Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1748 การหลอมที่ยากลำบาก

“ใช้เวลาหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แค่ชั่วโมงเดียว นี่เจ้าไม่คิดว่าคำโม้ของเจ้ามันจะแทงสวรรค์จนเป็นรูบ้างเรอะ!” มู่หยวนชุนยิ้มออกมา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ว่าอะไรก็ว่าไปเถอะ เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้เองว่าข้าโม้หรือไม่ เฮ้อ แต่ข้าต้องขอขอบคุณเจ้าเลย การหลอมโอสถของเจ้าที่ผ่านมานี้มันช่วยให้ข้าได้เห็นตัวอย่างอย่างดีเลย”

มู่หยวนชุนนั้นมีความสามารถสูงส่งที่สุดในกลุ่ม

การหลอมโอสถของเขาจึงเป็นเครื่องมือเรียนรู้ได้อย่างดี

เย่หยวนศึกษาสูตรของโอสถและพยายามเทียบมันกับการหลอมของผู้เข้าสอบคนอื่นๆ เรื่องนี้มันช่วยให้เขาได้ประโยชน์และตัวอย่างมากมาย

เมื่อมู่หยวนชุนได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็มืดทึบขึ้นมาทันที “ไม่ต้องมาตอแหลอีกแล้ว! เจ้าคงไม่คิดจะบอกว่านี่เป็นการหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรกของเจ้าหรอกใช่ไหม?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “เจ้านี่ฉลาด รู้สิ่งที่ข้าอยากบอกด้วย”

มู่หยวนชุนยิ้มเย้ย “เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อ?”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “เจ้าจะเชื่อหรือไม่ย่อมอยู่ที่ตัวเจ้าเอง มันเกี่ยวอะไรกับข้ากันเล่า? ข้าจะเริ่มหลอมโอสถแล้ว”

เมื่อเขาเริ่มหลอม ตัวเย่หยวนก็เข้าสู่สภาวะตัดขาดจากโลกภายนอกทันที

การเตรียมการทั้งหลายนั้นเย่หยวนทำเสร็จไปได้อย่างราบรื่นด้วยท่าทางราวปรมาจารย์

ตอนนี้แม้แต่สายตาของผู้อาวุโสทั้งสามก็จ้องมองมาอย่างตกตะลึง

เมื่อผู้เชี่ยวชาญลงมือ มันจะชัดเจนขึ้นมาทันทีว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม

การลงมือนี้ของเย่หยวน แม้แต่พวกเขา นักบวชห้าดาวก็ยังต้องจ้องมองอย่างชื่นชม

เมื่อมู่หยวนชุนเห็นภาพนี้เขาก็แสดงสีหน้าเหยเกออกมา

ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับแล้วว่าความสามารถของเย่หยวนนั้นเป็นของจริง!

การใช้เวลาฝึกฝนบ่มเพาะฝีมือ เรื่องเช่นนั้นมันเป็นได้แค่คำผายลมต่อหน้าเย่หยวน

“ยังจะมีหน้ามาบอกว่าครั้งแรกอีก! ดูอย่างไรก็เป็นผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ชัดๆ คิดว่าพวกเราเป็นเด็กสามขวบเรอะ?” มู่หยวนชุนบ่น

“มันเป็นครั้งแรกที่เขาหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!”

กงหลินนั้นมายืนอยู่ข้างมู่หยวนชุนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ ตอนนี้เขาเองก็มองดูเย่หยวนอยู่และตอบคำของมู่หยวนชุนไปด้วย

มู่หยวนชุนหน้าเปลี่ยนสีทันที “ศิษย์พี่กง เรื่องนี้…มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

กงหลินบอก “เรื่องนี้ท่านอาจารย์พูดเอง มันไม่มีทางผิดไปได้แน่! เขาคงเป็นยอดนักหลอมโอสถของฝั่งมนุษย์ แต่ก็มีสายเลือดอสูรเราด้วยจึงสามารถเริ่มได้รวดเร็วขนาดนี้ แค่พรสวรรค์ของเขานั้นมัน…น่าเกรงกลัวจนเกินไป!”

มู่หยวนชุนทำหน้าตาแตกตื่นออกมา พร้อมหันไปมองเย่หยวนอีกครั้งด้วยความตื่นตกใจ

ตอนนี้ที่เย่หยวนกำลังหลอมโอสถอยู่ ท่าทางของเขาแต่ละอย่างนั้นมันคล้ายกับคนก่อนๆ หน้านี้ไม่เบา

แต่หลังจากได้เริ่มแล้วเย่หยวนถึงได้รู้ว่าการหลอมทั้งสองระบบนี้มันแตกต่างกันแค่ไหน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะก้าวผ่านไปได้

ต่อให้ศาสตร์หลอมอสูรของเขาจะพัฒนาไปได้เร็วแค่ไหน การเอามันมาใช้กับการหลอมโอสถจริงๆ นั้นก็ยังนับว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นอยู่ดี

มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกไม่คุ้นชิน

การหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ มันต้องใช้พลังจิตที่มหาศาล

แต่การหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้นมันกินแรงทางกายภาพอย่างมาก

หากไม่ใช่เพราะเย่หยวนบรรลุกายทองคำไปจนถึงระดับสี่ชั้นกลางแล้วล่ะก็ ตอนนี้เขาคงต้องจบสิ้นลงแล้วแน่ๆ

เย่หยวนได้รู้ว่าการใช้ศาสตร์หลอมอสูรกับการหลอมโอสถจริงๆ มันเป็นทักษะที่ยากกว่าศาสตร์หลอมวิญญาณนับร้อยเท่า

แต่ละส่วนๆ นั้นกินแรงกายไปอย่างมากมาย

หากเทียบกับการหลอมโอสถจริงๆ แล้วนั้นการผสานไม้นั้นมันเป็นได้แค่ของเด็กเล่นไปเลย

แต่ว่าขณะที่เย่หยวนกำลังเดินเข้าสู่ความไม่รู้ใดๆ ในสายตาของผู้อื่นที่มองมามันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

ไม่ว่าจะเป็นกงหลินหรือมู่หยวนชุน พวกเขาต่างตกตะลึงไปกับการหลอมนี้ของเย่หยวน

“ศิษย์พี่ ข้ายังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีว่าเจ้าหมอนี่มันเพิ่งเคยได้หลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรก!” มู่หยวนชุนกัดฟันแน่น

กงหลินยิ้มตอบออกมาอย่างขื่นขม “เจ้าคิดว่าข้าอยากเชื่อไหมล่ะ? แต่ดูทักษะการหลอมของมันสิ เห็นชัดๆ เลยว่ามันไม่คุ้นชินกับการหลอมแบบนี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังให้ความรู้สึกสบายตาเมื่อมอง ช่างเป็นความรู้สึกที่แสนขัดแย้งเสียจริงๆ”

มู่หยวนชุนรู้สึกว่าความมั่นใจที่ตัวเองสั่งสมมานานปีได้ถล่มพังลงมาในคราเดียว หากคนที่เพิ่งเคยหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว หลายปีที่เขาฝึกฝนตัวมามันจะไม่กล้าเป็นแค่เรื่องตลกไปหรือ?

แต่แน่นอนว่าเขาคงไม่รู้ว่ากว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้ขนาดนี้ นอกจากพรสวรรค์แล้วเขายังต้องใช้พรแสวงที่เหนือล้ำกว่าเขานับร้อยนับพันเท่า!

มู่หยวนชุนกล่าว “ศิษย์พี่กง ในสายตาของท่านแล้วท่านคิดว่ามันจะหลอมโอสถเมฆานิลฝนมายาออกมาได้คุณภาพใด?”

กงหลินส่ายหัวออกมา “เรื่องนั้นบอกยาก! ทักษะของเขานั้นดูไม่คุ้นชินก็จริง ดูอย่างไรก็เป็นมือใหม่แต่เขากลับไม่ได้ทำผิดพลาดใดๆ เลย ข้าคิดว่าแค่ผ่านไม่น่าจะมีปัญหา”

มู่หยวนชุนถอนหายใจยาวและบ่นออกมา “แค่ขั้นกลางมั้ง…เช่นนั้นก็ยังพอรับไหว”

ไม่นานหนึ่งชั่วโมงก็ผ่านพ้นไปและเย่หยวนก็หลอมได้สำเร็จตามที่บอกไว้จริงๆ ผู้คนที่ได้เห็นสภาพนั้นต่างต้องอ้าปากค้างอย่างที่หุบไม่ลง

เย่หยวนเช็ดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา “ไม่ได้ลำบากขนาดนี้มานานแล้ว!”

ลำบาก…

เมื่อเหล่าอสูรรอบๆ ได้ยินคำนั้นของเย่หยวน พวกเขาก็แทบจะกระโดดขึ้นไปถีบยอดหน้าเขา

นี่หรือคือลำบาก?

เจ้าไม่ดูรอบๆ หน่อยล่ะ?

หลังจากรอบสองมา คนที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้มีน้อยกว่ายี่สิบคน

และตอนนี้คนเหล่านั้นก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าตัวเองจะทำผิดพลาดใดๆ ออกมา

นี่สิถึงเรียกว่าลำบาก

คนเหล่านี้ ทุกๆ คนต่างใช้เวลาจนเกือบครบหกชั่วโมงในการหลอมโอสถ

แต่เจ้าทำได้ในชั่วโมงเดียวแล้วยังมาบ่นว่าลำบาก มันจำเป็นไหม?

หลังเย่หยวนหลอมโอสถเสร็จ เวลาหกชั่วโมงก็หมดลงในไม่ช้า

อสูรหลายตนนั้นยังหลอมไม่เสร็จ เรื่องนี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นจิตตกอย่างมาก

เพราะอุตส่าห์ผ่านมาถึงรอบสามแล้ว แต่กลับทำการหลอมไม่ทัน

จริงๆ ด้วยทักษะของพวกเขา ต่อให้หลอมเสร็จมันก็คงไม่มีทางไปสูงถึงขั้นกลางได้แน่

กงหลินค่อยๆ เดินออกมาตรวจโอสถของแต่ละคนไป ส่วนใหญ่ที่หลอมเสร็จนั้นได้คุณภาพขั้นต่ำทั้งสิ้น

แต่นอกจากมู่หยวนชุนแล้วมันยังมีอีกคนที่สามารถหลอมโอสถเมฆานิลฝนมายาขั้นกลางออกมาได้ นับว่าผ่านการสอบครั้งนี้

“ฮ่าๆๆ! เวลาพันปีของข้าไม่สูญเปล่าแล้ว! ข้าผ่านจนได้!”

เมื่อได้รู้ผลว่าตัวเองผ่าน เจ้าอสูรหนุ่มก็ร้องลั่นขึ้นทันทีราวกับคนบ้า

ดูท่าเวลาพันปีนี้เขาคงเจอแรงกดดันอันมหาศาลมาแน่ๆ

เมื่อคนอื่นๆ เห็น พวกเขาก็แสดงท่าทางอิจฉาปนหมดหวังออกมา

กงหลินขมวดคิ้วแน่น “กระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้อาวุโสเช่นนี้เจ้ารู้จักกาลเทศะบ้างหรือไม่?”

อสูรหนุ่มคนนั้นแทบสำลักเมื่อได้ยินและเงียบปากลงในทันที

เพราะแม้เขาจะผ่านการสอบแล้ว แต่เขาก็ยังนับว่าเป็นได้แค่นักบวชฝึกหัดผู้ต่ำต้อยในวิหารนักบวชนี้

ส่วนกงหลินนั้นคือนักบวชตัวจริง!

มาถึงมู่หยวนชุน แน่นอนว่าการผ่านนั้นมันเป็นอะไรที่แสนแน่นอน

“ขั้นสูง ไม่เลว! มู่หยวนชุนผ่าน!” กงหลินประกาศด้วยรอยยิ้ม

มู่หยวนชุนเองก็ยิ้มตอบ “ขอบพระคุณศิษย์พี่กง!”

เขานั้นคิดเหมือนกงหลิน ไม่ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนแต่ในรอบสุดท้ายนี้เย่หยวนก็ไม่มีทางชนะเขาได้

การหลอมที่ไม่ชินมือแบบนี้ แค่หลอมให้ถึงขั้นกลางได้มันก็นับว่ามีพรสวรรค์เหนือฟ้าแล้ว

ขั้นสูงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่!

สุดท้าย เป็นตาของเย่หยวน

หลังจากเปิดเตาออกมา กงหลินก็แทบสำลักเมื่อได้เห็นโอสถภายใน “ข-ขั้นยอดเยี่ยม! บ้าน่า!”

กงหลินนั้นแตกตื่นขึ้นมาในทันที แม้ก่อนหน้านี้มันจะมีเรื่องน่าตื่นตกใจใดๆ เกิดขึ้นมา แต่มันก็ยังไม่น่าตกใจเท่าเรื่องนี้

เพราะการหลอมของเย่หยวนนั้นมันดูเงอะงะมาก

ด้วยทักษะที่แสนเงอะงะเช่นนั้นเขากลับหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์ขั้นยอดเยี่ยมมาได้!

เพราะต่อให้เขาที่เป็นนักบวชเต็มตัวนี้ การจะหลอมโอสถเมฆานิลฝนมายานั้นเขาก็ยังไม่อาจจะหลอมให้มีคุณภาพถึงขั้นยอดเยี่ยมได้

แต่การหลอมครั้งแรกของเย่หยวนนี้มันกลับได้โอสถเมฆานิลฝนมายาขั้นยอดเยี่ยมออกมา?

…………………………

Unrivaled Medicine God

Unrivaled Medicine God

Type: Author: ,
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง…. กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก… ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า! A Pill Emperor of his generation was set up by a traitor. Since then, the world lost a Qingyun Zi and gained an invincible silkpants. Once again, walking the Great Dao of Alchemy. How can I defy the heavens . . . with the medicine in my hands!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset