Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1806 ไม่ไว้หน้าใคร

บนยอดดอกตูมสวรรค์นี้คนทั้งหลายต่างพากันมามุงดูเรื่องราวมากขึ้นและมากขึ้น

ตอนนี้บนหน้าผากของฮันยองนั้นมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงมา เรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้… มันจะเกินมือไปหน่อย

หากยังคงสร้างเรื่องราวให้ใหญ่โตไปกว่านี้ทางนิกายคงได้หันมาสนใจแน่

เรื่องระหว่างศิษย์ทั้งหลายนั้นตราบเท่าที่มันไม่ทำอะไรจนเกินเลยและไม่ละเมิดกฎของนิกาย ทางนิกายเองก็ไม่คิดที่จะสนใจใดๆ

แต่เรื่องราวในวันนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป

“เย่หยวน ทางเดินขึ้นสวรรค์ดีๆ มีไม่ชอบกลับมาแหกประตูลงนรกด้วยตัวเองเสียแล้ว!”

คนยังไม่ทันมาแต่เสียงของเขาก็ดังมาถึงก่อน

และแน่นอนว่าผู้ที่มาถึงย่อมเป็นเชียนเย่

เมื่อจงฮันหลินได้ยินเสียงนี้เขาก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นทันที รีบลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะหัวเราะบอก “ฮ่าๆๆ… เย่หยวนเจ้าตายแน่คราวนี้! กล้ามาลบหลู่นิกายบุปผาเหินเรา เจ้าคงเบื่อชีวิตแล้ว!”

เย่หยวนมองดูจงฮันหลินด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนจะเตะเท้าออกมา

จงฮันหลินย่อมคิดจะหลบ แต่มีหรือที่เขาจะหลบได้? เท้านี้ของเย่หยวนโดนตัวเขาเข้าเต็มๆ จนจงฮันหลินลุกไม่ขึ้น

“เอาล่ะตอนนี้ความแค้นของพี่ข้าก็เป็นอันชำระเรียบร้อยแล้ว เรามาจัดการเรื่องของเราต่อดีกว่า!” เย่หยวนเหยียบเท้าลงที่หน้าอกของจงฮันหลินพร้อมพูดขึ้น

เชียนเย่รีบเร่งมาถึงและเห็นภาพนี้เข้าพอดี เขาจึงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

“เย่หยวน ปล่อยจงฮันหลิน! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้ตายดี!” เชียนเย่บอกด้วยความโกรธแค้น

เย่หยวนยิ้มตอบ “พวกนิกายบุปผาเหินมันไม่มีสมองหรือ? เจ้าคิดทำให้ข้าไม่ได้ตายดีมาแล้วแท้ๆ ตอนนี้ทำไมข้าต้องกลัวคำขู่ของเจ้านี้ด้วย?”

เมื่อทุกคนได้ยินเย่หยวนพวกเขาต่างแสดงใบหน้าสุดตื่นตะลึงออกมา

นี่คือเชียนเย่!

แต่ไอ้หมอนี่กลับกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าเชียนเย่ มันคงไม่รู้จักคำว่าตายเสียแล้ว

พูดไปเย่หยวนก็ยิ่งกดแรงลงเท้าหนักขึ้น ทำให้จงฮันหลินที่อยู่เบื้องใต้นั้นต้องกระอักเลือดออกมาคำโต

จงฮันหลินนั้นโกรธแค้นอย่างมาก เขาหัวเราะออกมา “เย่หยวน… เจ้าลองทำร้ายข้าสิ! ยิ่งเจ้าลงมือหนักศิษย์พี่เชียนเย่จะยิ่งเอาคืนเจ้าหนักกว่าเป็นร้อยเท้า! เจ้ากล้าสังหารข้าหรือ? ก-ก็เอาสิ! ฮ-ฮ่าๆๆ!”

เชียนเย่นั้นโกรธจนหน้าดำเมื่อเห็นเย่หยวนกดเท้าลงเช่นนั้น ตอนนึ้คลื่นพลังของเขาแผ่ออกมาอย่างรุนแรงมากขึ้นและมากขึ้น

“ที่ฮันหลินพูดมาย่อมถูกต้อง ต่อให้เจ้าจะเก่งกล้าแค่ไหน แต่เจ้า… กล้าสังหารเขา? ใช้คนที่เจ้าไม่กล้าทำอะไรมาข่มขู่ข้า เจ้า… ช่างโง่เขลาแท้ๆ!”

แต่ละเท้าที่เขาย่ำลงไปมันยิ่งทำให้เชียนเย่ปล่อยพลังออกมาหนักเท่านั้น

คลื่นพลังของอาณาจักรนภาสวรรค์นี้มันทำให้ทุกผู้คนต้องถอยห่างออกไปอย่างไม่รู้ตัว

ส่วนเย่หยวนนั้นกลับยืนรับมันอยู่ในจุดศูนย์กลาง

เชียนเย่คิดจะใช้พลังนี้ทำให้เย่หยวนยอมแพ้!

กึก!

ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงกระดูกหักดังขึ้นมา

จงฮันหลินกระอักเลือดออกมาคำโตอีกครั้ง ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขามันสาหัสมากแล้ว

เย่หยวนกระทืบเท้าลงไปอย่างไม่คิดปรานี

เขาหันไปมองเชียนเย่ด้วยรอยยิ้ม “เจ้าบอกว่า… ข้าไม่กล้าสังหารมัน? ไหนลองพูดมาใหม่สิ?”

น้ำหนักกดของเท้าเย่หยวนนั้นมันมีแต่หนักขึ้นและหนักขึ้น ตอนนี้จงฮันหลินตาเหลือกเลือดไหลออกจากปากไม่หยุด เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาคงรอดชีวิตได้ยากแล้ว

เมื่อเชียนเย่เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตามองอย่างโกรธแค้น จู่ๆ คลื่นพลังกดดันที่ออกมาจากร่างของเขาก็จางหายไปในพริบตา

เขาคิดว่าการขู่นี้บวกกับกฎของนิกายมันจะสามารถทำให้เย่หยวนยอมจำนนได้

แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันกลับจะทำให้เย่หยวนยิ่งไม่ยอม

“เย่หยวน เจ้ามันบ้า! เจ้ากล้าสังหารศิษย์ร่วมนิกายหรือ?” เชียนเย่บอกออกมาอย่างจนมุม

“ศิษย์ร่วมนิกาย? หึ ไอ้คำพูดนี้เมื่อออกมาจากปากเจ้าแล้วมันช่างน่าขัน! ตอนสอบเข้าจงฮันหลินคิดสังหารข้า! แต่พลังฝีมือของมันอ่อนแอจนเกินไปและเมื่อมันจะเป็นฝ่ายตายลงแทนเจ้าก็เข้ามาลอบโจมตีข้าด้วยพลังของยอดฝีมือนภาสวรรค์! จากนั้นเมื่อข้าได้เข้านิกายมาเจ้าก็ใช้วิธีแสนโสโครกบังคับให้ข้าต้องไปเปิดถ้ำหลวงที่ยอดเพลิงเมฆา เจ้าจะบอกว่า… เรื่องทั้งหมดเจ้าไม่ได้คิดสังหารข้าเลย? หากแค่นั้นมันยังไม่เท่าไหร่ ฮันยองที่ไม่ได้มีเรื่องราวใดๆ กับพวกเจ้าแต่พวกเจ้ากลับทำร้ายเขาและทำให้ต้องอับอายมาหลายปี วันนี้พวกเจ้าต้องตาย!”

คำพูดของเย่หยวนมันดังสะท้านไปทั่วทำให้ผู้คนที่มามุงดูตื่นตกใจอย่างมาก

เขาไม่เคยคิดเลยว่าในหมู่ศิษย์ที่เข้านิกายมาด้วยกันในช่วงนั้นมันจะมีตัวตนที่ราวกับเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนั้นอยู่ด้วย

จุดสำคัญก็คือเชียนเย่ลอบโจมตีเย่หยวนด้วยพลังของนภาสวรรค์หนึ่งดาว แต่เย่หยวนกลับสามารถหลบรอดออกมาได้

เรื่องเช่นนี้มันน่าเหลือเชื่อจนเกินทำใจยอมรับ

การกระทำของเชียนเย่นี้มันทำให้ผู้คนไม่พอใจมากจริงๆ

ในการสอบเข้านั้น เขากลับกล้าทำร้ายคิดสังหารคนที่ยังไม่ได้รับการยอมรับเป็นศิษย์ในสำนัก ช่างน่าไม่อาย!

เชียนเย่มองดูจงฮันหลินที่กำลังนอนอยู่บนพื้นและกล่าวตอบมา “เจ้ารีบปล่อยเขา! หากจงฮันหลินตาย เจ้าก็ต้องตายไปด้วย!”

เย่หยวนยิ้มตอบ “เรอะ? เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องมาห่วงข้าหรอก”

เชียนเย่นั้นมีใบหน้าที่ดำมืดลงทันที ตอนนี้สายตาของเขาได้แต่มองไปยังร่างนั้นอย่างร้อนใจ

จู่ๆ ก็มีอีกเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวมาจากเส้นขอบฟ้า นั่นทำให้เชียนเย่ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาพร้อมหันไปมองเย่หยวนทันที

“เจ้าคนป่าเถื่อน ถึงกับกล้ามาทำร้ายศิษย์ด้วยกันกลางวันแสกๆ เช่นนี้! เจ้าจะแก้ตัวอย่างไร?!”

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพุ่งตัวลงมาจากท้องฟ้า คลื่นพลังของเขานั้นแสนรุนแรงดูท่าแล้วคงเป็นยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ระดับสูงแน่

เมื่อได้เห็นสภาพของจงฮันหลินที่ใกล้ตายเต็มทีอยู่ใต้เท้าเย่หยวนชายวัยกลางคนก็กล่าวขึ้นอย่างโกรธแค้น

เชียนเย่ยกมือขึ้นคารวะ “ผู้ดูแลเจิ้ง ไอ้เด็กคนนี้มันโหดร้ายป่าเถื่อน มันขึ้นมาถึงยอดดอกตูมสวรรค์ได้ก็ทำร้ายจงฮันหลินจนกลายเป็นเช่นนี้! หากไม่กำจัดเจ้ามารร้ายนี้ไปเสียวันหน้าศิษย์นิกายเงาจันทร์เราคงได้อยู่อย่างโกรธแค้น!”

ผู้ดูแลเจิ้งหันไปบอกเย่หยวน “ข้าผู้นี้คือผู้ดูแลเจิ้งหยุนเช่อแห่งโถงบังคับกฎ ตอนนี้เจ้าจงปล่อยจงฮันหลินแล้วยอมรับโทษของทางสำนักอย่าได้ขัดขืน!”

เย่หยวนหันไปมองผู้ดูแลเจิ้งคนนั้นแล้วยิ้มบอก “ผู้ดูแลเจิ้ง หากให้ข้าเดาท่านเองก็คงเป็นคนของนิกายบุปผาเหินสินะ?”

ผู้ดูแลเจิ้งหน้ากระตุกไปในทันทีที่ได้ยินและตอบกลับมา “โอหัง! เมื่อเข้านิกายมาแล้วเราล้วนย่อมเป็นศิษย์นิกายเงาจันทร์! ไอ้เจ้าสัตว์ร้ายหากยังไม่ปล่อยเขาอีกอย่าได้หาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

เย่หยวนยักไหล่ “มาสิ ข้าอยากรู้ว่าเวลาเจ้าไม่เกรงใจแล้วมันจะเป็นอย่างไร!”

พูดไปแรงกดที่เท้าของเย่หยวนก็เพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง

สภาพของจงฮันหลินในตอนนี้ได้แต่หายใจเข้ายาว และสุดท้ายก็หยุดหายใจไป

เจ้าหมอนี่คิดสังหารเขามากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มีหรือที่เย่หยวนจะปล่อยมันไป?

เมื่อผู้ดูแลเจิ้งเห็นภาพนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความอับจนออกมาอย่างถึงที่สุด

ตอนนี้เย่หยวนไม่คิดจะไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย

จงฮันหลินนั้นเป็นยอดคนของนิกายบุปผาสวรรค์ ต่อให้เขาจะเทียบเคียงไป่หลี่ชิงหยานไม่ได้แต่ตำแหน่งที่เขามีมันก็ยากที่จะหาใครมาแทนที่

เพราะฉะนั้นเขาจะตายลงไม่ได้

และนั่นยิ่งทำให้ผู้ดูแลเจิ้งและเชียนเย่ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรด้วยความหวาดกลัวถึงผลที่จะเกิดหากพวกเขาลงมือ

ระหว่างที่ทั้งสองฝั่งยังคงไม่มีใครลงมือทำอะไรนั้น ผู้คนก็ยิ่งไปมุงดูกันมากขึ้น

ข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งนิกายเงาจันทร์อย่างรวดเร็ว!

บนยอดพรรณสวรรค์ เมื่อไป่หลี่ชิงหยานได้ยินข่าวนี้นางก็สั่นสะท้านขึ้นมาในทันที ก่อนที่จะพุ่งตัวหายไปในพริบตา

บนยอดผู้กล้าสวรรค์มีชายคนหนึ่งกำลังตัดไม้อยู่ก่อนที่เขาจะยิ้มขึ้นมาเหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง “หึ เด็กคนนี้มันไม่ทำให้เฒ่าคนนี้ผิดหวังจริงๆ! เพียงแค่ว่าเฒ่าคนนี้อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไรกัน?”

พูดจบร่างของเขาก็จางหายไปทันทีเหลือทิ้งไว้แต่ความว่างเปล่า

จนถึงตอนนี้ก็เกิดมีชายแก่คนหนึ่งปรากฏตัวออกมาต่อหน้าเย่หยวน “ข้าคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งโถงหน้าของยอดดอกตูมสวรรค์ เจ้าหนุ่ม แสดงความเมตตาปรานีบ้างเถอะ ถือว่าเห็นแก่หน้าเฒ่าคนนี้ปล่อยจงฮันหลินไปเสีย”

เย่หยวนหันไปมองเขาด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษที วันนี้ข้าไม่คิดจะไว้หน้าใครทั้งสิ้น เขาต้องตาย!”

พูดจบเย่หยวนก็กระทืบเท้าลงจนมันจมหายเข้าไปในอกของจงฮันหลิน

…………………………

Unrivaled Medicine God

Unrivaled Medicine God

Type: Author: ,
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง…. กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก… ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า! A Pill Emperor of his generation was set up by a traitor. Since then, the world lost a Qingyun Zi and gained an invincible silkpants. Once again, walking the Great Dao of Alchemy. How can I defy the heavens . . . with the medicine in my hands!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset