ขี้เมาคนนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันที เขาวางขวดเหล้าลงทันทีพร้อมจ้องมองดูหวู่เฉินอย่างไม่วางตา
ขี้เมาคนนั้นบอกขึ้น “พวกเจ้าออกไป หากไม่ได้รับคำสั่งจงอย่าคิดกลับเข้ามาเด็ดขาด!”
“ขอรับ!” ชายชุดเกราะทั้งสองหายตัวไปต่อหน้าต่อตา
เย่หยวนเองก็หันไปบอก “เทียนปิง เจ้าออกไปเดินเล่นก่อน”
หนิงเทียนปิงตื่นตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังทำตามคำสั่งและออกจากหอไปอย่างว่าง่าย
เมื่อทำการจัดการพื้นที่แล้วขี้เมาคนนั้นก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมด้วยสายตาที่เหมือนได้เจอผีจ้องมองมายังหวู่เฉิน “ท่าน… ท่านหวู่เฉินจริงๆ ด้วย!”
หวู่เฉินยิ้มตอบ “ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใครอีก?”
“”ฮ่าๆๆ …” ขี้เมาคนนั้นเงยหน้าขึ้นฟ้าและหัวเราะลั่น พร้อมด้วยน้ำตาที่ค่อยๆ หลั่งไหลลงมาท่วมใบหน้า “สวรรค์มีตา ท่านหวู่เฉิน ท่านยังไม่ตาย!”
เฒ่าขี้เมาคนนั้นทั้งหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆ กันด้วยสภาพราวกับคนบ้า
เมื่อเย่หยวนได้เห็นภาพนี้เขาก็เกิดตื่นตกใจขึ้นมาในใจไม่น้อย
เพราะเขาไม่คิดว่าเฒ่าขี้เมาคนนี้จะเป็นคนรู้จักเก่าแก่ของหวู่เฉิน
หวู่เฉินมองดูที่เฒ่าคนนั้นด้วยสีหน้าที่แสนเศร้าโศก ดูท่าแล้วภาพวันวานเก่าๆ คงย้อนกลับมาหาเขาไม่น้อย
หลังจากความบ้าคลั่งผ่านไป เฒ่าคนนั้นก็รีบบอก “ท่านหวู่เฉิน โปรดนั่ง!”
หวู่เฉินเองนั้นเป็นแค่ภาพจำแลง แต่ทั้งอย่างนั้นเฒ่าขี้เมาคนนั้นก็ยังสุภาพกับเขามาก
หวู่เฉินนั้นก็ไม่เกรงใจ นั่งลงอย่างสบายใจ
หวู่เฉินมองที่หน้าเฒ่าขี้เมาก่อนจะยิ้มขึ้น “ดูท่าเวลาหลายปีมานี้เจ้าคงสบายดี!”
เฒ่าขี้เมายิ้มออกมาอย่างขื่นขม “ท่านหวู่เฉิน ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้านั้นเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถทำตามความคาดหวังได้จึงได้มานั่งดื่มเหล้าอยู่ทุกวันเช่นนี้! เวลาหลายล้านปีมานี้ข้าฝึกฝนบ่มเพาะอย่างหนัก คิดอยากแก้แค้นให้ท่านจอมเทพนิรันดร์ แต่… ข้ากลับไม่สามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ได้เสียที! หลายปีมานี้ข้าเองก็ออกไปตามหาโลกใบเล็กของท่านจอมเทพนิรันดร์ แต่เขาช่างซ่อนมันไว้มิดชิด ข้าหาอย่างไรก็ไม่เจอมันแม้แต่เงา!”
หวู่เฉินถอนหายใจ “เจ้านั่นมีจิตใจที่ดี! แต่เจ้าไม่ต้องออกไปตามหามันอีกแล้ว เพราะ… จอมเทพนิรันดร์มีผู้สืบทอดแล้ว”
เฒ่าคนนั้นตัวสั่นไปทั้งร่าง ก่อนจะหันไปมองที่เย่หยวนอย่างตื่นตกใจ
เวลาหลายปีมานี้เฒ่าขี้เมาคนนี้ได้ประจำการอยู่ที่เมืองตีนใต้นี้ เขาได้พบอัจฉริยะมามากมายอย่างที่ไม่อาจจะนับได้
หากเทียบกันแล้วเย่หยวนไม่มีทางเทียบเคียงคนเหล่านั้นได้เลย
เฒ่าขี้เมาจึงถามขึ้นด้วยท่าทางสุดสงสัย “เขาหรือ? ท่านหวู่เฉิน ด้วยความเคารพ ข้ามองยังไงเด็กคนนี้มันก็คนธรรมดา! ไม่มีปัญญาที่จะบรรลุขึ้นอาณาจักรราชันพระเจ้าเขาถึงได้คิดจะมาเสี่ยงโชคที่เขาแห่งถงเทียนนี้ใช่หรือไม่? หากไม่มีปัญญาแม้แต่จะบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าเองแล้วจะมีปัญญาไปแก้แค้นให้ท่านจอมเทพนิรันดร์ได้รึ?”
หวู่เฉินยิ้มออกมา “ทั้งศิลาจารึกบัลลังก์พิภพและไข่มุกสยบวิญญาณต่างยอมรับตัวเขาเป็นนาย มันไม่มีทางผิดพลาดไปได้หรอก! ส่วนเรื่องเหตุที่เขาไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้านั้นข้าไม่สะดวกที่จะบอกเล่าออกมาจริงๆ แต่มันไม่ใช่ปัญหาที่แก้ได้ด้วยพรสวรรค์แน่ๆ เจ้าแค่รู้ไว้ก็พอว่าอนาคตของเด็กคนนี้จะยิ่งใหญ่กว่าจอมเทพนิรันดร์เสียอีก!”
เฒ่าขี้เมานั้นตื่นตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น เพราะเย่หยวนนั้นดูธรรมดาในทุกๆ ด้านโดยไม่มีร่องรอยความพิเศษใดๆ เลย
แต่ว่าหวู่เฉินกลับประเมินเด็กคนนี้ไว้อย่างสูงส่ง
ความสามารถระดับจอมเทพนิรันดร์นั้นมีมากมายแค่ไหน เฒ่าขี้เมาคนนี้รู้ซึ้งถึงมันอย่างดี แต่เด็กน้อยที่ไม่สามารถแม้แต่จะบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าคนนี้น่ะรึที่จะก้าวข้ามเขาได้?
เฒ่าขี้เมาพยักหน้ารับ “หากเขาคือคนที่ท่านหวู่เฉินเลือก ข้า เฒ่าขี้เมาคนนี้ก็จะไม่ว่ากล่าวใดๆ อีกแล้ว แต่ท่านหวู่เฉิน ท่านเองก็รู้ดีว่าการให้อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าขึ้นไปบนเขาแห่งถงเทียนนั้นมันเท่ากับความตาย เรื่องแบบนี้จะมาทำเล่นๆ ไม่ได้!”
หวู่เฉินยิ้มตอบไป “เฒ่าขี้เมา เจ้าคิดว่าชายแก่คนนี้จะปล่อยให้เขาขึ้นไปตายเฉยๆ งั้นรึ? เจ้าวางใจได้ว่าเขารอดแน่!”
เฒ่าขี้เมามองไปยังเย่หยวนอย่างสงสัยใคร่รู้ถึงที่สุด เขาอยากจะรู้ว่าเด็กคนนี้มันมีอะไรดีกันแน่
แต่ไม่ว่าจะมองไปเท่าไหร่เขาก็ไม่สามารถเห็นได้เลยว่าเขาคนนี้มีอะไรเด่นตรงไหน