“เฮอะ นี่หรือคือฝีมือของเจ้า? หากมีปัญญาแค่นี้เจ้าได้ตายแน่!” ที่ด้านล่างเซียโหหยุนกำลังเยาะเย้ย
ในสายตาคนอื่น เย่หยวนนั้นมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำจนเกินบรรยาย
การที่เขาสามารถต่อสู้กับซ่งเทียนเฉียงมาได้ขนาดนี้ พลังฝีมือของเขามันก็เหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดเดาแล้ว
แต่ในสายตาของเซียโหหยุน มันยังไม่มากพอให้เขาสนใจ
“เย่หยวนคนนี้ช่างมีพลังการต่อสู้ที่เหนือล้ำ!”
“ใช่แล้ว ถึงสุดท้ายพลังของเขาจะต่ำกว่าหน่อยแต่ด้วยการปรับใช้แนวคิดที่แสนเชี่ยวชาญนั้นมันจึงทำให้เขาสู้กับซ่งเทียนเฉียงได้อย่างไม่ด้อยกว่าเลย!”
“ผู้ที่เพิ่งบรรลุกายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลางกลับสู้ได้ถึงขั้นนี้ เรื่องเช่นนี้มันเกินกว่าที่จะเชื่อจริงๆ!”
…
ที่ล่างสังเวียนเหล่าผู้เข้าร่วมงานต่างมีสีหน้าไม่สู้ดี
เพราะพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาคาดคิดไปมาก
ผู้ที่ดูน่าจะตายตกเป็นคนแรกกลับกลายมาเป็นม้ามืดที่แม้แต่ซ่งเทียนเฉียงผู้นั้นก็ยังไม่สามารถจัดการลงได้ง่ายๆ
บนสังเวียนซ่งเทียนเฉียงที่ต่อสู้แล้วได้แต่เสมอก็รู้สึกวิตกขึ้นมาในจิตใจเช่นกัน
“ศัตรูของข้าคือเซียโหหยุน จะมาแพ้ให้เด็กเช่นนี้ได้อย่างไร? ช่างมันเถอะ เดิมทีนี่เป็นท่าที่ข้าเก็บไว้ใช้กับเซียโหหยุน แต่คงต้องนำมันออกมาใช้เสียก่อนแล้ว!”
ซ่งเทียนเฉียงใช้จังหวะถอยจากการปะทะดีดตัวออกไปไกลจากเย่หยวน
จู่ๆ คลื่นพลังของซ่งเทียนเฉียงก็พุ่งสูงทะลุฟ้า ร่างกายของเขาแอ่นออกมาเหมือนคันธนูที่พร้อมยิง
นั่นทำให้ทุกคนหน้าถอดสี กระบวนท่าที่ซ่งเทียนเฉียงยังไม่ได้ใช้ออกมานี้ แต่มันกลับเริ่มรวบรวมแรงพุ่งเข้ามาไว้แล้ว
แค่มองก็รู้ได้เลยว่าการโจมตีต่อไปนี้คงเป็นอะไรที่รวดเร็วปานสายฟ้า!
“ช่างเป็นท่าโจมตีที่รุนแรง! รวดเร็วปานสายฟ้า หมัดนี้ช่างสุดยอด!”
“ดูแล้วมันคงเป็นท่าพิฆาตของซ่งเทียนเฉียง! เกรงว่า…เย่หยวนคงตกอยู่ในอันตรายแล้ว!”
“ท่านั้นของเย่หยวนที่ปะทะกับราชันพระเจ้าห้าดาวได้นั้น มันคงเป็นขีดจำกัดของเขาแล้วใช่หรือไม่? งั้นผู้ชนะก็คงตัดสินกันแน่แล้วทีนี้!”
…
ซ่งเทียนเฉียงนั้นยังไม่ทันต่อยหมัดออกมาแต่ทุกผู้คนก็รู้สึกได้ในทันทีว่ามันต้องเป็นการโจมตีที่รุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ มากแน่นอน!
การโจมตีที่อยู่บนจุดสูงสุดของราชันพระเจ้าห้าดาว มันใกล้เคียงกับราชันพระเจ้าหกดาวมาก
ด้วยกำลังของเย่หยวนในตอนนี้ มันไม่มีทางใดเลยที่เขาจะรับไว้ได้
ส่วนในที่นั่งผู้ชม เจียนปิงที่เห็นภาพนั้นก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
เขานั้นมองดูสังเวียนของกลุ่มที่หกมาทั้งวัน เมื่อได้เห็นว่ากำลังจะเกิดการโจมตีเช่นนี้ขึ้น เขาก็เริ่มจะมองเห็นแสงแห่งความหวังขึ้นมา
เพราะหากซ่งเทียนเฉียงช่วยสังหารเย่หยวนให้ มันคงเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ
จัดการมัน!
สังหารมัน!
เจียนปิงตะโกนอยู่ในใจ!
“เย่หยวน เจ้าบังคับข้าเองนะ! ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะรับหมัดนี้ไว้ยังไง! กำปั้นดาวตกสวรรค์!”
ซ่งเทียนเฉียงตะโกนลั่นและปล่อยหมัดของตัวเองออกมาราวกับลูกปืนใหญ่
พลังโลกอันรุนแรงเปลี่ยนให้ร่างของเขากลายเป็นเส้นแสงสีขาวราวกับดวงดาวที่พุ่งตกลงมา!
ความรุนแรงของมันนั้นเหนือกว่าคำบรรยายใดๆ
แต่ตอนนั้นเองที่อีกด้านก็เกิดคลื่นพลังที่สะท้านฟ้าขึ้นด้วย!
ตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนมีลายสีฟ้าปรากฏขึ้นมารอบๆ ตัว
เสียงคำรามมังกรเข้าปะทะกับกำปั้นดาวตกสวรรค์ของซ่งเทียนเฉียงเข้าตรงๆ
นั่นทำให้ทุกคนหน้าถอดสี ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
“ช่างเป็นการโจมตีที่รุนแรง! ไม่แพ้ท่าของซ่งเทียนเฉียงเลย!”
“เด็กคนนี้มันยังมีไม้ตายเช่นนี้ซ่อนไว้อีกเรอะ! มันทำได้ยังไงกัน!”
…
แน่นอนว่าการโจมตีที่รุนแรงปานนั้นย่อมสร้างภาระให้ร่างกายผู้ฝึกตนมาก
หากให้พูดตามหลักการ สภาพร่างของเย่หยวนในตอนนี้มันยังไม่พอที่จะใช้ท่ารุนแรงขนาดนี้ออกมา
แต่ว่าเย่หยวนก็ทำได้!
พวกเขานั้นไม่รู้ถึงลายสีฟ้านี้ ลายสีฟ้านีที่ช่วยให้ร่างกายของเย่หยวนแข็งแกร่งกว่าที่เห็นจากภายนอกมากนัก
กรงเล็บมังกรเอกภพกระบวนที่สอง เทพมังกรเหยียบสวรรค์!
ทุกคนได้เห็นว่ามังกรสีฟ้าครามนั้นผสานตัวเข้ากับกรงเล็บมังกรและฟาดฟันลงสู่แสงสีขาวที่พุ่งเข้ามา
ปะทะตรงๆ!
ตู้ม!
เมื่อการโจมตีทั้งสองเข้าปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมทำให้พื้นที่รอบๆ ต้องสั่นสะท้านอย่างหยุดไม่อยู่
ความรุนแรงนี้มันทำให้ผู้รับชมอยู่ต้องหน้าถอดสีไปตามๆ กัน
นั่นรวมไปถึงซ่งเทียนเฉียงเองด้วย เพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมา!
คึก คึก…ตุบ!
ในที่สุดมังกรสีฟ้าครามก็ชนะได้อย่างขาดลอย กดทับร่างแสงสีขาวนั้นไว้จนสนั่นฟ้าดิน
มังกรสีฟ้าครามจางหายไป ปล่อยให้ร่างของซ่งเทียนเฉียงลอยลิ่วไปไกลจนลอยออกนอกสังเวียนอย่างไม่มีแรงจะต้านทานอีก
เย่หยวนชนะ!
เรื่องนี้มันทำให้ทุกผู้คนพูดอะไรไม่ออก เพราะผลลัพธ์นี้มันเหนือคาดกว่าที่พวกเขาจะรับได้นัก
ต่อให้เย่หยวนจะมีร่างกายทองคำอหัตถ์ระดับสี่ชั้นกลาง ซ่งเทียนเฉียงก็ยังเป็นถึงยอดราชันพระเจ้าห้าดาว
หากเจอกับราชันพระเจ้าสี่ดาว เขานั้นสามารถสังหารอีกฝ่ายลงได้ทันที
แต่ตัวตนที่แสนเก่งกาจอย่างซ่งเทียนเฉียงกลับแพ้ลง!
“นี่…ตาข้าไม่ได้ฝาดใช่ไหม?”
“ข้าก็นึกว่าในกลุ่มเรา คนที่จะพอท้าทายเซียโหหยุนได้จะมีแค่ซ่งเทียนเฉียงเสียอีก ไม่นึกเลย…ว่าเขาคนนั้นจะแพ้พ่ายลง!”
“ไม่แปลกใจเลย! ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเย่หยวนมันถึงได้กล้าท้าทายเซียโหหยุน กลายเป็นว่า…มันเก่งจริง!”
…
ที่ด้านล่างสังเวียน เหล่าผู้เข้าร่วมงานต่างไม่มีใครอยากเชื่อสายตาตัวเอง
บนที่นั่งผู้ชม เจียนปิงเองก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเช่นกัน เขาได้กัดฟันพูด “กลายเป็นว่ามันมีฝีมือถึงขนาดนี้!”
ขณะเดียวกันเหงื่อเย็นเหยียบก็หลั่งไหลลงบนแผ่นหลังของเขา
ในที่สุดเขาก็นึกออกถึงคำพูดที่เย่หยวนเคยบอกไว้ เย่หยวนบอกว่าหากเจียนปิงไม่ใช่คนศาลามายาล้ำเขาคงตายไปนานแล้ว
กลายเป็นว่าเย่หยวนไม่ได้ขู่เลย เพราะเขามีพลังที่จะทำได้จริง!
จากท่าเทพมังกรเหยียบสวรรค์เมื่อสักครู่นี้ มันก็มากพอแล้วที่เย่หยวนจะสังหารเขาลง!
ในสายตาของเซียโหหยุนมันมีประกายแห่งความตื่นตกใจอยู่
แต่มันก็แค่ความตกใจ
เพราะพลังฝีมือระดับนี้มันยังไม่พอจะทำอันตรายเขาได้
มุมปากของเซียโหหยุนยิ้มขึ้น “หึ น่าสนใจ! ดูเหมือนว่า…มันจะเก่งกว่าที่เจียนปิงว่าอีก! แต่แค่ระดับนี้มันยังไม่พอหรอก!”
ไม่มีใครคาดคิดว่าคู่ประเดิมรอบที่สี่มันจะกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนดุเดือดได้ขนาดนี้
จะเรียกคู่ของเย่หยวนและซ่งเทียนเฉียงว่าเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในกลุ่มหกตอนนี้ก็คงไม่ผิด
แน่นอนว่านั่นไม่นับเซียโหหยุน
หากเซียโหหยุนออกมา ใครกันจะต้านทานได้?
รอบนี้เองคู่ต่อสู้ของเขาก็ยังยอมแพ้ไปเช่นเดิม
ในรอบที่ห้า คู่ต่อสู้ของเขาก็ยังยอมแพ้!
ตัวตนของเซียโหหยุนนั้นมันทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ราชันพระเจ้าสี่ดาวนั้นได้แต่ยกธงขาวไม่กล้าที่จะลงมือต่อสู้ใดๆ เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขา
ส่วนราชันพระเจ้าห้าดาวที่มีไม่กี่คนนั้น เซียโหหยุนยังไม่ได้เจอกับพวกเขาเลย
ที่สังเวียนสองเองก็มีสภาพคล้ายๆ กัน
เจียงหนานเองก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้คนอย่างมากล้นจนตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือต่อสู้กับเขาอีกแล้ว
แต่มันแตกต่างจากคลื่นความกดดันที่เซียโหหยุนปล่อยออกมา เพราะเจียงหนานคนนี้แค่ยืนอยู่เฉยๆ มันก็ทำให้ผู้พบเห็นต้องรู้สึกได้ถึงความมั่นคง
นักยุทธนั้นล้วนตัดสินแพ้ชนะกันด้วยการฉวยโอกาสที่ศัตรูพลาด
และทุกผู้คนนั้นต่างก็จะทำความผิดพลาดเปิดช่องว่างกันออกมาบ้างไม่มากก็น้อย
แต่พวกเขานั้นไม่พบเลยว่าตัวของเจียงหนานมีช่องว่างใดๆ!
ความแข็งแกร่งที่มั่นคงเช่นนี้ มันไม่ให้โอกาสผู้คนได้สวนกลับเลยแม้แต่น้อย
เจียงหนานมีสีหน้าท่าทางเบื่อหน่าย “น่าเบื่อจริงๆ เมื่อไหร่จะเริ่มรอบชิงนะ แต่สิ่งที่ทำให้ข้าตื่นเต้นได้ก็คงมีแค่เซียโหหยุนเท่านั้นล่ะมั้ง? แนวคิดแห่งการทำลายล้าง หึๆ อยากลองรับมือดูจริงๆ”
“รอบที่หกเริ่มได้ เซียโหหยุนปะทะเกาชุน!”
เสียงของกรรมการประกาศดังขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
เกาชุนนั้นมีพลังฝีมือไม่ด้อยไปกว่าซ่งเทียนเฉียง หากจะมีใครทำให้เซียโหหยุนลงมือได้ มันก็คงไม่พ้นเป็นเขาคนนี้นี่เอง
แต่แน่นอนว่า…ตอนนี้เย่หยวนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นแล้ว
เซียโหหยุนมีสีหน้าเรียบเฉยมองดูเกาชุนตรงหน้าและถาม “เจ้าอยากลงมือ?”
เกาชุนพยักหน้ารับ “ข้ารู้ดีว่าตัวเองเทียบเจ้าไม่ได้ แต่ก็ยังอยากขอคำแนะนำจากแนวคิดแห่งการทำลายล้างเสียหน่อย!”
…………………………