“เจ้า… เจ้าเอาอะไรให้มันกินกัน?” ตู้หรูเฟิงถามด้วยท่าทางสุดสงสัย
เพราะเจ้าหมูสมบัติตัวนี้มันช่างแสนเอาแต่ใจ
ในเวลาที่ผ่านมานั้นเขาได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้หมูสมบัตินั้นพอใจ
เมื่อสักครู่นี้เพื่อหลอมโอสถให้มันกินเขาถึงกับต้องฝืนตัวจนเตาหลอมระเบิดไปจนหลังคาหายไปทั้งหลัง
แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กที่ไหนไม่รู้คนนี้กลับสามารถป้อนโอสถให้เจ้าหมูกินได้ง่ายๆ และยังทำให้มันพอใจอย่างมากด้วย
เย่หยวนนั้นได้แต่ยืนนิ่ง “ก็ต้องเป็นโอสถสิ เจ้าเด็กคนนี้มันเพิ่งบอกมามิใช่หรือว่าเจ้าหมูตัวนี้มันชอบกินโอสถ? ข้าเองก็มีโอสถที่หลอมไว้ติดตัวมาบ้างจึงหยิบออกมาให้มันกินไปเสียเท่านั้น”
ตอนที่ได้ยินคำพูดของตงน้อยเย่หยวนก็พอคาดเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว
เจ้าหมูสมบัตินี้มันคงได้กลิ่นโอสถจากร่างกายของเขาจนทำให้มันซุกตัวเข้ามาในอ้อมอกของเขาเช่นนั้น
เมื่อลองมาประกอบเรื่องราวดูมันก็ไม่น่าจะผิดไปได้
แต่เย่หยวนก็ยังแปลกใจไม่น้อยเพราะเจ้าหมูสมบัติตัวนี้มันช่างมีจมูกที่ดีล้ำ
ดูจากท่าทางของมันแล้ว มันน่าจะได้กลิ่นโอสถจากร่างของเขาจากระยะไกลแล้วจึงวิ่งหนีตงน้อยมาหาเขา
เจ้าหมูน้อยตัวนี้มันไม่ธรรมดาเลย!
“หึ! เจ้าอย่าคิดว่าจะรอดไปได้เพราะแค่ป้อนอาหารให้หมูสมบัติ! ตู้… ปู่ สังหารมัน! ไอ้เด็กคนนี้มันกล้ามาตีก้นข้า! อู้ย!” ตงน้อยชี้สั่งมาทางเย่หยวน
ตู้หรูเฟิงจึงทำตามและปล่อยจิตสังหารออกมาเต็มที่
ซู่เหยียนหน้าถอดสีในทันทีพร้อมด้วยอาการปวดหัวไม่น้อย
ตู้หรูเฟิงนั้นมีพลังฝีมือเหนือล้ำกว่าเขามาก
ที่สำคัญด้วยตำแหน่งของอีกฝ่ายแล้วต่อให้ตู้หรูเฟิงจะอ่อนแอกว่าเขา มันก็คงไม่ง่ายที่จะหลุดรอดออกไป
เย่หยวนคนนี้มันช่างรนหาที่ตายเก่งจริง!
เมื่อชูเวินเห็นภาพนี้เขาก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจจนแทบกระโดดขึ้นเต้น
แต่วินาทีนั้นเองที่เจ้าหมูสมบัติกลับลืมตาตื่นขึ้นมาและพุ่งตัวจากอ้อมอกของตงน้อยมาขวางทางระหว่างเย่หยวนกับตู้หรูเฟิงไว้แทน
“ครืดๆ!”
เจ้าหมูสมบัตินี้มันมีท่าทางแทบไม่ต่างจากมนุษย์ ทุกคนมองแค่ปราดเดียวก็รู้ได้ว่ามันกำลังไม่พอใจ
เมื่อตู้หรูเฟิงเห็นเช่นนั้นท่าทางสุดเย็นเยือกที่เขามีจึงหายวับไปกับตา
เมื่อตงน้อยเห็นเช่นนั้นเขาก็ร้องออกมาด้วยท่าทางแสนโกรธเคือง “ไอ้หมูโง่ ช่างอกตัญญูลืมคุณที่ข้าเคยทำให้ไปหมดแล้ว! มาหาข้าเดี๋ยวนี้!”
เจ้าหมูสมบัติส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยืนก่อนจะหันหน้าหนีด้วยท่าทางสุดเย่อหยิ่ง
ตงน้อยถึงกับกระโดดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ “ทำให้ข้าโกรธแค้นจนจะตายแล้ว! หากเจ้าคิดเช่นนั้นจริงก็จงตามเจ้าเด็กคนนี้ไปเถอะ อย่าได้กลับมาตามหาข้าอีกแล้วกัน!”
เพียงแค่ว่าเสียงใสๆ ของเขานั้นมันทำให้คำพูดนี้ดูไร้น้ำหนักไปอย่างสิ้นเชิง
เดิมทีเขาคิดว่าเจ้าหมูสมบัติจะกลัว แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าหมูสมบัติกลับหันตัวพุ่งเข้าไปกอดเย่หยวนไว้อีกครั้งก่อนจะหันมาส่ายหัวให้ตงน้อยด้วยท่าทางแสนน่ารัก
เมื่อตงน้อยเห็นเช่นนั้นเขาก็ร้องออกมา “ไอ้เจ้าคนอกตัญญู เราขาดกัน!”
พูดจบตงน้อยก็เดินจากไปด้วยการเอามือไขว้หลังท่าทางราวผู้อาวุโส
ตู้หรูเฟิงได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น หันไปมองเจ้าหมูสมบัติที ไปมองตงน้อยทีด้วยท่าทางแสนจะลำบากใจ
วินาทีนั้นเมื่อเขาเห็นชูเวินที่ด้านข้างเขาก็เหมือนได้พบทางออกก่อนจะสั่ง “เจ้าคือศิษย์ที่ดูแลเรื่องการมาของนิกายเงาจันทร์ใช่ไหม?”
ชูเวินรีบตอบกลับไป “ครับ แค่ว่ามัน…”
ชูเวินย่อมไม่มีทางรู้ได้ว่าตู้หรูเฟิงต้องการอะไรและกำลังจะบ่นเรื่องราวที่พบเจอออกมาก่อนจะถูกตู้หรูเฟิงพูดขัดขึ้น “จัดให้พวกเขาไปอยู่สวนป่าบนเสีย ไม่ว่าพวกเขาจะต้องการอะไรจงพยายามหาให้อย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าเด็กคนนี้! หากหมูสมบัติเกิดไม่พอใจเรื่องใดๆ ขึ้นมาในระหว่างนี้ ข้าจะมาจัดการเจ้าทันที!”
ชูเวินหน้าถอดสีอย่างซีดเผือดจนถึงที่สุด
ส่วนป่าบนนั้นคือแหล่งที่อยู่ระดับสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์กอไผ่
นอกจากมันจะมีบ้านเรือนที่หรูหราแล้วมันยังมากไปด้วยพลังวิญญาณอย่างเปี่ยมล้นและหนาแน่นที่สุด
ต่อให้เป็นนิกายเทพถ่องแท้ระดับหนึ่งก็ไม่มีทางจะได้สิทธิเข้าไปอยู่ยังสวนป่าบนแห่งนั้น
แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสตู้กลับจะให้นิกายเงาจันทร์ไปอยู่สวนป่าบนเพราะหมูตัวเดียว
มันเรื่องอะไรกัน?!
และไม่ใช่แค่ให้ไปอยู่สวนป่าบน แต่เขายังถูกสั่งให้จัดการดูแลความต้องการของพวกเขาอย่าให้ขาด
ชูเวินนั้นแทบจะอยากทุบหัวตัวเองกับดินให้มันตายลงตรงนี้
เว้นเสียแต่ว่าตำแหน่งของตู้หรูเฟิงนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนเขาย่อมรู้ดี
เวลานี้เขาจึงได้แต่ต้องกลืนความรู้สึกขมขื่นนี้ลงคอไป
“ศิษย์รับทราบ!” ชูเวินก้มหัวรับ
ตู้หรูเฟิงไม่คิดสนใจชูเวินและตามตงน้อยกลับไปทันที
เรื่องนี้ทำให้นิกายเงาจันทร์ทั้งหลายต่างหันมามองชูเวินเป็นตาเดียว
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเจ้าหมอนี่คิดจะใช้หน้าที่ของตัวเองระบายความไม่พอใจออกมา ทำให้พวกเขาต้องมานอนในโรงฟืน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าไม่กี่วินาทีต่อมาเรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนี้
เจียงเชอเหยียนเดินขึ้นมายืนหน้าชูเวินด้วยท่าทางอมยิ้มก่อนจะบอก “ศิษย์พี่ชู นำทางไปสิ!”
ชูเวินหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นทันที “เจ้าจะยิ้มทำไม? ไอ้คนชั่วร้ายที่หลงในชะตา!”
เจียงเชอเหยียนหัวเราะขึ้น “ศิษย์พี่ชู ท่านต้องระวังคำพูดไว้ให้มาก มาว่าเราเป็นคนร้ายเช่นนี้เย่หยวนคงไม่พอใจแน่ และเจ้าหมูสมบัติก็จะไม่พอใจด้วย และหากเจ้าหมูสมบัติไม่พอใจ… เจ้าคงรู้ผลที่ตามมานะ!”
และราวกับว่ามันอยากจะยืนยันคำพูดของเจียงเชอเหยียน เจ้าหมูที่อยู่ในอ้อมอกของเย่หยวนจึงร้องขึ้นมาครั้งหนึ่งก่อนจะทิ้งตัวหลับลงอีกครา
ชูเวินหน้าแดงก่ำ เขาพยายามจะสูดหายใจเข้าลึกด้วยอารมณ์ที่แทบคลั่ง
ศิษย์ของวิหารทั้งหลายนั้นต่างวางตัวสูงกว่าเหล่านิกายเทพถ่องแท้ทั้งหลายมาตลอด
แต่วันนี้เขากลับต้องมาทนรับความอัปยศเช่นนี้ มันช่างน่าคับแค้นจริง!
ชูเวินได้แต่หายใจเข้ารับความอัปยศไปเต็มปอดก่อนจะร้องบอก “ตามมา!”
…
สวนป่าบนนั้นมันต่างจากโรงฟืนราวฟ้ากับเหว
ที่แห่งนี้มันคือปราสาทน้อยดีๆ นี่เอง มีทั้งศาลาบนน้ำ บ้านพักและสวนใหญ่ เป็นภาพที่เหนือล้ำเปี่ยมไปด้วยความหรูหรา
เมื่อเข้ามาถึงสวนป่าบนพวกเขาทั้งหลายก็พบกับคลื่นพลังวิญญาณแสนหนาแน่นเข้ามาปะทะร่างทำให้คนทั้งหลายนั้นต้องสะดุ้งตัวขึ้นทันที
“ที่นี่มีบ้านพักหลายแห่ง พวกเจ้าเลือกกันเองเถอะ มีอะไรก็เรียกแล้วกัน”
พูดจบชูเวินก็กำลังจะหันหน้าเดินออกไป
เพราะสถานที่เช่นนี้เขาย่อมไม่คิดจะอยู่ให้นานนัก
“เดี๋ยว!” เย่หยวนหันมาเรียกทักไว้
ชูเวินหน้าแดงขึ้นมาด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง “มีอะไรอีก?”
“หืม?” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นด้วยท่าทางไม่พอใจอย่างมาก
ความเกลียดชังในใจของชูเวินพุ่งพล่านขึ้นทันทีแต่เขาก็ได้แต่จำต้องลดน้ำเสียงลง “ศิษย์น้องเย่ท่านต้องการอะไรอีกหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบ “ต้องอย่างนี้สิ! เจ้ารอก่อนข้าจะไปเขียนรายการมาให้ เจ้าไปเตรียมสมุนไพรระดับห้าให้ข้าตามที่สั่ง”
สมุนไพรระดับห้าที่เย่หยวนมีติดตัวนั้นมันไม่นับว่ามาก มันย่อมไม่มีพอจะหลอมโอสถกินได้เลย
วิหารศักดิ์สิทธิ์กอไผ่นั้นคือยอดค่ายสำนักของมิติอนัตตากอไผ่นี้ แค่สมุนไพรระดับห้ามันย่อมไม่ใช่ปัญหามากมาย
โอกาสดีๆ เช่นนี้หากเขาไม่รีบคว้ามันไว้ คงต้องมาเสียใจภายหลังเป็นแน่
แต่ว่าชูเวินนั้นกลับยิ่งทำหน้าไม่พอใจออกมาแต่เมื่อหยุดคิดไปพักหนึ่งเขาก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ “ได้ ข้าจะรอ!”
สวนป่าบนนั้นมันแสนจะยิ่งใหญ่ คนทั้งห้าจึงแยกย้ายกันไปตามที่พักและเย่หยวนก็รีบเขียนรายชื่อสมุนไพรที่ต้องการทันที
ไม่นานนักเย่หยวนก็กลับมามอบรายการสมุนไพรให้ชูเวิน เมื่อชูเวินได้เห็นมันดวงตาของเขาก็แทบถลนออกมาจากเบ้า
ไอ้เด็กคนนี้มันต้องการแต่ของมีราคา!
ในรายการนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยสมุนไพรระดับห้ากว่าหลายร้อยชื่อ
นอกจากคนระดับผู้อาวุโสแล้วจะยังมีใครอีกที่สามารถเรียกสมุนไพรระดับห้ามากมายขนาดนี้ได้?
เขาคิดว่าแค่หมูตัวเดียวมันจะทำให้เขาสามารถทำอะไรก็ได้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กอไผ่หรือ?
เพราะอย่างไรเสียที่แห่งนี้ก็เป็นเขตแดนของวิหาร ค่ายสำนักที่อยู่บนจุดสูงสุดของมิติอนัตตากอไผ่!
เมื่อเดินออกมาจากสวนป่าบนชูเวินก็หัวเราะขึ้นมา “หึ ตำแหน่งของผู้อาวุโสไช่ที่ดูแลโถงสมุนไพรนั้นมันไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าผู้อาวุโสตู้! ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าแค่หมูตัวเดียวนี้มันจะหยุดความพิโรธของเขาไว้ได้ไหม!”
…………………………