“เฮอะๆ เจ้าคนรนหาที่ตายมาแล้ว!”
“ชิๆ ข้าล่ะยอมความกล้าของมันจริงๆ ถึงขั้นไปขู่ฆ่าเซียโหหยุนเช่นนั้น!”
“เออ ไอ้หมอนี่…เหมือนมันจะบรรลุแล้ว!”
“จริงด้วย คลื่นพลังของมันรุนแรงกว่าก่อนมาก! แต่ว่า…มันก็เปล่าประโยชน์ ตัวมันนั้นพึ่งพากายเนื้อเป็นหลักบรรลุพลังบ่มเพาะไปจะช่วยเปลี่ยนแปลงผลอะไรได้มากมาย”
…
เมื่อเย่หยวนมาถึงสังเวียนที่หกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงดูถูกทันที
หกรอบที่ผ่านมา ตอนนี้มันจึงเหลือนักยุทธผู้เข้าร่วมแค่แปดคนแล้ว
คนทั้งแปดนี้จะมาต่อสู้กันเพื่อหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว
ในสังเวียนร้อยศึกนี้อันดับสองมันไร้ความหมายใดๆ
มีแต่คนที่ชนะในแต่ละกลุ่มเท่านั้นที่จะได้รับการทำนายจากยอดผู้อาวุโสแห่งศาลามายาล้ำ
เมื่อเย่หยวนเดินผ่านเซียโหหยุนมา อีกฝ่ายก็ยิ้มเยาะทันที “นี่หรือคือความพยายามสุดท้ายของเจ้า? หึๆ แค่ราชันพระเจ้าสามดาวมันจะเปลี่ยนอะไรได้?”
เย่หยวนตอบไปสั้นๆ “ก็พอที่จะสังหารเจ้าได้!”
เซียโหหยุนหัวเราะลั่นทันที “ได้ งั้นนายน้อยคนนี้จะรอให้เจ้ามา…สังหารดู!”
รอบที่เจ็ด สี่คู่แปดคน ศัตรูของเย่หยวนเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าดาว และเขาก็ชนะมาได้อย่างไม่ยากเย็น
แน่นอนว่าทางเซียโหหยุนเองก็ยิ่งสบายกว่า เพราะคู่ต่อสู้ของเขายอมแพ้ลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เมื่อได้เห็นสภาพเกาชุนแล้วมันยังจะมีใครกล้าไปต่อสู้กับเขาอีก? เว้นเสียแต่ว่ามันคนนั้นจะเบื่อชีวิตแล้ว
รอบที่แปดเองก็จบลงอย่างง่ายดายเช่นกัน!
ตอนนี้เย่หยวนนั้นแข็งแกร่งที่สุดแล้วรองลงมาจากเซียโหหยุน ทางเมืองจักรพรรดิเลิศประกายจึงจัดให้ทั้งคู่จะได้สู้กันในรอบสุดท้าย
ในรอบที่เก้า ในที่สุดเซียโหหยุนและเย่หยวนก็ได้เผชิญหน้ากัน!
บนที่นั่งผู้ชมเจียนปิงนั้นตื่นเต้นจนใบหน้าแดงสด ตอนนี้หัวของเขามีภาพเย่หยวนถูกเซียโหหยุนซัดกระจายในหมัดเดียวลอยออกมาแล้ว
เมื่อขึ้นมาบนสังเวียน เซียโหหยุนก็ยิ้มออกมา “เด็กน้อย ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าจะรับหมัดข้าอย่างไร!”
พูดจบเซียโหหยุนก็เริ่มตั้งท่าที่ใช้ต่อยเกาชุนจนตายในตอนนั้นขึ้นทันที
นั่นทำให้บรรยากาศข้างสนามนั้นเปลี่ยนไปทันที คลื่นพลังกดดันอันนี้มันทำให้ผู้คนหายใจแทบไม่ออก
ก่อนหน้านี้ คลื่นกระแทกที่พวกเขาได้รับจากหมัดนั้นมันยังฝังอยู่ในใจ
แต่สิ่งที่แตกต่างไปก็คือตอนนั้นเซียหยุนรอให้อีกฝ่ายโจมตีออกมาก่อนแล้วจึงค่อยเตรียมท่าลงมือทีหลัง
แต่ครานี้เป็นเขาที่คิดจะลงมือก่อน
เมื่อตั้งท่าเสร็จ สิ่งที่ตามมามันก็ย่อมเป็นพลังทำลายล้าง!
ตู้ม!
หมัดนั้นถูกต่อยออกมาทำให้มิติพื้นที่รอบๆ แทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ
คลื่นที่มองไม่เห็นนั้นพุ่งออกมาหาเย่หยวนอย่างรุนแรงฟ้าถล่มดินทลาย ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจะคาดเดาได้
ตู้ม!
ค่ายกลที่ด้านหลังเย่หยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนทำให้ทั้งสนามสั่นคลอน
เซียโหหยุนตะโกนร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ “แนวคิดแห่งห้วงมิติสามดาว!”
เย่หยวนนั้นไม่เคยจะใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาอย่างเต็มที่ต่อหน้าผู้คน
คนทั้งหลายจึงเชื่อว่าเย่หยวนแค่มีความรู้ในแนวคิดแห่งห้วงมิติบ้าง
แต่ในความเป็นจริง เย่หยวนบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติมาจนถึงสามดาว
มันเป็นความสำเร็จที่เหนือล้ำใครๆ!
แม้ว่าแนวคิดแห่งการทำลายล้างนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหน เมื่อมาเทียบกับแนวคิดแห่งห้วงมิติแล้วมันก็ยังด้อยกว่า
เหล่ายอดคนที่มองดูจากที่นั่งผู้ชมต่างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
“ห-หลบได้จริงๆ!”
“เป็น…เป็นไปได้อย่างไร?”
“ไม่น่าเชื่อเลย! นี่…นี่หรือคือพลังที่แท้จริงของแนวคิดแห่งห้วงมิติ?”
…
เย่หยวนนั้นมองดูเซียโหหยุน “แนวคิดแห่งการทำลายล้างมันก็เท่านี้เอง!”
เซียโหหยุนหรี่ตาลงทันทีด้วยความโกรธแค้นในหัวใจ
เขาโดนดูถูก!
ตั้งแต่ที่สำเร็จแนวคิดแห่งการทำลายล้างมา เขาก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางคำชมและสรรเสริญ
แต่วันนี้เขากลับถูกเด็กคนหนึ่งดูถูก!
เขากัดฟันแน่น “เลิกวางท่าเถอะ! เมื่อกี้มันแค่ของหวาน! ตอนนี้หลักของจริงแล้ว!”
เซียโหหยุนขยับร่างเข้าไปใส่เย่หยวนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า!
บนที่นั่งผู้ชมมีคนตะโกนร้องออกมา “แนวคิดแห่งลม! เซียโหหยุนคนนี้บรรลุแนวคิดแห่งลมระดับสี่ได้! เป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้!”
“แนวคิดแห่งลมใช้คู่กับแนวคิดแห่งการทำลายล้างนี้มันไม่มีทางแพ้เลย!”
“เย่หยวนอันตรายแล้ว! เขาไม่น่าไปท้าทายเซียโหหยุนแบบนั้นเลย!”
…
เซียโหหยุนนั้นรวดเร็วมากและต่อยหมัดรัวออกมาราวสายลมที่พัดผ่าน
เสียระเบิดดังขึ้นไม่หยุดพักในค่ายกลนั้น รุนแรงมิติพื้นที่รอบๆ แทบบิดเบี้ยว
ส่วนร่างของเย่หยวนก็จางหายไป
ทุกคนรู้ได้ว่าเย่หยวนนั้นใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติ!
แต่การโจมตีอันรุนแรงและต่อเนื่องของเซียโหหยุนนั้นมันทำให้ทุกผู้คนต้องหน้าถอดสีอย่างเลี่ยงไม่ได้
การโจมตีที่รุนแรงและต่อเนื่องขนาดนี้ มันมากกว่าสิ่งที่สังหารเกาชุนในตอนนั้นอย่างลิบลับ
ด้วยความช่วยเหลือจากแนวคิดแห่งลม เซียโหหยุนจึงโจมตีต่อเนื่องได้อย่างไม่มีช่องว่าง แรงทำลายล้างนั้นสาดลงทั่วทั้งสังเวียน
ในสายตาของทุกผู้คนนั้น เย่หยวนไม่มีที่ไหนจะให้หลบแล้ว!
จู่ๆ เซียโหหยุนก็หยุดมือลงและปล่อยให้สังเวียนกลับเข้าสู่สภาพปกติอีกครั้ง
เซียโหหยุนนั้นเหนื่อยหอบไม่น้อย เพราะการโจมตีที่รุนแรงและต่อเนื่องขนาดนั้นมันย่อมสร้างภาระให้ร่างกายเขาไม่น้อย
“หึ! แนวคิดแห่งห้วงมิติแล้วทำไม? ไหนขอดูหน่อยสิว่าจะยังไม่ตายไหม!” เซียโหหยุนตะโกน
บนสังเวียนนั้น ร่างของเย่หยวนได้หายไปแล้ว
“แน่นอนล่ะ เย่หยวนตายแล้ว!”
“ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงปานนั้น มีหรือที่เขาจะยังรอดไปได้?”
“เซียโหหยุนช่างแข็งแกร่งนัก!”
…
ในสายตาของทุกผู้คนนั้นเย่หยวนคงกลายเป็นเศษฝุ่นไปนานแล้ว ด้วยการโจมตีต่อเนื่องเช่นนี้มันไม่มีทางใดเลยที่จะรอดไปได้
“น่าสนใจนี้ น่าเสียดายที่ยังอ่อนแอไปหน่อย!” เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางอากาศ
เซียโหหยุนหน้าถอดสีทันที เจ้าของเสียงนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?
เจ้าหมอนี่มันยังไม่ตาย!
ตอนนี้มีรอยแตกเกิดขึ้นกลางอากาศและเผยให้เห็นร่างของเย่หยวนค่อยๆ เดินออกมา
ผู้คนตื่นตระหนกกันทั้งสนาม!
ทำไมเขายังรอดมาได้อีก?
แนวคิดแห่งห้วงมิติมันแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เลย?
เย่หยวนมองดูเซียโหหยุนและบอก “แนวคิดแห่งลมควบคู่กับแนวคิดแห่งการทำลายล้าง มันดีจริงๆ เสียดายที่เจ้าไม่สามารถผสานพวกมันทั้งสองได้!”
เซียโหหยุนหน้าแดงก่ำ “เลิกวางท่าเสียที! แนวคิดแห่งการทำลายล้างนั้นเป็นแนวคิดขั้นสูง มีหรือที่จะอยากผสานก็ผสานมันได้เช่นนั้น?”
การผสานรวมสองแนวคิดให้กลายเป็นหนึ่ง มันจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปอย่างมาก
มีหรือที่เซียโหหยุนจะไม่เข้าใจจุดนี้ได้?
เขานั้นพยายามลองผสานแนวคิดทั้งสองเข้าด้วยกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ติดแค่ว่า…เขาไม่สามารถทำมันได้!
เย่หยวนบอก “มันยากขนาดนั้นเลย? ทำไมเจ้าไม่ยอมรับว่าเล่าว่าตัวเองโง๋น่ะ?”
เซียโหหยุนนั้นเย้ยกลับมา “ข้าเรอะโง่? เฮอะๆ นี่มันมุกตลกที่ตลกที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินเลย! คนกว่าสามพันคนนี้มีใครบ้างกล้าบอกว่าตัวเองมีพรสวรรค์เหนือล้ำข้า?”
เย่หยวนหันไปมองเขาด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีปัญญาจะผสานแนวคิด ไม่เรียกโง่อีกหรือ?”
เซียโหหยุนตะโกนกลับ “เลิกดูถูกเรื่องไร้สาระสักที เจ้าคิดว่าแค่ตัวเองบรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติได้แล้วก็จะดีเลิศกว่าคนอื่นเรอะ? หรือเจ้าคิดว่าข้ามีฝีมือเพียงเท่านี้?”
เย่หยวนตอบ “งั้นก็เข้ามาสิ! ครานี้ข้าจะตอบโต้ด้วย เจ้าเตรียมรับดีๆ ล่ะ”
เซียโหหยุนกล่าวอย่างไม่แยแส “ขยะที่ได้แต่ใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติหลบหนี เจ้าคิดว่านายน้อยคนนี้จะกลัวเจ้ารึ?”
พูดจบเซียโหหยุนก็หยิบถุงมือสีขาวขึ้นมาใส่ มันเป็นยอดสมบัติราชันพระเจ้าเลิศล้ำ!
หลังใส่มันเข้าไปคลื่นพลังของเซียโหหยุนก็รุนแรงขึ้นหลายเท่าตัว แรงกดดันที่หนักหนากว่าเก่าปรากฏขึ้นมาสู่สายตาผู้คน
“กำปั้นเทวาทำลายล้าง!”
เย่หยวนเองก็ค่อยๆ ชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าและร่างของเขาก็เริ่มจาง และบางลง
“เดี๋ยวนะ ดาบของเย่หยวนไปไหนแล้ว?”
“อ่า เมื่อกี้ยังเห็นชักออกมาอยู่เลย ทำไม มันหายไปไหนแล้ว?”
“นี่มัน…พวกเจ้าคิดว่าร่างกายของเย่หยวนมันดูเบลอๆ ไหม?”
………………………..