เบื้องหน้าเย่หยวนนั้นชื่อเริ่มเรืองแสงขึ้นมาติดๆ กันจริงๆ
ยันต์แปดทิศส่องแสงสว่างวาบไปมา ผสานหยินหยางเปิดเผยชะตาแห่งยอดเต๋า
ชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ลอยออกมาจากกระดาษที่เขียนและถูกดูดเข้าไปในห้วงแสงหมุนของยันต์แปดทิศ
สุดท้ายชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ก็แตกออกและกลายเป็นก้อนแสงเล็กๆ กระจายรวมเข้ากับพายุแสงไป
“อ่อก!”
จู่ๆ เจียนหงเซียวก็รู้สึกได้ถึงรสหวานที่ลำคอและต้องกระอักเลือดออกมา คลื่นพลังจากตัวของเขาค่อยๆ เบาบางจางหายไปเรื่อยๆ
“ผู้อาวุโส!” เย่หยวนหน้าถอดสีและตะโกนขึ้นมา
แต่เจียนหงเซียวก็ยกมือขึ้นมาโบกปัด “ไม่เป็นไร ต่อไป!”
ตอนนี้เขาพยายามที่จะฝืนใช้วรยุทธวิญญาณลับโกลาหลเพื่อทำให้ยันต์แปดทิศนั้นเคลื่อนหมุนออกไปอีกครั้ง
เย่หยวนต้องเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลายทีเมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อยๆ หันไปอ่านชื่อที่เหลือในใจ
จากนั้นชื่อของคนที่เหลือก็มีสภาพคล้ายๆ กับชื่อของเยวี่ยเมิ่งลี่ มันลอยเข้าไปผสานกับยันต์แปดทิศ
และระหว่างนั้นเจียนหงเซียวก็กระอักเลือดออกมาหลายต่อหลายทีติดๆ กัน ดูท่าทางเหมือนจะแก่ลงไปหลายปีทีเดียว
เย่หยวนเห็นเช่นนั้นเขาย่อมรู้ได้ทันทีว่าเจียนหงเซียวกำลังรับผลสะท้อนจากยอดเต๋า อายุขัยของเขากำลังเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ
เย่หยวนคิดตั้งมั่นขึ้นในใจว่าวันข้างหน้าหากเขาได้ประสบความสำเร็จแล้วเขาจะต้องกลับมาช่วยรักษาเจียนหงเซียวให้กลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์ให้ได้
เมื่อแสงจางหายไป การทำนายของเจียนหงเซียวก็จบลงในที่สุด
เย่หยวนรีบวิ่งไปประคองเขาและถามอย่าเป็นกังวล “ท่านผู้อาวุโส ท่าน…เป็นอะไรมากหรือไม่?”
เจียนหงเซียวพยายามฝืนกลืนจิตของตัวเองลงไปและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้ายังไม่ตายหรอก แต่แค่ทำนายชะตาคนไม่กี่ผู้กลับทำให้เฒ่าคนนี้เสียอายุขัยไปนับหมื่นๆ ปี หึๆ หากข้าไปทำนายดวงชะตาเจ้าเข้า เฒ่าคนนี้คงได้แต่กระอักเลือดตายแน่ รัศมีผ่าจักรพรรดิมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน!”
เจียนหงเซียวนั้นมีความรู้เข้าใจในศาสตร์ลึกลับอย่างมาก และเขาก็ยึดมั่นในความแข็งแกร่งนี้ของตัวเองมาตลอด
แต่เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าในวันนี้ แค่การทำนายหาที่อยู่ของคนสนิทเย่หยวนไม่กี่คน ตัวเขากลับต้องรับผลสะท้อนรุนแรงแบบนี้
การทำนายในครั้งนี้เขาถึงขั้นที่ปิดกั้นชะตาจากเย่หยวนและพยายามทำการทำนายจากมุมอื่นแทน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ยังน่าขนลุกไม่น้อย
เจียนหงเซียวคิดไม่ออกเลยว่าหากตัวเขาไปทำนายดวงชะตาของเย่หยวนเข้าตรงๆ มันจะเกิดอะไรขึ้นกันเขา
รัศมีผ่าจักรพรรดิ มันช่างเป็นดวงชะตาที่เหนือฟ้าดินเสียนี่กระไร!
เขาทนทานรับมันไว้ไม่ไหว!
เย่หยวนค่อยๆ ประคองตัวเจียนหงเซียวลุกขึ้นมานั่งบนฟูก เจียนหงเซียวเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองดูเย่หยวนและบอก “เฒ่าคนนี้ล่ะสงสัยจริงๆ ว่าชะตาของสหายหนุ่มเย่หยวนจะเป็นอย่างไร แต่น่าเสียดายที่พลังฝีมือของข้ามันยังด้อยเกินไป! ดูท่าคนที่จะทำนายดวงชะตาให้เจ้าได้คงมีแต่ท่านบรรพบุรุษแล้ว!”
สำหรับคนตระกูลเจียนแล้ว การได้เห็นผู้มีดวงชะตาแข็งแกร่งเหมือนเย่หยวนนั้นมันเหมือนได้เห็นสมบัติโอสถล้ำค่าตรงหน้า
มันเป็นความอยากรู้อยากเห็นที่ยากจะกดไว้
ไม่เช่นนั้นเจียนปิงก็คงไม่พลาดไปมองดูเย่หยวนด้วยคำพูดช่วยสงสัยแค่ไม่กี่คำหรอก
แต่น่าเสียดายที่ชะตาของเย่หยวนนั้นมันช่างเจิดจ้าจนแม้แต่เจียนหงเซียวก็ยังไม่สามารถมองดูมันได้
การจะทำนายเรื่องใดๆ ให้เย่หยวนนั้นคนผู้ทำนายต้องเข้าหาทางอ้อมแทน
และความยากของมันนั้น มันยากจนเกินกว่าที่ผู้คนทั่วๆ ไปจะเข้าใจได้เลย
มีแต่เจียนหงเซียว ยอดคนระดับนี้เท่านั้นที่จะพอทำได้
เย่หยวนยิ้มตอบ “หวังว่าสักวัน ข้าจะได้รับการทำนายจากท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้จริงๆ!”
เจียนหงเซียวยิ้มรับ “คำพูดนั้นของเจ้ามันอาจจะเป็นจริงเข้าสักวัน เฒ่าคนนี้เองก็ได้ดูดวงชะตาให้เจ้าแล้ว ชะตาของเจ้านั้นมันไม่ธรรมดา แม้แต่ในหมู่คนที่มีรัศมีผ่าจักรพรรดิ เจ้าก็ยังนับได้ว่าสูงส่ง!”
เย่หยวนพยักหน้าและถามอย่างกังวล “แล้วท่านผู้อาวุโส เรื่องนั้น…ผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง?”
เจียนหงเซียวมองดูเย่หยวนอย่างเหนื่อยอ่อน “มีผล แต่ก็ไม่นับได้ว่ามี เฒ่าคนนี้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ แต่ก็ยังเห็นมันแค่เล็กน้อยเท่านั้น”
เย่หยวนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะก่อนจะถาม “ท่านผู้อาวุโสโปรดบอกมาเถิด”
เจียนหงเซียวยิ้ม “เจ้าอย่าได้กังวลไปนัก ดูจากสภาพตอนนี้แล้วอย่างน้อยๆ ทั้งสี่คนก็ยังไม่ตาย”
คำพูดนั้นมันเหมือนลมเป่าภูเขาออกจากอกเย่หยวนและทำให้เขาวางใจลงได้ระดับหนึ่ง
ตราบเท่าที่คนยังไม่ตาย เรื่องราวต่างๆ มันย่อมพูดคุยกันต่อได้
เพราะสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือเรื่องราวสุดเลวร้ายนั้นจะเกิดขึ้น
เย่หยวนจึงหายใจเข้าลึกและถาม “ท่านผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ”
เจียนหงเซียวพยักหน้า “ดูจากที่การทำนายบอกมา สาวน้อยนามเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นถูกป้องไว้โดยความลับสวรรค์ เฒ่าคนนี้มองอะไรไม่เห็นเลย”
เย่หยวนเปลี่ยนสีหน้าไปทันที “เรื่องนี้มันหมายความว่าอย่างไรท่านผู้อาวุโส?”
เจียนหงเซียวบอก “เฒ่าคนนี้คิดไว้หลายสถานการณ์ อย่างแรงคือนางได้พบเจอโอกาสทองและเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองไปให้เหนือฟ้าดิน ทำให้โชคชะตาของนางไม่เหมือนดังก่อนและถูกความลับสวรรค์ปกปิดไว้ ส่วนอย่างที่สอง…คือมีใครบางคนจงใจปิดปังชะตาของนางไว้ ทำให้เจ้าไม่สามารถหานางพบ แน่นอนว่าอย่างที่สามก็คือนางไปติดอยู่ในมิติวิเศษที่ไหนสักแห่ง ที่มิตินั้นมีความลับของสวรรค์ปกปิดครอบคลุมไว้”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น หากเป็นอย่างแรกมันย่อมไม่มีปัญหา แต่หากเป็นอย่างที่สองหรือสาม มันคงเป็นเรื่องยากแล้ว
ปกปิดด้วยความลับสวรรค์ ต่อให้เจียนหงเซียวก็ทำอะไรกับมันไม่ได้
ต่อให้เย่หยวนจะอยากหา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มที่ใด
จู่ๆ เย่หยวนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาไม่น้อย
เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดไปมาก
เดิมทีเรื่องราวต่างๆ ในอดีตเย่หยวนมักเข้าเผชิญกับมันอย่างมีแบบแผน แต่ตอนนี้เรื่องราวมันช่างเหลือเกินมือเขาจริงๆ
เมื่อได้เห็นใบหน้านั้นของเย่หยวน เจียนหงเซียวก็พูดต่อ “แม้ว่าเฒ่าคนนี้จะหาที่อยู่ของนางไม่ได้ แต่จากที่ดูเมื่อสักครู่นี้ชะตาของพวกเจ้าทั้งสองยังไม่ขาดจากกัน สักวันพวกเจ้าต้องได้เจอกันอีกแน่!”
ได้ยินแบบนั้นเย่หยวนก็ถอนหายใจยาวออกมา “ท่านผู้อาวุโส คนอื่นๆ เล่า?”
เจียนหงเซียวบอก “ภูติเพลิงตนนั้นเฒ่าคนนี้จับได้ว่าตอนนี้น่าจะอยู่ในดินแดนของเหล่าภูติเพลิง หากมองเช่นนี้มันคงเป็นประโยชน์กับเจ้าตัวไม่น้อย และเด็กสาวนามลู่เอ๋อนั้นก็ปลอดภัยดี แต่อิ้งหมัวหู่คนนี้ต่างหาก สถานการณ์ของเขานั้นไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่”
นั่นทำให้เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นทันที “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอิ้งหมัวหู่กัน?”
เจียนหงเซียวส่ายหัว “ไม่ทราบได้ นี่มันก็เป็นขีดจำกัดของเฒ่าคนนี้แล้ว เฒ่าคนนี้ไม่สามารถจะทำนายหาข้อมูลใดๆ มาได้อีกเลย! แต่ว่าสิ่งที่เฒ่าคนนี้รู้ก็คือเขาน่าจะอยู่ในอาณาจักรเทพอสูร”
นั่นทำให้เย่หยวนเริ่มใจคอไม่ดี “เหมือนว่าข้าคงต้องเดินทางไปยังอาณาจักรเทพอสูรเสียแล้ว! ท่านผู้อาวุโส ท่านช่วยลงรายละเอียดอีกหน่อยได้หรือไม่?”
เจียนหงเซียวยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “เฒ่าคนนี้รู้ดีว่าอาณาจักรเทพอสูรมันยิ่งใหญ่ไพศาลแค่ไหน แต่นี่มันก็คือที่สุดที่เฒ่าคนนี้จะมองเห็นแล้วจริงๆ”
เย่หยวนหายใจเข้าลึก “ข้าทราบแล้ว!”
พูดจบเย่หยวนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและก้มหัวลงต่อหน้าเจียนหงเซียว “พระคุณนี้ของผู้อาวุโสเย่หยวนจะไม่มีทางลืมเลือน! ในวันหน้าข้าจะต้องตอบแทนมันอย่างงามแน่นอน!”
เจียนหงเซียวโบกมือปัดและตอบมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ดูเหมือนว่า…เฒ่าคนนี้จะประเมินตัวเองสูงไปหน่อย! เรื่องที่ข้ามองเห็นนั้นมันน้อยกว่าที่คิดไว้มาก ดีแล้วที่เจ้าไม่ติดใจอะไร”
เย่หยวนบอก “ผู้น้อยจะยังไปติดใจอะไรได้? แค่การที่ท่านผู้อาวุโสช่วยทำนายให้นี้มันก็เป็นบุญคุณล้นพ้นกับผู้น้อยแล้ว อย่างน้อยๆ ตอนนี้ผู้น้อยก็ได้มีทิศทางที่จะไปแล้ว ที่สำคัญเย่หยวนคนนี้ยังรู้ด้วยว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับท่านผู้อาวุโสมันคงมากเกินกว่าที่พันปีจะรักษาหาย สังเวียนร้อยศึกรอบหน้าคงต้องเลื่อนออกไปอีกครั้งแล้ว!”
เจียนหงเซียวนั้นสูญเสียไปมากกว่าที่เขาคาดไว้นัก
ตอนนี้สภาพของเขาอ่อนแอมาก มากจนไม่มีทางที่จะหายได้ในระยะแค่พันปี
แค่เห็นแบบนี้ เขาก็รู้ได้เลยว่าเจียนหงเซียวต้องจ่ายไปมากแค่ไหนเพื่อช่วยเขาในครั้งนี้
…………………………