คราวนี้คู่ต่อสู้ของเย่หยวนเป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาว
แต่ว่าสุดท้ายอีกฝ่ายก็ยังถูกซัดปลิวไป
หลังจากนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวคนนั้นหน้าทิ่มดินไป เขาก็ลุกขึ้นมาด้วยสภาพมึนงงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่
เย่หยวนนั้นฝึกฝนแนวคิดแห่งห้วงมิติมานานแสนนานและรู้ถึงวิธีการนำมันมาประยุกต์ใช้อย่างแยบยล
นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะรับมือเขาได้นานนักอยู่แล้ว
“เย่หยวนคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ!”
“ไม่แปลกใจเลยที่มันจะกล้าไปท้าทายเซียโหหยุน! ดูท่ามันจะมีฝีมือไม่น้อยจริงๆ!”
“นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาวกลับสามารถชนะนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางได้แบบนี้ แนวคิดแห่งห้วงมิติมันช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”
“แต่ไม่ว่ามันจะเก่งกาจแค่ไหน มันก็ไม่มีทางเทียบกับเซียโหหยุนได้หรอก”
…
การที่เย่หยวนนั้นสามารถเอาชนะนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวได้มันทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้าง
เพราะจากอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นต้นไปสู่อาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางนั้นมันมีช่องว่างที่แสนยิ่งใหญ่อยู่ ต่อให้เป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสามดาว แต่หากไร้ความสามารถที่สะเทือนสวรรค์จริงๆ พวกเขาก็ไม่มีทางจะต่อสู้กับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวได้เลย
แต่เย่หยวนคนนี้ผู้ที่มีพลังบ่มเพาะแค่อาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาวกลับสามารถทำมันได้
เรื่องนี้มันทำให้ทุกผู้คนได้รับรู้เสียทีว่าเย่หยวนนั้นไม่ใช่แค่ขยะตัวประกอบข้างทาง!
แต่หากจะบอกว่าเย่หยวนสามารถเอาชนะเซียโหหยุนได้ พวกเขาทั้งหลายก็ยังไม่คิดจะเชื่อ
เพราะยังไงเสียเซียโหหยุนคนนั้นมันก็ช่างแข็งแกร่ง
รอบที่สองผ่านไปอย่างไม่มีเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้นอีก ศัตรูของเขายังคงยอมแพ้ตั้งแต่ขึ้นสังเวียน
คลื่นพลังที่ออกมาจากร่างกายของเขานั้นมันช่างรุนแรง ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปปะทะกับเจ้าของคลื่นพลังกดดันนี้เลย
รอบที่สาม เย่หยวนเองก็ยังคงชนะได้ ล้มนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวอีกคนลง
คู่ต่อสู้ของเซียโหหยุนเองก็ยอมแพ้ออกมาอีกครา
รอบที่สามจบลงแล้ว แต่กลับยังไม่มีใครสามารถทำให้เซียโหหยุนลงมือได้เลย!
หลังจากจบรอบที่สามลงกรรมการก็ประกาศออกมา “การต่อสู้ของวันนี้จบลงเท่านี้ วันพรุ่งนี้จะเริ่มรอบที่สี่!”
การต่อสู้ติดกันสามศึก มันไม่แปลกเลยที่หลายๆ คนจะหมดแรงจนแทบสู้ไม่ไหวแล้ว
ได้ยินแบบนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ถอนหายใจยาว
หลังจากแยกย้ายกันหนิงเทียนปิงก็เดินเข้ามาหาเย่หยวนและบอกด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น “นายใหญ่ ข้าผ่านรอบที่สามมาได้แล้ว!”
เย่หยวนได้แต่กลอกตา “หากเจ้าไม่ผ่านแม้แต่รอบที่สาม ข้านี่แหละจะเป็นคนเตะเจ้ากลับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เอง”
หนิงเทียนปิงหัวเราะชอบใจ “นายใหญ่ ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันไปเลย ได้มีโอกาสแลกกระบวนท่ากับยอดคนระดับนั้น! ที่สำคัญที่สุดเลยคือข้าชนะพวกเขาด้วย! ฮ่าๆ สุดยอดเสียจริง!”
หนิงเทียนปิงหัวเราะลั่นทำให้ผู้คนต้องหันหน้ามามองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
เพราะคำพูดนั้นมันช่างอวดดี!
เย่หยวนยิ้ม “ตอนนี้ฝีมือของเจ้านั้นนับว่าเป็นระดับบนของเมืองจักรพรรดิแล้ว ระดับนี้ในวันข้างหน้าเจ้าจะยิ่งทิ้งห่างพวกเขาทั้งหลายไปเรื่อยๆ อย่างห่างไกลขึ้นอีก”
หนิงเทียนปิงกล่าวอย่างตื่นเต้น “หึๆ นายใหญ่เป็นผู้มีพระคุณต่อเทียนปิงโดยแท้ เปลี่ยนชีวิตข้าไปอย่างไม่รู้จบ!”
…
หลังพักไปหนึ่งวัน สังเวียนร้อยศึกก็เริ่มขึ้นต่อ
คราวนี้พลังฝีมือของแต่ละคนก็เริ่มเด่นชัดกว่าเก่าแล้ว
เพราะตั้งแต่รอบที่สามไป การต่อสู้มันจะดุเดือดมากขึ้นและมากขึ้น
แต่ละกลุ่มนั้นมีผู้เข้าร่วมกว่าสี่ร้อยคน หลังผ่านไปได้สามรอบ ตอนนี้มันจึงเหลือนักยุทธในแต่ละกลุ่มแค่ประมาณห้าสิบกว่าคน
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดของยอดคน
นอกจากเย่หยวนที่มีพลังบ่มเพาะอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาว คนที่เหลือต่างล้วนเป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าชั้นกลางทั้งสิ้น
แต่ตอนนี้ไม่มีใครกล้าดูถูกเย่หยวนอีกแล้ว
กรรมการประกาศ “เริ่มรอบที่สี่ คู่แรก เย่หยวนปะทะซ่งเทียนเฉียง!”
เย่หยวนตกใจเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าคู่แรกของรอบที่สี่มันจะเป็นตัวเขาเองที่ต้องขึ้นสังเวียน
การจัดคู่นั้นมันเป็นสิ่งที่ทางเมืองจักรพรรดิเลิศประกายกำหนด
และเมืองจักรพรรดิเลิศประกายนั้นก็มีประสบการณ์ในการจัดงานสังเวียนร้อยศึกมาหลายครั้งจนช่ำชอง
พวกเขาเหล่าผู้จัดงานนั้นจะทำการจับคู่ตามกำลังของนักยุทธ เก็บพวกที่แข็งแกร่งจริงๆ ไว้ท้ายๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชม
ดูท่าในสายตาของพวกเขานั้นการที่เย่หยวนชนะนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวมามันคงเป็นขีดจำกัดแล้ว
กับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว เย่หยวนต้องไม่มีทางชนะแน่ๆ นั่นจึงทำให้พวกเขาจับคู่แบบนี้ออกมา
“เย่หยวนปะทะซ่งเทียนเฉียง! ดูท่าจะสนุกแล้วสิ!”
“หึๆ เด็กคนนี้มันช่างอวดดีเสียเหลือเกิน ข้าอยากรู้เสียจริงว่าขีดจำกัดของมันอยู่ที่ใด!”
“ซ่งเทียนเฉียงนั้นมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำ เป็นยอดคนในหมู่ราชันพระเจ้าห้าดาวด้วยกัน ตำนานของเย่หยวนคงมาจบลงแค่นี้แล้ว!”
…
ทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าคู่แรกที่เป็นที่น่าจับตานั้นจะกลายเป็นศึกของเย่หยวน
ตอนนี้พวกเขาอยากจะเห็นว่าขีดจำกัดของเย่หยวนคนนี้มันอยู่ที่ใดกันแน่
และดูท่าซ่งเทียนเฉียงจะเป็นตัวทนสอบขีดจำกัดที่เหมาะสม
ไม่มีใครคิดเลยว่าเย่หยวนจะยังชนะได้
เย่หยวนข้ามระดับชนะราชันพระเจ้าสามดาว พวกเขานั้นเข้าใจได้ไม่ยาก
เย่หยวนกระโดดขึ้นมาอีกชั้น จัดการราชันพระเจ้าสี่ดาว พวกเขาก็ยังพอทำใจรับ
แต่หากจะบอกว่าเย่หยวนชนะราชันพระเจ้าห้าดาวได้อีก เรื่องนี้มันคงเกินกว่าที่จะทำใจได้ไปหน่อย!
ซ่งเทียนเฉียงมองดูที่เย่หยวนและบอก “เจ้าเก่งนะ หากเจ้าบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวมาได้ข้าคงไม่มีปัญญาชนะเจ้าได้เลยล่ะ แต่ตอนนี้เจ้าจงยอมแพ้เถอะ! เจ้าไม่มีหวังชนะแน่!”
เย่หยวนยิ้มรับ “ทำไมพวกเจ้ามาแนวเดียวกันหมดเลยนะ? นี่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรกันหน่อยเหรอ? ยังไม่ได้สู้เลยจะรู้ผลได้อย่างไร?”
ซ่งเทียนเฉียงหรี่ตามองและกล่าวออกมา “เมื่อเป็นเช่นนั้นนายน้อยผู้นี้ก็จะทำให้เจ้าได้รู้เองว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติมันไม่ได้ไร้เทียมทานชนะได้ทุกสิ่ง!”
มันเป็นเรื่องที่เด่นชัดอยู่แล้วว่าเย่หยวนนั้นมีความสามารถการต่อสู้ในระดับราชันพระเจ้าสี่ดาว
แต่ระหว่างราชันพระเจ้าสี่ดาวและห้าดาวนั้นมันก็ยังมีช่องว่างที่แสนกว้างใหญ่อยู่
ที่สำคัญ ซ่งเทียนเฉียงยังเป็นยอดคนในหมู่ราชันพระเจ้าห้าดาวด้วยกัน!
“กำปั้นเทพเสนาะจันทร์!”
หมัดของซ่งเทียนเฉียงพุ่งตรงออกมาด้วยพลังโลกของราชันพระเจ้าห้าดาวจนสังเวียนสั่นสะท้าน
เมื่อทุกคนได้เห็นภาพนี้พวกเขาต่างเปลี่ยนสีหน้าไป
เพราะเดิมทีซ่งเทียนเฉียงก็จัดการศัตรูลงด้วยกระบวนท่าเดียวมาตลอด ไม่มีใครทำให้เขาต้องเอาจริงได้เลยสักครั้ง
ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาทั้งหลายก็ได้เห็นพลังที่แท้จริงของซ่งเทียนเฉียง!
จู่ๆ พวกเขาก็หน้าเปลี่ยนสีไปอีกครั้งและมองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“เขาคิดจะทำอะไร? จะรับมือกับซ่งเทียนเฉียงตรงๆ เรอะ?”
“พระเจ้าช่วย มันไม่คิดจะใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติหลบหมัดนั้นรึ?”
“บ้าน่า! หมอนี่มันฝึกฝนร่างกายด้วย กายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลาง! ไอ้หมอนี่มันเก็บซ่อนพลังไว้มิดชิดนัก!”
…
ในหมู่ผู้คนที่มองดู มีเสียงตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
เพราะตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนไม่ได้แค่ฝึกแนวคิดแห่งห้วงมิติมา แต่เขาเป็นผู้ฝึกกายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลางด้วย!
กายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลางนั้นมันเทียบเท่ากับราชันพระเจ้าสี่ดาวถึงหกดาว
เย่หยวนนั้นเพิ่งจะเข้าชั้นกลางมาได้ไม่นาน เขาจึงมีพลังกายเทียบเท่ากับราชันพระเจ้าสี่ดาว
คนทั้งหลายต่างคิดว่าเย่หยวนนั้นพึ่งพาแค่แนวคิดแห่งห้วงมิติ พวกเขาไม่คิดเลยว่ากายเนื้อของเย่หยวนเองก็จะแข็งแกร่งไม่แพ้พลังการต่อสู้ของเขา!
“กรงเล็บมังกรเอกภพ!”
ปัง!
เสียงปะทะดังสนั่นส่งร่างของคนทั้งสองถอยไปหลายเมตร
ซ่งเทียนเฉียงหน้าถอดสีทันที เขาในฐานะนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาวกลับเสมอเย่หยวนที่เพิ่งสำเร็จกายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลางมาใหม่ๆ
ความอับอายนี้เขาไม่มีทางทนรับมันไว้ได้!
ซ่งเทียนเฉียงขยับร่างอีกคราและต่อยอีกหมัดเข้าใส่เย่หยวน
เย่หยวนเองก็ไม่คิดที่จะถอยแม้แต่น้อย ใช้กรงเล็บมังกรเอกภพออกมารับการปะทะจากซ่งเทียนเฉียงเข้าเต็มแรง
แสงสีทองส่องสาดออกมาจากร่างของเย่หยวน คลื่นมังกรของเขาพุ่งพล่าน ตอนนี้เขาไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยแม้แต่น้อย
ที่ด้านล่างเหล่าผู้คนต่างมองภาพนั้นอย่างตกตะลึง
ใครจะไปรู้ได้ว่าพลังฝีมือที่แท้จริงของเย่หยวนมันจะเหนือล้ำได้ขนาดนี้!
เดิมทีพวกเขานั้นดูถูกเย่หยวนเพราะพลังบ่มเพาะที่ต่ำ ดูยังไงก็เข้ามาให้ผู้คนเหยียบย่ำเล่น
แต่ตอนนี้พวกเขากลับได้รู้ตัวแล้วว่าคนที่จะถูกเหยียบมันคือตัวเอง
ลำพังพลังฝีมือของพวกเขามันไม่สามารถที่จะทำให้เย่หยวนเอาจริงได้เสียด้วยซ้ำ!
………………………