“จริงเรอะ? ไป่หลี่ชิงหยานคนนั้นกลับคิดที่จะไปชวนคนอื่นมาเข้าร่วมกลุ่ม?”
“ไอ้เด็กคนนั้นมันอ่อนแอจะตายไม่ใช่เรอะ?”
“ทำไมนางถึงไม่มาชวนข้าบ้าง? อิจฉาจะตายแล้ว!”
…
การกระทำนี้ของไป่หลี่ชิงหยานทำให้ทุกผู้คนตื่นตกใจ
ยอดคนสวรรค์ส่งระดับนี้กลับเลือกที่จะชวนราชันพระเจ้าห้าดาวหน้าใหม่คนหนึ่งมาร่วมกลุ่ม เรื่องนี้มันทำให้ทุกผู้คนต้องอ้าปากค้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้วนชิงหงและจงฮันหลิน คนทั้งสองนี้ต่างมองเย่หยวนด้วยสายตาราวกับต้องการฉีกเลือดฉีกเนื้อ
ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็มึนงงจนไม่ทันตั้งตัว ได้แต่ยืนนิ่งไปนาน
แต่เมื่อเขากลับมาตั้งสติได้เขากลับพูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงมากยิ่งกว่า
“ขอโทษที ข้าคิดจะขึ้นเขาไปด้วยตัวคนเดียว ขอแม่นางไป่หลี่ไปหาคนที่เก่งกาจกว่าข้าเถอะ” เย่หยวนตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
เกิดเสียงตะโกนร้องขึ้นโดยรอบ!
เมื่อสักครู่นี้ทุกคนต่างมองเย่หยวนมาด้วยความอิจฉาจนแทบอยากฆ่าเขาทิ้ง
แต่ตอนนี้ทุกคนกลับมองมาด้วยสายตาเหมือนเวลามองดูคนที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจแทน
ไอ้เจ้านี่สมองมันเพี้ยนหรือ?
มันไม่เห็นหรือว่าไป่หลี่ชิงหยานถึงขั้นปฏิเสธต้วนชิงหงและจงฮันหลิน?
การได้ใช้เวลาเป็นเดือนกับสาวงามเช่นนี้บนภูเขาป่าร้าง เรื่องราวเช่นนั้นมันเป็นฝันของชายหนุ่มแทบทุกผู้คน
ต่อให้ต้องตายมันก็คุ้มค่าพอ
แต่เจ้าโง่คนนี้มันกลับปฏิเสธ!
เรื่องนี้เองก็ทำให้ไป่หลี่ชิงหยานตื่นตะลึงไปไม่น้อย ก่อนที่ใบหน้าของนางจะปรากฏสีแดงจางๆ ขึ้นมา
เขา… เขากล้าปฏิเสธ!
เหตุผลที่ไป่หลี่ชิงหยานมาหาเย่หยวนเพื่อชวนเข้าร่วมกลุ่มก็เพราะว่านางมั่นใจเหลือเกินว่าเย่หยวนคงไม่ปฏิเสธ
เพราะในหัวของนาง นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าเย่หยวนจะปฏิเสธนางได้ลง
แต่ตอนนี้นาง… กลับรู้สึกอับอายขึ้นมา!
หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ไป่หลี่ชิงหยานก็พูดขึ้น “ข้าขอคุยกับเจ้าหน่อยได้ไหม?”
เพราะเมื่อเริ่มแล้วมันก็ถอยยาก ตอนนี้ไป่หลี่ชิงหยานต้องทำให้เรื่องมันจบลงให้ได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
เย่หยวนพยักหน้ารับและเดินออกมายังลับตาคนพร้อมกับไป่หลี่ชิงหยาน
“ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธ?”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นมีใบหน้ามึนงงสับสน คำพูดของนางแฝงไปด้วยความอับอายและเปี่ยมไปด้วยความไม่เข้าใจ
ในสายตาของนางแล้ว มันไม่มีทางเลยที่จะมีชายใดกล้าปฏิเสธเสน่ห์ของนาง
เย่หยวนนั้นมีสติที่แจ่มชัด เขายิ้มตอบกลับไป “แม่นางไป่หลี่ ข้าขอพูดอะไรตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อมนะ ท่านคิดว่าพลังฝีมือของข้านั้นอ่อนด้อยและคิดจะใช้ตัวข้าในการสลัดเจ้าสองคนที่ตามตื้อท่านอยู่ใช่หรือไม่? ท่านคงคิดว่าข้าจะหลงเสน่ห์ความงามท่านเข้าอย่างแรงจนยอมรับโดยไม่คิดอะไร หรือท่านอาจจะคิดว่าหากข้าตามท่านไปแล้วข้าคงผ่านการทดสอบรอบแรกได้ด้วยการช่วยเหลือของท่าน แต่ข้าต้องขอบอกเลยว่าท่านนั้นคำนวณพลาดแล้ว!”
หากเป็นคนอื่น พวกเขาคงเลือกจะยอมรับอย่างไม่ลังเล
แต่เย่หยวนนั้นไม่ใช่คนอื่น
การพึ่งพาไป่หลี่ชิงหยานนั้นมันไม่เคยมีอยู่ในหัวของเย่หยวนแม้แต่น้อย
เขาไม่ต้องการสาวงาม และยิ่งไม่ต้องการให้ใครมาปกป้องด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็ย่อมไม่มีเหตุผลใดต้องยอมรับคำของนาง
แม้ว่าไป่หลี่ชิงหยานนั้นจะเป็นสาวงาม แต่เรื่องที่นางคิดในหัวนั้นมันกลับไม่ได้ถูกใจเย่หยวนมากนัก
เพราะฉะนั้นนางจึงคำนวณพลาด
ไป่หลี่ชิงหยานได้รู้ว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่ความคิดเฉียบแหลมอย่างมาก
นางเข้าใจแล้วว่าเย่หยวนต้องการต่อรองกับนาง
“ด้วยพลังฝีมือของเจ้าหากซ่งถิงต้องการกำจัดเจ้าจริง เจ้าคงไม่มีทางรอดออกไปได้แน่ แต่หากเจ้าตามข้ามาข้าจะทำให้เจ้าผ่านการทดสอบรอบแรกได้โดยไม่ต้องทำอะไรแค่นั่งๆ นอนๆ ไปก็พอ”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นยังคงมึนงงไม่หาย เพราะถึงตอนนี้นางก็ยังคิดว่าเย่หยวนไม่น่าจะมีเหตุผลใดให้ปฏิเสธนางเลย
คำขู่ของซ่งถิงนั้น ไป่หลี่ชิงหยานย่อมเห็นอยู่กับตา
นางคิดว่าเย่หยวนน่าจะต้องการการปกป้องจากเธอเป็นแน่เมื่อต้องเจอคำข่มขู่เช่นนั้น
ที่สำคัญด้วยพลังฝีมือของเย่หยวนแล้ว หากนางตั้งกลุ่มกับเย่หยวนคนอื่นๆ ก็จะรู้ได้ทันทีว่านางแค่ต้องการสลัดพวกต้วนชิงหงทิ้งไม่ได้คิดอะไรจริงจัง
กับเย่หยวนแล้ว ข้อเสนอของนางนั้นมันจะช่วยให้เขาผ่านรอบแรกไปได้อย่างง่ายดาย
หรือก็คือตราบเท่าที่เขาตามนางมา เย่หยวนก็จะสามารถผ่านรอบแรกได้โดยไม่ต้องออกแรงใดๆ
มันจะทำให้การผ่านรอบแรกนั้นกลายเป็นเรื่องที่แสนง่ายดายทันที
แต่เย่หยวนกลับปฏิเสธ
เย่หยวนยิ้มบางๆ “ทั้งสิ้นนั้นล้วนเป็นเรื่องของข้า! ที่สำคัญแม่นางไป่หลี่จะมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว การผ่านการทดสอบรอบแรกนี้มันไม่ได้ยากจนต้องให้ข้าไปยืมมือใครหรอก”
ไป่หลี่ชิงหยานได้หัวเราะอยู่ในใจ!
รอบแรกไม่ยาก?
คำพูดนี้ถูกพูดต่อหน้านาง ไป่หลี่ชิงหยาน!
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นฉลาดมาก นางจึงพอเข้าใจความคิดของเย่หยวนได้ทันที
เย่หยวนนั้นมองทะลุความคิดของนางได้และคิดอยากจะบีบบังคับนาง ต้องการต่อรองให้ได้มากกว่าเก่า!
ไป่หลี่ชิงหยานหายใจเข้าลึกก่อนจะหันหน้ามาบอก “ข้าพูดออกไปแล้ว ตอนนี้จะคืนคำคงไม่ได้ พูดมาเถอะ ตราบเท่าที่เจ้ายอมร่วมกลุ่มกับข้า ข้าพร้อมรับข้อแม้ของเจ้า”
เย่หยวนนั้นพูดอะไรไม่ออก ไป่หลี่ชิงหยานนางนี้จะมั่นใจในตัวเองจนเกินไปแล้ว
เขานั้นแค่ไม่อยากร่วมกลุ่มกับนางก็เท่านั้น แต่ไป่หลี่ชิงหยานกลับคิดว่าเขาต้องการบีบบังคับนางเสียแทน
คิดมาได้ถึงตรงนี้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ “ข้าไม่มีข้อแม้ใด หากแม่นางไป่หลี่จะเอาข้าร่วมกลุ่มให้ได้ ทำไมท่านไม่ลองเล่นพิณเจ็ดสายช่วยปัดเป่าความเงียบเหงาในป่าให้ข้าฟังหน่อยเล่า”
สำหรับเย่หยวนแล้วจะมีหรือไม่มีไป่หลี่ชิงหยานก็ไม่ได้ส่งผลใดๆ เลย
แต่เมื่อสาวงามยอมถึงขั้นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเช่นกัน
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ยอมรับข้อเสนอของไป่หลี่ชิงหยานด้วยข้อแม้ง่ายๆ นี้
เย่หยวนได้ยินมาจากฮันยองว่าไป่หลี่ชิงหยานนั้นมีทักษะการเล่นพิณเจ็ดสายที่เหนือล้ำ เพียงแค่ว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่จะมีใครได้ยินเสียงพิณนั้นของนาง
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงกล่าวออกไป
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นสะดุ้งตกใจไปทันทีก่อนที่ใบหน้าของนางจะยิ่งแดงมากขึ้นและสุดท้ายนางก็จะโกนออกมาด้วยความอายปนความโกรธ “”เจ้า… คนต่ำช้า!”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาตอบอย่างไม่คิดสนใจ “หากเรื่องแค่นี้ท่านยังทำให้ไม่ได้ ก็ลืมเรื่องใดๆ ที่คุยไปเถอะ”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นตอบกลับมาอย่างไม่มีทางเลือกด้วยท่าทางโกรธแค้น “ได้! ถือเสียว่าข้าพ่ายให้แก่เจ้า! เรื่องราวในวันนี้ไป่หลี่คนนี้จะขอจดจำมันไปชั่วชีวิต!”
เย่หยวนนั้นมึนงงอยู่ไม่น้อย แค่เล่นพิณมันจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรขนาดนั้น?
เมื่อคนทั้งสองกลับมาสายตาทุกคู่ก็ต่างจับจ้องมองไปยังเย่หยวน
“ไอ้หมอนี่มันช่างหน้าไม่อาย สุดท้ายมันก็ตอบตกลง!”
“การกระทำเมื่อสักครู่คงเพื่อต่อรองใดๆ เพิ่มเป็นแน่ใช่ไหม?”
“ไอ้หมอนี่มันช่างชั่วร้ายหน้าไม่อาย!”
…
เย่หยวนยืนอยู่คู่กับไป่หลี่ชิงหยาน ทำให้ทุกๆ คนเข้าใจเรื่องราวได้ในทันที
กับการกระทำอัน ‘ชั่วร้ายหน้าไม่อาย’ ของเย่หยวนนี้ พวกเขากลับมีสีหน้าท่าทางเสียใจและขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อย
มันเหมือนกับดอกฟ้าที่โดนหมาวัดคาบไป
แม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าไป่หลี่ชิงหยานแค่ต้องการใช้เย่หยวนเป็นทางหนีก็ตาม
ไม่นานนักก็มียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์คนหนึ่งปรากฏตัวออกมาบนท้องฟ้า “พวกเจ้าทั้งหลายที่ต้องการเข้าร่วมนิกายเงาจันทร์เรา เจ้าต้องผ่านการทดสอบสองรอบด้วยกัน รอบแรกคือการล่าสัตว์อสูรในเทือกเขาเงาจันทร์นี้ ตอนนี้พวกเจ้าสามารถจับกลุ่มกันได้เต็มที่ เพียงแค่ว่าแต่ละกลุ่มต้องมีสมาชิกไม่เกินสามคน! สัตว์อสูรที่ถูกล่าแบบเป็นกลุ่มจะถูกหารคะแนน การล่าในครั้งนี้ไม่มีข้อห้ามฆ่าฟัน! หากพวกเจ้ามีความสามารถก็สามารถสังหารแย่งเหยื่อของผู้อื่นมาได้ เอาล่ะ ขอเริ่มการทดสอบรอบแรก ณ บัดนี้!”
สิ้นคำของยอดฝีมือคนนั้น เหล่านักยุทธที่รออยู่ก็พุ่งตัวเข้าเทือกเขาเงาจันทร์ไปพร้อมๆ กัน
เมื่อทุกคนเห็นว่าเย่หยวนได้เข้าไปกับไป่หลี่ชิงหยานจริงๆ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าท่าทางอิจฉาออกมา
ในหมู่คนนั้นมีซ่งถิงอยู่ด้วย เมื่อเขาเห็นภาพนี้ดวงตาของเขากลับแสดงความชั่วร้ายออกมา
“ไอ้เด็กนรก เจ้าคิดว่าแค่ไปหลบหลังผู้หญิงแล้วจะรอดจากความตายได้หรือ? หึๆ เจ้าคิดง่ายเกินไปแล้ว! ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะอย่างไป่หลี่ชิงหยานก็ไม่มีทางหยุดการล่าสังหารของนิกายคชสารมารของเราได้หรอก!”
…………………………