เย่หยวนนิ่งงันไปชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มเข้าใจถึงมันได้
โอกาสที่จะได้ให้ท่านเจ้าศาลามายาล้ำดูรัศมีทำนายดวงชะตาให้นี้มันจะเป็นโอกาสที่หายากแค่ไหน?
เหล่าคนที่อายุเกินสองพันปีไปแล้วมีพลังฝีมือความสามารถที่เติบโตเต็มที่ ช่องทางใดๆ ที่จะพัฒนาตัวเองเพิ่มนั้นมันก็ช่างน้อยนิด
แล้วการเอาคนเช่นนั้นมารับการทำนายจากท่านเจ้าศาลามายาล้ำมันจะได้ประโยชน์ใด?
เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวมันจะยังมีอะไรให้ดูให้แนะนำได้?
ไม่ว่าจะมองจะดูไปเท่าไหร่ พวกเขาก็ไม่มีทางจะพัฒนาตัวเองจนถึงขั้นบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ไปได้!
เมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นจัดงานสังเวียนร้อยศึกขึ้นมาก็เพื่อที่จะหาเหล่ายอดอัจฉริยะมากพรสวรรค์และช่วยชุบเลี้ยงพวกเขาขึ้น
การทำแบบนี้มันจะช่วยให้เมืองจักรพรรดิเลิศประกายได้มีเส้นสายที่ยิ่งใหญ่ไปด้วย
เมื่อเหล่ายอดอัจฉริยะเหล่านั้นเติบโต พวกเขาก็จะต้องรู้สึกขอบคุณในเมืองจักรพรรดิเลิศประกายบ้าง
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้เย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความเจ้าเล่ห์และมองการณ์ไกลของท่านเจ้าศาลามายาล้ำ
การกระทำเช่นนี้มันจะช่วยให้เมืองจักรพรรดิเลิศประกายได้สร้างหนี้บุญคุณให้ยอดคน ช่วยให้เมืองจักรพรรดิเลิศประกายได้มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ช่างเป็นการกระทำที่เปี่ยมไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและประสบการณ์อย่างถึงที่สุด
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลเจียนถึงได้มีชื่อเสียงและอำนาจมากมายปานนี้ เรื่องทั้งหมดมันไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ เลย
ระดับของยอดอัจฉริยะในเมืองจักรพรรดิที่อายุไม่เกินสองพันปีนั้นคงมีพลังฝีมือและการบ่มเพาะไม่เกินอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลาง
พวกเขามีพลังฝีมือระดับหนิงเทียนปิง
นั่นมันก็หมายความว่าหนิงเทียนปิงนั้นกลายเป็นยอดอัจฉริยะในระดับเมืองจักรพรรดิไปอย่างไม่รู้ตัว
เพราะแม้เจียนปิงจะมีพลังบ่มเพาะระดับราชันพระเจ้าห้าดาวเช่นเดียวกัน แต่ว่าอายุขัยของเขานั้นมันก็เกินกว่าสองพันปีไปมากแล้ว ไม่สามารถเทียบเคียงกับหนิงเทียนปิงได้เลย
เพราะยังไงเสียเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันก็เป็นได้แค่เมืองจักรพรรดิระดับล่าง โอกาสที่จะเกิดยอดอัจฉริยะแบบนี้มันมีน้อย น้อยสุดๆ
“อย่างนี้นี่เอง เย่หยวนผู้นี้เข้าใจแล้ว! ท่านเจ้าศาลาโปรดวางใจเย่หยวนผู้นี้จะรับตำแหน่งนั้นมาให้ได้!” เย่หยวนบอกอย่างหนักแน่น
ไม่ว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เย่หยวนก็จะชนะและรับโอกาสนี้มาไว้ในมือให้ได้
เขาจะไม่มีทางยอมล้มเหลวเด็ดขาด!
แต่เจ้าศาลามายาล้ำกลับหัวเราะออกมา “หึๆ สหายหนุ่มเย่หยวนอย่างเพิ่งมั่นใจเกินไป! สังเวียนร้อยศึกนี้มันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดหรอก เมื่อถึงเวลายอดอัจฉริยะจากเมืองต่างๆ นาๆ จะมารวมตัวกันที่นี่ หลายร้อยเมืองจักรพรรดิรอบๆ เมืองจักรพรรดิเลิศประกายเองก็คงไม่นิ่งเฉยกับเรื่องนี้แน่ และคนหนุ่มสาวหลายๆ คนจะมาที่นี่เพื่อสร้างชื่อเสียงด้วย จนถึงตอนนั้นหากมีราชันพระเจ้าหกดาวปรากฏตัวขึ้นมามันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลย คู่ต่อสู้ของเจ้านั้นแข็งแกร่ง!”
สังเวียนร้อยศึกนี้ถูกจัดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
ตอนนี้ชื่อเสียงของมันโด่งดังอย่างกว้างขวางจนทำให้แม้แต่เมืองจักรพรรดิภายใต้จักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นก็เริ่มหันมาสนใจและส่งคนมาอย่างไม่ลังเลแล้ว
และยิ่งพื้นที่มันกว้างขวางเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดมียอดอัจฉริยะมาเข้าร่วมมันก็ยิ่งมากเท่านั้น
ที่สำคัญอัจฉริยะหลายๆ คนยังแค่อยากมาสร้างชื่อเสียงให้กลายเป็นที่ยอมรับจึงมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
นั่นมันทำให้ทุกผู้คนที่คิดว่าตัวเองเก่งย่อมจะมารวมที่เมืองจักรพรรดิเลิศประกายในตอนนั้น
ทุกๆ สามร้อยปี เมืองจักรพรรดิเลิศประกายจะกลายเป็นไฟ เป็นสถานที่ที่เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายมาห้ำหั่นกัน
แต่ดวงตาของเย่หยวนก็ยังเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่คิดจะยอมแพ้และบอก “ผู้น้อยมีเหตุผลให้ต้องชนะ และจะไม่มีวันแพ้ด้วย!”
เจ้าศาลามายาล้ำหัวเราะออกมาอีกครา “หึๆ รัศมีผ่าจักรพรรดิ เฒ่าคนนี้ล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าจะสามารถปีนป่ายไปได้ถึงจุดใด!”
เย่หยวนหันไปมองหน้าเจ้าศาลามายาล้ำอีกครั้งก่อนจะหรี่ตาลงแคบและถาม “ท่านเจ้าศาลา ที่ท่านต้องทำการทำนายทุกๆ สามร้อยปีนี้ หรือจะเป็นเพราะว่า…ท่านมีอาการบาดเจ็บใดมาก่อน?”
เจ้าศาลามายาล้ำเบิกตากว้างและตอบกลับมาอย่างตกใจไม่น้อย “เด็กน้อยเจ้าช่างมีตาที่เฉียบคม! หึๆ เฒ่าคนนี้เองก็เคยโดนทัณฑ์สวรรค์มาก่อน ทำให้ได้รับผลสะท้อนจากยอดเต๋าและระดับการบ่มเพาะตกต่ำ ถึงได้กลายมามีสภาพเช่นนี้ กว่าจะลงมือทำนายใดได้ก็ต้องรอสามร้อยปี ต้องทำแบบนี้เท่านั้นเฒ่าคนนี้ถึงจะพอรักษาพลังชีวิตไว้ได้ แต่ครานี้หากเจ้าสามารถชนะได้อันดับหนึ่งมาจริง สังเวียนร้อยศึกคราหน้าคงต้องมีการเลื่อนออกไปแล้ว”
เย่หยวนหน้าเปลี่ยนสีและยกมือขึ้นมาคารวะขอบคุณทันที “การที่ท่านเจ้าศาลายอมช่วยข้าในครานี้ บุญคุณนี้เย่หยวนจะไม่มีทางลืมเลือนเลย!”
เจ้าศาลามายาล้ำจึงบอกออกมาด้วยเสียงหัวเราะ “เฒ่าคนนี้บาดเจ็บไปบ้างเพื่อแลกกับหนี้บุญคุณของผู้มีรัศมีผ่าจักรพรรดิ มันช่างคุ้มค่านัก! แต่…อย่างที่ว่าไป ศัตรูของเจ้านั้นแข็งแกร่ง! เจ้าจะได้รับการทำนายจากข้าก็ต่อเมื่อเจ้าได้รับอันดับหนึ่งมาเท่านั้น”
…
“หะ? สุดท้ายเจ้าก็ยังต้องไปร่วมสังเวียนร้อยศึกอยู่ดี?”
เหตุผลที่เจียนเจิ้นเทาพาเย่หยวนมาหาท่านเจ้าศาลานั้นก็เพราะไม่อยากให้เย่หยวนต้องไปร่วมสังเวียนร้อยศึกนั่นเอง
เพราะในสายตาของเขา ด้วยพลังฝีมือของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่มีทางใดเลยที่เย่หยวนจะชนะสังเวียนร้อยศึกไปได้
การปะทะกันที่หน้าประตูบ้านเขานั้น เจียนเจิ้นเทาเชื่อมาตลอดว่าคงเป็นหนิงเทียนปิงที่ลงมือ
เพราะการที่ราชันพระเจ้าสองดาวจะไปชนะยอดคนจากทั่วทุกสารทิศในงานสังเวียนร้อยศึกนั้น มันไม่มีทางใดเลยที่จะเกิดขึ้นได้
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว! ท่านเจ้าศาลาบอกว่าตราบเท่าที่ข้าได้อันดับหนึ่งมาครอง เขาก็จะทำนายให้ข้า!”
เจียนเจิ้นเทายกมือขึ้นมาโบกส่ายไปมาเมื่อได้ยิน “นั่นมันรางวัลที่ผู้ชนะควรได้อยู่แล้ว! หากเจ้าสามารถชนะได้จริงข้าจะลำบากพาเจ้ามาหาเขาทำไมกันเล่า?”
เย่หยวนส่ายหัว “ท่านเข้าใจผิดแล้ว! หากเป็นคนอื่นนั่นคือรางวัลที่ผู้ชนะควรได้ แต่สำหรับข้า เขาสามารถจะปฏิเสธได้!”
เจียนเจิ้นเทานิ่งไป “ทำไมล่ะ?”
เย่หยวนบอก “เพราะเขาบอกว่าข้ามีรัศมีผ่าจักรพรรดิ! ต่อให้เป็นตัวเขาการจะทำนายให้ข้านั้นมันก็จะสร้างความเสียหายให้เขาไม่น้อย!”
“ไอ้หยา!”
เจียนเจิ้นเทาเบิกตากว้างทันทีพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ดวงตาของเขาในตอนนั้นมันราวกับว่าตรงหน้าของตนมียอดสัตว์ประหลาดยืนอยู่
“ร-รัศมีผ่าจักรพรรดิ!” ความตื่นตกใจของเจียนเจิ้นเทาในตอนนี้มันมากเกินกว่าจะบรรยายได้
อย่าว่าแต่เมืองจักรพรรดิเลิศประกาย แม้แต่ในมหาพิภพถงเทียนเองก็ยังไม่มีคนที่มีรัศมีเช่นนี้มากมายนัก
มันเป็นรัศมีที่จะเกิดขึ้นกับเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ในรอบหลายล้านปี!
รัศมีผ่าจักรพรรดินั้นเป็นเพียงแค่ตำนานสำหรับเขา
แต่วันนี้เขากลับได้มาพบเจอมันเข้าจริงๆ!
เย่หยวนพยักหน้า “ท่านเจ้าศาลาบอกว่าหากข้าได้รับที่หนึ่งมาจริง สังเวียนร้อยศึกครั้งต่อไปเองก็คงต้องมีการเลื่อนออกไปด้วย แค่นี้มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการทำนายครั้งนี้มันส่งผลกระทบกับเขาหนักหนาแค่ไหน”
เจียนเจิ้นเท่านั้นรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าลงกลางหัวหลังรับทราบเรื่องราวในครั้งนี้
รัศมีจักรพรรดินั้นเป็นอะไรที่เขาแค่เดาสุ่ม
แต่เขาไม่คิดเลยว่ารัศมีของเย่หยวนจะมิใช่แค่รัศมีจักรพรรดิ แต่เป็นถึงรัศมีผ่าจักรพรรดิ!
เขาเริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้วว่าทำไมตัวเองถึงแตะฐานบรรลุได้
มันเป็นเพราะว่าตัวเขาไปถูกเข้ากับจิตนิรันดร์!
หลังจากผ่านเวลาไปนานแสนนานในที่สุดเจียนเจิ้นเทาก็เริ่มกลับมาตั้งสติได้และกล่าว “เย่หยวน เจ้าต้องเก็บเรื่องนี้ปิดเงียบไว้ อย่าได้แพร่งพรายให้ผู้คนรู้! ไม่เช่นนั้นเจ้าต้องพบเจอปัญหาไม่มีจบสิ้นแน่!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ท่านผู้อาวุโสโปรดวางใจ เย่หยวนย่อมรู้เรื่องนั้นดี”
อนาคตจักรพรรดิเทพสวรรค์ เรื่องนี้มันแสนจะยิ่งใหญ่
มันเป็นการตื่นขึ้นของตัวตนที่จะสั่นโลก บางทีหากจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นได้ยินข่าวนี้พวกเขาอาจจะส่งคนมาจัดการสังหารเย่หยวนก็เป็นได้
เรื่องเช่นนี้ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน
เจียนเจิ้นเทาพูดต่อ “แต่ข้าก็ยังไม่มั่นใจว่าเจ้าจะได้อันดับหนึ่งมาจริงๆ อยู่ดี!”
หนิงเทียนปิงที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ จึงยิ้มขึ้นมาแทน “ท่านผู้อาวุโสโปรดวางใจเถอะ พลังฝีมือของนายใหญ่นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายหรอก อย่างน้อยๆ ก็ข้าคนหนึ่งล่ะที่ไม่พอมือนายใหญ่! แม้ว่าการชนะที่หนึ่งจะยากเย็นจริง แต่นายใหญ่ข้าจะไม่มีทางยอมแพ้แน่”
เจียนเจิ้นเทาหัวเราะ “เจ้าล้อข้าเล่นเรอะ? เจ้าเนี่ยนะไม่พอมือนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาว?”
หนิงเทียนปิงยิ้มตอบ “การต่อสู้ที่หน้าบ้านท่านผู้อาวุโสนั้นเป็นนายใหญ่ที่ลงมือเอง หากสู้กันตรงๆ นายใหญ่ข้าสามารถสังหารเจียนปิงผู้นั้นได้แน่นอน! แค่ว่านายใหญ่ท่านไม่อยากลบหลู่ศาลามายาล้ำนายใหญ่จึงไม่ได้ลงมือสังหารไป”
เจียนเจิ้นเทาหัวไปมองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อ เจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?
………………………..